ตอนที่แล้วบทที่ 32 - เจอกับหม่าเคออีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 – เริ่มต้นการประลอง

บทที่ 33 - กฎการประลอง


อาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามา เธอมองมาที่ผมและยิ้มบาง ๆ ให้

“เอาล่ะ! เงียบหน่อยนักเรียน เนื่องจากสถานการณ์บางอย่าง ทำให้จางกงไม่สามารถมาเข้าเรียนได้ พวกเรามาต้อนรับการกลับมาอย่างปลอดภัยของจางกงกันก่อน”

เสียงปรบมือดังขึ้น

ผมยืนขึ้นโค้งให้ทุกคน “ขอบคุณทุกคนมาก”

“เอาล่ะ พอแล้ว! อาจารย์หวังว่าจางกงจะสามารถทำผลงานได้ดีในการประลองวันพรุ่งนี้”

ผมก็อยากอยู่นะ มันเป็นเป้าหมายที่ผมลงทุนลงแรงไปมาก แถมมันยังเป็นสิ่งที่อาจารย์ตี้ถือว่าเป็นภารกิจของผม ผมไม่แน่ใจว่าผมจะทำมันสำเร็จหรือเปล่า

“วันนี้ เราจะยังไม่เรียนอะไรใหม่ อาจารย์จะอธิบายกฎระเบียบในการประลองให้ฟัง ทุกคนตั้งใจฟังให้ดี การประลองที่จะมาถึงจะมีส่วนช่วยในการทดสอบจบภาคการศึกษาของพวกเธออย่างมาก”

จากความจริงที่ว่าชั้นปี 1 ไม่มีการประลองจบภาคการศึกษา นี่เป็นครั้งแรกที่นักเรียนปี 2 เข้าร่วมการประลองแบบนี้

อาจารย์เริ่มอธิบายกฎระเบียบของการประลอง

กฎของการประลองมีดังนี้ :

1. การประลองตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม เพื่อเป็นการวัดระดับเวทย์ของนักเรียน การแข่งขันนี้ไม่อนุญาตให้มีการใช้สัตว์เวทย์ (ข้อนี้มีประโยชน์กับผม ตอนนี้ผมไม่กล้าใช้สัตว์เวทย์)
2. การแข่งขันจะแบ่งเป็นชั้นปี แต่ละชั้นปีจะแข่งขันกันเองภายใน 100 อันดับแรกของแต่ละชั้นปีจะเพลิดเพลินกับวันหยุดฤดูหนาวของตัวเอง ในขณะที่นักเรียนที่ไม่ติด 100 อันดับจะต้องเรียนเพิ่มอยู่ที่โรงเรียนจนกว่าจะเปิดภาคการศึกษาใหม่ (ผมคิดว่าทุกคนคงพยายามอย่างเต็มที่ ฮ่าฮ่า)
3. การจับคู่ประลองจะเป็นไปตามการจับฉลาก ยกเว้นผู้ที่เข้าร่วมการประลองเป็นครั้งแรก อย่างนักเรียนชั้นปีที่ 2 นักเรียนอีก 3 ชั้นปีที่ได้รับอันดับสูงจากปีก่อนจะผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้ายเลย
4. การประลองจะเริ่มจากรอบจับกลุ่มก่อน นักเรียน 10 คนจะถูกแบ่งเป็น 1 กลุ่ม หรือพูดอีกอย่าง ทุกคนจะต้องทำการประลอง 9 รอบ นักเรียน 5 คนจากแต่ละกลุ่มจะเข้าสู่รอบสุดท้าย วัดจากจำนวนรอบที่ชนะ จะมีการจับฉลากอีกครั้งเพื่อประลองแบบแพ้คัดออก ซึ่งจะประลองแบบนี้ไปจนถึงการตัดสินผู้ชนะเลิศ (ดูเหมือนว่าการแข่งรอบจัดกลุ่ม น่าจะดุเดือด)
5. การประลองจะจบลงเมื่อ : เจตนาทำร้ายฝ่ายตรงข้ามอย่างหนัก ถูกทำให้ตกเวที หรือสัมผัสกับกำแพงเวทย์บนอากาศ ยอมแพ้ด้วยตัวเอง จะถือว่าเป็นการแพ้การประลอง ถ้าไม่มีผลลัพธ์เมื่อเวลาหมดลง อาจารย์ที่เป็นกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาผลแพ้ชนะ
6. ผู้ชนะเลิศ และรองผู้ชนะเลิศ ในแต่ละชั้นปีจะได้รับสิทธิในการท้าทายผู้ชนะเลิศ หรือรองผู้ชนะเลิศของชั้นปีที่เหนือกว่า ถ้าการท้าทายประสบความสำเร็จ พวกเขาสามารถเรียนข้ามชั้นปีได้เลย ผู้ชนะและรองผู้ชนะเลิศของชั้นปีที่ 5 จะได้รับสิทธิที่จะเข้าเรียนสถาบันเวทย์มนต์หลวงโดยตรง ไม่ต้องผ่านการสอบเข้า นักเรียนที่ท้าทายพวกเขาสำเร็จก็จะได้รับสิทธิพิเศษนั้นไปแทน
7. ผู้ชนะเลิศของแต่ละชั้นปีจะได้รับรางวัล 100 เหรียญเพชร ผู้ที่ท้าทายชนะจะได้เพิ่มเป็น 2 เท่า

หลังจากได้ฟังรายละเอียดการประลอง ผมรู้สึกว่ามันดีอย่างน่าเกลียด เงินรางวัลของผู้ชนะถือว่ามหาศาล ผู้ชนะในแต่ละชั้นปีได้ 100 เหรียญเพชร นั่นเท่ากับ 10,000 เหรียญทองเลยนะ ถ้าผมเป็นผู้ชนะ ผมจะกลับบ้านไปพร้อมกับของขวัญที่น่าตกใจสำหรับพ่อกับแม่ของผมเลยทีเดียว

อาจารย์ยังบอกรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับการประลองต่อ และสุดท้ายเธอบอกให้ทุกคนพยายามให้เต็มที่ในการประลอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลจากการฝึกฝน เราต้องทำเต็มที่เพื่อชื่อเสียงของห้อง A ถ้าคนไหนไม่สามารถเข้าสู่ 100 อันดับแรกได้ การหยุดภาคฤดูหนาวจะกลายเป็นการฝึกหฤโหดแทน

หลังจากจบคาบเรียน ขณะที่ผมกำลังฝันหวานว่าจะเอาเงินรางวัลไปทำอะไรดีอยู่นั้น หม่าเคอเดินเข้ามาสะกิดผม

“พี่ใหญ่ คิดอะไรอยู่? คนอื่นออกจากห้องไปหมดแล้ว ไปกันเถอะ!”

ผมตื่นจากฝัน “โอ้! ไป”

ออกมาจากห้อง ผมเจอหว่อเค้อยืนรออยู่

“จางกง นายหายไปอยู่ที่ไหนมา? นายไม่ได้เข้าเรียนเลยช่วงหลังนี้” หว่อเค้อถามผมด้วยรอยยิ้ม ตบบ่าผมเหมือนกับว่าพวกเราเป็นเพื่อนเก่ากัน

นี่ฉันสนิทกับนายเหรอ??? ผมคิดกับตัวเอง

“หือ!! หลังจากที่ฉันประลองกับไห่รื่อ สัตว์เวทย์ของฉันตาย ทางโรงเรียนเลยให้ฉันหยุดพักเพื่อให้ทำใจ” ผมรู้อยู่แล้วว่าจะเจอคำถามทำนองนี้แน่ ผมคิดคำตอบไว้แล้ว ฮ่าฮ่า!

“โอ้! ขอแสดงความเสียใจกันนายด้วย มันน่าเสียใจจริง ๆ ที่สัตว์เวทย์ของนายตายไป แต่ในอนาคตนายน่าจะมีโอกาสได้รับสัตว์เวทย์ตัวใหม่แน่นอน การประลองพรุ่งนี้ขอให้พวกเราทำอย่างเต็มที่นะ ถ้าเราบังเอิญต้องเจอกัน ฉันไม่ออมมือให้นายแน่ ฉันหวังว่าจะได้ประลองกับนายอย่างยุติธรรม นายรู้มั้ย ครั้งที่แล้วที่นายประลองกับไห่รื่อ นายต้านทานอยู่ได้นานมาก นายถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของนักเรียนปี 2” กลายเป็นว่าเขากลัวผมจะแย่งตำแหน่งตัวแทนนักเรียนชั้นปีที่ 2 เลยต้องการเอาชนะผม (คนอื่นไม่ได้นิสัยแย่ เหมือนอย่างที่นายคิดหรอก)

“ขอบใจ ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด ถ้าฉันต้องเจอนาย ฉันจะไม่ออมมือเช่นกัน”

“ขอให้พวกเราทั้งคู่พยายามให้เต็มที่! ฉันไปก่อนนะ”

“พี่ใหญ่ เจ้าหมอนี่ต้องการอะไร?” หม่าเคอถามขณะมองตามหลังหว่อเค้อไป

“ฉันก็บอกไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งไม่ใช่เล่น” แต่ไม่ว่ายังไง ถ้าเทียบกับผม มันยังมีระยะห่างอยู่พอสมควร ทั้งหมดทั้งมวล พลังเวทย์ของผมถูกบีบอัดแล้ว แค่เรื่องนี้ เขาก็อ่อนแอกว่าผมแล้ว

“อือ!! เดี๋ยวผมจะคอยดูให้” หม่าเคอเบ้ปาก

“ไม่ต้อง! สู้กับเขาบนเวทีประลองก็พอ รีบไปกินข้าวกันเถอะ จะได้กลับไปพัก เดี๋ยวเราก็รู้ว่าพวกเราโชคดีหรือโชคร้ายตอนที่จับฉลากพรุ่งนี้”

หลังจากจบมื้ออาหาร ผมกับหม่าเคอทักทายนักเรียนบางคนระหว่างทางกลับห้องพัก

คนเรามักจะพบกับศัตรูบนทางคับแคบจริง ๆ ไห่รื่อกับน้องสาวของเขา ผมยังไม่รู้จักใครจากชั้นปีอื่นอีกหรอก

ไห่รื่อเดินเข้ามาหาผม เขามองผมด้วยสายตาอันหลักแหลมเป็นประกาย ผมจ้องเขาตอบ

ระหว่างมื้ออาหารที่ผ่านมา ผมได้ยินหม่าเคอเล่าว่าไห่รื่อกลายเป็นคนเก็บตัว เขาโผล่หน้ามาให้เห็นในโรงเรียนน้อยมาก ไห่เย่วก็เช่นกัน หม่าเคอก็ไม่ได้ไปตามจีบเธออีกเลย อย่างนี้ถึงจะเป็นเพื่อนกันผมได้!

“จางกง นายดูก้าวหน้าไปมาก ตอนนี้ฉันมองนายไม่ออกแล้ว ฉันมาเพื่อแสดงความขอโทษต่อนาย ฉันเสียใจจริง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น ทำให้สัตว์เวทย์ของนาย...”

ผมยกมือ หยุดไม่ให้เขาพูดต่อ “เดี๋ยวเราไว้เจอกันบนเวที ครั้งนี้ฉันไม่แพ้นายแน่” หลังจากพูดจบ ผมดึงหม่าเคอไปทางห้องพัก

เสียงของไห่รื่อดังตามมาจากด้านหลัง “ดี ฉันจะรอ”

“พี่ใหญ่ พี่ดูน่าเกรงขามมากเลย เจ๋งสุด ๆ”

“ไป! รีบหน่อย หลังจากอิ่มแล้ว ฉันต้องนอน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด