ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 3 ชายผู้นั้นคือใครกัน
“ชิงเฉินอี้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว เพื่อให้ตระกูลชิงของเราจะสามารถรอดจากวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ หากเจ้าสามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้ไป๋หลี่และนิกายนวาระทมิฬที่อยู่เบื้องหลังพวกมันก็จะไม่กล้าทำอะไรตระกูลชิงของเรา !”
ด้านหลังชิงอี้มีชายอาวุโสยืนอยู่ เขาดูไม่อ่อนแอ เนื่องจากเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ขั้น 2 และเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลชิง ฐานะของเขาในตระกูลชิงเป็นรองเพียงจ้าวตระกูลชิงคนปัจจุบัน พ่อของชิงอี้
ครั้งนี้เขารับผิดชอบในการนำกลุ่มรุ่นเยาว์จากตระกูลชิงไปยังนิกายกระบี่ล่องนภา
ผู้อาวุโสใหญ่พูดขึ้น แต่เขาไม่ได้พูดคำเหล่านั้นกับชิงอี้ ลูกสาวของจ้าวตระกูล เขาพูดคำเหล่านั้นกับชายหนุ่มในชุดขาวที่ยืนอยู่แถวหน้าของกลุ่มรุ่นเยาว์ตระกูลชิง
แม้ว่าสถานะของชิงอี้จะสูงส่งและมีเกียรติที่สุดในบรรดาลูกหลานของตระกูลชิง แต่ในแง่ของความสามารถ นางนั้นยังห่างไกลจากคนเก่งที่สุดอยู่มาก แม้แต่การที่นางถูกจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
“ผู้อาวุโสใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าจะเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาและขอความช่วยเหลือจากพวกเขา เมื่อข้าเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้ การจัดการกับนิกายนวาระทมิฬก็จะใช่เรื่องที่ยากเย็นสำหรับเราเลย เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ตระกูลไป๋ พวกมันต่างหากที่จะต้องกังวล”
ชิงเฉินอี้ยิ้ม เขาไม่ใช่แค่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลชิงเท่านั้น แต่เขายังเป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองอาทิตย์สาดส่องอีกด้วย ในความคิดของเขา การเข้าร่วมนิกายกระบี่ล่องนภาเป็นเรื่องที่แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ชิงอี้เม้มปากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แววตาของนางรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
ใช่แล้ว... ชิงเฉินอี้คือผู้ที่มีหวังมากที่สุดในการเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภา แม้แต่อีกสองคนที่อยู่หลังชิงเฉินอี้ก็ยังมีโอกาสที่จะเข้าเช่นกัน
“ข้า...”
แม้ว่านางจะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของจ้าวตระกูลคนปัจจุบัน แต่พรสวรรค์ของชิงเฉิงอี้นั้นสูงกว่านางมาก
ในฐานะลูกคนเดียวของจ้าวตระกูลคนปัจจุบัน นางกลับไม่สามารถสืบทอดพรสวรรค์ที่โดดเด่นของพ่อได้ ทั้ง ๆ นางมีทรัพยากรที่ดีที่สุดของตระกูลอยู่ในมือ ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของตระกูลชิง นางไม่สามารถแม้แต่จะติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกได้ด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องที่น่าอนาถเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่ว่านางไม่ฝึกฝนแต่อย่างใด นางฝึกหนักมากแล้วและอาจจะมากกว่าคนอื่น ๆ จากรุ่นเยาว์ของตระกูลชิงด้วยซ้ำ ตั้งแต่เริ่มต้นการบ่มเพาะของนาง นางไม่เคยที่จะพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถทดแทนได้จากการฝึกหนักเพียงอย่างเดียว...
ในวัยของนาง พ่อของนางได้ทะลวงผ่านไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานขั้น 1 เรียบร้อยแล้ว
“เจ้าหรือที่จะเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภา ฮ่าฮ่าฮ่า ... ชิงเฉินอี้ เจ้าและตระกูลชิงคู่ควรกับเรื่องนี้ด้วยหรือ”
ในขณะที่สมาชิกจากตระกูลชิงกำลังจะเดินไปที่พื้นที่ทดสอบ เสียงเยาะเย้ยก็ดังขึ้นข้างหลังของพวกเขา คนในตระกูลชิงไม่จำเป็นต้องหันกลับก็รู้ว่าผู้นั้นเป็นใคร
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ไป๋เฉิง ข้าไม่คู่ควรงั้นหรือ เจ้าสติฟั่นเฟืองแล้วหรือ” ชิงเฉินอี้หันกลับมาและมองอย่างเยือกเย็นไปที่ชายหนุ่มในชุดดำที่อยู่ด้านหลังของเขา
ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ ไป๋เฉิงจากหนึ่งในสองตระกูลใหญ่แห่งเมืองอาทิตย์สาดส่อง เขาเป็นสมาชิกของตระกูลไป๋ และยังเป็นหนึ่งในอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเมืองอาทิตย์สาดส่อง
ในอดีต ไป๋เฉิงนั้นแข็งแกร่งกว่าชินเฉินอี้และได้เคยรังแกเขาและสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลชิง แต่ต่อมาชิงเฉินอี้ลุกขึ้นต่อกรเขาทั้งพรสวรรค์และความแข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือความแข็งแกร่ง ชิงเฉินอี้ก็อยู่เหนือเขาทั้งหมด
“ชิงเฉินอี้ เจ้าภูมิใจอะไรนักหนา เมื่อข้าเข้าสู่สำนักกระบี่ล่องนภา ข้าก็จะแซงหน้าเจ้าได้อย่างง่ายดาย และในการประลองเมืองอาทิตย์สาดส่องในปีหน้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าใครสูงกว่ากันและเวลาที่เจ้าชนะข้า มันก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย ฮ่าฮ่า ขอให้สนุกกับการเป็นอันดับหนึ่งในเมืองอาทิตย์สาดส่องในขณะที่เจ้ายังเป็นอยู่แล้วกัน” ไป๋เฉิงไม่โกรธเมื่อได้ยินชิงเฉินอี้ แต่เขาหัวเราะเสียมากกว่า
“งั้นหรือ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าจะโผล่ขึ้นมาจากรูได้ด้วยวิธีใด ในเมื่อเจ้าสามารถเข้าไปได้ ข้าก็เข้าไปได้เช่นกัน” ชิงเชิงอี้กล่าวอย่างเย็นชา ความสามารถของเขาเหนือกว่าไป๋เฉิง หากไป๋เฉิงเข้าไปได้ เขาก็เข้าไปได้เช่นกัน
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ข้าจะเฝ้ารอสีหน้าของเจ้าเมื่อการคัดเลือกสิ้นสุดลง ฮ่าฮ่าฮ่า...” ไป๋เฉิงหัวเราะและกำลังจะเดินออกไปเมื่อเขาเห็นชิงอี้ที่จ้องมองมาจึงหยุดอยู่กับที่
“อี้เอ๋อเป็นยังไงบ้าง ตราบใดที่เจ้าตกลงแต่งงานกับข้า ตระกูลไป๋และตระกูลชิงก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกัน เมื่อข้ากลายเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภา ข้าจะทำให้ตระกูลชิงของเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน”
เรื่องความรักของไป๋เฉิงที่มีต่อชิงอี้นั้นไม่ใช่ความลับในเมืองอาทิตย์สาดส่อง เขาเคยไปหาตระกูลชิงหลายครั้งเพื่อขอแต่งงาน แต่ถูกพ่อของชิงอี้ปฏิเสธทุกครั้ง มิหนำซ้ำเขายังถูกทุบตีเสียด้วย
แม่ของชิงอี้เสียชีวิตหลังจากที่ครอดนาง พ่อของนางมีลูกสาวเพียงคนเดียวนั่นก็คือนาง เขาจึงไม่บังคับให้นางทำในสิ่งที่นางไม่ชอบ นับประสาอะไรกับการบังคับให้นางแต่งงานกับคนจากตระกูลคู่แข่งอย่างตระกูลไป๋
ชิงอี้มองไป๋เฉิงอย่างเย็นชา นางไม่ได้พูดอะไร นางกลับมองไปที่ศาลากลางลานฝึกซึ่งเป็นที่พักของผู้อาวุโสในนิกายกระบี่ล่องนภา
เป็นเพราะการปรากฏตัวของคน ๆ เดียวที่ดึงดูดความสนใจของนาง
“เขาคือใครกัน?”
“ข้าเห็นเขาเข้าไปในศาลาก่อนหน้านี้ บางทีเขาอาจแค่มาเพื่อส่งสารบางอย่างให้ผู้อาวุโสก็เป็นได้”
“เอ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นใครกัน ไม่ใช่ว่าใครก็ได้หรอกนะที่สามารถเข้าไปในศาลานั้นได้ เขาอาจจะเป็นศิษย์หลักก็ได้”
ชายหนุ่มคนนี้ที่ปรากฏตัวเพียงเล็กน้อยหลังจากที่เขาเข้ามาก็คือเซวียนห่าว
การปรากฏตัวของเขาทำให้เกิดความปั่นป่วนในลานฝึกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจเขาอย่างแท้จริงไม่ใช่เรื่องนั้น
มันคือเซวียนห่าวที่ยืนอยู่ข้างเฟิงเฉิน
เฟิงเฉินคือใคร
จ้าวนิกายกระบี่ล่องนภา
ไม่ใช่ใครก็ได้ที่มีสิทธิ์ยืนอยู่ข้างเขา
ก่อนที่เซวียนห่าวจะปรากฏตัว มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นและพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
บางคนเริ่มสงสัยว่าเซวียนห่าวคือใครกันแน่
ชายหนุ่มคนนี้... เขาคือใคร?
ลูกชายของจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภาหรือ?
ทุกคนรู้ว่าจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภานั้นไม่มีภรรยา นอกจากนี้ คนสุดท้ายที่พูดถึงเรื่องการแต่งงานของเขาถูกส่งตัวไปพบรองจ้าวนิกาย จู๋เฟยและถูกส่งตัวไปอย่างลึกลับที่เขตชานเมือง
มีหลายคนที่สั่นสะท้านเมื่อนึกถึงรองจ้าวนิกาย จู๋เฟย
“พวกเจ้านั้นโง่งมยิ่งนั้น ท่านผู้นี้มีชื่อว่าเซวียนห่าว แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขาก็เป็นถึงผู้อาวุโสหลักของนิกายกระบี่ล่องนภา ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด !”
“ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดหรือ ขอบเขตเดียวกับจ้าวนิกาย เขาดูไม่แก่กว่าข้ามากนัก เป็นไปได้อย่างไรที่จะไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ !”
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผู้อาวุโสเซวียนห่าวผู้นี้นี้เป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำเขายังเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสหลักที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายกระบี่ล่องนภาและเป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่อายุน้อยที่สุดในอาณาจักรนภาสวรรค์” มีอีกคนยืนยันเสริม
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” มีบางคนยังไม่เชื่อคำกล่าวอ้างนั้น
“ข้ารู้เพราะพี่สาวของข้าเป็นศิษย์ฝ่ายในของนิกายกระบี่ล่องนภา !” คนผู้นั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ภายในนิกายกระบี่ล่องนภามีศิษย์สาวกหลายพันคนที่มีระดับแตกต่างกัน ศิษย์ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ ศิษย์ฝ่ายนอก ศิษย์ฝ่ายในและศิษย์หลัก แม้ว่าพวกเขาจะเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาหลังจากผ่านการคัดเลือกมาได้ พวกเขาก็ยังเป็นเพียงศิษย์ฝ่ายนอกเพียงเท่านั้น ยกเว้นว่าจะเป็นผู้ที่โชคดีที่จะได้รับเลือกจากผู้อาวุโสให้เป็นศิษย์ส่วนตัว
ฐานะของศิษย์ฝ่ายในของนิกายกระบี่ล่องนภานั้นค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
ตามที่คาดไว้ เมื่อบุคคลนี้เปิดเผยว่าพี่สาวของเขาเป็นศิษย์ฝ่ายใน ความอิจฉาและความริษยาก็ถาโถมเข้ามาทันที