บทที่ 145: จับคนทรยศ
“อะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา!?”
หัวหน้าเผ่าให้ความสำคัญกับเรื่องของดอกเกลือเป็นอย่างมาก และเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ ใบหน้าที่สูงวัยก็ยับย่นพร้อมกับมีเหงื่อไหลซึม
หูเจียวเจียวบอกอีกฝ่ายทันทีว่าเธอฝันถึงอะไร
“เทพอสูรได้ทิ้งนิมิตผ่านความฝันให้ข้าเมื่อคืนนี้ โดยบอกข้าว่าพวกเขาถูกกลุ่มภูตแปลกหน้าปล้นฆ่าระหว่างทางกลับ...”
“ว่าไงนะ! ถ้าอย่างนั้นข้าควรทำยังไงดี… ไม่สิ ข้าต้องส่งภูตไปช่วยพวกเขา...” บัดนี้สีหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นอมทุกข์เนื่องจากความกังวล
ภูตทั้ง 8 คนที่ออกไปทำภารกิจเป็นภูตที่แข็งแกร่งในเผ่า และดอกเกลือนั้นสำคัญมากจนไม่สามารถปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางได้
“ท่านผู้เฒ่า อย่ารีบร้อน” จิ้งจอกสาวรีบพูดปลอบเขาก่อนจะเปิดเผยข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง
“เทพอสูรยังบอกข้าด้วยว่าพวกเขาเจอกลุ่มภูตเพราะพวกเขาใช้ทางลัด ตราบใดที่พวกเราส่งภูตที่วิ่งเร็วไปแจ้งข่าว คนพวกนั้นก็จะไม่ได้รับอันตราย”
เมื่อคนเป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินสิ่งนี้ เขาก็พยักหน้าซ้ำ ๆ
“ภูตที่วิ่งเร็ว? ตกลง ข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้”
เรื่องดังกล่าวสำคัญมากจนผู้นำสูงสุดไม่กล้าที่จะรอช้า ดังนั้นเขาจึงโบกมือให้ภูตที่กำลังเฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ เพื่อเรียกชายหนุ่มคนหนึ่ง
ชายคนนี้มีร่างกายที่แข็งแรงและขาของเขาก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ยามที่ได้มองเสี้ยววินาทีแรก เขาดูเหมือนภูตที่มีพละกำลังมากและสามารถวิ่งได้รวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นงานที่รีบเร่งหรือการหนีเอาชีวิตรอด เขาก็เหมาะมากที่สุด
“เป้าเฟิง ข้าต้องการให้เจ้าส่งข่าวถึงหูเฉียงกับคนอื่น ๆ และพาดอกเกลือกลับมาที่เผ่าอย่างปลอดภัย เจ้าทำได้ไหม?”
ชายผู้มีตำแหน่งสูงสุดของเผ่าพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมและสง่างามในขณะที่มองชายตรงหน้า
“ข้าทำได้!” เสือดาวหนุ่มยืดหลังตรงพร้อมกับตอบเสียงดัง
ในยามที่เขาเชิดคางขึ้นสูง เขาดูเหมือนผู้ชายหัวรุนแรงที่เต็มไปด้วยพลัง ราวกับว่าการมีส่วนร่วมในเผ่าเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และมีเกียรติมาก
ขณะเดียวกัน ภูตทั้งหลายที่อยู่รอบ ๆ ต่างพากันอิจฉาริษยา
พวกเขาเองก็อยากจะมีส่วนช่วยด้วย!
มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน!
หากเป็นไปได้ ทุกคนก็อยากจะมีขางอกออกมา 8 ขาและมีปีกมากกว่า 10 ปีกเพื่อที่คนในเผ่าจะได้ก้าวไปแทนที่เสือดาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักวิ่งฝีเท้าไว
“ดีมาก” หัวหน้าเผ่าพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“เจ้าทำตามที่หูเจียวเจียวบอกได้เลย”
จากนั้นจิ้งจอกสาวมองไปที่เป้าเฟิงด้วยสีหน้าจริงจังและเอ่ยเตือนว่า “จำไว้ว่าเจ้าต้องหยุดพวกเขาไม่ให้ใช้ทางลัด หากกลุ่มภูตที่ขนดอกเกลือใช้ทางลัด พวกเขาจะเผชิญหน้ากับพวกภูตที่มีเจตนาร้ายมาฉกดอกเกลือไป จำเอาไว้!”
“ข้าจำได้แล้ว!” ภูตเสือดาวผงกหัวตอบรับ
“ไปเร็วเข้า” หัวหน้าเผ่ามอบภาระหน้าที่อันหนักอึ้งให้ชายหนุ่มและตบไหล่ให้กำลังใจเขา
ครู่ถัดมา เป้าเฟิงก็กลายร่างเป็นเสือดาวในทันที เขาวิ่งออกจากเผ่าอย่างรวดเร็วพร้อมข่าว ‘สำคัญ’ และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าไม่นานหลังจากที่ภูตเสือดาวจากไป ร่างหนึ่งได้เดินออกไปจากฝูงชนอย่างเงียบ ๆ...
“ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เราต้องรีบกักตุนอาหาร อย่าเสียเวลาอยู่ที่นี่” ชายสูงวัยกลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนก เขาจึงส่งเสียงทุ้มเตือนสติเหล่าภูต
แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง การกักตุนอาหารก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจะประมาทไม่ได้
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของผู้นำสูงสุดในเผ่า ภูตทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
ภูตคนอื่นกำลังทำงานอย่างหนักอยู่ข้างนอก พวกเขาที่อยู่ในเผ่าไม่สามารถหย่อนยานได้!
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็หายไป พอหัวหน้าเผ่าหันกลับมาก็พบว่าหูเจียวเจียวยังคงยืนอยู่ที่นี่
“เจียวเจียว ทำไมเจ้าไม่ไปล่ะ มีข่าวสำคัญอื่น ๆ อีกไหม?” ชายชราถามอีกฝ่ายอย่างเป็นกังวล
เขากลัวว่านางจะปล่อยข่าวอื่นที่ทำให้จิตใจของเขาระเบิดในวินาทีถัดไป
แต่จิ้งจอกสาวก็ส่ายหัว
“เฮ้อ...” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และในขณะที่เขารู้สึกโล่งใจ หูเจียวเจียวก็พูดต่อว่า
“ข้าจะบอกท่านว่าสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด”
“!!”
คำพูดของหญิงสาวส่งผลให้คนแก่เกือบจะตาถลนออกมาจากเบ้า
ต่อมา ชายสูงวัยยกมือขึ้นกุมหน้าอกเนื่องจากหัวใจที่เต้นเร็วเกินอัตรา เขาหายใจหอบถี่ราวกับว่ากำลังขาดอากาศหายใจ แล้วถามด้วยสีหน้าตกใจ “หา? เจ้าหมายถึงอะไร?”
ตอนนี้ไม่มีภูตคนอื่นอยู่รอบ ๆ แล้ว ดังนั้นหูเจียวเจียวจึงพูดอย่างใจเย็น
“ท่านผู้เฒ่า ข้าสงสัยว่ามีคนทรยศในเผ่าของเราที่แอบส่งข่าวของเผ่าเราไปยังเผ่าอื่น...”
หลังจากที่จิ้งจอกสาวไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เธอคิดถึงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น มิฉะนั้นเหล่าภูตดุร้ายในความฝันจะไม่รู้เวลาที่พี่ใหญ่และคนอื่น ๆ ไปถึงทะเลสาบได้อย่างแม่นยำ
เมื่อหัวหน้าเผ่าได้ฟังคำพูดของเธอก็มีสีหน้าตกใจยิ่งกว่าเดิม
“เป็นไปได้ยังไง... เป็นไปไม่ได้ที่ภูตในเผ่าของเราจะสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าอื่น อีกอย่าง ไม่มีเผ่าอื่นอาศัยอยู่ใกล้กับเผ่าของเรา...”
จากจิตใต้สำนึก ชายแก่ไม่อยากเชื่อว่าจะมีภูตที่ทรยศต่อเผ่าของตนเอง
เห็นได้ชัดว่าผู้คนในเผ่าแห่งนี้สามัคคีเป็นปึกแผ่นเสมอมา...
“ท่านผู้เฒ่า ภูตของเผ่าเราอาจไม่ได้ทำ แต่ถ้าเป็นภูตต่างเผ่าล่ะ?” หูเจียวเจียวส่ายหัวและเตือนสติอีกฝ่ายด้วยเสียงต่ำ
“เจ้าหมายถึง...ภูตหญิงคนใหม่หรือ?” ชายสูงวัยตกตะลึง “แต่นางเป็นเพียงผู้หญิง นางจะมีความสามารถถึงขนาดส่งข่าวให้เผ่าอื่นได้ยังไง...”
“ไม่ว่าจะเป็นนางหรือไม่ เราจะได้รู้ในอีกไม่ช้า”
เหตุผลที่หูเจียวเจียวตีโพยตีพายจนเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ก็เพื่อให้ ‘บุคคลต้องสงสัย’ ได้ยิน ตราบใดที่อีกฝ่ายรับรู้ คนคนนั้นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งข่าวออกไป
ข้อมูลของโลกภูตสามารถส่งต่อกันได้ด้วยการบอกปากต่อปากเท่านั้น ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหว มันก็จะทิ้งร่องรอยเอาไว้อย่างแน่นอน
เธอไม่ต้องการลงมือจับตัวคนร้ายแบบโจ่งแจ้ง การวางแผนให้รอบคอบจะทำให้การคาดเดาของเธอถูกต้องเสมอ
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน เงาดำที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า ก่อนที่จะบินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ตึง!
ตามด้วยเสียงวัตถุหนัก ๆ ตกลงมาอย่างแรง
จากนั้นมังกรดำตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าเหนือพวกเขาทั้ง 2 ก่อนจะกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วเหยียบวัตถุบางอย่างด้วยเท้าข้างเดียว
หัวหน้าเผ่ามองเข้าไปใกล้ ๆ และพบว่าสิ่งที่ตกลงมานั้นเป็นภูต เขาจึงรู้สึกประหลาดใจทันที “อะไรน่ะ… เกิดอะไรขึ้น? หลงโม่ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
ทางด้านหลงโม่เตะภูตที่นอนอยู่บนพื้น ในขณะที่เขามองหน้าหูเจียวเจียวก่อน จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม
“ข้ากำลังเฝ้าระวังฝั่งตะวันตกของเผ่า และวันนี้เขาเป็นเพียงคนเดียวในเผ่าที่จะมุ่งหน้าไปทางตะวันตก”
ทิศตะวันตกของเผ่าเกือบจะเป็นพื้นที่รกร้างเพราะที่นั่นมีแมลงพิษ งูและมดจำนวนมาก โดยพื้นฐานแล้วจึงไม่มีเหยื่อให้ล่า ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่ภูตในเผ่าจะไปล่าทางฝั่งตะวันตก
เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดได้ยินคำพูดของมังกรหนุ่ม ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลง จากนั้นเขามองไปที่ภูตบนพื้นอย่างไม่อยากจะเชื่อในสายตา
“หู่จง เจ้าเป็นคนส่งข่าวให้เผ่าอื่นหรือ!?”
ยามนี้หูเจียวเจียวยังคงจ้องมองคนร้าย แววตาของเธอมีร่องรอยของความประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนทรยศจะไม่ใช่หวงเยว่... ดูเหมือนว่าเธอจะอคติไปเองจริง ๆ...
ชายที่ชื่อหู่จงถูกหลงโม่เตะกลิ้งไปกับพื้น 2-3 ตลบ และกระอักเลือดออกมาพร้อมกับร้องโอดครวญ
ถัดมา เขาเหลือบมองไปที่หัวหน้าเผ่ากับหูเจียวเจียว แล้วเผยให้เห็นฟันที่เปื้อนเลือด ไม่นานรอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“หึ ฮ่า ๆๆ...”
“ไม่นึกเลยว่าข้าจะถูบจับได้...”
หู่จงดูเป็นคนที่ซื่อตรง แต่รอยยิ้มที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดนั้นทำให้ขนทั่วทั้งร่างของหูเจียวเจียวลุกชันทันที
รอยยิ้มที่เย็นชาและแปลกประหลาดนั้นเปรียบดั่งวิญญาณชั่วร้ายที่น่ากลัว ไม่เพียงแค่ไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวที่ถูกจับได้แล้ว... เธอยังเห็นว่ามันแฝงความขี้เล่นด้วย!
ชายคนนี้ยังสติดีอยู่หรือเปล่า!?
ขณะนั้นหัวหน้าเผ่ายกมือกุมหน้าอกตัวเอง ก่อนจะเดินเซถอยหลังไป 2 ก้าวพร้อมกับความเศร้าโศก จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และชี้ไปที่หู่จงด้วยมือที่สั่นเทา
“1 วันก่อนที่เกลือจะละลาย เจ้าอยู่กับพวกภูตที่ไปเอาเกลือมาจากถ้ำ...”
“อย่าบอกนะว่า...เจ้าเป็นคนทำให้เกลือละลาย!?”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อ้าว ผิดคาด มีไส้ศึกในเผ่ามากกว่า 1 คนเหรอเนี่ย!