บทที่ 146: หู่จงถูกลงโทษ
“ใช่ ข้าทำทั้งหมดนี้เอง”
หู่จงเปิดปากยอมรับทันทีโดยไม่ลังเล
จากนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะและฉีกยิ้มบิดเบี้ยวเหมือนกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะกินคน ทำให้คนที่ได้มองรู้สึกขนหัวลุก
ในขณะที่ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าก็เหยเกด้วยความปวดใจ
“ทำไม? พวกเราปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดีมาตลอด แล้วเจ้าเองก็เป็นภูตที่เกิดและโตในเผ่าแห่งนี้ และข้าก็ให้ความสำคัญกับเจ้ามาก ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้…”
“ไม่มีเหตุผล ในตอนนี้ผู้หญิงของเผ่าอื่นมีมากมาย แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเสบียงด้วย พวกเขาสัญญากับข้าว่าจะให้ข้าเข้าร่วมเผ่าหลังจากที่ทำแผนนี้สำเร็จ” หู่จงก้มหัวลงพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำดูถูกออกมาจากปากเรื่อย ๆ
“เผ่าของพวกเขาไม่เหมือนเผ่านี้ อยู่ที่นี่แค่การหาคู่ครองสักคนหนึ่งยังยากเลย แล้วเสบียงก็ยังไม่เพียงพออีก การที่จะเอาตัวรอดในเผ่านี้เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก คงมีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เลือกจะจมปลักอยู่ที่นี่!”
ในยามที่ภูตเสือพูด เสียงของเขาก็ยิ่งหยาบกระด้างขึ้นและเพิ่มระดับความรุนแรงเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูง
แต่หูเจียวเจียวที่ได้ฟังกลับขมวดคิ้ว อีกฝ่ายแค่เพียงไม่พอใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ปัจจุบันในเผ่า เขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างที่เธอจินตนาการเอาไว้
เธอมักจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
“หู่จง เจ้ากลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เจ้าไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน...” ชายสูงวัยพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าโศกเศร้าเพราะความผิดหวังในตัวหู่จง
ภูตเสือเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นรูม่านตาที่เบิกกว้าง และตาขาวของเขาก็แดงก่ำเป็นสีเลือดประหนึ่งว่านัยน์ตาทั้ง 2 ข้างกำลังจะหลุดออกมาจากเบ้าได้ตลอดเวลา
“คนเรามันสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้!”
ชายหนุ่มคำรามอย่างเดือดดาล คล้ายกับคนที่จะคลุ้มคลั่งได้ทุกเมื่อ
ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านอีกครั้ง แล้วมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ “ฮ่า ๆๆๆๆ... เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่ภูตธรรมดาอย่างพวกเราจะเอาชีวิตรอดไปได้นั้นยากแค่ไหน!”
“ไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจเลยสักนิด!”
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของผู้นำสูงสุดในเผ่าฉายแววเศร้าโศก เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเปล่งเสียงที่เหมือนจะแก่ลงกว่าเดิม 10 ปี
“หู่จง...ทรยศต่อเผ่า สมรู้ร่วมคิดกับเผ่าอื่นเพื่อทำร้ายคนในเผ่า ข้าจะลงโทษโดยการโยนเขาเข้าไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ คนทรยศเช่นนี้ ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่ในเผ่าต่อไปได้อีก”
ทุกคำพูดฟังดูสั่นเครือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดทุกข์ใจและสิ้นหวังเพียงใดในยามที่เขาพูดประโยคเหล่านี้ออกมา
คนรุ่นหลังที่ตนภูมิใจกล้าหักหลังคนในเผ่า!
“หลงโม่ พาเขาไปที่ถ้ำหมื่นอสรพิษ ให้ทุกคนได้เห็นเขาถูกลงโทษ!”
ชายชราตัดสินใจเด็ดขาด เขากัดฟันออกคำสั่งเสียงดัง
ในฐานะหัวหน้าเผ่า เพื่อปกป้องทุกคนในเผ่า เขาต้องละทิ้งความเมตตาที่เกินควรทั้งหมด
หลงโม่พยักหน้าตอบรับแล้วลากขาของหู่จงด้วยมือข้างหนึ่งเดินออกจากเผ่าไปตามคำสั่งของท่านผู้เฒ่าเพื่อให้ภูตทั้งหมดในเผ่าได้เห็นอย่างที่อีกฝ่ายบอก
ทางด้านชายผู้เป็นคนทรยศไม่มีท่าทีขัดขืนเลยแม้แต่น้อย เขาใช้มือข้างหนึ่งพยายามยึดเกาะพื้นไว้ แต่เขาก็ยังถูกมังกรหนุ่มลากออกไป มันจึงทิ้งคราบเลือดเป็นทางยาวอยู่บนพื้น
ในขณะที่รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของเสือหนุ่ม พร้อมกับที่เขาคำรามอย่างบ้าคลั่ง
“เจ้าไม่รู้หรอก!”
“เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ!”
ขณะนั้นภูตที่ผ่านไปหยุดมองฉากนี้ด้วยความประหลาดใจทีละคน และในไม่ช้า ข่าวของหู่จงก็แพร่กระจายไปทั่วเผ่า
ปัจจุบันชาวบ้านที่ได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หู่จงซึ่งเป็นคนซื่อสัตย์และภักดีเสมอมาจะทรยศต่อเผ่า
!!!
ท่าทางเหมือนคนที่กำลังคลุ้มคลั่งนั้นทำให้ภูตทุกคนคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว
ภูตที่เสียสติไปแล้วสามารถทำอะไรเกินความคาดหมายได้ทั้งนั้น
บัดนี้ไม่มีภูตคนใดยอมเชื่อในสิ่งที่หู่จงตะโกนแหกปากเลยสักคน จนกระทั่งเสียงของเขาตกลงไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ และเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งก็จมหายไปท่ามกลางงูพิษนับพันตัว...
ในขณะนั้นชายผู้มีตำแหน่งสูงสุดของเผ่าไม่ได้ไปดูด้วยตาตนเองเพราะเขาเกรงว่าจะทนไม่ได้
ทางด้านหูเจียวเจียวก็ไม่ได้ไปที่ถ้ำหมื่นอสรพิษเช่นเดียวกัน เธอเกรงว่าภาพอันน่าสยดสยองจะติดตาจนยากที่จะลบออกไป จากนั้นเธอมองดูหัวหน้าเผ่าแล้วกล่าวปลอบโยนเขาเสียงเบา
“ท่านผู้เฒ่า นี่เป็นทางเลือกของเขา ท่านอย่าโทษตัวเองเลย”
“ข้ารู้ ถ้ามันออกมาจากปากของภูตคนอื่น ข้าคงจะไม่เชื่อ แต่นี่คือสิ่งที่เขาพูดเอง...” ชายสูงวัยถอนหายใจ น้ำเสียงของเขาแปรปรวนมากกว่าที่เคย
เขาคิดไม่ออกว่าจู่ ๆ ภูตที่ภักดีจะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
เป็นไปได้ไหมว่าการที่หู่จงเป็นคนเข้มแข็ง ซื่อสัตย์และใจดีกับคนอื่นเป็นเพียงการเสแสร้งเท่านั้น
“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าแค่หวังว่าหูเฉียงและคนอื่น ๆ จะกลับมาอย่างปลอดภัย” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าส่ายหัว ก่อนจะมองไปทางทิศตะวันตกของเผ่าพลางพึมพำเสียงแผ่วเบา
“เจ้ายังต้องสร้างบ้านหินอีกไม่ใช่หรือ? ข้าไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ เจ้ากลับไปทำงานต่อเถอะ”
พอชายชราเห็นว่าจิ้งจอกสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองมาทางตัวเองอย่างเป็นกังวล เขาจึงโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เธอไปทำหน้าที่ของตนต่อ
เมื่อหูเจียวเจียวนึกถึงงานสร้างบ้านที่ยังไม่เสร็จ เธอก็พยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินกลับจากบ้านของหัวหน้าเผ่า ซึ่งระหว่างทางเธอต้องผ่านบ้านของลู่เมี่ยนเอ๋อด้วย
หลังจากที่หญิงสาวเดินไปใกล้บ้านของอีกฝ่าย เธอก็เห็นนางเอกสาวยืนอยู่ข้างกลุ่มภูตกำลังฟังอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
ไม่นานลู่เมี่ยนเอ๋อก็สังเกตเห็นจิ้งจอกสาวที่เดินใกล้เข้ามา นางจึงฝืนยิ้มและเดินไปหาเธออย่างรวดเร็ว “เจียวเจียว”
“พวกเขากำลังพูดถึงอะไรกันอยู่หรือ?” หูเจียวเจียวถามอย่างสงสัย
กวางสาวชำเลืองมองภูตที่อยู่ข้างหลังและอธิบายด้วยเสียงต่ำ “พวกเขากำลังพูดถึงผู้หญิงคนใหม่ นางน่าสงสารมาก...”
ทันทีที่หูเจียวเจียวได้ยินเรื่องที่ข้องเกี่ยวกับหวงเยว่ เธอก็ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นจึงรีบถามออกมา
“มีอะไรหรือ?”
“ข้าได้ยินจากพวกเขาว่า ไม่นานมานี้หู่จงตามเกี้ยวพาราสีหวงเยว่ ซึ่งนางเองก็ปฏิบัติต่อเขาค่อนข้างดี ข้าคิดว่าพวกเขา 2 คนจะกลายเป็นคู่กัน แต่ข้าไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกะทันหัน...”
ลู่เมี่ยนเอ๋อกล่าวพลางทอดถอนหายใจ
ตอนที่หู่จงถูกนำตัวไปที่ถ้ำหมื่นอสรพิษ นางก็ได้เห็นหู่จงกับตาตัวเอง
เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วมุ่นโดยไม่รู้ตัว
“หู่จงจีบหวงเยว่หรือ?”
หวงเยว่ในหนังสือเล่มนี้ถูกภูตหลายคนในเผ่าตามจีบมากมาย แต่เธอจำได้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธภูตทุกคน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะสานสัมพันธ์กับภูตคนใด
“ใช่” ลู่เมี่ยนเอ๋อพยักหน้า “ตอนนี้นางคงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหู่จง”
ขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังคุยกันอยู่นั้น พวกเธอก็ได้ยินเสียงภูตที่อยู่ข้าง ๆ กระซิบคุยกันด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“พวกเขายังบอกด้วยว่าหู่จงโชคดีที่ได้รับความรักจากหวงเยว่ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะทำแบบนี้!”
“โชคดีที่หวงเยว่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับเขา”
“ถ้าหวงเยว่รู้ว่าหู่จงเป็นคนชั่วช้าเช่นนี้ นางต้องผิดหวังแน่ ๆ...”
ครู่ต่อมา หูเจียวเจียวก้าวไปข้างหน้าเพื่อคว้าไหล่ภูตคนหนึ่งมาถามว่า “ขอโทษนะ ข้าขอถามหน่อย หู่จงสนิทกับหวงเยว่เมื่อไม่นานมานี้เองหรือเปล่า?”
ภูตคนนั้นหันกลับมาอย่างฉุนเฉียว พอเห็นว่าคนที่เอ่ยถามเป็นจิ้งจอกสาว เขาก็เผยรอยยิ้มตอบเธอ
“ใช่ เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขา 2 คนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด หู่จงยังบอกเราว่าหวงเยว่จะตกลงปลงใจกับเขา ใครจะไปรู้ว่าหู่จงจะทำแบบนั้น”
ก่อนหน้านี้เหล่าภูตชายที่ยังไม่มีคู่รู้สึกอิจฉาเสือหนุ่มมาก
เมื่อทุกคนรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับหู่จง พวกเขาก็ซุบซิบนินทากันเก่งยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก
“อืม ขอบคุณเจ้ามาก”
หูเจียวเจียวพยักหน้าและปล่อยภูตคนนั้นไป
ดูเหมือนว่าทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาของทุกคน หวงเยว่ไม่เห็นด้วยที่จะครองคู่กับหู่จง ซึ่งตรงจุดนี้สะท้อนถึงสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือ
ในขณะที่ชาวบ้านกำลังพูดคุยกันอยู่ ประตูบ้านไม้ที่อยู่ไม่ไกลก็ถูกเปิดออกก่อนจะมีคนคนหนึ่งเดินออกมา
โดยที่ผู้หญิงคนนั้นคือหวงเยว่
ปัจจุบันนางเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน นัยน์ตาคู่สวยยังง่วงงุน และเมื่อนางเดินออกไปข้างนอก หญิงสาวก็ยกมือขึ้นบังแสงแดดเจิดจ้าที่กำลังส่องมายังดวงตาตน ซึ่งท่าทางนั้นยิ่งขับให้นางดูบอบบางและน่าทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น
เมื่อกลุ่มภูตเห็นหงส์สาวเดินออกมา เสียงของพวกเขาก็ค่อย ๆ เงียบลง
ทางด้านหูเจียวเจียวมองไปที่หวงเยว่แล้วเห็นว่ามีร่องรอยของการเพิ่งตื่นนอนบนใบหน้าของนางที่แดงก่ำ จากนั้นข้อสงสัยในใจของเธอก็ถูกระงับไป
เวลาต่อมา จิ้งจอกสาวหันไปบอกลาลู่เมี่ยนเอ๋อก่อนจะรีบมุ่งหน้ากลับบ้าน
แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าระหว่างทางกลับจะได้พบกับสมาชิกทั้ง 3 คนของตระกูลลู่