ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 654 กำแพงภัยพิบัติขั้น 8 (ฟรี)
สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดินแดนดวงดาวทางเหนือนั้นเติบโตขึ้นทีละน้อย ภายใต้การดูแลของซู่เสี่ยวไป่ จักรวรรดิที่ยึดมาได้ก็เติบโตขึ้นและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และผนึกกันเป็นจักรวรรดิที่ทรงพลังที่สุดในจักรวรรดิไท่เจียง
และด้วยมหาจักรวรรดิผิงเจียงนั้นถูกยึดโดยซู่เสี่ยวไป่ไปแล้ว แม้ว่าจะถูกทำลายไปหลายส่วน แต่ก็ยังพอมีผู้ฝึกตนมากความสามารถเหลืออยู่ในจักรวรรดิ และได้ย้ายมายังจักรวรรดิไท่เจียงเพิ่มขึ้น และรับใช้ซู่เสี่ยวไป่พร้อมกับได้รับผลตอบแทนในการสู้รบอย่างเหมาะสม
และพื้นที่ทวีปยักษ์อย่างดวงดาวทางเหนือเป็นดั่งศูนย์กลางของทะเลแห่งความว่างเปล่า ซู่เสี่ยวไป่ใช้เส้นทางสู่สวรรค์กว่า 90 เส้นทางสร้างเกราะป้องกันที่มีรัศมีปกคลุมไกลถึงพันปีแสง
ด้วยเกราะป้องกันขนาดใหญ่นี้ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่อยู่ได้อย่างสบายใจ และรอดพ้นจากการถูกโจมตีมาสิบปีเต็ม แม้แต่สกัดการโจมตีจากจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 ได้หลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งเขายังสังหารพวกมันได้อีกด้วย ซึ่งทำให้ได้รับข้อมูลสำคัญมาหลายอย่าง
แนวป้องกันที่แข็งแกร่งนั้นมาจากพลังของผลึกต้นกำเนิดจำนวนมากที่มังกร 9 มายาสร้างมาตลอด 10 ปี และความบริสุทธ์ของผลึกต้นกำเนิดที่สร้างออกมานั้นมีมากกว่าผลึกปกติถึง 30 เปอร์เซ็น
และด้วยอสูรขุดเหมืองและเงาที่ขุดผนึกพวกนี้ทั้งวันทั้งคืน ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ได้รับผลึกมาจำนวนมากพอสำหรับใช้เป็นพลังงานสำรองให้กับเกราะป้องกันดินแดนแห่งนี้ อีกทั้งยังส่งเงาออกไปลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยอีกที
หลังจากที่สะสมผลึกมานาน ซู่เสี่ยวไป่ได้ครอบครองผลึกต้นกำเนิดถึงร้อยล้านก้อน อาจจะพูดได้เต็มปากเลยว่ารายได้ของซู่เสี่ยวไป่นั้นพอๆ กับจักรวรรดิระดับสูงไป
แล้วเขาเองก็ได้ปรับปรุงระบบครั้งใหญ่ถึงสองครั้ง พื้นที่ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียวมีเงาเพิ่มเป็น 40 ล้านร่าง และวิชาระดับภัยพิบัติมากกว่าพันวิชาก็บรรลุจนหมดแล้ว
สิ่งที่ซุ่เสี่ยวไป่สงสัยเลยก็คือทำไมการซ่อมแซมศิลากาลเวลาของเขาถึงไม่เพิ่มขึ้นเท่าตามที่เขาคิดเอาไว้ จนถึงตอนนี้ เขาปิดรอยร้าวได้แค่ 70 จุด และเพิ่มขึ้นจุดเดียวในรอบสองปี
ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เขาก็ไม่ได้ออกไปยึดจักรวรรดิหรือดินแดนใดเพิ่มอีกเลย แต่ส่งให้เงาออกไปตรวจสอบเท่านั้น
เงาที่มีมากถึง 40 ล้านตัว ทำให้ซู่เสี่ยวไป่สามารถสร้างเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ได้มากถึง 40 ร่าง และเงายักษ์มนุษย์ได้ 40,000 ร่าง ซึ่งพอแล้วที่จะขยายอำนาจปกคลุมทั่วทั้งทะเลแห่งความว่างเปล่า และสี่สิบจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่
ซู่เสี่ยวไป่พบว่าจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์กับสหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไร้อนันยังคงสู้รบกันอยู่ มีตั้งแต่รุนแรง จนไปถึงเล็กน้อย แต่ทั้งหมดก็สร้างความพินาศน้อยใหญ่ไปทั่วทะเลแห่งความว่างเปล่า
ตอนนี้สนามรบหลักๆ ยังคงมีอยู่ และมากถึง 18 แห่งและอยู่ในพื้นที่จักรวรรดิไท่เจียง จะให้พูดกันตามตรงตอนนี้จักรวรรดิไท่เจียงนั้นเหลือจักรวรรดิใต้การปกครองแค่ 10 จักรวรรดิ เพราะหากไม่ถูกซู่เสี่ยวไป่แย่งชิงมา ก็ล่มสลาย
ตอนนี้ดวงดาวทางเหนือนั้นอยู่ไกลเกินกว่าที่จักรวรรดิระดับสูงจะเอื้อมมือมาถึงอีกแล้ว และไม่มีทางที่ห้าจักรวรรดิระดับสูงจะรุมทึ้งกันแบ่งก้อนเค้กนี้ได้อีก
แล้วเงาเองก็เห็นว่าทั้งห้าจักรวรรดิเองก็สู้กันราวกับหมาป่ากัดกัน ดินแดนมากมายต้องล่มสลายจากการสู้รบของพวกมัน ดูเหมือนว่าสงครามนี้ไม่ได้สู้กันเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์อีกแล้ว
แต่เป็นการสู้รบเพื่อทำลายล้างอีกฝ่ายให้สูญเสียมากที่สุด
ดังนั้นซู่เสี่ยวไป่จึงนำกองกำลังเงายักษ์มนุษย์กลุ่มหนึ่งเข้าไปปะปนในสนามรบด้วย และแกล้งเคลื่อนไหวเป็นครั้งคราว แต่ความจริงแล้วพวกมันถูกส่งไปเพื่อรวบรวมสมบัติ และของจากจ้าวภัยพิบัติ
อีกทั้งยังพบสุสารหรือโบราณสถานที่ยังมีสมบัติเก็บซ่อนไว้อยู่ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่เก็บเกี่ยวได้มากขึ้น
ด้วยวิธีการรวบรวมสมบัติอย่างไม่สนใจใคร ไม่มีทางที่จะไม่ดึงดูดสายตาจากขุมอำนาจ ในไม่ช้าก็มีจ้าวภัยพิบัติขั้น 5 ลงมาจัดการ หรือแม้แต่ขั้น 6 ลงมาจับกุมร่างเงาของซู่เสี่ยวไป่ด้วยตัวเอง
แต่สุดท้ายก็ไร้ค่า เงาก็ยังคงเก็บเกี่ยวสมบัติได้เช่นเดิม
ซู่เสี่ยวไป่ไม่ได้ออกคำสั่งให้พวกมันสู้กลับ ทำให้เงายักษ์มนุษย์แม้จะแข็งแกร่งเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 ก็ตาม แต่มันก็เลือกที่จะหนี และไม่ตอบโต้ ทำให้จ้าวภัยพิบัติวิ่งไล่ตามพวกมันราวกับแมวไล่จับหนู
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครจับเงาของซู่เสี่ยวไป่ได้เลย และถึงจับได้ก็รั้งตัวไว้ได้ไม่นาน เงานั้นสามารถแทนที่ไปที่ไหนก็ได้ และหนีหายไปในพริบตา ปรากฏตัวออกมาอีกทีก็อยู่ห่างออกไปเป็นพันปีแสง
เป็นเรื่องยากมากที่จะจับพวกมัน
ด้วยความพยายามนับไม่ถ้วนของจ้าวภัยพิบัติที่จะจัดการกับเงา แต่ก็ไร้ความหมายและเปลืองแรงเปล่า แม้แต่จ้าวภัยพิบัติขั้น 6 ที่ลงมือเองก็ยังทำอะไรเงาไม่ได้ และเมื่อซู่เสี่ยวไป่รู้ก็ส่งเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ออกไปตอบโต้อีก
ตอนนี้ที่จักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนของจักรวรรดิ กับดินแดนในส่วนของซู่เสี่ยวไป่
ซึ่งซู่เสี่ยวไป่เองก็แสดงพลังที่น่ากลัวเอาไว้ โดยพลังสวรรค์ที่มากถึงสองหมื่นเส้นทาง สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อสายตาทุกคน
ไม่มีใครคิดว่าจะมีผู้ที่แข็งแกร่งได้เท่านี้มาก่อนในชีวิต
……
ตอนนี้สิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่ให้ความสนใจมากที่สุดคือการเลื่อนเขตแดนสู่เขตแดนภัยพิบัติขั้น 8
ซู่เสี่ยวไป่คาดหวังที่จะสู้กับเซียเจียนได้ โดยที่มีพลังเขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 หากว่าเขาไม่สามารถอยู่ในเขตแดนนี้ได้ เขาก็จะต้องสำเร็จวิชาภัยพิบัติไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบรรลุ
แต่ถึงซู่เสี่ยวไป่จะทำแบบนั้นก็ยังไม่เห็นหนทางที่จะเข้าใกล้เขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 ได้เลย ซู่เสี่ยวไป่ได้แค่คิดว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง
และจากข้อมูลของเชลยศึกที่จับมาได้ ซู่เสี่ยวไป่ก็ได้เงื่อนงำอะไรบางอย่าง
ว่ามันมีกำแพงที่กั้นระหว่าขั้นที่ 7 กับ 8 อยู่
….
สิ่งที่กั้นอยู่นั้นคือพลังสวรรค์และปฐพี มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำลายกำแพงนี้ลงได้และก้าวสู่ขั้นที่ 8
และถูกต้องซู่เสี่ยวไป่ไม่ใช่คนคนนั้น เขาถูกขัดขวางด้วยพลังจากสวรรค์และปฐพีทำให้ไม่สามารถเลื่อนขั้นได้
แต่แน่นอนหากมีกำแพงก็ต้องมีวิธีการข้ามกำแพง
มีจ้าวภัยพิบัติคนหนึ่งถูกจับได้และทรมานอย่างแสนสาหัส ก่อนที่จะตายมันได้บอกเรื่องที่ล้ำค่ากับซู่เสี่ยวไป่ เพื่อจะเอาตัวรอด
หนทางก้าวสู่เขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 นั้นจะต้องได้รับการยอมรับจากสวรรค์และปฐพี หากไม่ถูกยอมรับก็ไม่มีทางก้าวข้ามไปได้ แต่ก็ยังมีหนทางอื่นที่จะได้รับการยอมรับ
นั้นคือการบรรลุเส้นทางสู่สวรรค์ทั้งสามหมื่นเส้นทาง และบรรลุในขั้นผู้คิดค้น
พูดกันตามตรงวิธีการนั้นดูไม่ยุ่งยาก แต่มันตลกร้ายตรงที่ว่าไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
แต่สำหรับซู่เสี่ยวไป่นั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
ซู่เสี่ยวไป่เข้าใจเส้นทางสู่สวรรค์ถึงสองหมื่นเส้นทางแล้ว จากสามหมื่นเส้นทางแค่นี้ก็เหนือกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปทั้งหมดในพื้นที่เก่าแก่แล้ว และเขายังบรรลุทุกเส้นทางในขั้นผู้คิดค้น
ส่วนอีกหนึ่งหมื่นเส้นทางที่เหลือนั้นล้วนเป็นเส้นทางหายากที่แม้แต่ในหมู่ตัวตนปีศาจหรือสุดยอดอัจฉริยะก็ยังไม่มีเส้นทางพวกนี้ติดตัว การจะได้มานั้นคงจะต้องพึ่งพาพลังของระบบเพียงอย่างเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น มีหลายเส้นทางที่สาบสูญหายไปแล้วก็มี!
(วันนี้ตอนเดี่ยวนะครับ เพราะเปิดอ่านตอนต่อไปไม่ได้กำลังรีบแก้ไข)