ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 5 ว่าที่ลูกศิษย์ของข้า กายาตะวันเจิดจรัส
“เอ๊ะ… ให้มันได้อย่างนั่นสิ !”
ขณะที่เซวียนห่าวกำลังจะยอมแพ้ต่อการทดสอบด้านล่าง เขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง
นั่นคือหญิงสาวที่มีผมสีดำสวยและตาสีน้ำตาล
สิ่งที่ทำให้เซวียนห่าวไม่สามารถละสายตาจากหญิงสาวคนนั้นได้ก็คือค่าพรสวรรค์ที่แสดงอยู่เหนือหัวของนาง
“ค่าพรสวรรค์... 37 !”
เมื่อมองแวบแรก เซวียนห่าวคิดว่าเขาเข้าใจผิด บางทีเขาอาจจะเห็นค่าพรสวรรค์สองคนทับซ้อนกันก็ได้
แต่มันไม่อย่างนั้น แม้ว่าเขาจะจ้องไปที่ตัวเลขเหนือหัวหญิงสาวมากเท่าไหร่ มันก็ยังคงเท่าเดิมอยู่อย่างนั้น มันลอยอยู่เหนือหัวของหญิงสาวโดยตรง
ค่าพรสวรรค์ 37
ความสามารถในการบ่มเพาะนี้ช่างมหาศาลยิ่งนัก
แม้แต่หลิงซ่งซึ่งเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกายกระบี่ล่องนภาก็มีค่าพรสวรรค์เพียงแค่ 15 เท่านั้น
“ด้วยค่าพรสวรรค์ 37 ของนาง นางกลับยังอยู่ในขอบเขตรวมปราณขั้น 4 เท่านั้น แม้แต่หลิงซ่งยังได้ก้าวสู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้แล้วเมื่อเขาอายุเท่านาง เป็นไปได้อย่างไร”
เซวียนฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อัจฉริยะที่มีค่าพรสวรรค์ 37 ขณะที่อายุสิบห้าถึงสิบหกปี นางจะยังติดอยู่ในขอบเขตรวมปราณขั้น 4 ได้อย่างไร
แม้แต่คนที่มีค่าพรสวรรค์ 9 ก็ยังอยู่ในขอบเขตรวมปราณขั้น 8
“ประเดี๋ยวก่อน…”
ทันใดนั้น เซวียนห่าวก็สังเกตเห็นบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มีตัวอักษรที่อยู่เบื้องหลังค่าพรสวรรค์ของหญิงสาวคนนี้
[กายา: กายาศักดิ์สิทธิ์ตะวันเจิดจรัส วิธีปลุกพลัง: หญ้าหัวใจอเวจี (ขั้นวิญญาณ)]
มีร่างกายหลายประเภทในโลกแห่งนี้ ผู้ที่มีกายาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่สวรรค์โปรดปราน การฝึกฝนนั้นจะง่ายเหมือนการปอกกล้วยเข้าปาก
พูดตามตรง เซวียนห่าวรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงร่างกายที่แปลกประหลาด เขาเคยอ่านเจอในหอคัมภีร์ของนิกาย
ร่างกายนี้ถูกเรียกว่ากายาสุบินอมตะ ผู้ที่มีมันนั้น เพียงแค่การนอนหลับก็สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้...
เขาผู้นั้นถูกขนานนามว่าผู้นึกฝันอมตะ เขามาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตจักรพรรดิเมื่ออายุร้อยห้าสิบปีด้วยการหลับใหลเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปจากทวีปเอวาเรีย ว่ากันว่าเขาข้ามผ่านขอบเขตจักรพรรดิไปแล้ว...
สิ่งพิเศษที่เรียกว่าร่างกายหรือกายาศักดิ์สิทธิ์
ร่างกายบางประเภทจะถูกเปิดใช้งานโดยธรรมชาติตั้งแต่ตอนที่คน ๆ นั้นเกิดมา ในขณะที่ร่างกายอื่น ๆ จะถูกผนึกอยู่ในนั้น คนเหล่านั้นต้องการสิ่งของหรือวิธีการพิเศษบางอย่างเพื่อปลุกมันขึ้น เช่นเดียวกับกายาตะวันเจิดจรัสที่ต้องใช้หญ้าหัวใจอเวจีเพื่อกระตุ้น
แต่หญ้าหัวใจอเวจีนั้นก็ไม่ได้หาง่ายนัก แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเช่นเซวียนห่าวก็ยังยากที่จะรับหญ้าหัวใจอเวจี
หญ้าหัวใจอเวจีไม่ใช่สมุนไพรระดับสูงขนาดนั้น มันเป็นเพียงสมุนไพรขั้นวิญญาณเพียงเท่านั้น ผู้ที่จะใช้สมุนไพรขั้นวิญญาณก็คือผู้ที่อยู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจะมีปัญหาในการได้มันมา
น่าเศร้าสำหรับเซวียนห่าว มันหายากมากเนื่องจากสภาพแวดล้อมเฉพาะที่จำเป็นต่อการเติบโตของมัน
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังอยากได้เด็กคนนี้ !”
มันไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้ที่มีค่าพรสวรรค์มากกว่า 10 ดังนั้นเสวียนห่าวจะปล่อยนางเพียงเพราะสมุนไพรหายากได้อย่างไร
เดิมทีเซวียนห่าวต้องการที่จะรีบลงไปรับนางเป็นศิษย์ของเขาโดยตรง แต่หลังจากคิดถึงผู้ที่หยิ่งยโสและทำตัวมีปัญหาอย่างพวกที่มีค่าพรสวรรค์ 9 เซวียนห่าวจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น เขาสามารถทำได้หลังจากการทดสอบสิ้นสุดลง เขาจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อสังเกตความประพฤติและด้านอื่น ๆ ของนางอย่างเหมาะสม
เพราะท้ายที่สุดก็คือ เซวียนห่าวไม่ต้องการศิษย์ที่ดื้อรั้นและหยิ่งยโส
ในทางกลับกัน หญิงสาวคนนี้ที่ตกเป็นเป้าหมายของเซวียนห่าวผู้เป็นผู้อาวุโสหลักที่ยิ่งใหญ่ของนิกายกระบี่ล่องนภาโดยไม่รู้ตัว
ในขณะนี้ นางกุมมือเล็ก ๆ ของนางไว้ด้วยกันอย่างประหม่าในขณะที่มองไปที่วัตถุแปลก ๆ แต่คุ้นเคยตรงหน้านาง
ในที่สุดก็ถึงคราวที่นางต้องทำการทดสอบรอบแรก
แม้ว่านางจะผ่านการทดสอบในตระกูลมาหลายครั้งแล้วและรู้อยู่แล้วว่านางมีคุณสมบัติที่จะผ่านการทดสอบรอบแรก แต่นางก็ยังประหม่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับของจริง
“อี้เอ๋อ อย่ากังวลไปเลย เจ้าจะผ่านการทดสอบรอบแรกอย่างแน่นอน เจ้าเคยทดสอบแล้วก่อนที่จะมาที่นี่” คนที่พูดด้วยน้ำเสียงสงบในขณะที่เขาตบไหล่ชิงอี้เบา ๆ ก็คือผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลชิง
ถึงตาของชิงอี้แล้ว ก่อนหน้านาง อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลชิง ชิงเฉินอี้ได้ขึ้นไปทดสอบแล้ว อายุกระดูกสิบเจ็ดปี ขอบเขตรวมปราณขั้น 6
ในขณะนี้ ชิงเฉินอี้ไม่ได้มั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เมื่อเริ่มการทดสอบ เขาพบว่ามีคนมากกว่าสองสามคนที่อยู่ในขอบเขตรวมปราณขั้น 5 และ 6 หรือสูงกว่า เขายังเห็นคนไม่กี่คนในขอบเขตรวมปราณขั้น 7
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมากสำหรับการทดสอบรอบสองที่กำลังจะมาถึง
เดิมทีเขามั่นใจอย่างมากว่าเขาจะสามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้หรืออาจจะเข้าสู่สิบอันดับแรกและเข้าสู่การเป็นศิษย์ฝ่ายใน แต่ในขณะนี้ ความมั่นใจของเขาตั้งแต่แรกเริ่มได้หายไปอย่างสิ้นเชิง
เขาค้นพบว่าผู้คนในที่แห่งนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเขาในแง่ของพรสวรรค์และความแข็งแกร่งเลย ตรงกันข้าม บางคนเก่งกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
เขารู้สึกเหมือนเป็นกบที่อยู่ในก้นบ่อ ในที่สุดก็ได้สัมผัสกับโลกแห่งความจริง
แม้ว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในเมืองอาทิตย์สาดส่อง แล้วอย่างไรล่ะ มันก็แค่เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จักในอาณาจักรนภาสวรรค์อันยิ่งใหญ่เท่านั้น
ชิงอี้ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งจากตระกูลของนางมีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเช่นไร
ในขณะนี้ นางมาถึงหน้าผู้ดูแลการทดสอบและยกมือขึ้นอย่างกระวนกระวายก่อนจะวางมันไว้บนนั้น
ในขณะที่ชิงยี่กำลังทดสอบ เซวียนห่าวก็เฝ้าสังเกตนางด้วยสัมผัสเทวะ เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ของนาง เซวียนห่าวก็ยิ้มเล็กน้อย
“หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย”
“ชิงอี้ อายุกระดูกสิบห้าปี ขอบเขตรวมปราณขั้น 4 ผ่าน !”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่ใบหน้าของชิงอี้กลับไม่ปรากฏความยินดีแม้แต่น้อย
แม้ว่านางจะผ่านการทดสอบรอบแรก แต่นางก็ค้นพบว่าผู้คนรอบตัวนางแข็งแกร่งมากเพียงใด
ผู้ที่มีอายุกระดูกไม่เกินสิบแปดปีและมีฐานการบ่มเพาะขอบเขตรวมปราณขั้น 4 เป็นเรื่องธรรมดามาก มันจะง่ายกว่าหากจะกล่าวว่ามีเพียงหญิงสาวคนนี้ที่อยู่ขอบเขตรวมปราณขั้น 4
การทดสอบรอบสองที่กำลังจะมาถึงจะยากขนาดไหนกันเชียว