ตอนที่แล้วบทที่ 11 - สถาบันเวทย์มนต์หลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 - สอบเข้า

บทที่ 12 – ถึงเมืองหลวง


“จางกง ลูกต้องเชื่อฟังอาจารย์ซิวนะ ตั้งใจทำบททดสอบ ลูกต้องสอบให้ผ่านเพื่อชื่อเสียง เกียรติยศของวงศ์ตระกูล แต่ถ้าสอบไม่ผ่านจริง ๆ รีบกลับบ้าน อย่าให้แม่กับพ่อเป็นห่วง อาจารย์ซิว ช่วยดูแลจางกงด้วยนะคะ” แม่ผมร้องไห้กอดผมอยู่ครึ่งค่อนวัน

“พอได้แล้ว แม่ของลูก จางกงไม่ได้ไปแล้วไปลับสักหน่อย นี่สายมากแล้ว ให้พวกเขาออกเดินทางเถอะ”

หลังจากบอกลาแม่ พ่อ อาจารย์ในโรงเรียน เพื่อนร่วมชั้น (แน่นอน เจ้าอ้าวเต๋อนั่น บอกให้ผมเรียนเวทย์มนต์ให้เยอะ ๆ จะได้กลับมาคุ้มครองเขา) ผมกับอาจารย์ซิวเริ่มออกเดินไปบนถนนที่มุ่งไปสู่เมืองหลวง

“อาจารย์ซิว เมืองหลวงอยู่ไกลจากที่นี่มากมั้ยครับ?”

“ไกลมาก ต้องเดินข้ามเขตปกครองไปตามถนน ระยะทางราว ๆ 1,000 กิโลเมตร”

“ไกลขนาดนั้น อา...”

เราเดินวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน ได้ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ดังนั้นในการเดินทางครั้งนี้เราต้องใช้เวลาประมาณ 20 วันของการบุกป่าฝ่าดงไปจนถึงเมืองหลวง ผมกับอาจารย์ซิวเหาะด้วยเวทย์มนต์ไม่ได้ มีแต่นักเวทย์ลมขั้นกลางเท่านั้นที่สามารถใช้เทคนิคลมทะยานได้ เหาะ!! ระยะทางในการเหาะโดยปกติแล้วขึ้นอยู่กับพลังเวทย์ ในตอนแรกผมอยากใช้เวทย์เคลื่อนย้ายในการเดินทาง อย่างน้อยใช้เวทย์เคลื่อนย้ายระยะใกล้ 1 ครั้งก็ไปได้ 500 เมตรแล้ว แต่อาจารย์ซิวไม่ยอมให้ผมทำ เขาใช้เวลาระหว่างการเดินทางสอนผมถึงกลเม็ด และวิธีการประยุกต์ใช้เวทย์มนต์ ที่จำเป็นต่อการทดสอบ

ด้วยความคาดหวังของแม่ พ่อ และอาจารย์ซิว และแน่นอนค่าขนมของผมในอนาคต ผมใช้ความพยายามมากกว่าปกติตลอดการเดินทางนี้ นี่ทำให้อาจารย์ซิวประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เห็นผมเปลี่ยนเป็นคนละคน

ด้วยความพยายามอย่างหนักมากกว่า 20 วัน ประกอบกับการทำสมาธิในช่วง 2 เดือนที่อาจารย์ซิวไม่อยู่ ตอนนี้ร่างกายของผมเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์ อาจารย์ซิวบอกผมว่า พลังเวทย์ของผมขาดอีกนิดเดียวก็จะถึงระดับนักเวทย์ชั้นสูงแล้ว

เวทย์โจมตีของผมนั้นอ่อนด้อยมา อาจารย์ซิวเลยสอนเวทย์แห่งแสงให้ผมเพิ่มอีก 2 เวทย์ระหว่างการเดินทาง เวทย์แรกคือ เวทย์ ‘ม่านบังตา’ ที่เอาไว้ใช้ดักคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นเวทย์ระดับกลาง (เวทย์แสงระดับกลางมีเวทย์โจมตีแค่เวทย์เดียว) และอีกเวทย์เป็นเวทย์ระดับสูง ‘คมดาบแสง’ วัดจากปริมาณพลังเวทย์ของผมตอนนี้ ผมใช้เวทย์นี้ได้เพียงครั้งเดียว อาจารย์ซิวห้ามไม่ให้ผมใช้เวทย์นี้จนกว่าผมจะมีพลังเวทย์มากกว่านี้ ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรผมหนีเอาก็ได้

เมืองหลวง เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มาก กำแพงเมืองทั้งสูงและหนา ปะตูเมืองขนาดใหญ่มีผู้คนหลั่งไหลเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย เกวียนของพวกพ่อค้าวิ่งผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงล้อกระทบพื้นดังมาไม่ขาดสาย รถม้าหรูหรา ตัวรถสลักลวดลายงดงาม (น่าจะเป็นรถม้าของเหล่าขุนนาง) วิ่งผ่านหน้าเราไป เมืองนี้สมควรแล้วที่จะเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร ‘เมืองอ้ายเซี่ย’

อาจารย์ซิวกับผมตระเวณดูไปรอบ ๆ เมืองนี้ใหญ่กว่าเมืองเซินเคอมาก บนถนนแต่ละสายมีร้านรวงมากมายหลายประเภท ผมอยากเข้าไปหาดูว่ามีของเล่นอะไรใหม่ ๆ บ้าง แต่อาจารย์ซิวไม่อนุญาต เขาลากผมเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวงซึ่งตั้งอยู่ทางฟากตะวันออกของเมือง

“จางกง เห็นอาคารสวย ๆ ข้างหน้านั่นมั้ย นี่แหละโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวง อีก 3 วันการสอบถึงจะเริ่ม ตอนนี้พวกเราไปหาที่พักกันก่อน”

เราเข้าพักในโรงแรมที่ไม่แพงมากนัก ตอนแรกอาจารย์ซิววางแผนที่จะพาผมอยู่ในโรงแรมที่ดีกว่านี้ แต่ว่าโรงแรมดี ๆ ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ นี้ถูกจองเต็มหมดแล้ว ช่วงนี้มีเหล่าขุนนาง เดินทางเข้ามาจากทุกมุมของอาณาจักร ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากโรงแรมนี้ (แน่นอน เหล่าขุนนางพวกนี้ก็พาลูกหลานมาสมัครเข้าเรียน และคาดหวังว่าลูกหลานของพวกเขาจะสอบผ่านเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวงได้)

“ดีนะ ที่เรามาถึงค่อนข้างเร็ว ไม่อย่างงั้น ที่นี่ก็คงเต็มเหมือนกัน”

“ใช่ครับ แต่อาจารย์วางแผนได้ดีจริง ๆ ผมรู้แล้วว่าทำไมอาจารย์ไม่ให้ผมเถลไถลระหว่างการเดินทาง”

“จางกง เตรียมตัว เดี๋ยวอาจารย์จะพาไปซื้อของ”

“คร้าบบบ”

อาจารย์พาผมมาที่ถนนสายหลัก อาณาจักรอ้ายเซี่ย เป็นอาณาจักรแห่งเวทย์มนต์ ดังนั้นอุปกรณ์เวทย์มนต์มีขายอยู่ทั่วไป เราเข้าไปดูในร้านขายสินค้าเวทย์มนต์ ว้าว! ข้างในเต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทย์มนต์ ชุดคลุมเวทย์มนต์ ผลึกเวทย์มนต์ระดับต่ำ คทาเวทย์ แล้วก็ไข่ของสัตว์เวทย์ต่าง ๆ นักเวทย์ทุกคนสามารถมีสัตว์เวทย์ได้ แต่ต้องเป็นฟักไข่เอง ไข่ของสัตว์เวทย์แต่ละใบจะมีเวทย์ผนึกไว้ จะต้องใช้เลือดเป็นสื่อกลางในการฟัก เมื่อสัตว์เวทย์ออกจากไข่ มันจะรู้สึกผูกพันกับบุคคลแรกที่มันเห็น ในร้านระดับธรรมดานี้ มันมีแค่ไข่ของสัตว์เวทย์ระดับต่ำเท่านั้น เพราะว่าไข่ของสัตว์เวทย์ระดับสูงจะมีราคาแพงมาก แม้แต่ในมุมมองของครอบครัวที่ร่ำรวยก็ยังถือว่าแพงมากจริง ๆ และถ้าอยากได้ไข่ระดับสูงคุณต้องมีโชคด้วย

“จางกง ลองดูว่าอยากได้อะไร เดี๋ยวอาจารย์ซื้อให้เธอเป็นของขวัญ”

“ครับ ขอบคุณครับอาจารย์” ผมโจนเข้าใส่โดยไม่มีความเกรงใจ สุดท้ายผมเลือกไข่สัตว์เวทย์สีขาวมุก แล้วก็คทาเวทย์ฝังผลึกสีขาว

“ลูกชายคุณเลือกได้ดีทีเดียว ในบรรดาคทาเวทย์ของร้านเรา อันนี้ดีที่สุดแล้ว ไข่สัตว์เวทย์ใบนี้เป็นระดับ 1 ผมจะให้เป็นของแถม ส่วนราคาของคทาเวทย์ก็ 50 เหรียญทองครับ (ไข่สัตว์เวทย์สีขาวมุกนี้ เป็นสัตว์ธาตุแสง แน่นอนไม่มีใครต้องการมันหรอก)

“แพงขนาดนั้น?” อาจารย์ซิวนิ่วหน้า อย่างไรก็ตามเขาให้สัญญาแล้ว เพื่อรักษาภาพของอาจารย์ที่น่านับถือไว้ เขาซื้อให้ผมอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

กลับมาที่โรงแรม อาจารย์ช่วยผมประเมินคทาเวทย์ คทาเวทย์ด้ามนี้สามารถช่วยเพิ่มพลังเวทย์ได้ ถือว่าเป็นของดีทีเดียว ในขณะที่ไข่สัตว์เวทย์ดูแล้วเป็นของธรรมดาอย่างยิ่ง เป็นไข่ของสัตว์เวทย์ระดับ 1 ทั่วไป

“เธอรับของขวัญไปแล้ว 3 วันหลังจากนี้เธอต้องพยายามให้ดีที่สุด อย่าทำให้อาจารย์ผิดหวัง”

คทาเวทย์ด้ามนี้ อยู่กับผมนานเลยล่ะ จนกระทั่งผมได้....

อีกอย่าง สัตว์เวทย์ที่ฟักออกมาจากไข่ใบนี้ กลายมาเป็นคู่หูที่สำคัญที่สุดของผม

บางทีคงเป็นเพราะโชคชะตา สัตว์เวทย์ที่บุตรแห่งแสงได้รับมาส่งผลอย่างยิ่งต่อการที่เขาพัฒนาไปสู่ระดับมหาเมธีเวทย์

(บุตรแห่งแสงกำลังจะเริ่มต้นชีวิตในโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์ในเร็ววัน สัตว์เวทย์ของเขาจะเป็นตัวอะไร?)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด