บทที่ 147: หูเจียวเจียวจับตามองนางอย่างใกล้ชิด
ในวันนี้แม่กวางเฒ่ากำลังพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกไปพบหมอ
ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่พวกนางถูกทำร้าย ลู่หลีก็มีปัญหาบางอย่าง โดยที่เขามักจะเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหนเหมือนเคย เขาชอบซุกตัวอยู่ตรงมุมกำแพงทั้งวันท่ามกลางกองอุจจาระและปัสสาสะของตน
พ่อกวางแม่กวางทนรับสภาพของลูกชายไม่ไหวจึงตัดสินใจพาเขาไปหาหมอ
ขณะนี้ครอบครัวตระกูลลู่ทั้ง 3 กำลังเดินทางไปบ้านหมอ ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นหูเจียวเจียวเดินมาทางพวกตนอยู่ไม่ไกล
แล้วขาที่ควบคุมไม่ได้ของ 2 สามีภรรยาก็เริ่มอ่อนแรง มันสั่นเทาจนแทบจะรับน้ำหนักเจ้าตัวไม่ไหว
ในขณะที่ลู่หลียืนตัวแข็งทื่อเป็นรูปปั้น พร้อมกับที่มีน้ำสีเหลืองไหลลงมาตามขาของเขา
ทางด้านหูเจียวเจียวนั้นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทั้ง 3 คน
เธอสังเกตเห็นจมูกรวมถึงใบหน้าของลู่มู่มีรอยฟกช้ำดำเขียว มันบวมเป่งไม่ต่างจากหัวหมู แถมท่าเดินของนางยังแปลก ๆ อีกด้วยเพราะนางเดินกะโผลกกะเผลกผิดธรรมชาติ
สภาพของอีกฝ่ายทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
เธอจำได้ว่าครั้งที่แล้วเธอไม่ได้ลงมือรุนแรงกับแม่กวางขนาดนี้ แล้วทำไมหน้าอีกคนถึงดูบวมกว่าเดิมล่ะ?
นอกจากนี้ลู่หลียังมีสภาพที่น่าสมเพช ใบหน้าของเด็กหนุ่มเหยเกดูทุกข์ทรมาน ปากเบี้ยว หน้าตาตื่นตระหนกหวาดกลัวและแม้กระทั่งกางเกงของเขาก็ยังเปียกชุ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
“ใครทุบตี 3 คนนั้นกันนะ แต่พวกเขาถูกทำร้ายจนสภาพเป็นแบบนี้ คนที่ลงมือใจร้ายมาก...”
หูเจียวเจียวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทว่าเธอไม่ได้แสดงความเห็นใจหรือสงสารแต่อย่างใด
ตอนแรกเธอคิดว่าครอบครัวอันธพาลจะเข้ามาหาเรื่องตนอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินอ้อมคนพวกนี้ไป แต่ในวินาทีถัดมา พ่อกวางแม่กวางกลับวิ่งหนีไปโดยที่แบกลูกชายไว้บนไหล่
ถ้าเป็นในการ์ตูน บนใบหน้าของจิ้งจอกสาวคงจะมีเครื่องหมายคำถามสีดำโผล่ขึ้นมากลางอากาศ
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
3 คนนี้...ทำไมพวกเขาถึงทำท่าเหมือนกับเห็นผี?
ทางด้านตระกูลลู่ ขณะที่กำลังเดินหลบหนีแม่จิ้งจอกไปทางอื่น ลู่มู่ก็กำชับว่า
“เร็วเข้า ๆๆ เดี๋ยวโดนนังนั่นตีอีกแน่ถ้าเราช้ากว่านี้”
นางไม่ต้องการเห็นครอบครัวปีศาจของหูเจียวเจียวอีกเลยในชีวิต
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที พวกเขาทั้ง 3 คนก็หายไปจากสายตาของแม่จิ้งจอก
“???”
หูเจียวเจียวเพิ่งรู้สึกว่าในวันนี้พ่อแม่ลูก 3 คนผิดปกติมาก แต่เธอคิดว่ายังมีสิ่งสำคัญที่ต้องไปทำมากกว่ามัวมาคิดมากเกี่ยวกับเรื่องของอีกฝ่าย ดังนั้นเธอจึงไม่หยุดฝีเท้าที่มุ่งหน้าเพื่อตรงไปที่บ้านของตน
ไม่นานหลังจากกลับถึงบ้าน หญิงสาวก็เห็นหลงโม่กลับมาพร้อมกับแผ่ออร่าเย็นชาออกมารอบตัว
สายตาของทั้งคู่ประสานกัน และจิ้งจอกสาวก็เหลือบไปทางกลุ่มภูตที่กำลังง่วนอยู่กับการสร้างบ้านหินอยู่ไม่ไกล ก่อนที่เธอจะพูดกับมังกรหนุ่มเสียงเบาว่า “เข้าไปคุยกันในบ้าน”
ชายร่างสูงพยักหน้าและเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในกระท่อมหลังเล็ก
นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่หลงโม่เข้ามาในห้องของหูเจียวเจียว พอรู้สึกถึงสัมผัสที่แผ่วเบาใต้ฝ่าเท้า เขาก็เดินเข้าไปข้างในเพียง 2 ก้าวและหยุดอยู่แค่ตรงนั้น
เนื่องจากชายหนุ่มกลัวว่าตนจะเผลอไปเหยียบสิ่งของในห้องจนสกปรกเข้า
ผู้หญิงคนนี้รักความสะอาดมาก ภายในกระท่อมนอกจากจะสะอาดเรียบร้อยแล้วยังมีกลิ่นหอมจาง ๆ อีกด้วย เขาจึงไม่อยากให้มันแปดเปื้อน
ทางด้านหูเจียวเจียว หลังจากที่เธอเข้าไปในกระท่อมแล้ว เธอก็ค้นหาบางอย่างอยู่ตรงมุมห้อง โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกประหลาดของหลงโม่
ในไม่ช้าเธอก็หยิบสิ่งของที่ห่อด้วยหนังสัตว์สีดำออกมา
“สิ่งที่อยู่ข้างในสามารถช่วยให้เจ้าหลบหนีได้อย่างราบรื่น หากเจ้าเผชิญหน้ากับภูตคนอื่น” จิ้งจอกสาวส่งห่อหนังสัตว์สีดำให้มังกรหนุ่มแล้วบอกวิธีใช้มัน
คนตัวสูงรับห่อจากอีกฝ่ายมาอย่างระมัดระวัง ดวงตาสีทองของเขาฉายแววอ่อนโยน และน้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ทุ้มต่ำ
“ข้าจะพาพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย เจ้าไม่ต้องห่วง”
ระหว่างทางไปบ้านของหัวหน้าเผ่า หลงโม่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปช่วยเหลือทุกคนด้วยตัวเอง และขอให้ท่านผู้เฒ่าส่งภูตไปที่นั่นเพื่อล่อคนทรยศก่อนเท่านั้น
ในเผ่าแห่งนี้ นอกจากอิงหยวนแล้ว คงไม่มีภูตคนไหนที่เร็วกว่ามังกรหนุ่มอีก
แม้ว่าเป้าเฟิงจะส่งข่าวได้เหมือนกัน แต่หูเจียวเจียวก็ยังกังวลใจอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงหยิบบางสิ่งที่สามารถช่วยให้หลบหนีจากภัยอันตรายออกจากมิติมา แล้วขอให้หลงโม่เอามันติดตัวไปด้วย หากกลุ่มภูตที่ออกไปทำภารกิจขนดอกเกลือเปลี่ยนเส้นทางแล้วยังถูกศัตรูซุ่มโจมตี อย่างน้อยพวกเขาก็ยังหนีรอดมาได้
นอกจากนี้ แม้ว่าหวงเยว่ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แต่เธอก็ยังคงจับตามองนางอย่างใกล้ชิด
“ขอบคุณนะหลงโม่” จิ้งจอกสาวพยักหน้า “อีกอย่าง...เจ้าควรใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย อย่าให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ”
“ในนั้นมียาอยู่ ถ้าเจ้าบาดเจ็บก็อย่าลืมใช้ให้ถูกเวลา และอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป”
หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะพูดเตือนสติมังกรหนุ่มสัก 2-3 ประโยค จากนั้นจึงบอกวิธีใช้และสรรพคุณของยาให้เขาฟังแบบระมัดระวัง
ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอก็เคยชินกับการมีหลงโม่อยู่ที่บ้าน แล้วปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง
“อืม”
ชายร่างสูงตอบรับสั้น ๆ
ขณะนี้ดวงตาที่ลึกล้ำของเขากำลังไล้มองใบหน้าของหูเจียวเจียว
ใบหน้าที่เรียวเล็กงดงามนั้นขาวไม่ต่างจากหิมะ มันทั้งนุ่มนวลและมีเสน่ห์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภูตจิ้งจอก ดวงตาเรียวคู่นั้นเปล่งประกายดุจคริสตัล คิ้วโค้งสวยงามราวกับใบหลิว ซึ่งยามนี้มันกำลังขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเพราะความกังวล
ชายหนุ่มขยับปลายนิ้วไปข้างหน้าเหมือนต้องมนตร์สะกด ด้วยความคิดที่อยากจะคลายคิ้วสวยตรงหน้าออกจากกัน
“แล้วก็!”
จู่ ๆ จิ้งจอกสาวก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงอย่างจริงจัง
มังกรหนุ่มรีบชักมือออกอย่างรวดเร็วแล้วเอาไปไพล่ไว้ด้านหลังพลางถูนิ้วไปมาด้วยความประหม่า
“อย่าไปเก็บผู้หญิงที่ไหนมาจากข้างนอกอีกล่ะ เจ้าต้องจำไว้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีคู่และมีลูกแล้ว”
หลงโม่ที่ได้ยินเช่นนั้นขมวดคิ้วฉับ พร้อมอธิบายด้วยน้ำเสียงทื่อ ๆ “ข้าไม่ได้เก็บใครมา นางตามข้ามาเอง พวกเขายืนยันที่จะพานางกลับมาด้วย”
สัญชาตญาณบอกกับตัวเขาเองว่าเขาต้องกำจัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งให้เร็วที่สุด
“จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยคำสัญญาเสียงทุ้ม
ดูเหมือนว่านางจะไม่ชอบที่มีผู้หญิงตามเขากลับมา…
ครั้งต่อไปหากมีภูตหญิงติดตามตนกลับเผ่า เขาจะต้องฆ่านางก่อนที่จะมีใครเห็นหน้านาง
เนื่องจากหลงโม่รีบตอบอย่างกะทันหัน หูเจียวเจียวจึงตกใจนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
การที่เขายอมรับความผิดพลาดถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสินะ
หญิงสาวคิดในใจ อีกทั้งเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้งี่เง่าและสามารถพูดคุยกันด้วยเหตุผลได้ หวังว่าในอนาคตเธอกับเขาจะไม่มีเรื่องบาดหมางให้ต้องทะเลาะกันอีก
เวลาต่อมา ในตอนที่ทั้ง 2 คนเดินออกจากกระท่อมก็ถูกลูกทั้ง 5 คนพบเสียก่อน
“ท่านแม่ ท่านพ่อจะไปไหน?” ดวงตารูปทรงอัลมอนด์ของหลงหลิงเอ๋อเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
สัมผัสที่ 6 ของสาวน้อยนั้นแม่นยำมาก และนางสามารถบอกได้ทันทีว่าพ่อมังกรไม่ได้ออกไปล่า
ส่วนเด็กอีก 4 คนที่เหลือพอได้ยินว่าผู้เป็นพ่อกำลังจะออกไปข้างนอก ดวงตาของแต่ละคนก็เป็นประกาย ก่อนที่พวกเขาจะหันไปมองแม่จิ้งจอกโดยพร้อมเพรียงกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มทั้งหลายให้ความสนใจกับการกระทำของหลงโม่
“พ่อของพวกเจ้าต้องออกไปข้างนอก 2-3 วัน เขามีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ” หูเจียวเจียวลูบหัวของหลงหลิงเอ๋อพลางตอบอย่างอ่อนโยน
ลูกของเธอช่างเอาใจใส่จริง ๆ และนางเป็นห่วงเป็นใยพ่อของตัวเองด้วย
“ไม่กี่วันเองหรือ…” หลงจงก้มหัวลงและพึมพำเบา ๆ
เหล่าเด็กน้อยรู้ว่าไม่กี่วันหลังจากที่พ่อมังกรกลับมา พวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานอีกครั้ง สู้ให้เขากลับไปอาศัยอยู่ในป่าเหมือนเดิมเสียยังจะดีกว่า!
ทางด้านหลงโม่ถือห่ออะไรบางอย่างพลางชำเลืองมองลูกชายคนที่ 3 ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “พ่อจะกลับมาให้เร็วที่สุด”
คำพูดของคนเป็นพ่อทำให้เด็กหนุ่มทั้ง 4 ตกใจมาก
เร็วที่สุด? ไม่กลับมาเลยจะดีกว่า...
ต่อมา หูเจียวเจียวรู้สึกถึงลมกระโชกที่พัดผ่านแก้มของตัวเอง แล้วมังกรดำตัวใหญ่ก็บินขึ้นไปในอากาศโดยมีของที่ห่อด้วยหนังสัตว์แขวนที่อุ้งเท้าหน้าของเขาซึ่งไม่เข้ากับร่างกายอันดุดันนั้นสักนิด
ก่อนจะออกเดินทาง มังกรหนุ่มหันมามองดูจิ้งจอกสาวอย่างลึกซึ้ง ไม่นานเขาก็สะบัดหางบินไปทางทิศตะวันตกของเผ่า
ในเวลาเดียวกัน ห่อหนังสัตว์ขนาดเล็กที่ห้อยอยู่กับกรงเล็บมังกรแกว่งไปมาเพราะแรงลม ราวกับมันกำลังโบกมือลาเธอ...