ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 12 เจตจำนงกระบี่แท้จริง
หลังจากที่เซวียนห่าวออกไปพร้อมกับชิงอี้ การคัดเลือกศิษย์ก็ค่อย ๆ สิ้นสุดลง
ผู้อาวุโสของนิกายเริ่มเลือกศิษย์จากรายชื่อนับพัน เหวินหลู่ได้กลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสที่อยู่จุดสูงสุดขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ขั้น 9
ส่วนจ้าวนิกายและยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคนอื่น ๆ ของนิกายกระบี่ล่องนภาไม่มีใครยอมรับศิษย์คนใดในการคัดเลือก มันยากสำหรับยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่จะรับเป็นศิษย์
เมื่อกลับมาที่เซวียนห่าว เขาเพิ่งลงทะเบียนชิงอี้เป็นศิษย์ของเขาที่ตำหนักจัดการเสร็จ ตอนนี้เขาจึงกลับที่ตำหนักของเขาพร้อมกับนาง
“ชิงอี้ ข้าแน่ใจว่าเจ้าคงสงสัยว่าทำไมข้าถึงเลือกเจ้าเป็นศิษย์ของข้า” เมื่อหันกลับไปมองหญิงสาวที่กระวนกระวายตามหลังเขาอย่างใกล้ชิด เซวียนห่าวเห็นนางสะดุ้งทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา
“เจ้าค่ะ... ข้าไม่คิดว่าตัวข้าเองจะมีพรสวรรค์พิเศษหรืออะไรประมาณนั้น...”
เมื่อได้ยินคำตอบของนาง เซวียนห่าวก็หัวเราะเบา ๆ กับตัวเองขณะที่เขาหยุด
“อืม... การไม่เรียกเจ้าว่าอัจฉริยะนั้นช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เพราะถึงอย่างไรเจ้าก็มีพรสวรรค์มากกว่าคนอื่น ๆ ที่เข้ารับการคัดเลือกในวันนี้เสียอีก !”
“อย่างไรกัน?” ชิงอี้มองเขาอย่างสงสัยและรอคำตอบ ไม่ต้องพูดถึงการเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในการคัดเลือกในวันนี้ เฉพาะในตระกูลชิงของนางก็มีคนมากกว่าสิบคนแล้วที่มีพรสาวรรค์มากกว่านาง
ตอนนี้อาจารย์ของนางกลับบอกว่านางเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุด แม้แต่เหวินหลู่ที่มาถึงขอบเขตรวมปราณขั้น 8 ยังด้อยกว่านางหรือ
“แท้จริงแล้ว เจ้าก็มีกายาศักดิ์สิทธิ์ !”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปากเล็ก ๆ ของชิงอี้ก็กระตุกวูบ ขณะที่นางมองไปในอากาศอย่างว่างเปล่า นางพยายามประมวลผลสิ่งที่อาจารย์ของนางเพิ่งกล่าวมา
กายาศักดิ์สิทธิ์ นี่ถือเป็นผู้ที่สวรรค์โปรดปรานอย่างแท้จริง ในอาณาจักรนภาสวรรค์ มีเพียงห้าคนหรือมากกว่านั้นที่มีกายาศักดิ์สิทธิ์และพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์หรือผู้ทรงอำนาจขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจากยุคก่อน
นั่นหมายความว่านางจะไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดได้ในอนาคตหรือ
“กายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเรียกว่ากายาตะวันเจิดจรัส วิธีการปลุกกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าคือการใช้สมุนไพรวิญญาณที่เรียกว่าหญ้าหัวใจอเวจี หญ้าหัวใจอเวจีเป็นสมุนไพรวิญญาณที่มีเอกลักษณ์และหายากที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่พิเศษเท่านั้น ดังนั้นอาจารย์ของเจ้าผู้นี้อาจต้องใช้เวลาสักครู่ในการได้มันมา”
เซวียนห่าวยังคงพูดถึงร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของนางโดยไม่สนว่าชิงอี้จะตกตะลึงมากแค่ไหน ในขณะที่ทั้งคู่เริ่มเดินอีกครั้งและหยุดเมื่อพวกเขามาถึงบริเวณลานกว้างของตำหนัก
พื้นที่ของตำหนักแบ่งออกเป็นหลายชั้น ห้องสำหรับเจ้านายของศาลาซึ่งก็คือห้องที่เซวียนห่าวพักอยู่ ห้องส่วนตัวของลูกศิษย์และห้องคนใช้ที่มาทำความสะอาดตำหนักเป็นครั้งคราว
“ต่อจากนี้ไปเจ้าจะอยู่ที่นี่”
เซวียนห่าวหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งและชี้ไปที่ห้องข้างหน้าเขา
“เจ้าสามารถกลับไปหาตระกูลของเจ้าได้ในตอนนี้และค่อยกลับมาใหม่ พรุ่งนี้เราจะเริ่มการฝึกกัน สิ่งสุดท้าย ข้าขอเตือนว่าอย่าได้พูดถึงกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ากับใครแม้แต่กับครอบครัวของเจ้า ของขวัญจากสวรรค์นี้นำมาซึ่งประโยชน์มากมาย จึงมักจะมีผู้ที่อิจฉาเป็นธรรมดา”
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ !”
เซวียนห่าวเตือนลูกศิษย์คนใหม่ของเขา เขายิ้มให้กับตัวเองขณะที่เขามองดูเงาเล็ก ๆ ของนางที่เดินช้า ๆ ออกจากตำหนักและกลับไปหาตระกูลของนางที่รอนางอยู่ที่ลานฝึก
“ที่นี่เงียบจริง ๆ… บางทีข้าควรจะหาคนรับใช้ก่อนที่จะรับศิษย์ใหม่”
เมื่อเขาได้ตรวจสอบตำหนัก เซวียนห่าวก็พบว่าคนเดียวที่อยู่ในนั้นก็คือเขา ไม่มีคนรับใช้ ไม่มีศิษย์ มีเพียงแค่เขา
สภาพแวดล้อมนี้ดีสำหรับเขาในขณะที่เขาใช้เวลาฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ ในห้อง แต่ศิษย์ใหม่ของเขาย่อมต้องการเพื่อนสักสองสามคนเพื่อพูดคุยเป็นครั้งคราว
“แต่ก่อนอื่น !”
เมื่อกลับมาที่ห้องของเขา เซวียนห่าวก็รีบนั่งลงในท่านั่งสมาธิในขณะที่เขาเข้าสู่จิตสำนึกเพื่อเข้าหาระบบ
[ภารกิจเสริม (เสร็จสมบูรณ์)]
รางวัล: [ฐานการบ่มเพาะเพิ่มขึ้น 1 ขั้น], [เจตจำนงกระบี่]
รับรางวัล: [ใช่/ไม่]
เมื่อเลือกรับรางวัล เซวียนห่าวก็รู้สึกร้อนวูบวาบในจุดตันเถียนของเขา ทันใดนั้นพลังปราณจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นและเริ่มไหลผ่านเส้นลมปราณของเขา ไหลออกจากศูนย์กลางกายออกไปที่ปลายนิ้ว
สิ่งนี้กินเวลาไม่กี่นาทีก่อนที่พลังปราณจะสงบลงอย่างช้า ๆ บ่งบอกว่าเขาประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามไปสู่ขั้นถัดไปแล้ว
ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 2
เซวียนห่าวรู้สึกปลาบปลื้มกับความง่ายที่เขาทะลวงผ่าน แต่ก่อนที่เขาจะได้ฉลอง ข้อมูลจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
เซวียนห่าวรู้ว่ามันเป็นรางวัลชิ้นที่สอง เจตจำนงกระบี่
กินเวลานานกว่าสามสิบนาทีในครั้งนี้ ขณะที่เซวียนห่าวเปลี่ยนจากการเข้าใจเพียงก่อกำเนิดเจตจำนงกระบี่ไปสู่การเข้าใจเจตจำนงกระบี่แท้จริง !
เจตจำนงกระบี่แท้จริงนั้นแตกต่างอย่างมากจากก่อกำเนิดเจตจำนงกระบี่เนื่องจากเจตจำนงกระบี่แท้จริงทำให้ผู้ฝึกตนกระบี่สามารถสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขามากได้
เมื่อผู้ฝึกตนกระบี่ที่เข้าใจเจตจำนงกระบี่แท้จริงเท่านั้น เขาจึงจะถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ขั้นแรกอย่างแท้จริงในการเข้าใจเต๋ากระบี่
“...”
เซวียนห่าวปล่อยลมหายใจออกมาขณะที่เขาแสดงเจตจำนงกระบี่ของเขาให้ปรากฏต่อหน้าเขา
แสงสีเงินวาบผ่านอากาศในขณะที่พลังงานโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาและลอยอย่างเงียบ ๆ ในอากาศ
เขายิ้มให้กับแสงสีเงินที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขา เซวียนห่าวปล่อยให้มันหายไปในขณะที่เขารู้สึกตื่นเต้นกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขา
เขามาถึงขอบเขตเจตจำนงกระบี่แท้จริงแล้ว ขอบเขตต่อไปคือการแสดงวิญญาณกระบี่และหลอมรวมกระบี่เป็นหนึ่งเดียว นี่เป็นขอบเขตที่ยากมากขึ้นและแม้แต่ในอาณาจักรที่เหนืออาณาจักรนภาสวรรค์ ผู้ที่เข้าถึงขอบเขตวิญญาณกระบี่นั้นก็หาได้ยาก
แต่เซวียนห่าวไม่ยอมให้เรื่องนี้มารบกวนจิตใจเขา ตราบใดที่เขาฝึกฝนลูกศิษย์ เขาก็จะไปถึงขอบเขตวิญญาณกระบี่ในอนาคตและจะต้องไปไกลกว่านั้นอย่างแน่นอน !