บทที่ 34 – เริ่มต้นการประลอง
ตอนที่ผมกลับถึงห้องพัก มีเจ้าหัวเขียวอยู่ในห้องคนเดียว “จางกง ช่วงที่ผ่านมานายหายไปไหน?”
ผมมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ตอบกลับเรียบ ๆ “มันเป็นความลับ”
“ไม่เอาน่า! นายเป็นยังไงบ้าง คนเขาพูดกันว่านายประลองกับไห่รื่อ แล้วสัตว์เวทย์ของนายตาย”
นายไม่น่ากวนน้ำให้ขุ่น! เจ้าหัวเขียว “นายอยากจะยุ่งเรื่องนี้จริง ๆ? ถ้ายังกวนฉันอีก ฉันไม่เกรงใจแล้วนะ”
เจ้าหัวเขียวเห็นผมเริ่มโกรธ ก็รีบกลับไปที่เตียงของเขาด้วยท่าทางหวาด ๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนร่วมห้องอีก 2 คนก็กลับเข้ามาให้ห้อง ทั้ง 2 คนอยู่ชั้นปีเดียวกันกับผม แต่ผมยังไม่รู้จักชื่อของพวกเขา
ด้วยความสัตย์ ถึงผมจะเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้มาเกือบปีแล้ว ผมสามารถนับรายชื่อคนที่ผมรู้จักได้ด้วยนิ้วมือของผม นักเรียนทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการฝึกฝน ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ทำความรู้จัก หรือพูดคุยกัน
“นายชื่อจางกง? การประลองพรุ่งนี้ มีแผนอะไรมั้ย?” บางทีการประลองพรุ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นไม่มากก็น้อย หนึ่งในพวกเขาเริ่มทักทายผม
“สวัสดี! ฉันไม่มีแผนอะไร แค่มีเป้าหมายเดียว เป็นผู้ชนะเลิศของชั้นปีที่ 2” ตอนที่ผมพูดอย่างนี้ เสียงของผมมีความมุ่งมั่น และแน่วแน่
“อา! ผู้ชนะเลิศของชั้นปี?” เพื่อนร่วมห้องทั้ง 2 คนมองหน้ากันแบบไม่เชื่อ เจ้าหัวเขียวถือโอกาสมีส่วนร่วม
“จางกง นายไม่ได้พูดผิดใช่มั้ย? นายตั้งความหวังสูงไปมั้ยที่อยากจะเป็นผู้ชนะของชั้นปี การเอาชนะตัวแทนชั้นปีไม่ใช่เรื่องง่าย”
ผมมองเจ้าหัวเขียวด้วยความเอือมระอา “นายเกี่ยวอะไรด้วย? หลบไปเลย!”
“แต่ล่ะคนมีเป้าหมายของตัวเอง มันจะไปถึงเป้าหมายหรือเปล่า นายก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่อยู่ดี” ผมพูด
“จางกง! นายพูดได้ถูกต้องแล้ว! ฉันชื่ออันหลงเต๋อ ส่วนเขาชื่อหมิงสุ่ยเหยียน มาทำความรู้จักกันไว้” คนที่สูงกว่าเล็กน้อยพูดอย่างยอมรับ และเริ่มแนะนำตัว
“ได้! ทำความรู้จักกันไว้”
“จางกง! ออกมาหาอาจารย์ที่นี่” ผมได้ยินเสียงอาจารย์ตี้ดังขึ้นในความคิด ที่เขาใช้คือโทรจิต ตอนนี้ผมก็ใช้ได้นิดหน่อยแล้ว
“พวกนายพักผ่อนกันไปก่อน ฉันจะออกไปข้างนอกสักพัก” ผมบอกเพื่อนร่วมห้อง ออกจากตึกพัก แล้วเดินตรงไปที่หาอาจารย์ตี้ที่บริเวณบ้านพักอาจารย์ด้านหลังของโรงเรียน
อาจารย์ตี้รอผมอยู่บนสนามหญ้าข้างนอก
“อาจารย์ มีอะไรเร่งด่วนจนต้องให้ผมมาหาเหรอครับ?” ผมถามแบบหอบ ๆ
“การประลองพรุ่งนี้ เธอมั่นใจมั้ย?”
“แน่นอน ผมมั่นใจ! ตอนนี้พลังเวทย์ของผมแข็งแกร่งมาก”
“พรุ่งนี้จะเริ่มทำการจับฉลากแล้ว เธอจะใส่ชุดเก่า ๆ อย่างนี้ไม่ได้ มากับอาจารย์”
เดินตามอาจารย์ตี้เข้าไปในบ้านพักของเขา เขาหยิบชุดคลุมเวทย์ออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วส่งให้ผม “ลองสวมดู”
“อาจารย์จะให้ผมเหรอครับ?” มองดูเสื้อคลุมเวทย์อันสวยงาม ผมประหลาดใจ
“ใช่ อาจารย์จะปล่อยให้ลูกศิษย์ตัวเองใส่ชุดโทรมได้ยังไง? ต่อไป มันเป็นของเธอแล้ว” อาจารย์ตี้ยิ้ม
“ขอบคุณครับ อาจารย์” ผมเริ่มคลี่ชุดคลุมออกดู มันสวยมาก สีขาวบริสุทธิ์ ไม่รู้ว่าเนื้อผ้าเป็นอะไร แต่เลื่อมด้วยทอง มันมีขนาดใหญ่กว่าตัวผมมาก (เหมือนผ้าคลุมมากกว่า) มีกระดุม 2 เม็ดอยู่ตรงช่วงที่ต่ำกว่าหน้าอก ทำจากหินเวทย์มนต์สีขาว มีแสงนวลออกมาจาง ๆ แล้วก็มีวงเวทย์หกเหลี่ยมขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านหลังของชุดคลุมเวทย์
“มันสวยมากเลยครับ แต่มันจะไม่ใหญ่ไปหน่อยเหรอ?”
“เจ้าเด็กโง่ ลองสวมดูสิ! มานี่ เดี๋ยวอาจารย์ช่วย” อาจารย์ตี้เดินเข้ามาจัดชุดคลุมเล็กน้อย ติดกระดุมหินเวทย์มนต์ทั้ง 2 เข้าด้วยกัน หลังจากได้ยินเสียงคลิก หินเวทย์มนต์ทั้งสองรวมตัวกัน แล้วกลายเป็นสีทอง
มหัศจรรย์จริง ๆ “มันทำได้ยังไง?”
“เด็กน้อย ชุดคลุมเวทย์ชุดนี้ถูกส่งต่อกันมาจากอาจารย์ของอาจารย์ ตอนนี้อาจารย์ส่งต่อให้เธอ ไม่รู้ว่ามันตัดขึ้นมาจากผ้าชนิดไหน แต่มันให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว และช่วยให้เย็นสบายในฤดูร้อน หินเวทย์มนต์บนหน้าอกของเธอจะช่วยในการบีบอัดเวทย์มนต์ให้เร็วขึ้น ประสิทธิภาพของมันไม่ด้อยกว่าหินเวทย์มนต์ม่วงเลย แล้วมันยังสามารถปรับขนาดให้เข้ากับผู้สวมใส่มัน เธอสามารถเข้าใจได้เลยว่ามันเป็นสมบัติหายาก อาจารย์หวังว่าเธอสวมมันแล้ว เธอจะประสบความสำเร็จ” อาจารย์ตี้จ้องลึกเข้ามาในตาของผม
“.....ผมจะประสบความสำเร็จแน่นอนครับ” ผมตอบด้วยความมั่นใจ
ผมลูบไปบนชุดคลุมอย่างเบา ๆ ผ้านุ่มมาก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้สวมชุดที่ทำจากผ้าชั้นดีขนาดนี้ มันน่าตกใจ เพื่อที่จะเติมเต็มความคาดหวังของ อาจารย์ตี้ และไม่สร้างความละอายต่อของขวัญที่แสนวิเศษนี้ ผมต้องชนะ ผมต้องชนะ!
“ดีมาก แล้วเดี๋ยวจะมีพิธีจับฉลาก นักเรียนชั้นปีที่ 2 จะจับฉลากที่สนามด้านหน้า พวกเขาจะจับฉลากกันตามลำดับชั้นปี
การจับฉลากเสร็จสิ้นไวมาก ผมจับได้หมายเลข 11-4 นั่นคือผมอยู่กลุ่มที่ 11 หมายเลข 4 ลำดับการประลองรอบการจัดกลุ่มจะเริ่มด้วย หมายเลข 1 พบกับหมายเลข 2 หมายเลข 3 พบกับหมายเลข 4 ไปเรื่อย ๆ นี่คือรอบแรก ส่วนรอบที่ 2 หมายเลข 1 พบหมายเลข 6 หมายเลข 2 พบหมายเลข 7 ต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน จากผู้ร่วมกลุ่ม 9 คน ชนะ 1 ครั้งได้ 3 คะแนน แพ้ไม่ได้คะแนน ถ้าตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้หลังจากหมดเวลา แต่ละคนจะได้คนละ 1 คะแนน
หลังจากที่ทุกคนทำการจับฉลากเสร็จ อาจารย์ผู้ตัดสินพาพวกเราไปยืนเข้าแถวตามกลุ่มที่จับฉลากได้ หม่าเคออยู่กลุ่มที่ 5 หว่อเค้ออยู่กลุ่มที่ 9 ผมยืนอยู่ในตำแหน่งของกลุ่มที่ 11 หมายเลข 4 ยืนอยู่ข้างหน้าผมคือคู่ต่อสู้คนแรกในการประลองครั้งนี้ ผมว่าผมไม่เคยเจอเขามาก่อน น่าจะเรียนคนละห้องกัน (แต่ละชั้นปีมี 4 ห้อง แต่ละห้องมีนักเรียน 50 คน) เขามองไปรอบ ๆ แล้วทักทายผม
“นายคือคู่ต่อสู้ของฉันในวันพรุ่งนี้! ฉันชื่อหยางเทียนฟง นักเวทย์ลม ห้อง B”
“สวัสดี ฉันชื่อเว่ยจางกง นักเวทย์แสง” ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าผมคือใคร เราคุยกันอีกสองสามคำ ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานเวทย์ที่กระเพิ่มออกมาอย่างแข็งแกร่งของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะฝึกมาอย่างดี แค่โชคร้ายไปหน่อยต้องมาเจอผม ฮิฮิ!
“พี่ใหญ่ชุดคลุมของพี่สวยมาก ทำไมผมไม่เคยเห็นพี่ใส่เลยล่ะ?” หลังจากเลิกงาน หม่าเคอวิ่งมาหาผม
ผมกระซิบตอบเขาว่าอาจารย์ตี้เป็นคนให้ผม เขากระโดดตัวลอย อยากได้จากอาจารย์ของเขาบ้าง เขารีบทิ้งผมไปตามหาอาจารย์ของเขา ผมได้แต่ส่ายหน้า