บทที่ 13 - สอบเข้า
สิ่งแรกที่อาจารย์ซิวทำตอนเช้า คือปลุกผมขึ้นมาทบทวนบทเรียนเพื่อเตรียมสอบ หลังจากนั้นก็รีบพาผมไปที่โรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวง
“อาจารย์ ทำไมเราต้องมาเช้าขนาดนี้ด้วย อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาสอบ” ผมพูดไปหาวไป 2 วันที่ผ่านมาผมเบื่อจะตายอยู่แล้ว ทุกวันอาจารย์ซิวจะอธิบายกฏของการสอบ รายละเอียดการสอบ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้สมองผมช้ำไปหมด ตอนแรกผมวางแผนที่จะฟักสัตว์เวทย์ออกจากไข่ แต่อาจารย์ซิวยังไม่อนุญาต และเตือนว่าก่อนสอบผมต้องถนอมพลังชีวิต และพลังเวทย์ไว้ให้ได้มากที่สุด ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นกับการสอบมากกว่าผมเสียอีก
“ขั้นแรก เราต้องมาเตรียมตัวก่อน จางกงเอ้ย! ถ้าเธอทำตามที่อาจารย์วางแผนไว้ การทดสอบต้องประสบความสำเร็จโดยไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ครับ ผมทราบ”
ผมรออยู่เป็นชั่วโมง แต่รู้สึกเหมือนรอเป็นปี (ยิ่งได้ยินอาจารย์ซิวบ่นจุกจิกอยู่ข้าง ๆ )
“เอาล่ะ เธอเข้าไปได้แล้ว จางกง ทำให้ดีที่สุด!!” อาจารย์ซิวยกนิ้วโป้งให้ผม
“ครับ” ผมยกนิ้วกลับให้อาจารย์
เข้ามาในโรงเรียน ว้าว! สมกับที่เป็นโรงเรียนอันดับ 1 จริง ๆ มันช่างมีเอกลักษณ์ สนามฝึกซ้อมขนาดใหญ่กว่า 15,000 ตารางเมตร มีคนยืนรออยู่เป็นจำนวนมาก อาจารย์ซิวบอกผมว่าปีนี้มีผู้สมัครมากกว่า 10,000 คน สุดท้ายแล้วจะมีเพียงแค่ 200 คนเท่านั้นที่จะผ่านการทดสอบ อา... 1 ใน 50 คนเท่านั้นที่จะได้เข้าเรียน เสียงประกาศเวทย์มนต์ลอยมา (เสียงประกาศผ่านผลึกเวทย์มนต์ สามารถขยายให้ดังขึ้น และไกลขึ้น) “นักเรียนที่มาทดสอบ เข้าแถวตามลำดับเลขประจำตัวผู้สมัคร จากตะวันออกไปตะวันตก แถวละ 600 คน รีบ ๆ เข้าแถวให้เรียบร้อย เข้าแถวตามลำดับเลขประจำตัวผู้สมัคร เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบแรก”
หมายเลขผู้สมัครของผมคือ 1,503 ดังนั้นผมอยู่ในแถวที่ 3 ผมเดินไปเข้าแถวตามตำแหน่งของตัวเอง มองไปรอบ ๆ เห็นผู้เข้าสอบเกือบทั้งหมดอยู่ในชุดคลุมเวทย์แสนสง่างาม เทียบกับชุดบ้าน ๆ ของผม ทำให้ผมโดนมองด้วยสายตาดูถูก กระทั่งมีบางคนพึมพำว่า มีสามัญชนกล้ามาทดสอบด้วยเหรอเนี่ย
ฮืม!! เป็นสามัญชนแล้วไง? สามัญชนไม่ใช่คนหรือยังไง? ก็แค่บ้านนายมีอำนาจนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“ผู้เข้าร่วมทดสอบ เงียบหน่อย การทดสอบแรกกำลังจะเริ่มแล้ว ผู้สมัครแต่ละแถวตามลำดับหมายเลขขึ้นมาหาผู้ทดสอบของแถวคุณทีละคนเพื่อเริ่มการทดสอบ” เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง
รวมทั้งหมดแล้วมีอยู่ 20 แถว แต่ละแถวจะมีผู้ทดสอบ 2 คน คนแรกทำหน้าที่แนะนำผู้สมัครว่าต้องทำอย่างไร อีกคนจะเป็นผู้บันทึกคะแนน การทดสอบแรกค่อนข้างง่าย ผู้สมัครแค่ต้องใช้ผลึกเวทย์มนต์วัดความแข็งแกร่งของพลังเวทย์ ให้ผู้ทดสอบบันทึกลงไปว่าผ่านมาตรฐานหรือไม่ การทดสอบทั้งหมดมี 4 รอบ ผู้สมัคร 200 คนจะถูกรับเข้าเรียนตามลำดับคะแนนรวมทั้ง 4 การทดสอบ
ผมรออยู่อย่างเบื่อ ๆ อา!! ทำไมช้าจัง
เกือบชั่วโมงให้หลัง
“หมายเลข 1,503 ขึ้นมา ถึงตาคุณแล้ว”
ผมเดินไปหาผู้ทดสอบ “สวัสดีครับอาจารย์ ผมคือผู้สมัครหมายเลข 1,503 ครับ” อาจารย์ซิวสอนไว้ว่าผมต้องสุภาพอ่อนน้อม เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คุมสอบ บางทีผมอาจจะได้คะแนนพิเศษเพิ่มนิดหน่อย
“เธอเริ่มทดสอบได้เลย” ผู้คุมสอบพยักหน้า และยิ้ม
ผมเริ่มรวมพลังเวทย์ และวางมือขวาลงบนผลึกเวทย์ พลังเวทย์ของผมไหลลงมาจากหน้าผากผ่านมาที่มือขวาลงไปที่ผลึกเวทย์ ผลึกเวทย์เริ่มส่องแสงสว่างสีขาวออกมา ผมเริ่มปล่อยพลังเวทย์ให้มากขึ้น ผลึกเวทย์ก็ยิ่งส่องแสงสว่างมากขึ้นไปอีก
“นั่นดีพอแล้ว นักเรียน”
“ขอบคุณครับอาจารย์” ผมหยุดปล่อยพลังเวทย์
“พลังเวทย์ของเธอแข็งแกร่งมาก เธอเรียนเวทย์แสง? เลือกได้ดี ตอนที่เธอเลื่อนระดับไปถึงนักเวทย์ชั้นสูง เวทย์แสงจะทรงพลังมาก ไปฟื้นฟูพลังเวทย์ทางด้านโน้น รอเข้ารับการทดสอบต่อไป”
“ครับอาจารย์”
ผมรู้สึกดีกับการทดสอบแบบนี้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมมองไปที่ผู้สมัครที่อยู่ข้างหน้าผม ไม่น่าจะมีใครที่สามารถปลดปล่อยพลังเวทย์ได้มากเท่าผม ฮิฮิ! ผมยิ้มอย่างภูมิใจ
การทดสอบต่อไป เป็นการทดสอบความเข้าใจในเวทย์มนต์ แบบทดสอบนั้นง่ายมาก ผู้สมัครแค่ต้องปล่อยเวทย์ที่ดีที่สุดของเขากับกำแพงเวทย์มนต์ การทดสอบจะเริ่มขึ้นตอนบ่าย แต่ผู้สมัครไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากสนามสอบ ต้องกินอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้ หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมถือโอกาสเดินสำรวจไปรอบ ๆ สถานที่มันกว้างขวางจริง ๆ นอกจากสนามฝึกซ้อมใหญ่แล้ว ยังมีสนามฝึกซ้อมย่อยอีกหลายสนาม อาคารเรียนอีกหลายหลัง พื้นที่ของโรงเรียนดูสง่างาม สนามหญ้าเขียวเรียบ กระจายอยู่ทุก ๆ ที่ เหมือนปูไปด้วยพรม มันช่างเชื้อเชิญให้เอนหลังลงนอนจริง ๆ นอกจากนี้ มันยังมีสวนป่า สวนหิน หรือแม้กระทั่งน้ำพุ มันช่างสวยงามจริงเชียว ผมว่าการมาเรียนที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนักหรอก
การทดสอบในตอนบ่ายเริ่มต้นขึ้น ผู้สมัครถูกแบ่งไปเป็น 10 สนามสอบย่อย ในแต่ละสนามสอบมีผู้คุมสอบ 5 คน แต่ละคนจะให้คะแนน รวมคะแนนของพวกเขาเข้าด้วยกันเป็นคะแนนของการทดสอบนี้
ว้าว!!! การสอบเข้าโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย ผู้สมัครส่วนใหญ่ใช้เวทย์ระดับกลาง มีบางคนถึงขนาดใช้เวทย์ระดับสูง การแข่งขันสูงมากจริง ๆ ผู้คุมสอบกระซิบอะไรกัน? จากรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา แสดงว่าต้องพอใจกับสิ่งที่ผู้สมัครแสดงออกมา
ถึงตาผมลงไปที่สนามแล้ว
“หมายเลข 1,503 ร่ายเวทย์ที่ดีที่สุดของเธอ”
“ครับอาจารย์” ผมยืดตัวตรง ยกมือซ้ายขึ้น
“ชื่อของข้าคือเว่ยจางกง ธาตุแสงผู้ยิ่งใหญ่ รวมตัวกันหน้าข้า ป้องกันและสะท้อนสิ่งชั่วร้าย”
การร่ายเวทย์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน สร้างความสงสัยให้กับเหล่าผู้คุมสอบ โล่ผลึกแสงปรากฏขึ้นบนแขนซ้ายของผม
“นี่มัน.....โล่แสง?? ไม่มีทาง โล่แสงเป็นเวทย์ป้องกันรอบทิศทาง” หลังจากปรึกษากันเองอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง ผู้คุมสอบที่อยู่ตรงกลางเอ่ยขึ้น “ผู้สมัคร ช่วยอธิบายองค์ประกอบของเวทย์นี้ให้ฟังหน่อย”
“ครับ เวทย์นี้ผมเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ด้วยการรวมโล่แสงเข้ากับกระจกแสง ได้เวทย์ที่รวมข้อดีของทั้ง 2 เวทย์ไว้ด้วยกัน มันทั้งสามารถป้องกัน และสะท้อนเวทย์ได้ ทั้ง 2 เวทย์โดยพื้นฐานแล้วเป็นเวทย์ระดับพื้นฐาน แต่พอรวมกันแล้วมันสามารถป้องกันเวทย์โจมตีระดับ 6 ได้ครับ”
ผู้คุมสอบทั้งหมดมองหน้ากันด้วยความทึ่ง ในที่สุด พวกเขาก็ได้ข้อสรุป ‘อัจฉริยะ’ (รวมเวทย์เข้าด้วยกันถือว่าเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการรวมเวทย์ที่มีธาตุเดียวกัน ผมรวมเวทย์ 2 เวทย์ระดับพื้นฐาน เปลี่ยนมันให้เป็นเวทย์ระดับกลาง พวกเขาจะไม่ตกใจได้ยังไง)
ฮ่า ฮ่า!!! ผ่านไปอีก 1 ด่าน
ผมเดินออกจากโรงเรียน พร้อมกับเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ (เนื่องจากยังเหลือผู้สมัครจำนวนมากที่ยังไม่ได้ทดสอบ อีก 2 การทดสอบจะจัดขึ้นพรุ่งนี้) ทำไมมันง่ายอย่างนี้? ฮ่าฮ่า! นึกถึงสีหน้าตกใจของผู้คุมสอบ ผมล่ะอยากจะหัวเราะดัง ๆ
ทันทีที่ผมออกมาถึงประตูโรงเรียน ผมเห็นอาจารย์ยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระสับกระส่าย เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าอาจารย์ซิวก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย