บทที่ 8 - การประเมินผลเวทย์มนต์
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา ตอนนี้ผมอายุ 9 ขวบครึ่งแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะต้องทนกับการฝึกอันแสนหฤโหดแทบทุกวัน มันไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของผม ด้วยส่วนสูง 1.5 เมตร น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ผมสีฟ้าอ่อนยาวลงมาถึงหัวไหล่ แม้รูปร่างหน้าตาของผมจะไม่หล่อนัก แต่ก็ดูอ่อนโยน และน่าถนุถนอม (ชาวบ้าน เพื่อนร่วมชั้น และบรรดาอาจารย์ เป็นคนพูดแบบนี้) พ่อชอบบอกว่าหน้าตาของผม ถ้าดูแยกเป็นส่วน ๆ มันดูไม่ค่อยดี แต่ถ้าดูรวม ๆ แล้วก็ถือว่าหน้าตาดีไม่เลว แม่ชอบจ้องที่ปากผม แล้วพูดบ่นว่าเป็นเพราะยีนของพ่อแท้ ๆ อย่างไรก็ตาม แม่ของผมเป็นคนสวย แม้ว่าตอนนี้เธอจะอายุ 30 แล้ว แต่เธอดูไม่แก่เลย
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าการสอนของปีศาจเฒ่าจะขัดกับอุดมการณ์ของผม แต่ผมไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับว่าผมได้เรียนรู้เวทย์มนต์มากมายจากเขา ความก้าวหน้าของผมสร้างความแปลกใจให้กับแม่และพ่อมาก
ตอนนี้ ถ้าพูดถึงถุงทราย ผมสามารถหลบการจู่โจมของถุงทรายที่แกว่งไปมาได้เกือบทั้งหมด ตอนที่ผมเคลื่อนย้ายอยู่ในค่ายกล คุณจะเห็นเพียงแค่เงาลาง ๆ เท่านั้น อาจารย์ซิวก็ไม่สามารถคาดเดาทิศทางการเคลื่อนย้ายของผมได้ แม้แต่เวทย์โจมตีที่เขาตั้งใจร่ายใส่ผมก็ไม่สามารถถูกตัวผม สำหรับผลตอนนี้ ค่ายกลถุงทรายก็เป็นเหมือนเกมส์ จนอาจารย์ซิวต้องกัดฟันเวลาดูผมฝึกกับถุงทราย ผมทำให้เขาหงุดหงิดถึงขั้นที่คิดจะใช้เวทย์ระดับสูงโจมตีผมหลายครั้ง (อาจารย์ซิวใช้เวทย์มนต์มิติได้ถึงระดับ 7) อย่างไรก็ตามเวทย์มิติของเขารุนแรงเกินไป เขากลัวว่าถ้าใช้ออกมาจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งสนามฝึก เขาเลยเลือกที่จะอัญเชิญเสือแห่งแสงออกมาวิ่งไล่ผมแทน ไม่ว่าจะอย่างไร ตอนนี้การควบคุมเวทย์เคลื่อนย้ายระยะใกล้ของผมใกล้เคียงกับจุดที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบมาก แม้แต่อาจารย์ซิวก็ไล่จับผมไม่ทัน
ความเร็วในการพัฒนาพลังเวทย์ และพลังวิญญาณของผมน่าตื่นตะลึงเป็นพิเศษ ตอนนี้ผมสามารถใช้โล่ผลึกแสงพร้อมกับเคลื่อนย้ายไปด้วยได้ แถมยังใช้ได้ติดต่อกันถึง 3 ชั่วโมง
ในระยะเวลา 2 ปีนี้ ผมยังได้เรียนรู้เวทย์อีกหลายอย่าง (รายชื่อข้างล่างนี้คือเวทย์พูดได้ว่ามีเอกลักษณ์ และผมชอบใช้มัน) เวทย์ป้องกันธาตุแสงระดับพื้นฐาน :
โล่แสง - เวทย์ป้องกันที่รวบรวมแสงมาสร้างเป็นโล่ (ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้เวทย์นี้แล้ว เพราะโล่ผลึกแสงมีประโยชน์มากกว่า) กระจกแสง – เวทย์ธาตุแสงสำหรับสะท้อนเวทย์ ด้วยการเพิ่มพลังวิญญาณของผม ตอนนี้ผมสามารถสะท้อนเวทย์มนต์ได้ทุกทิศทาง โล่ผลึกแสง – เป็นเวทย์ธาตุแสงสายป้องกัน ที่ผมสร้างขึ้นมาเอง ขนาดไม่ใหญ่ แต่พลังป้องกันเทียบเท่ากับเวทย์ระดับสูง แม้แต่อาจารย์ซิวยังชมเวทย์ของผมอย่างจริงจัง แต่อาจารย์ใช้เวทย์นี้ไม่ได้ ฮ่า ฮ่า! การป้องกันศักดิ์สิทธิ์ – มันสามารถป้องกันแก็สพิษ และเวทย์วิญญาณมืดขั้นพื้นฐานได้ (ประเภทของเวทย์มืดที่สร้างความสับสนให้แก่ศัตรู และทำให้ศัตรูเป็นบ้า) เพราะมันสามารถกรองแก็สพิษได้ (หน้ากากป้องกันแก็สพิษ?) ผมมักจะใช้ตอนที่อาจารย์ซิวเผลอผายลมออกมา และมันใช้ได้ค่อนข้างดี (อาจารย์ซุนไม่รู้เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น....)
เวทย์โจมตีธาตุแสงระดับพื้นฐาน :
ธนูแสง – ภายใต้เวทย์แสงระดับพื้นฐาน และระดับกลางทั้งหมด นี่เป็นเวทย์จู่โจมเวทย์เดียวเท่านั้น ธาตุแสงอัดตัวกันเป็นลูกธนู มันมีความคม แต่พลังโจมตีต่ำมาก
เวทย์ฟื้นฟูธาตุแสงระดับพื้นฐาน :
เทคนิคแห่งการฟื้นฟู – มันเป็นเวทย์ฟื้นฟูระดับพื้นฐาน ที่สามารรักษาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้ดี รวมทั้งรักษาอาการเป็นไข้ หรือหวัด ผมไม่ค่อยชอบเวทย์นี้ เพราะตั้งแต่ผมเรียนเวทย์นี้สำเร็จ แม่ชอบพาผมไปช่วยรักษาคนในหมู่บ้าน (แน่นอน ผมไม่ได้เงิน เฮ้อ!) เทคนิครักษาวิญญาณ - ใช้สำหรับแก้อาการสับสนได้หลายอย่าง
เวทย์มิติระดับพื้นฐาน :
การเคลื่อนย้ายระยะใกล้ – ผมเก่งเวทย์นี้มาก ภายในระยะ 500 เมตรไม่มีทางที่เวทย์โจมตีทิศทางเดียวจะโจมตีถูกผม การเคลื่อนย้ายระยะไกล – ผมเรียนทฤษฎีของเวทย์นี้แล้ว แต่ผมไม่เคยใช้ เพราะกลัวว่าอาจจะเคลื่อนย้ายไปโผล่ในอาณาเขตของเผ่าปีศาจ ซึ่งคงจะน่าอนาถ เฉือนมิติ – เป็นเวทย์โจมตีที่ทรงพลังที่สุดที่ผมเรียน มันสามารถฉีกมิติได้ ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ใกล้มันจะถูกดูดหายไป (รวมทั้งเวทย์มนต์) สำหรับตอนนี้ อาจารย์ซิวห้ามไม่ให้ผมใช้เวทย์นี้ เพราะครั้งหนึ่งผมเคยดูดแก้วชาใบโปรดของอาจารย์หายเข้าไปในช่องว่างของมิติ ตอนนี้ผมเฉียนมิติได้ยาวแค่ 1 เมตร ซึ่งไม่เป็นปัญหาในการดูดเวทย์ระดับพื้นฐาน แต่อาจารย์ซิวก็เตือนไว้ว่าแรงดึงดูดของช่องว่างมิติมีสูงมาก ถ้าพลังเวทย์ของคุณไม่สามารถต้านทานมันได้ มันจะดูดคุณเข้าไปด้วย (แน่นอน เฉือนมิติที่ผมร่ายตอนนี้ดูดผมไม่ไปหรอก มันต้องเป็นแหวกมิติถึงจะร้ายแรงพอ) เขาเตือนผมให้ใช้มันอย่างระมัดระวัง
เวทย์เหล่านี้ คือทั้งหมดที่ผมได้เรียนรู้จนถึงตอนนี้ อาจารย์ซิวประเมินว่าผมนั้น : หนีที่หนึ่ง ป้องกันที่สอง ฟื้นฟูที่สาม โจมตีอย่างโหล่ (ในความเป็นจริง อาจารย์ซิวค่อนข้างพอใจกับผลงานของผม โดยเฉพาะพรสวรรค์ด้านการป้องกัน และการเคลื่อนย้าย ความสามารถในการควบคุมเวทย์เคลื่อนย้ายของผมถึงขั้นที่ว่าดีกว่าของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นนักเวทย์สูงสุดก็ตาม และผมยังสร้างเวทย์ป้องกันชนิดใหม่ขึ้นมาได้ โดยทั่วไปแล้ว ถ้าไม่นำเวทย์โจมตีของผมเข้ามาคำนวนด้วย ความแข็งแกร่งของผมจะใกล้เคียงกับนักเวทย์ชั้นสูง) เฮ้! ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นยังนี้ มันแค่ผมชอบเวทย์เคลื่อนย้ายระยะใกล้มากที่สุด ฮ่า ฮ่า! ถ้าผมเอาชนะไม่ได้ ก็หนีสิ รออะไร ฮิ ฮิ!
อีกไม่ถึง 6 เดือนผมจะเรียนจบจากโรงเรียนนี้แล้ว ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดผมก็หนีออกจากอุ้งมือมารได้ (พอเห็นว่าค่ายกลถุงทรายทำอะไรผมไม่ได้ อาจารย์ซิวชอบร่ายเวทย์โจมตีระดับกลางใส่ผม จนกว่าผมจะหมดแรง) อนาคตข้างหน้าช่างสดใสเหลือเกิน ฮิ ฮิ!!!
สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นไปอีกคือ ตอนเช้าอาจารย์ซิวบอกผมตอนอยู่ในห้องเรียนว่า เขาจะต้องไปเมืองหลวง คราวนี้จะไปค่อนข้างนาน แต่จะกลับมาให้ทันการสอบจบการศึกษาของผม เขาสั่งให้ผมทำสมาธิอย่างตั้งใจเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เพื่อพยายามเพิ่มพลังเวทย์ของผม (ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะเพิ่มการฝึกของปีศาจให้ผมอีก) เฮ้อ! ผมจะทำอะไรได้ นอกจากผิวปาก
ต่อจากนี้ไป ผมก็จะกลับไปทำสมาธิ (นอน) ได้ทุกวันอีกแล้ว