บทที่ 5 - การทำสมาธิโดยการนอน
พอมีพ่อมาช่วยสอน ผมก็สามารถเข้าใจทฤษฎีเวทย์มนต์พื้นฐานได้จริง ๆ
“ดีมาก! ดูเหมือนว่าเมื่อวานเธอจะทำงานหนัก ตามอาจารย์มา”
หลังจากที่ผมมาถึงเมื่อเช้า อาจารย์ซิวทดสอบความรู้ของผมทันที ถึงผมจะไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว แต่พอให้เวลาให้ผมได้คิด ผมก็สามารถหาคำตอบได้ หึ หึ!! ความพยายามของผมไม่เสียเปล่า ผมผ่านการทดสอบของเฒ่าซี (อาจารย์ซิว) ได้ วันนี้ผมไม่ต้องวิ่งอีกแล้ว
ผมเดินตามอาจารย์ซิวไปที่กระท่อมที่อยู่ในสวนด้านหลัง นี่มันเกี่ยวกับการสอนเวทย์มนต์??
“จางกง ตอนนี้เธอเข้าใจพื้นฐานแล้ว แต่เธอต้องเพิ่มพูนความรู้อย่างต่อเนื่อง เธอรู้มั้ยว่าพลังของนักเวทย์ขึ้นอยู่กับอะไร?”
“ระดับเวทย์มนต์”
“แล้วเราใช้เวทย์ระดับสูงได้อย่างไร”
“ร่ายเวทย์”
“ไร้สาระ” อาจารย์ซิวส่งสายตาน่ากลัวมาที่ผม
“เพื่อที่จะใช้เวทย์ระดับสูง เธอจะต้องมีพลังวิญญาณอยู่จำนวนมาก ความรู้พื้นฐานของเธอนี่อ่อนจริง ๆ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มพลังวิญญาณคือการทำสมาธิ เริ่มตั้งแต่วันนี้ 3 เดือนจากนี้ไป เธอต้องทำสมาธิทุกวัน พรุ่งนี้ อาจารย์จะต้องเดินทางไปเมืองหลวง แล้วจะกลับมาหลังจาก 3 เดือน”
หัวใจผมเต้นแรงอย่างมีความสุข ผมจะเป็นอิสระแล้ว อย่างไรก็ตาม คำพูดต่อมาของอาจารย์ซิวทำให้ผมกลับลงมาสู่โลกแห่งความจริง
“จางกง เวทย์มนต์สายหลักของอาจารย์คือเวทย์มิติ ถึงแม้ว่าอาจารย์จะเป็นแค่นักเวทย์สูงสุด การเคลื่อนย้ายกลับมาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าอาจารย์กลับมาแล้วพบว่าเธอทำตัวเหลวไหล เธอได้เป็นนักวิ่งทางไกลระดับชาติแน่นอน”
อาจารย์ซิวขู่ผม ด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ตอนที่ทำสมาธิ เธอมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ พยายามรู้สึกถึงธาตุแสง พยายามรวบรวมและเก็บรักษาธาตุให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถเพิ่มพลังวิญญาณของเธอได้ ตลอดเวลาที่อาจารย์ไม่อยู่ เธอต้องทำสมาธิอย่างน้อย 8 ชั่วโมงทุกวัน ฟังอยู่หรือเปล่า!!! ถ้าอาจารย์กลับมาแล้วพลังวิญญาณของเธอทำให้อาจารย์พอใจไม่ได้.....”
ระหว่างที่ฟังปีศาจเฒ่าพูดอยู่นั้น ผมรู้สึกท้อแท้อยู่ในใจ ทำสมาธิวันละ 8 ชั่วโมง ผมต้องเบื่อตายแน่ ๆ
“วิธีพื้นฐานในการทำสมาธิ อาจารย์เชื่อว่าเธอต้องรู้อยู่แล้ว การทำสมาธิก็มีอยู่หลากหลายเทคนิค เธอสามารถไปที่ห้องสมุดเพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้ หาเทคนิคการทำสมาธิที่เธอชอบ ด้วยวิธีนี้ประสิทธิภาพของการทำสมาธิจะดีที่สุด รอจนอาจารย์กลับมาก่อน แล้วอาจารย์จะสอนวิธีการใช้เวทย์มนต์ให้”
“เอาล่ะ!! เธอเริ่มทำสมาธิได้ตอนนี้เลย”
ผมนั่งลงบนเสื่อ ภายใต้การจ้องมองของอาจารย์ ค่อย ๆ หลับตาแล้วเริ่มทำสมาธิ
ถึงแม้ว่าปีศาจจะออกไปแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้รับรู้ถึงความสงบสุขเลย
ห้องสมุดของโรงเรียนตั้งอยู่ที่มุมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผมค่อย ๆ ค้นหนังสือเกี่ยวกับการทำสมาธิออกมาดู จนในที่สุดก็เจอกับหนังสือที่ผมต้องการ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! ผมรอดแล้ว! ระหว่างที่คุ้ยหาหนังสืออยู่ที่มุมห้อง ผมเจอสมุดเล่มสีเหลือง มันดูเก่ามาก แต่ผู้แต่งเป็นนักเวทย์แสงที่แต่งหนังสือนี้เมื่อ 150 ปีก่อน ในหนังสือบอกไว้ว่า ขอเพียงรับรู้ถึงธาตุเวทย์มนต์ได้ถึงระดับที่จะรวบรวมมันได้ จะใช้ท่าทางยังไงก็ไม่สำคัญ หนังสือเล่มนี้ยังยกตัวอย่างเอาไว้ด้วย มันมี นอนสมาธิ นั่งสมาธิ และอื่น ๆ อีก
ผมสามารถนอนไปด้วย แล้วทำสมาธิไปด้วย สำหรับคนขี้เกียจอย่างผม การนอน และการนั่งช่างเป็นวิธีที่แตกต่างกันมากเหลือเกิน ฮ่า ฮ่า! นี่มันดีเกินไปแล้ว!
กลับมาที่ห้องเรียน (กระท่อมน้อย) ที่มีผมอยู่แค่คนเดียว ผมเริ่มทำตามคำแนะนำในหนังสือ นอนลง รวบรวมสมาธิ เริ่มสื่อสาร สัมผัสกับธาตุแสงในอากาศ ในที่สุด ผมเริ่มรู้สึกถึงธาตุแสงรอบ ๆ ตัวผม ธาตุแสงให้ความรู้สึกอบอุ่น และใจดีกับผม เหมือนอยู่ในอ้อมกอดของพ่อและแม่ อา....สบายเหลือเกิน!
“พวกคุณคือธาตุแสง?” ผมเอ่ยถามในโลกของวิญญาณ
ผมรู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นรอบ ๆ ตัว
“ลุง ๆ ป้า ๆ ธาตุแสง สวัสดีครับ เป็นยังไงบ้าง? ผมชื่อเว่ยจางกง ต่อจากนี้ไปพวกเรามาเล่นด้วยกันนะ”
สัมผัสอันอบอุ่นเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ต่อจากนี้ไป พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ!”
ผมรู้สึกได้ว่าธาตุแสงค่อย ๆ เปลี่ยนรูปเป็นเส้นบาง ๆ และไหลมารวมกันที่ ‘จุดสะสมพลัง’ ของผม คลื่นพลังงานอันแสนอบอุ่นล้อมอยู่รอบตัวผม ถ้ามีคนอยู่ที่นี่ก็จะเห็นชั้นของแสงสีขาวอยู่รอบตัวผม คลื่นพลังงานไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงธาตุแสงผ่านช่องทางการสื่อสารในจุดสะสมพลังของผม ด้วยความอบอุ่นและสบายไปทั้งตัว ผมหลับลงไปอย่างไม่รู้ตัว
สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ ผมได้รับการยอมรับจากธาตุแสงโดยบังเอิญ บนทวีปนี้ นักเวทย์ทุกคนฝึกฝนโดยการพยายามรับรู้ถึงธาตุเวทย์มนต์รอบ ๆ ตัว แล้วพยายามควบคุมธาตุเหล่านั้นเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ให้กับตัวเอง เมื่อพลังเวทย์เพิ่มขึ้น พลังวิญญาณก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์นี้ พวกเขาต้องบ่มเพาะอย่างยากลำบาก แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่อยากบ่มเพาะ ไม่อยากทำสมาธิ คนขี้เกียจอย่างผมเลยมองหาวิธีที่จะเพิ่มพลังเวทย์มนต์ได้ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายนัก มันเลยเป็นไปตามธรรมชาติ แทนที่ผมจะพยายามควบคุมธาตุรอบ ๆ ตัว ผมพูดคุย และสื่อสารกับธาตุแสง อย่างบริสุทธิ์ใจ นี่ทำให้ผมแปลกใจมาก ธาตุแสงยอมรับผมแล้ว? เพราะเหตุนี้อัตราการสะสมและฟื้นฟูธาตุของผมเร็วกว่าคนปกติถึง 3 เท่า ผมกลายเป็นเพื่อนกับเหล่าธาตุแสงจริง ๆ
โดยไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกว่าใครบางคนเขย่าตัวผม ผมลืมตาขึ้นอย่างแปลกใจ และพบว่าแม่ของผมกำลังปลุกผมอยู่
“แม่ ทำไมแม่มาอยู่ที่นี่ได้?”
“แม่เป็นห่วงแทบตายแล้ว เย็นขนาดนี้แล้วลูกยังไม่กลับบ้าน แม่เลยไปหาอาจารย์ใหญ่ อาจารย์บอกว่าลูกน่าจะอยู่ในห้องเรียน ลูกตั้งใจเรียนอย่างหนักแล้วเผลอหลับไป”
อา! ผมมองออกไปนอกห้อง และพบว่ามันเย็นมากแล้วจริง ๆ มันแค่รู้สึกเหมือนนอนไปได้แป็บเดียวเท่านั้น วิธีการทำสมาธิแบบนี้ช่างสุดยอด! ผมตรวจสอบพลังเวทย์ของตัวเองอย่างเงียบ ๆ และพบว่ามันเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับพลังเวทย์เล็กน้อยของผมเมื่อก่อน ตอนนี้มันกลายเป็นบอลแสงลูกเล็ก ๆ ว้าว! มันดีจริง ๆ มันดีเกินไปแล้ว!
“รีบกลับบ้าน ลูกไม่หิวเหรอ? เห็นลูกขยันเรียนขนาดนี้ แม่ดีใจมากจริง ๆ” แม่จะรู้ได้ยังไงว่าอาจารย์ไม่ได้อยู่ที่นี่เลย และจริง ๆ แล้วผมแค่นอนทั้งวัน? ฮ่า ฮ่า! ดีจริง ๆ ผมสามารถฝึกไปด้วย นอนไปด้วยได้ทุกวัน
หลังจากกลับถึงบ้าน และกินข้าวเย็น ผมกลับเข้าห้อง
ผมนี่เป็นอัจฉริยะตัวจริง ที่คิดวิธีสุดยอดนี้ได้ ฮิฮิ! ผมเริ่มหลงตัวเองเล็กน้อยแล้ว จริงสิ! พลังเวทย์มนต์ของผมเพิ่มขี้น ดังนั้นเวทย์มนต์ของผมก็ต้องมีพลังเพิ่มขึ้นด้วย ผมต้องลองทดสอบดู ผมยกมือขึ้น
“ชื่อของข้าคือเว่ยจางกง ธาตุแสง เพื่อเพื่อนของท่าน ส่องสว่างไปรอบ ๆ”
ผมร่ายเวทย์เดียวที่ผมรู้จัก เวทย์ส่องสว่าง
หลังจากร่ายเวทย์ ผมรู้สึกถึงพลังงานอันอบอุ่นไหลจากจุดสะสมพลังพร้อม ๆ กับพลังเวทย์จากทั่วร่างกายของผมไปรวมกันที่มือที่ยกอยู่ ลูกบอลสีขาวก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือของผม แสงสีขาวนวลสว่างขึ้น ถึงแม้ว่าในจะค่อนข้างจ้า แต่ก็ไม่แสบตา
ว้าว! มันได้ผล ก่อนหน้านี้ผมเพียงแค่สามารถสร้างจุดแสงเล็ก ๆ บนฝ่ามือ เย่! มันช่างสุดยอด เวทย์ส่องสว่างของผมในที่สุดก็สว่างจริง ๆ ผมรู้สึกถึงพลังงานที่ไหลอย่างต่อเนื่องไปที่ฝ่ามือ ทำให้ลูกบอลยังคงส่องแสง ธาตุแสงจากจุดสะสมพลังยังคงไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุด มันไม่มีสัญญาณเลยว่าพลังเวทย์ในร่างกายผมจะลดน้อยลง
ดีมาก นี่คือวิธีฝึกฝน! ในอนาคต ผมไม่ต้องเหนื่อยทำสมาธิเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ของผมแล้ว
เอาล่ะ! ได้เวลานอน
ผมจะใช้การนอนสมาธิเพื่อนอนทุกคืน ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผมหลับสบายขึ้น
ดังนั้น ตารางการใช้ชีวิตประจำวันของผมก็คือ : ตื่นขึ้นมาตอนเข้า - กินข้าวเช้า – ไปทำสมาธิ (นอน) ที่ห้องเรียน – กลับบ้านกินข้าวเย็น – แล้วก็ทำสมาธิต่อ
3 เดือนให้หลัง ด้วย ‘ความพยายาม’ อย่างต่อเนื่องของผม พลังเวทย์ของผมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ลูกบอลแสงของผมตอนนี้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ทุกครั้งที่ผมทำสมาธิ ผมรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกับธาตุแสงมากขึ้น ๆ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นญาติผู้ใหญ่ เป็นผู้อาวุโสที่คอยดูแลผม เหมือนผมเป็นลูกหลานของพวกเขา เหมือนพวกเขาเลี้ยงผมแบบตามใจทุก ๆ วัน
นั่นแหละ! บุตรแห่งแสงได้คิดค้นวิธีพิเศษในการทำสมาธิขึ้นมา มันกลายเป็นแหล่งพลังเวทย์อันไม่สิ้นสุดของมหาเมธีเวทย์ในภายหลัง