บทที่ 155: ครอบครัวของเรามีหมอผี
ไม่แปลกใจเลยที่หูหมินหลับสนิท ปรากฏว่านางสลบไปเพราะพิษไข้ต่างหาก
“หมอเอายาอะไรให้ท่านแม่กิน?” หูเจียวเจียวถามพวกพี่ชายขณะมองดูปืนวัดอุณหภูมิ
เนื่องจากเธอได้เห็น ‘ทักษะทางการแพทย์’ ของหมอเฒ่าคนนั้นแล้ว ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกกังวลจริง ๆ
“เอ่อ...” หูชิงหยวนผู้เป็นพี่สี่กำลังจะพูด แต่จู่ ๆ เขาก็จำชื่อยาไม่ได้
“พี่ยังเก็บเอาไว้ในบ้าน” โชคดีที่หูชิงเกาพี่คนรองตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาหันหลังกลับออกไปข้างนอกเพื่อหยิบ ‘ยา’ จำนวนหนึ่งกำมือมาให้น้องสาวดู
หูเจียวเจียวใช้เวลามองพวกมันทั้งหมดสักพัก
มันคือกวาวเครือขาว* และหากดื่มน้ำต้มกวาวเครือขาวจะช่วยรักษาอาการหวัดไข้ได้ ดังนั้นการให้คนป่วยดื่มมันจึงไม่มีปัญหา
*กวาวเครือขาวหรือเก๋อเกิน (葛根) เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเพศหญิง อีกทั้งยังช่วยแก้ไข้ตัวร้อน ลดปวดเมื่อยตามร่างกาย
แต่ไข้ของหูหมินรุนแรงมากเกินกว่าที่ฤทธิ์ยาสมุนไพรชนิดนี้จะช่วยได้
“ท่านแม่เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?” หูเจียวเจียวถามอีกครั้งด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“เอ่อ ตั้งแต่เมื่อคืน…” หูชิงหยวนตอบเสียงอ่อน
ในวันนี้ท่าทางของน้องน้อยของพวกเขาดูน่ากลัวมาก
แม้ว่านางจะไม่แสดงท่าทางอารมณ์เสีย แต่นางก็น่ากลัวกว่าสาวน้อยที่โกรธจัดก่อนหน้านี้มาก!
ปัจจุบันอารมณ์ของหูเจียวเจียวเปลี่ยนเป็นมืดมน พวกพี่ชายซื่อบื้อปล่อยให้แม่ของตนมีไข้สูงเกือบ 1 วัน!
ถ้าไม่คิดหาวิธีลดไข้ เธอกลัวว่านางจะเกิดอาการชักไปเสียก่อน
“พวกพี่ ๆ ออกไปก่อน ข้าจะช่วยให้ท่านแม่หายไข้” หูเจียวเจียวลุกขึ้นผลักพี่ชายทั้ง 3 ออกจากบ้านไม้
เหล่าจิ้งจอกหนุ่มถอยกลับอย่างเชื่อฟัง แต่สีหน้าของพวกเขายังคงกังวลอยู่ แต่ก่อนที่ใครจะได้เปิดปาก คนเป็นน้องสาวก็กระแทกประตูปิดใส่หน้าพร้อมกับเสียงที่ดังมาจากด้านหลังประตู
“ถ้าข้าไม่เรียกก็ห้ามให้ใครเข้ามาทั้งนั้น”
ถัดมา 3 พี่น้องต่างก็มองหน้ากัน
น้องเล็กคิดจะทำอะไร?
หูชิงเกาผู้เป็นพี่รองมีสีหน้ากระวนกระวาย “น้องเล็กของข้ากำลังสับสนหรือเปล่า นางไม่ใช่หมอ นางจะรักษาท่านแม่ได้ยังไง...”
หากจะบอกว่านางไปเรียนวิชากับท่านหมอมาก็ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากหมอเฒ่าประจำเผ่าเป็นคนหัวแข็งไม่เคยรับศิษย์มาก่อน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่หูเจียวเจียวจะกลายเป็นหมอ
“พี่รอง น้องเล็กไม่ทำร้ายท่านแม่หรอก...” หูชิงหลู่ที่เป็นพี่สามกล่าวปลอบโยนอีกฝ่าย
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หูชิงหยวนผู้เป็นพี่สี่ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ตบหน้าผากของตัวเอง
เสียงนั้นทำให้พี่น้องอีก 2 คนหันไปมองเขาเป็นตาเดียว
“บอกข้าที น้องสาวตัวน้อยของข้าไม่ได้เป็นหมอผีใช่ไหม?”
หมอผีไม่ใช่การส่งต่อความรู้จากรุ่นสู่รุ่นเหมือนหมอทั่วไป ผู้หญิงที่เก่งกาจจะปลุกความสามารถของหมอผีขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง นี่คือของขวัญจากเทพอสูรที่มอบให้ภูตหญิง
เมื่อพี่น้องตระกูลหูทั้ง 2 ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็จำได้ว่าหูเจียวเจียวเคยช่วยอิงหยวนให้หายจากอาการบาดเจ็บได้สำเร็จ ทันใดนั้นสีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปมีความสุขทันที
“ที่เจ้าพูดน่าจะเป็นไปได้!”
“เทพอสูรรักสาวน้อยของเรามาก ท่านมอบความฝันให้นางบ่อยครั้ง ฉะนั้นท่านต้องมอบพรสวรรค์ให้นางเป็นหมอผีแน่ ๆ!”
“เยี่ยมมาก หมอผีมาจากครอบครัวของเรา ท่านแม่มีทางรอดแล้ว...”
หมอผีมีทักษะการรักษาที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีคนที่หมดลมไปแล้วอยู่ตรงหน้า หมอผีอันทรงพลังก็สามารถทำให้ภูตฟื้นคืนชีพได้ ในสายตาของเหล่าภูต หมอผีเป็นรองเพียงแค่เทพอสูรเท่านั้น
ต่อจากนี้ไป พี่น้องทั้ง 3 ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป พวกเขาเฝ้ารอยู่ที่หน้าประตูนิ่งโดยไม่ขยับไปไหนประหนึ่งว่าเป็นเทพผู้เฝ้าประตูผอม ๆ 3 องค์
หากมีใครก็ตามกล้าบุกเข้าไปข้างใน พวกเขาจะสู้จนตัวตาย!
ในบ้านไม้
หูเจียวเจียวหยิบเครื่องมือฉีดวิตามินเข้าเส้นออกมาจากมิติอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่นานมานี้มีเวชภัณฑ์บางอย่างเพิ่มขึ้นในมิติ และยาแต่ละชนิดยังมีคู่มือการใช้งานโดยละเอียดบอกไว้อีกด้วย
ยามนี้เธอจัดเตรียมยาลดไข้ตามคำแนะนำ พร้อมเตรียมเข็มฉีดยา หลอดฉีดยา สายน้ำเกลือ รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น จากนั้นเธอก็เริ่มเจาะเข็มเข้าไปในเส้นเลือดหูมิน
เนื่องจากหญิงสาวไม่ได้เป็นนักศึกษาแพทย์ แต่ตอนเด็ก ๆ คุณย่าของเธอป่วย จึงต้องฉีดยาตลอดปี ทว่าค่ารักษาพยาบาลมันแพงมาก คุณปู่เลยมักจะซื้อยามาฉีดเองเสมอ
ขณะนี้หูเจียวเจียวสอดเข็มเข้าไปในผิวหนังของแม่จิ้งจอกอย่างระมัดระวัง โชคดีที่เส้นเลือดของอีกฝ่ายหาง่าย การสอดเข็มจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เข็มแรกก็ประสบความสำเร็จแล้ว
หลังจากที่จิ้งจอกสาวปรับอัตราการไหลของยาเสร็จสิ้น เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางคุกเข่าลงข้างเตียง
ปกติภูตมีร่างกายที่แข็งแรง โดยทั่วไปพวกเขาจึงไม่ค่อยไม่เจ็บป่วยกัน แต่ถ้าภูตคนใดเกิดป่วยขึ้นมา อาการมันจะร้ายแรงมาก การที่ไข้สูง 40 องศานั้นมีแนวโน้มที่จะทำให้ภูตถึงแก่ชีวิตก่อนที่จะทันได้รักษาหาย
โชคดีที่เธอมีปู่ที่เข้มแข็งซึ่งทำให้เธอกล้าที่จะลองทำอะไรแบบนี้
“ท่านแม่ ท่านต้องดีขึ้น”
หูเจียวเจียวจับมืออีกข้างของหูหมินมาแนบไว้บนใบหน้าของตัวเอง แล้วเธอก็อธิษฐานในใจ
นับว่าเป็นความโชคดีที่หญิงสาวมีแม่ในโลกภูตที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีแบบนี้ เธอจึงไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับนางเลย
จากนั้นเธอก็คอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงคนป่วยนานกว่า 1 ชั่วโมง
หลังจากที่จิ้งจอกสาวให้ยาหูหมินผ่านสายน้ำเกลือเสร็จ เมื่อเธอใส่เครื่องมือชิ้นสุดท้ายกลับเข้าไปในมิติ ก็มีเสียงเรียกเบา ๆ ดังมาจากเตียง
“เจียวเจียว...?”
เจ้าของชื่อหันกลับมาเห็นว่าหูหมินตื่นขึ้นแล้ว เธอจึงรีบตรวจวัดอุณหภูมิของอีกคน
ปรากฏว่าเธอต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงกว่าที่ยาจะได้ผล แต่อย่างน้อยคนป่วยก็ฟื้นซึ่งพิสูจน์แล้วว่าการให้ยาผ่านสายน้ำเกลือนั้นได้ผลจริง ๆ
“ข้าเองท่านแม่” หูเจียวเจียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะเดินไปนั่งจับมือผู้เป็นแม่เอาไว้
ขณะนี้หูหมินมีสติมากขึ้น พอเห็นว่าลูกสาวคนเล็กที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ภาพหลอน นางจึงสบถออกมาทันที
“พวกหูชิงเกาไม่ได้เรื่องเลย แม่กำชับเจ้าพวกนั้นว่าอย่าบอกเจ้า แต่พวกเขาก็ยังเรียกเจ้ามาที่นี่ แม่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาเป็นกังวล”
“คอยดูเถอะ ถ้าแม่หายจากอาการป่วยเมื่อไหร่ แม่ไม่เอาเจ้าพวกลูกไม่ได้ความไว้แน่!”
น้ำเสียงที่หญิงวัยกลางคนพูดออกมาอาจจะไม่ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่อย่างน้อยนางก็มีแรงก่นด่าลูก ๆ ของตนแล้ว
พอหูเจียวเจียวได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่าย เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าตอนนี้นางมีแรงเต็มเปี่ยม นางคงหยิบไม้ท่อนใหญ่ขึ้นมาไล่ทุบตีพี่น้องของเธอแน่นอน
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
ถ้าท่านแม่ด่าคนได้ นางคงจะไม่เป็นไรแล้ว
“เจียวเจียว ไม่ต้องห่วง แม่สบายดี แม่แข็งแรงสบายมาก แค่นอนพักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”
หลังจากที่หูหมินดุลูก ๆ ไปยกหนึ่ง นางก็เริ่มพูดปลอบลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวอีกครั้ง เพราะนางกลัวว่าอีกคนจะวิตกกังวล
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านสุขภาพแข็งแรงดี แต่ถ้าในอนาคตท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีก ท่านต้องรีบบอกข้า อย่าปิดบังเรื่องนี้จากข้าอีก ตกลงไหม?” หูเจียวเจียวพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
ตอนนี้พ่อและพี่ใหญ่ของเธอไม่อยู่บ้าน ถ้าเธอไม่บังเอิญมาที่นี่ในวันนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าแม่จิ้งจอกจะมีเวลาอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่
ถ้าเหล่าภูตไม่เกิดอุบัติเหตุก็มีโอกาสที่จะป่วยตายได้เหมือนกัน
“เอาล่ะ ต่อไปแม่จะไม่ปิดบังเจ้า แม่จะบอกเจ้าทุกอย่าง” เนื่องจากหูหมินเชื่อฟังลูกสาวมาตลอด ดังนั้นจึงไม่มีทางที่นางจะปฏิเสธ
เมื่อหญิงวัยกลางคนคิดว่าเจียวเจียวซึ่งไม่เคยกลับบ้านมาเยี่ยมตัวเองเลยสักครั้ง นางก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นที่พลุ่งพล่านในหัวใจ และนางก็สบายใจขึ้นมาในทันที
แน่นอนว่าการได้ลูกสาวที่เอาใจใส่และประพฤติตัวดีนั้นว่าถือเป็นโชคดีสำหรับคนเป็นแม่
ไม่เหมือนไอ้ลูกชายไม่เอาไหนพวกนั้นที่ทำให้นางโกรธได้ทุกวี่ทุกวัน
ในขณะเดียวกัน เทพเฝ้าประตูทั้ง 3 ที่อยู่นอกประตูก็จามทันที
“ฮัดชิ้ว!”
แอ๊ด~
จังหวะนั้นประตูถูกเปิดออก พร้อมกับที่หูเจียวเจียวเดินออกมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เธอเห็นพวกพี่ชายกำลังถูจมูก
“น้องเล็กออกมาแล้วหรือ ท่านแม่เป็นยังไงบ้าง?”
“น้องเล็กของพี่รักษาท่านแม่สำเร็จหรือเปล่า?”
เมื่อจิ้งจอกหนุ่มทั้ง 3 เห็นน้องสาวออกมาจากบ้าน ทุกคนก็ยืดตัวขึ้นมองเธออย่างคาดหวังราวกับว่าพวกเขาได้พบกับเทพธิดาตัวน้อย
“ท่านแม่ฟื้นแล้ว”
คำพูดของหูเจียวเจียวทำให้ 3 พี่น้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ข้ารู้ว่าน้องเล็กทำได้!”
หูชิงหยวนผู้เป็นพี่สี่ยกมือขึ้นหมายจะตบไหล่จิ้งจอกสาวอย่างตื่นเต้น แต่เขากลับถูกหูชิงเกาพี่รองหยุดไว้ด้วยสายตาดุดัน เขาจึงรีบเก็บมือตัวเองลง
“อย่าแตะต้องน้องเล็ก น้องบอบบางขนาดนี้ จะทำยังไงถ้าเจ้าเผลอไปทำให้น้องเจ็บ”
“รู้แล้วน่า” คนเป็นน้องชายหดมือกลับด้วยความลำบากใจ
จากนั้นหูชิงหลู่ที่เป็นพี่สามก็กล่าวชื่นชมน้องสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “น้องเล็กของพี่ทำให้ท่านแม่ฟื้นได้เร็วขนาดนี้ เก่งมากจริง ๆ”
หูเจียวเจียวเหลือบมองพี่ชายทั้ง 3 โดยไม่พูดอะไร แม้ว่าใบหน้าของเธอจะเปื้อนยิ้ม แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าของตัวเองได้ สภาพของเธอ ณ ตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่อดนอนมา 1 คืนเลย
อีกอย่าง วันนี้พี่รองเองก็ไปเผาถ่าน เขาก็ทำงานมาทั้งวันเช่นกัน พอคิดได้ดังนั้น จิ้งจอกสาวจึงพูดว่า
“พี่รอง พี่สาม พี่สี่ ข้าจะกลับไปทำอาหารให้ลูก ๆ ก่อน แล้วข้าจะเอาอาหารมาให้ท่านแม่กินตอนเย็น ข้าจะมาเฝ้าดูแลท่านแม่คืนหนึ่ง พวกท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ” หญิงสาวพูดจบแล้วก็ผลักพวกพี่ชายออกไปนอกลานบ้านทันที