บทที่ 157: ทายาให้แก่ลูก ๆ
หลังจากที่หูเจียวเจียวเตรียมอาหารเย็นให้ลูกเสร็จแล้ว เธอก็ต้มโจ๊กฟักทองผสมข้าวฟ่างอีกหม้อหนึ่งเพื่อนำไปให้หูหมินทานในภายหลัง
เนื่องจากตอนนี้หญิงวัยกลางคนยังมีไข้ประมาณหนึ่ง นางจึงยังกินอาหารมัน ๆ ไม่ได้
ในระหว่างมื้ออาหาร จิ้งจอกสาวและลูก ๆ ทั้ง 5 ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่คืนนี้แม่จิ้งจอกจะไปเฝ้าไข้หูหมิน
“ท่านแม่ คืนนี้ท่านจะไม่กลับมานอนที่บ้านหรือ?” หลงหลิงเอ๋อกะพริบตาถามผู้เป็นแม่พร้อมทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“แม่จะกลับมาพรุ่งนี้เช้า” หูเจียวเจียวลูบหัวลูกสาวแล้วตอบว่า “ท่านยายป่วย แม่ต้องไปดูแลนาง”
หลงเหยากำหมัดใช้ส้อมในมือจิ้มเนื้อด้วยความยากลำบาก ในระหว่างที่ยกส้อมขึ้นจะส่งเนื้อเข้าปาก พอเขาได้ยินคำพูดของแม่จิ้งจอก เขาก็หันหน้าไปถามด้วยเสียงแผ่วเบา
“เสี่ยวเหยาไปกับท่านแม่ได้ไหม เสี่ยวเหยาจะไปดูแลท่านยายด้วย!”
ดวงตาสีทับทิมกลมโตเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
สีหน้าท่าทางของลูกชายคนเล็กทำให้หูเจียวเจียวอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาอยากจะขอค่าตอบแทนอีกครั้งหรือไม่ และเธอก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า “ไม่ได้ เสี่ยวเหยาอยู่บ้านช่วยแม่ดูแลพวกพี่ ๆ ได้ใช่ไหม?”
เมื่อหลงเหยาได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้เลย เสี่ยวเหยาจะอยู่บ้านดูแลพวกพี่ ๆ เอง”
เขายังจำได้ว่าก่อนที่แม่คนนี้จะกลับตัวกลับใจ อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเขาที่แต่ก่อนยังแปลงร่างเป็นมนุษย์ไม่ได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพวกเขาต่างก็ช่วยกันทำงาน เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ตนเคยคิด
เมื่อแม่ลูกทั้ง 6 ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เด็ก ๆ ทุกคนก็อาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอน
ระหว่างนั้น หูเจียวเจียวเรียกหลงเซียวกับหลงจงให้มาหาตนเอง “เซียวเซียว จงเอ๋อ มาหาแม่ซิ”
“ท่านจะทำอะไร?” ลูกชายคนที่ 3 เอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ แต่เขาก็รีบพาพี่ชายคนรองไปที่ประตูกระท่อมของแม่จิ้งจอกแบบไม่ขัดขืน
นางจะพาพวกเขา 2 คนไปบ้านท่านยายหรือ?
“แม่เพิ่งค้นพบยาที่สามารถรักษาดวงตาและแผลเป็นได้ มานี่สิ ให้แม่ลองหน่อย” ผู้เป็นแม่กวักมือเรียกเด็กทั้ง 2 แล้วหยิบขวดครีมลดรอยแผลเป็นกับยาหยอดตาออกมาจากกระท่อม
นี่คือสิ่งที่เธอพบในมิติตอนที่เธอเฝ้าไข้อยู่ในบ้านของหูหมิน
หญิงสาวไม่รู้ว่ายาพวกนี้จะได้ผลหรือไม่ แต่อย่างน้อยเธอต้องลองดูก่อน
ในเวลาเดียวกัน ร่างของลูกทั้ง 2 แข็งทื่อโดยที่พวกเขามองไปยังหูเจียวเจียวด้วยความประหลาดใจ
รักษาแผลเป็น...และดวงตา?
ทั้งคู่ไม่ได้ตาดหวังว่านางจะทำตามที่เคยสัญญาไว้ แต่ปรากฏว่านางใส่ใจเรื่องนี้จริง ๆ...
“มัวทำอะไรกันอยู่? มาให้แม่ใส่ยาเร็ว”
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นว่าลูกชาย 2 คนไม่ยอมขยับเข้ามาหาตัวเอง เธอจึงเข้าไปดึงอีกฝ่ายมาใกล้ ๆ ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงแล้วหยอดตาให้หลงเซียวก่อน
ยามนี้เด็กหนุ่มผู้มองไม่เห็นกำมือบีบต้นขาตัวเองแน่น เขาไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหนในระหว่างที่ถูกคนเป็นแม่ลากไปข้างหน้าและเชิดคางเขาให้เงยหน้าขึ้น
พอหลงเซียวลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาก็มืดสนิทไร้ชีวิตชีวา ไม่นานเขาก็รู้สึกว่ามีของเหลวเย็น ๆ หยดลงในลูกตา ก่อนจะเกิดอาการปวดชา ๆ ราวกับว่าเขาถูกมดกัดและมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นยังไงบ้าง รู้สึกระคายเคืองบ้างหรือเปล่า?” หูเจียวเจียวเอ่ยถามเสียงเบา หลังจากที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างของลูกชายคนรองมีหยดน้ำกลิ้งไปมา
คำแนะนำของยาหยอดตาบอกว่านี่เป็นยาหยอดตาพิเศษสำหรับการรักษาโรคตาและควรใช้ทุกวัน
“ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย” หลงเซียวส่ายหัวโดยไม่ได้บอกอีกฝ่ายเกี่ยวกับความเจ็บปวดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเจ็บปวดที่ดวงตามาก่อน
แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ทำให้เขามีความหวังเกิดขึ้นในใจ
“ดีมาก” แม่จิ้งจอกรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเช่นนั้น ต่อมา เธอหันไปหาหลงจงเพื่อทาครีมรักษารอยแผลเป็นให้กับเขา
ทันทีที่เธอเสยผมที่ปิดหน้าลูกชายขึ้น เขาก็ถอยหลังไป 2 ก้าวอย่างกะทันหัน พร้อมกับยกมือปิดใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นข้างนั้นไว้
“ข้า… ข้าจะทาเอง...”
นั่นเป็นเพราะว่าเด็กหนุ่มไม่อยากให้คนอื่นเห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของตน
“เด็กโง่ เจ้าจะเห็นไหมล่ะถ้าเอาไปทาเอง” หูเจียวเจียวดึงลูกชายหัวรั้นกลับมา ก่อนจะผลักมือเล็กออกเบา ๆ พลางพูดปลอบว่า “แม่จะทาให้เจ้าเอง”
ร่างกายของหลงจงแข็งราวกับหินเมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่ เขาจึงไม่หลบหลีกอีก โดยทำเพียงแค่วางมือลงบนต้นขาอย่างประหม่า ขณะที่เขาจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง
ถ้านางรู้สึกไม่ชอบใบหน้าที่น่าเกลียดนี้แม้แต่น้อย เขาจะวิ่งหนีไปทันที!
ครู่ถัดมา หูเจียวเจียวปัดผมของเด็กหนุ่มไปด้านหลังก่อนจะเห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นน่ากลัว มันเหมือนกับตะขาบน่าเกลียดที่คลานอยู่บนพื้นคอนกรีตไม่เรียบ
สภาพของลูกชายคนที่ 3 ส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกทุกข์ใจอยู่ชั่วขณะ การเคลื่อนไหวของเธอจึงระมัดระวังและนุ่มนวลมากขึ้น
ครีมลดรอยแผลเป็นสีขาวขุ่นจากมิติขวดนี้มีกลิ่นสมุนไพรจาง ๆ
จิ้งจอกสาวบรรจงทาครีมนวดวนซ้ำ ๆ เพื่อให้เนื้อครีมซึบซาบเข้าสู่ผิว
ทางด้านหลงจง เขาเกร็งตัวและตึงเครียดอยู่ตลอดจนกระทั่งเสียงที่อ่อนโยนของหูเจียวเจียวดังมาจากข้างหู
“เรียบร้อยแล้ว”
“จากนี้ไป หลังจากกินข้าวเสร็จทุกวัน แม่จะใส่ยาให้พวกเจ้า”
ขณะที่พูดคุย แม่จิ้งจอกเก็บครีมลดรอยแผลเป็นกับยาหยอดตากลับเข้าที่ เสร็จแล้วเธอก็ช่วยหลงจงจัดทรงผมให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
ระหว่างการกระทำทั้งหมดของเธอ เด็กหนุ่มยังคงยืนตัวแข็งอยู่กับที่เหมือนรูปปั้น
นางไม่คิดว่าเขาน่าเกลียดน่าขยะแขยง แถมนางยังทาครีมให้เขาด้วย...
เขาไม่เคยใกล้ชิดแบบนี้กับนางมาก่อน
ในตอนนั้นเอง หลงจงเข้าใจทันทีว่าทำไมหลิงเอ๋อและเสี่ยวเหยาถึงชอบมาวอแวอยู่ใกล้ ๆ นางขนาดนั้น...
“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปนอนกันเถอะ แม่จะไปบ้านท่านยายแล้ว” หูเจียวเจียวกล่าวพลางลุกขึ้นเตรียมจัดข้าวของ
“เดี๋ยว!”
เด็กหนุ่มผู้มีแผลเป็นบนใบหน้ารีบรั้งอีกคนไว้ แต่คำว่า ‘ท่านแม่’ ที่ตนต้องการพูดนั้นกลับติดอยู่ในลำคอจนเขาไม่สามารถเอ่ยออกมาได้
“ขอบคุณ” เขาก้มศีรษะลงแล้วพูดเสียงเบา
หลงเซียวเองก็เม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดขอบคุณผู้เป็นแม่ด้วยเช่นกัน
หูเจียวเจียวยิ้มพลางลูบหัวลูกชายตัวเล็กทั้ง 2 ซึ่งน้อยครั้งนักที่หลงจงจะไม่ปัดมือเธอออกและปล่อยให้เธอขยี้ผมของเขาแบบนี้
หลังจากที่จิ้งจอกสาวบรรจุอาหารลงกล่องให้เรียบร้อยแล้วมุ่งหน้ามาถึงบ้านของหูหมินก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว พอเธอเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าข้างในมืดมิดจึงหยิบเทียนออกมาจากมิติเพื่อจุดไฟ ไม่นานแสงสีส้มก็ส่องสว่างทั่วทั้งห้อง
ขณะนี้คนป่วยหลับสนิทไปแล้ว
ต่อมา หญิงสาววัดอุณหภูมิของนางและพบว่าไข้ของอีกฝ่ายลดลงแล้ว อีกทั้งนางกำลังหลับสนิท เธอเลยไม่อยากรบกวนเพราะเกรงว่าจะทำให้นางตื่น เธอจึงตัดสินใจวางอาหารไว้ข้างเทียนก่อนจะนั่งพิงเตียงหลับตามไป
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่หูเจียวเจียวตื่นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง ส่วนหูหมินได้หายตัวไปแล้ว
นั่นทำให้เธอผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางมองไปรอบ ๆ และพบว่าเทียนเมื่อวานละลายหมดแล้ว โดยเหลือแต่ขี้ผึ้งที่จับตัวเป็นก้อน มิหนำซ้ำอาหารที่ตนนำมาจากบ้านก็หายไปเช่นกัน
“เจียวเจียว เจ้าตื่นแล้วหรือ? มาเร็ว แม่ทำเนื้อย่างไว้ให้เจ้า”
ทันใดนั้นเสียงของหญิงวัยกลางคนก็ดังมาจากนอกประตู หญิงสาวจึงหันไปมองก่อนจะเห็นว่าแม่จิ้งจอกกำลังยืนถือกล่องอยู่ที่ประตู ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่เธอใส่ข้าวต้มมาเมื่อวาน
“แม่จะอุ่นอาหารที่เจ้าเอามาให้ เจ้าเองก็ลุกขึ้นมากินข้าวได้แล้ว”
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ จมูกของเธอก็ร้อนผ่าวเล็กน้อย
ในโลกนี้ไม่ใช่แม่ทุกคนที่รักลูก
โลกแห่งความเป็นจริง เธอไม่เคยรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพ่อแม่ของตัวเองมาก่อน และเธอไม่เคยคาดคิดว่าในโลกของภูต แม่ที่ยังมีไข้สูงอยู่เมื่อวานนี้จะตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารให้ตนกิน
เห็นได้ชัดว่าเมื่อวานหญิงสาวเพิ่งเป็นฝ่ายดูแลแม่ของตัวเอง แต่ตอนนี้กลายเป็นแม่ที่มาดูแลเธอ
“ท่านแม่ ไข้ท่านลดแล้วหรือ? มาให้ข้าจัดการเองดีกว่า” หูเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบลุกขึ้นไปช่วยอีกฝ่าย
ทีแรกหูหมินตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่นางกลับพบว่าการเคลื่อนไหวของลูกสาวนั้นว่องไวกว่าของตนเอง ประหนึ่งกับว่าอีกคนทำงานพวกนี้มา 10 ปีแล้ว
ภาพนี้ยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกทุกข์ใจ
เจ้ามังกรดำนั่นมันไม่ได้ความ! เขาทำผิดต่อเจียวเจียว นางต้องใช้ความพยายามมากแค่ในการทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวมาหลายปี!
ไม่! นางต้องสั่งสอนบทเรียนให้หลงโม่สักวัน และทำให้เขารู้ว่าลูกของนางสมควรได้รับการปรนเปรอ
ในฐานะแม่ นางจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมานจากการทำงานหนักเด็ดขาด!
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: หลงจงเริ่มยอมพูดดีกับแม่บ้างแล้ว หวังว่าทั้ง 2 คนได้รับยาแล้วจะดีขึ้นนะ