ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 1 ภารกิจแรก
“ผู้อาวุโสเซวียน การคัดเลือกศิษย์สายนอกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านอยากจะเข้าร่วมกับผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ในครั้งนี้หรือไม่?”
ภายในศาลาอันเงียบสงบ เซวียนห่าวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นในขณะที่เขามองไปยังทิศทางของเสียงนั้น
“แน่นอน ข้าจะไปถึงที่นั่น”
หลังจากตอบกลับ เซวียนห่าวเฝ้าดูขณะที่คนที่ยืนอยู่หน้าตำหนักของเขารีบเดินลงมาจากยอดเขาอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าเขาก็หายวับไปกับตา
“โลกนี้ เอวาเรียงั้นหรือ…”
เซวียนห่าวถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเขานึกถึงโลกเก่าของเขา
เขาไม่ได้มาจากโลกนี้ เดิมทีเขามาจากอีกโลกหนึ่ง ถ้าพูดให้ชัดเจนก็คือดาวโลก
การข้ามมิติ สิ่งที่เขาเคยอ่านในนิยายแฟนตาซีได้เกิดขึ้นกับเขา
มิหนำซ้ำเขายังมีระบบของเขาเองด้วยซ้ำ ระบบที่อยู่ในจิตสำนึกของเขาในขณะนี้คือกลโกงที่เขาได้รับจากการข้ามมิติมาที่นี่
“ผู้อาวุโสเซวียน...”
นิกายของเซวียนห่าวมีชื่อว่านิกายกระบี่ล่องนภา นิกายกระบี่ล่องนภาตั้งอยู่ในเขตเหนือของอาณาจักรนภาสวรรค์ แม้ว่าจะไม่ใช่นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนภาสวรรค์ แต่ก็ยังมีชื่อเสียงและอิทธิพลในบริเวณโดยรอบ
จ้าวแห่งเขตเหนือ นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกนิกายกระบี่ล่องนภา
แม้ว่าจะถือว่าอ่อนแอที่สุดในสี่เขต แต่ก็ยังเป็นนิกายที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสี่ในอาณาจักรนภาสวรรค์
เซวียนห่าวเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสหลักของนิกายกระบี่ล่องนภา
เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้อาวุโสหลักที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายกระบี่ล่องนภา เป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเมื่ออายุยี่สิบเอ็ดปี
ปัจจุบันเขาเป็นผู้อาวุโสดวงวิญญาณที่ห้าของนิกายกระบี่ล่องนภา
ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคืออะไร?
ในขณะนี้ นิกายกระบี่ล่องนภามีเพียงห้าคนที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดได้แก่จ้าวนิกาย, รองจ้าวนิกายและผู้อาวุโสอีกสองคนไม่รวมเขา
เซวียนห่าวรู้สึกงุนงงเล็กน้อยเมื่อเขารู้สถานะปัจจุบันของเขาและใช้เวลาสองสามวันในการรวบรวมสติและฟื้นตัวจากอาการตกใจที่จู่ ๆ ก็แข็งแกร่งพอที่จะทำลายทั้งเมืองด้วยการโบกมือของเขา
แม้ว่านวนิยายการบ่มเพาะส่วนใหญ่จะมีผู้ที่กลับชาติมาเกิดหรือข้ามมิติเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องเริ่มต้นจากศูนย์และค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุด แม้ว่าจะมีบางเรื่องที่ตัวเอกเริ่มต้นด้วยแข็งแกร่ง...
เขาอยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด เป็นผู้อาวุโสของนิกายใหญ่และผู้เชี่ยวชาญหนึ่งในห้าของนิกาย...
นี่ไม่ใช่จุดเริ่มที่ต้นธรรมดา
แน่นอนเซวียนห่าวไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเป็นขอบเขตที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ในอาณาจักรนภาสวรรค์ เขาถือได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง แม้แต่ยอดฝีมือสูงสุดจากอาณาจักรนภาสวรรค์ที่เป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ก็มาถึงแค่จุดสูงสุดของขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 9 เท่านั้น
เซวียนห่าวเองก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 1
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งนี้ถือว่าแข็งแกร่งเฉพาะในอาณาจักรนภาสวรรค์เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ในทวีปเอวาเรีย มีอาณาจักรเช่นอาณาจักรนภาสวรรค์อยู่ทั่วไป เจ้าไม่สามารถนับจำนวนที่แน่นอนของอาณาจักรเหล่านั้นได้เนื่องจากมีเพียงจำนวนที่มากมายมหาศาล
ทวีปเอวาเรียถูกแบ่งออกเป็นสี่ภูมิภาค เป่ยโจว หนานโจว ซีโจวและตงโจว แต่ละภูมิภาคมีจักรวรรดิร้อยแห่งและแต่ละจักรวรรดิก็มีอาณาจักรหลายร้อยแห่งเช่นอาณาจักรนภาสวรรค์ อาณาจักรนภาสวรรค์ตั้งอยู่ในหนานโจว
มันไม่ง่ายที่จะจินตนาการว่าทวีปเอวาเรียนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน นับประสาอะไรกับผู้คนที่อยู่นอกเหนือจากนั้น
บนทวีปเอวาเรียมีการฝึกฝนบ่มเพาะและแบ่งออกเป็นขอบเขตรวมปราณ, ขอบเขตก่อตั้งรากฐาน, ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้และขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
แน่นอนว่ามีขอบเขตที่เหนือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่เรียกว่าขอบเขตราชันและขอบเขตจักรพรรดิแต่ละขอบเขตถูกแบ่งออกเป็นเก้าขั้นเรียกอีกอย่างว่าขั้นทั้งเก้า
แน่นอนว่าขอบเขตเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เซวียนห่าวสามารถสัมผัสได้ในขณะนี้
ไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิที่กล่าวกันว่าปรากฏในอาณาจักรที่แข็งแกร่งเท่านั้น เซวียนห่าวไม่เคยแม้แต่จะพบกับยอดฝีมือขอบเขตราชันเลยด้วยซ้ำ
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนภาสวรรค์ยังคงอยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 9 เท่านั้น อาณาจักรใกล้เคียงที่ล้อมรอบอาณาจักรนภาสวรรค์ก็ไม่มีใครที่เหนือกว่าขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
ยอดฝีมือขอบเขตราชันนั้นถือว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่ทั่วทั้งทวีปเอวาเรีย ยอดฝีมือระดับเหล่านั้นก็จะสามารถสร้างอาณาจักรขึ้นได้ด้วยตัวเองและขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะราชา
ผู้ที่อยู่ขอบเขตราชันสามารถทำลายอาณาจักรนภาสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย
สำหรับหลาย ๆ คน ยอดฝีมือขอบเขตราชันคือการมีอยู่ในตำนานเท่านั้น แม้อาณาจักรนภาสวรรค์จะอยู่นับพันปี แต่ก็ยังไม่เคยมีใครไปถึงขอบเขตราชัน มากสุดก็ครึ่งขั้นขอบเขตราชัน อาจมีบางคนที่ก้าวไปได้แต่ไม่เปิดเผยและจบลงด้วยการออกจากอาณาจักรนภาสวรรค์
การทะลวงขั้นจากขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเข้าสู่ขอบเขตราชันนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก
แน่นอนว่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเซวียนห่าวผู้ซึ่งต้องการไปถึงจุดสูงสุด ขอบเขตราชันนั้นถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แม้แต่ขอบเขตจักรพรรดิก็อยู่ไม่ไกลแค่เอื้อม
เซวียนห่าวยิ้มกว้างให้กับตัวเองและเข้าสู่ห้วงจิตสำนึก เขามองไปที่แผงอักษรที่ปรากฏอยู่บนนั่น
ชื่อ: เซวียนห่าว
ความสามารถพิเศษ: ???
ขอบเขต: วิญญาณก่อกำเนิด ขั้น 1
นิกาย: นิกายกระบี่ล่องนภา
ศิษย์: ไม่มี
ภารกิจหลัก: สาวกคนใดก็ตามที่ไปถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน
รางวัลภารกิจหลัก: ???
ภารกิจเสริม: รับลูกศิษย์ที่มีค่าพรสวรรค์ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป
รางวัลภารกิจ: [การบ่มเพาะเพิ่มขึ้น 1 ขั้น] , [เจตจำนงกระบี่]
รางวัลสำหรับภารกิจหลักนั้นลึกลับและภารกิจที่สองคือภารกิจเสริมที่มีรางวัลมากมาย
การบ่มเพาะเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือเจตจำนงกระบี่
เจตจำนงกระบี่ไม่ใช่กระบวนท่าหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นแนวคิดและความเข้าใจ
ผู้ที่สามารถเข้าใจเจตจำนงกระบี่ได้ล้วนเป็นอัจฉริยะที่ก้าวสู่การเข้าใจเต๋ากระบี่
ผู้ฝึกตนกระบี่มีความน่าสพึงกลัวอย่างมากและสามารถต่อกรกับผู้ที่อยู่เหนือพวกเขาได้หลายขอบเขต นั่นคือเหตุผลที่นิกายนภาสวรรค์ได้รับตำแหน่งเป็นจ้าวเขตเหนือของอาณาจักรนภาสวรรค์
ผู้ฝึกตนกระบี่ที่เข้าใจเจตจำนงกระบี่นั้นน่ากลัวอย่างมาก
แม้ว่ารางวัลจะล่อตาล่อใจ แต่เขาต้องทำภารกิจให้สำเร็จเสียก่อน
ภารกิจหลักกำหนดให้เขาต้องมีลูกศิษย์ที่ไปถึงขอบเขตก่อตั้งรากฐานในขณะที่ภารกิจรองกำหนดให้เขารับศิษย์ที่มีความสามารถที่มีค่าพรสวรรค์ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป
ภารกิจทั้งสองต้องการให้เขาเป็นอาจารย์และรับลูกศิษย์
“อ่า…”
เซวียนห่าวถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าและลุกขึ้นจากท่านั่งสมาธิ
ภารกิจทั้งสองนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ใหม่ของนิกายในปีนี้
“ข้าหวังว่าการคัดเลือกที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีใครสักคนที่เหมาะสม และหวังว่าคนนั้นจะเป็นคนที่เงียบขรึมและมีมารยาทดี”
เซวียนห่าวไม่มีแรงจูงใจมากนักเมื่อต้องสอนคนหนุ่มสาว แม้ว่าเขาจะมีความทรงจำ ประสบการณ์และความรู้สึกในชาติก่อนของเซวียนห่าว แต่หลังจากที่รวมเข้าด้วยกันกับเขาในปัจจุบัน ทั้งสองคนค่อนข้างขี้เกียจ คนหนึ่งต้องการเพียงใช้เวลาเงียบ ๆ ไปวัน ๆ เพื่อทำสมาธิและบ่มเพาะ ในขณะที่อีกคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งดื่มชาและอ่านหนังสือดี ๆ
เขายังคงสงสัยว่าเขาจะถูกมองว่าเป็นเซวียนห่าวในอดีตหรือเซวียนห่าวคนใหม่ เนื่องจากทั้งสองคนรวมกันระหว่างการข้ามมิติของเขา
ทิ้งความคิดเหล่านั้นไว้ในใจของเขาในตอนนี้ เซวียนห่าวเดินไปที่ทางเข้าของนิกายซึ่งจะมีการคัดเลือกศิษย์ฝ่ายนอก