บทที่ 153: มีความคิดที่จะหาคู่เพิ่ม
ปัจจุบันหลงโม่ไม่ควรอยู่ในเผ่าหรอกหรือ?
เป้าเฟิงขยี้ตาพลางคิดว่าเขาคงเหนื่อยจนเห็นภาพหลอนไปเอง
แต่ไม่ว่าเขาจะขยี้ตาจนเปลี่ยนเป็นสีแดง ภาพมังกรดำที่อยู่ตรงหน้าตนก็ยังไม่หายไปอยู่ดี
ทางด้านหลงโม่พอเห็นภูตเสือดาว เขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเขาก็จำได้ว่าก่อนหน้าที่เขาจะออกเดินทาง พวกเขาใช้ให้อีกฝ่ายรีบมาแจ้งข่าวแก่กลุ่มภูตที่ทำภารกิจขนดอกเกลือทราบก่อน ซึ่งมันเป็นแผนการล่อคนทรยศออกมาด้วย
ในตอนนั้นเขากับหูเจียวเจียวมัวแต่เป็นกังวลจนลืมเป้าเฟิงไป
“เป้าเฟิง เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?”
หูชิงซานก้าวไปตบไหล่เสือดาวหนุ่ม เขาคิดว่าอีกคนมาพร้อมกับหลงโม่
ความแข็งแกร่งของลูกชายคนโตของตระกูลหูในเผ่าเป็นรองเพียงอิงหยวนเท่านั้น ตอนที่เขาตบไหล่ของเป้าเฟิงก็มีเสียง ‘ป้าบ’ ดังขึ้น 2 ครั้ง แล้วสีหน้าของคนโดนตบก็เปลี่ยนไปพร้อมกับที่ไหล่ของเขาแทบทรุด
“ไม่...ไม่มีอะไร” ชายหนุ่มกัดฟันตอบ จากนั้นเขาก็นึกถึงงานสำคัญที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าเผ่าด้วยใบหน้าที่สดใส
ครู่ต่อมา เขาพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านผู้เฒ่าบอกว่าถนนสายนี้—”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เขาก็ถูกภูตจิ้งจอกตัวโตขัดจังหวะ
“เจ้าจะบอกว่ามีพวกภูตซุ่มโจมตีพวกเราอยู่ระหว่างทางใช่ไหม?”
“???”
อ้าว ข้ายังไม่ได้พูดเลย แล้วพวกเขารู้ได้ยังไง?
หูชิงซานหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “หลงโม่พูดไปแล้ว เราทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วด้วย”
ถัดมา หูเฉียงก้าวไปเรียกภูต 2-3 คนที่กำลังพักผ่อนอยู่ว่า “ไปกันเถอะ พวกเราต้องรีบขนดอกเกลือไปอีกทางหนึ่ง”
เนื่องจากพ่อจิ้งจอกอายุมากที่สุดในบรรดาภูตเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงมีบทบาทเป็นผู้นำโดยปริยาย
ภูตชายทั้งหลายส่งเสียงตอบรับ และยกถุงหนังสัตว์ใบใหญ่ที่มีดอกเกลือกว่า 200 ดอกขึ้นแบกไว้บนไหล่
ภูตทั้ง 8 นำดอกเกลือกลับมาได้เกือบ 2,000 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเกลือที่มีน้ำหนักมากกว่าตอนที่พวกเขาแลกมาจากชายทะเลโดยที่ไม่ต้องเอาเหยื่อไปแลกเปลี่ยน นั่นยิ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้นมาก และพวกเขาไม่อยากโดนฆ่าตายเพราะดอกเกลือเหล่านี้
หลังจากนั้นไม่นาน พวกภูตก็เก็บข้าวของเตรียมพร้อมที่จะเดินทางกลับเผ่า
ในเวลาเดียวกัน เป้าเฟิงที่โดนเมินเฉยไปถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ทำไมเขารู้สึกเหมือนกับว่าตนไม่เป็นที่ต้องการของคนกลุ่มนี้เลย?
เสือดาวหนุ่มอุตส่าห์วิ่งตาลีตาเหลือกมาที่นี่เต็มกำลังจนมีสภาพหอบเหมือนหมา แต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่กันนะ…
ไม่นานภูตชายทุกคนก็เปลี่ยนเส้นทางอย่างรวดเร็ว พวกเขาตัดสินใจข้ามภูเขาลูกหนึ่งเพื่อกลับไปที่เผ่าจากอีกด้านหนึ่ง
ในเส้นทางเดิมมีแม่น้ำขนาดใหญ่กว้างกว่า 10 เมตรขวางไว้ อีกทั้งแม่น้ำก็ลึกมาก เดิมทีหูเฉียงวางแผนที่จะนำสมาชิกเดินทางข้ามแม่น้ำไปและปกป้องดอกเกลือให้ปลอดภัยเพื่อที่ทุกคนจะได้ย่นระยะเวลาลง 1 วัน
แต่ใครจะไปรู้ว่าหลงโม่จะนำข่าวมาบอกพวกตนว่ามีพวกภูตเจตนาร้ายแอบซุ่มอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ
นอกจากนี้ พวกเขาขาดกำลังคนและต้องการปกป้องดอกเกลือ ดังนั้นหูเฉียงจึงเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของมังกรหนุ่มโดยใช้ทางอ้อมไปไกลกว่าเดิม
เพราะถึงอย่างไรการกลับช้าก็ยังดีเสียกว่าการไม่ได้กลับไปเลยตลอดชีวิต
ปัจจุบันภูตทั้ง 10 คนได้เดินทางข้ามภูเขา โดยกำลังจะมุ่งหน้าต่อไปยังเผ่า
ทันใดนั้นก็มีเสียงหมาป่าหอนไล่เรียงกันในป่าด้านหลังเขา
“อาวู้วววว!”
เนื่องด้วยเรื่องของหมาป่ากลายพันธุ์ก่อนหน้านี้ จึงส่งผลให้ทุกคนรู้สึกหวาดหวั่นกับเสียงหอนของหมาป่า
ในขณะนั้นสีหน้าของภูตคนหนึ่งในกลุ่มเปลี่ยนไป เขาพูดตะกุกตะกักว่า “มะ-มีหมาป่าอยู่ข้างหลังเรา”
“มันไม่ใช่ฝูงหมาป่า” หลงโม่หันไปมองที่ป่าทึบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เสียงหมาป่าหอนดังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็เร็วเกินกว่าที่สัตว์ป่าทั่วไปจะทำได้
“มันคือกลุ่มภูตที่ตามหลังพวกเรามา”
มันเป็นไปตามที่หูเจียวเจียวบอกเขาจริง ๆ!
…
ในเผ่า
ภายใต้คำสั่งของหูเจียวเจียว ในที่สุดภูตชายทั้ง 4 คนก็สร้างเตาเผาถ่านขึ้นมาได้สำเร็จ
เตาเผาเหลือเพียงช่องว่างโค้งเล็ก ๆ สำหรับให้ภูตนำท่อนไม้เข้าและออกจากเตา ส่วนด้านหลังมีรูปร่างคล้ายกระดองเต่าขนาดใหญ่
อีกด้านหนึ่งมีช่องระบายอากาศขนาดเล็กเพื่อให้อากาศถ่ายเท และป้องกันไม่ให้ไม้ถูกเผาเป็นเถ้าทั้งหมด
หลังจากเตาเผาดินเต็มไปด้วยฟืน ตามด้วยจุดไฟจากปากเตาเผา และในไม่ช้าเปลวไฟก็ลามไปทุกซอกทุกมุมของเตา
หูเจียวเจียวคอยเฝ้าอยู่ตรงช่องว่างของเตาเผา เมื่อเธอเห็นไม้ข้างในกำลังไหม้เป็นสีแดง ใบหน้าของเธอก็มีความสุขมาก
“ปิดปากเตาเผาเร็วเข้า”
พวกหูชิงเการีบปิดช่องว่างตรงเตาเผาด้วยหินและดินเหนียวทันทีโดยไม่เว้นให้เหลือช่องว่างใด ๆ
“น้องเล็ก เราต้องทำอะไรต่อไป?” จิ้งจอกหนุ่มหันไปถามน้องสาว
“ตอนนี้ก็แค่รอให้ถึงเวลา” หูเจียวเจียวตอบพร้อมทำหน้าพึงพอใจ
หลังจากที่เหล่าภูตช่วยกันปิดผนึกเตาไว้เป็นเวลาครึ่งวัน ไม้ที่อยู่ภายในจะถูกทำให้เป็นถ่าน
เนื่องจากภูตหลายคนไม่เคยทำงานง่าย ๆ เช่นนี้มาก่อน
ดังนั้นทั้ง 4 คนจึงอยู่เฉยไม่ได้ ระหว่างรอให้ไม้ในเตากลายเป็นถ่าน พวกเขาออกไปนอกเผ่าและนำฟืนกลับมาให้เพียงพอสำหรับเติมเต็มเตาเผาถ่าน
การกระทำของเหล่าภูตชายทำให้หูเจียวเจียวประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินหัวหน้าเผ่าบอกว่าจะต้องใช้เวลาเตรียมการประมาณ 2-3 วัน
ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมท่านผู้เฒ่าถึงดูมีความสุขมากตอนที่ได้ยินว่าจะเริ่มทำการเผาถ่านในวันนี้ ปรากฏว่าเขารอมานานแล้วต่างหาก
ในตอนบ่าย จิ้งจอกสาวคาดการณ์ว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว เธอจึงขอให้พวกเขาเปิดประตูเตาเผา
ทันทีที่เปิดมันออก กลุ่มควันสีเทาหนา ๆ ก็ลอยฟุ้งออกมาจากปากเตาเต็มไปหมด
“แค่ก ๆ...”
ผู้ชายหลายคนสำลักควันพลางยกมือขึ้นมาปัดควันให้พ้นหน้าตัวเอง
ทางด้านหูเจียวเจียวกำลังจะชะโงกหน้าเข้าไปมองไม้ที่ถูกเผาอยู่ข้างในด้วยสายตาคาดหวัง แต่ทว่า…
“น้องเล็ก ช้าก่อน” หูชิงเกาคว้าแขนเธอไว้แน่น
ภายใต้สายตาที่สงสัยของจิ้งจอกสาว พี่ชายคนรองได้ทำความสะอาดประตูเตาเผาที่เปื้อนเศษดินอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นเขาก็พูดกับเธอว่า
“เอาล่ะ น้องเล็ก เข้าไปดูสิ ถ่านที่เจ้าพูดถึงสำเร็จหรือเปล่า?”
เป็นเพราะน้องสาวตัวน้อยของเขารักความสะอาด ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายได้สัมผัสกับปากเตาที่สกปรก
เมื่อเห็นการกระทำของหูชิงเกา หัวใจของหูเจียวเจียวก็อบอุ่นขึ้นมา
พวกพี่ ๆ จิ้งจอกยกให้เธอเป็นที่หนึ่งในดวงใจและคอยประคบประหงมเธอในทุกเรื่อง
ต่อมา หญิงสาวเดินไปที่เตาเผาถ่านแล้วพบว่าอุณหภูมิในเตายังคงสูงมาก ก่อนที่เธอจะคีบถ่านที่ถูกเผาเป็นรูปร่างกิ่งไม้ออกมา และเคาะมันเบา ๆ
ปรากฏว่าถ่านในมือไม่แตกหัก ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นคาร์บอนไปทั้งหมดแล้ว
สำเร็จ!
“พี่รอง มันได้ผล นี่คือถ่านที่เทพอสูรแสดงให้ข้าเห็นในความฝัน” หูเจียวเจียวกล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มสดใส
เธอไม่คาดคิดเลยว่าการเผาถ่านครั้งแรกในชีวิตจะประสบความสำเร็จ
“จริงหรือ?”
“ดีมาก!”
ภูตหลายคนส่งเสียงโห่ร้องทันที จากนั้นภูตคนหนึ่งก็รีบไปบอกข่าวดีแก่หัวหน้าเผ่า
“หูเจียวเจียว เจ้าเก่งมากจริง ๆ ตอนนี้บ้านหินก็กำลังถูกสร้างขึ้น ผู้หญิงในเผ่าจะไม่ต้องทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็นในหน้าหนาวอีก” ชาวบ้านในเผ่ามองจิ้งจอกสาวด้วยสายตาซาบซึ้ง
ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้ว่าหูเจียวเจียวฉลาดขนาดนี้มาก่อน?
มันคงจะดีถ้าเขาได้เป็นคู่กับนาง...
“ถูกต้อง เจียวเจียวของเราเป็นภูตที่เทพอสูรโปรดปราน” หูชิงเกาพูดยกยอน้องสาวสุดที่รักด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
ภูตอีก 2 คนที่เหลือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจิ้งจอกหนุ่ม ดังนั้นพวกเขาจึงแอบขยับไปด้านข้างอีกฝ่าย โดยวางแผนที่จะใช้เส้นสายในการได้ใกล้ชิดน้องสาวของเขา
“หูชิงเกา เจียวเจียวของเจ้ามีหลงโม่เป็นคู่เพียงคนเดียว หากนางพิจารณาอยากจะหาคู่เพิ่มอีกสัก 2-3 คน...”
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นไง?”
หูชิงเกาชำเลืองมองทั้งคู่ก่อนจะผลักพวกเขาออกไปด้วยความขยะแขยง
“ไสหัวไปให้พ้น!”
แค่มีหลงโม่คนเดียวก็พอแล้ว น้องสาวเขาตัวเล็กบอบบางเช่นนี้จะอยากได้คู่มากมายไปทำไม?
ไม่มีทางซะหรอก!
หากเจ้าอยากได้น้องสาวตัวน้อยของข้า เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!
เวลาต่อมา ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าที่เดินทางมาถึงก็ยิ้มหน้าบาน
ไม่นานชายชราก็ออกคำสั่งให้ภูตทุกคนเริ่มเคลื่อนย้ายถ่านที่อยู่ข้างในออกมาวางข้างนอก และในไม่ช้าก็มีกองถ่านเล็ก ๆ อยู่ด้านข้างเตาเผา
หูเจียวเจียวได้เห็นสิ่งที่เขียนบนม้วนหนังสือหนังแกะว่าเตาเผาดินธรรมดาสามารถเผาถ่านได้ครั้งละ 200 ก้อน
เตาเผาดินที่พวกภูตสร้างมีขนาดใหญ่กว่าเตาเผาดินทั่วไป 2-3 เท่า เธอจึงประมาณคร่าว ๆ ว่าเตานี้ผลิตถ่านได้ประมาณ 500 ก้อนต่อการเผา 1 ครั้ง
แม้ว่าคุณภาพของพวกมันจะไม่ดีเท่าถ่านชั้นดีที่ผลิตใช้ในเชิงอุตสาหกรรม แต่ถ่านเหล่านี้ก็สามารถใช้ก่อไฟหรือให้ความร้อนในโลกภูตได้ดี และไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
หญิงสาวอดคิดในใจไม่ได้ว่าภูตนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ
เตาเผาดินที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 2-3 เท่านั้น คงมีเพียงภูตที่จะทำเสร็จได้อย่างรวดเร็ว
“เจียวเจียว เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าทำงานอย่างหนัก เจ้าสามารถนำถ่านชุดแรกที่เราเผากลับบ้านได้ทั้งหมด!”
หัวหน้าเผ่าไม่ใช่คนขี้เหนียว เขามอบถ่านทั้งหมดที่เผาออกมาครั้งแรกให้กับหูเจียวเจียวอย่างไม่เห็นแก่ตัว