(ฟรี) บทที่ 437 - ร่างโคลนขั้น 10 บทที่ 438 - มูลค่ามหาศาล
บทที่ 437 - ร่างโคลนขั้น 10
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!
มองไปยังปืนใหญ่ธาตุไฟใหม่เอี่ยมตรงหน้า ประกายของความเข้าใจวาบเข้ามาในดวงตาหยางซือเล่ย
ในที่สุดเขาก็ไขปริศนาได้ ว่าทำไมอาวุธพวกนี้ถึงไม่ใช้กระสุน ที่แท้หลังจากสังเคราะห์ด้วยจิตอสูร มันก็สามารถดูดพลังวิญญาณจากในอากาศมาโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับกลไกอักขระยันต์บนพื้นดินที่เกิดจากค่ายกล ทำให้มันดูดซับพลังงานได้เร็วขึ้น
“ลูกเล่นนี้ไม่เลวเลย”
หยางซือเล่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สำหรับวิธีการของปรมาจารย์ ‘หยางกั่ว’ ใจเขาอดชื่นชมไม่ได้
“นี่ ...”
ดวงตาของไป่หยู่เจ๋อสั่นไหว มองปืนใหญ่ธาตุไฟอย่างตื่นตาตื่นใจ นึกไม่ถึงว่าจะมีปืนกระบอกใหม่มาแทนที่ อีกทั้งรูปทรงของมันยังเหมือนกับแบบเดิมทุกประการ ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง
ไป่หยู่เจ๋อเบนสายตามองหยางซือเล่ย ลึกๆยิ่งเกิดความมั่นใจว่าคำพยากรณ์ของท่านปรมาจารย์เป็นเรื่องจริง
หากสามารถนำอาวุธใหม่มาทดแทนอาวุธที่เก่าและทรุดโทรมเหล่านี้ได้ ในการรุกรานครั้งต่อไปของพวกต่างสายพันธุ์จากโบราณ คงคลายความกังวลลงได้เยอะ
“นี่คงจะเป็นงานหนักไม่น้อยเลย” หยางซือเล่ยเงยหน้าขึ้น มองไปยังอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายที่ตั้งเรียงยาวเหยียดจนเกือบสุดแผ่นดิน อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้
“อัพเกรดร่างโคลนก่อนแล้วกัน”
จากนั้น เขาสั่งการผ่านความคิด อัพเกรดร่างโคลนรวดเดียวเป็นขั้น 10 ใช้แต้มเสริมพลังไปมากถึง 3,880 ล้านแต้ม
“เปลี่ยนอาวุธที่เสียทั้งหมดเป็นของใหม่”
หยางซือเล่ยแยกร่างโคลนทั้งสิบ แล้วออกคำสั่ง
“รับทราบเจ้านาย”
ร่างโคลนทั้งสิบผงกศีรษะทันทีด้วยความเคารพ จากนั้นแยกย้ายกันไป เริ่มวุ่นวายกับหน้าที่ตัวเอง
หยางซือเล่ยยิ้มอย่างพอใจ โชคดีที่มีร่างแยกพวกนี้ทำงานให้เขา ไม่งั้นตัวเขาคนเดียวคงเหนื่อยแย่
“หยางซือเล่ย หากแนวป้องกันได้รับการซ่อมแซมจนสมบูรณ์ได้จริง ข้าจะถือว่าตัวเองติดหนี้เจ้า”
ไป่หยู่เจ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้มปลื้มใจ
“ไม่จำเป็นต้องติดหนี้ ข้าต้องการอะไรที่มันใช้งานได้ทันที” หยางซือเล่ยยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นพูดสิ่งที่ต้องการออกไปตรงๆ “ยกตัวอย่างเช่น ... เหล็กเทพทองคำอีกซัก 5 ล้านจินหรืออะไรทำนองนั้น”
ได้ยินประโยคนี้ ไป่หยู่เจ๋ออึ้ง นึกไม่ถึงว่าหยางซือเล่ยจะโลภเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตอบปัด ลูบฝ่ามือลงบนแหวนมิติโดยตรง แล้วนำเหล็กเทพทองคำ 5 ล้านจินออกมา มอบให้หยางซือเล่ย
“เงื่อนไขในการก่อกำเนิดเหล็กเทพทองคำนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ดังนั้นมันจึงหายาก สิ่งที่เจ้าขอต้องใช้เวลารวบรวมนานกว่าหลายพันปี แต่เจ้ากลับกล้าเรียกร้องมันในประโยคเดียว”
ไป่หยู่เจ๋อส่ายหัวและยิ้ม ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายก็ได้ไป 5 ล้านจินแล้ว นั่นเท่ากับว่าหยางซือเล่ยยึดเอาเหล็กเทพทองคำไปจากเขาทั้งหมด 10 ล้านจิน
โลหะคุณภาพสูงมูลค่ามหาศาลเช่นนี้ เกรงว่าต่อให้แปดสุดยอดนิกายมารวมกัน ก็ยังหาเหล็กเทพทองคำจำนวนนี้ไม่ได้
“ขอบคุณผู้อาวุโสไป่” เมื่อเห็นว่าไป่หยู่เจ๋อใจดียกให้ หยางซือเล่ยมีความสุขมาก กลืนกินเหล็กเทพทองคำทั้ง 5 ล้านจินนั้นทันที แปลงเป็นแต้มเสริมพลัง 5,000 ล้านแต้ม
ขณะเดียวกัน ร่างโคลนทั้งสิบย่อยสลายอาวุธเก่าและแทนที่เข้าไปใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้แต้มสะสมของหยางซือเล่ย ลดลงฮวบๆในอัตราที่น่าใจหาย
ยังไงก็ตาม เนื่องจากการย่อยสลายจะได้แต้มเสริมพลังที่เคยซื้อกลับมา ดังนั้นที่ต้องจ่ายเพิ่มจึงมีแค่ 10,000 แต้มเสริมพลังในส่วนของการสังเคราะห์จิตอสูรเท่านั้น
หยางซือเล่ยลองประมาณจำนวนปืนใหญ่เหล่านี้ และพบว่ามีมากสุดราวๆ 100,000 กระบอก นั่นเทียบเท่ากับแต้มเสริมพลังกว่า 1,000 ล้านแต้ม
จำนวนนี้ เมื่อบวกกับที่เสียไป 3,880 ล้านก่อนหน้านี้ เท่ากับว่าใช้ไปเกือบ 5,000 ล้านแต้ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อครู่ได้เหล็กเทพทองคำมาเพิ่ม ดังนั้นเลยยังเหลือแต้มเสริมพลังสะสมอยู่อีก 6,600 ล้านแต้ม
“อัพเกรดฐานบำเพ็ญเพียร”
หยางซือเล่ยดึงแผงข้อมูลระบบขึ้นมา แล้วเคาะสองครั้ง
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณยกระดับสู่ขอบเขตเทพปฐพีช่วงกลาง แต้มเสริมพลัง - 2,040 ล้านแต้ม”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณยกระดับสู่ขอบเขตเทพปฐพีช่วงปลาย แต้มเสริมพลัง - 4,080 ล้านแต้ม”
เมื่อเสียงแจ้งของระบบดังขึ้น กลิ่นอายของหยางซือเล่ยพลันโหมกระหน่ำ
ภายใต้สายตาของไป่หยู่เจ๋อ มันทะยานสู่ขอบเขตเทพปฐพีช่วงปลายโดยตรง!
สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ ไป่หยู่เจ๋อข้างๆอึ้งงัน เหม่อมองมายังหยางซือเล่ย เกิดความคิดเดียวขึ้นในใจ
‘เด็กน้อยผู้นี้ ทะลวงขอบเขตอีกแล้ว!?’
บทที่ 438 - มูลค่ามหาศาล
‘อัพเกรดครั้งต่อไป ต้องใช้แต้มเสริมพลังมากกว่า 8,000 ล้านแต้ม’
รู้สึกถึงพลังวิญญาณของขอบเขตเทพปฐพีช่วงปลายที่พลุ่งพล่านในร่างกาย หยางซือเล่ยพึมพำในใจ
การอัพเกรดในคลิ๊กเดียวนี่มันเจ๋งจริงๆ กระนั้น ยิ่งไปได้ไกลเท่าไหร่ จำนวนแต้มที่ถูกซ้อนทับขึ้นในระหว่างนั้นก็ยิ่งน่าสะพรึง
ในส่วนของเรื่องนี้ หยางซือเล่ยอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกบางอย่าง หากไม่สามารถค้นหาทรัพยากรโลหะได้ในอนาคต เขาคงมีแต่ต้องพยายามบำเพ็ญเพียรด้วยตัวเอง
“หยางซือเล่ย สรุปว่าหลังจากกลืนกินโลหะ มันจะช่วยให้เจ้าสามารถยกระดับฐานบำเพ็ญเพียรได้จริงๆสินะ”
ไป่หยู่เจ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยถามเสียงขรึม
หยางซือเล่ยไม่ได้ตอบให้มันชัดเจน เพียงกล่าวว่า “ก็คงเป็นอย่างนั้น”
ดวงตาของไป่หยู่เจ๋อฉายแววจริงจัง กล่าวว่า “เช่นนั้นเราเทพผู้เที่ยงแท้จะช่วยเจ้ายกระดับฐานบำเพ็ญเพียรโดยเร็วที่สุด”
ได้ยินแบบนั้น หยางซือเล่ยเลิกคิ้วเล็กน้อย คิดในใจว่า นี่เขาพูดจริงๆใช่ไหม?
เพราะหากได้รับความช่วยเหลือจากไป่หยู่เจ๋อ ด้วยสถานะและพลังรบของอีกฝ่าย เรื่องทรัพยากรโลหะก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
คิดได้แบบนี้ หยางซือเล่ยพยักหน้าทันทีและพูดว่า “เช่นนั้นข้าขอกล่าวตามจริง หากกลืนกินโลหะ ข้าจะสามารถยกระดับฐานบำเพ็ญเพียรได้ ดังนั้นยิ่งมีมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
“เป็นอย่างที่คิด!”
หลังได้รับการยืนยันจากหยางซือเล่ย แม้ไป่หยู่เจ๋อจะคาดการณ์ไว้นานแล้ว แต่ตอนนี้ ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
กลืนกินโลหะเพื่อเพิ่มฐานบำเพ็ญเพียร ความสามารถเช่นนี้ ตัวเขาที่มีชีวิตอยู่มานานกว่าสามพันปี อาจกล่าวได้ว่ายังไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่นาน ไป่หยู่เจ๋อก็ปรับอารมณ์ จากนั้นมองหยางซือเล่ยแล้วถามว่า “เช่นนั้นเป็นถ้าต้องทะลวงไปถึงขอบเขตเทพจักรพรรดิ เจ้าต้องการโลหะมากแค่ไหน?”
ได้ยินแบบนี้ หยางซือเล่ยเริ่มคำนวณในใจ ตอนนี้เขาอยู่ช่วงปลายขอบเขตเทพปฐพี การไปถึงเทพจักรพรรดิ ยังมีขอบเขตเทพสวรรค์ขั้นกลางอยู่
กล่าวคือ เขาต้องอัพเกรดอีก 4 ครั้งจึงจะไปถึงขอบเขตเทพจักรพรรดิ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณแต้มเสริมพลังที่ต้องใช้ในการอัพเกรดจะทวีคูณเป็นสองเท่า
หรือกล่าวคือ มันจำเป็นต้องใช้แต้มเสริมพลังกว่า 65,280 ล้านแต้ม!
หยางซือเล่ยสูดหายใจลึก ตัวเลขนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน หากใช้เหล็กเทพทองคำที่มีอัตราแปลงเป็นพันเท่า คำนวณแล้วก็ยังต้องการมันมากกว่า 65 ล้านจิน!
“เจ้าต้องการเท่าไหร่? ขอแค่เอ่ยมันออกมา”
ไป่หยู่เจ๋อคะยั้นคะยอ เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจในทรัพย์สินของตัวเองมาก
หยางซือเล่ยไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกันนอกจากกัดฟันพูด “เหล็กเทพทองคำอย่างน้อย 65 ล้านจิน”
“อะไรนะ!?”
ได้ยินตัวเลขมหาศาลนี้ ไป่หยู่เจ๋ออดไม่ได้ต้องสูดหายใจเย็นเยียบ
“เจ้าแน่ใจนะว่าต้องการเยอะขนาดนั้น?” เขามองหยางซือเล่ยด้วยความตกตะลึง นึกว่าตัวเองหูฝาดไป
“ถึงจะมากไปหน่อย แต่จำนวนนี้จะช่วยให้สามารถไปถึงขอบเขตเทพจักรพรรดิจริงๆ”
หยางซือเล่ยยิ้มแห้ง ทรัพยากรโลหะจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ไป่หยู่เจ๋อจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เป็นเรื่องปกติ
ไป่หยู่เจ๋อตกอยู่ในห้วงความคิดช่วงเวลาหนึ่ง
หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ เขาก็เอ่ยว่า “หากเหล็กเทพทองคำไม่พอ เช่นนั้นสามารถใช้เหล็กวิญญาณลี้ลับหรือโลหะอื่นแทนได้หรือไม่?”
หยางซือเล่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าได้ แต่สำหรับเหล็กวิญญาณลี้ลับ ต้องเพิ่มเป็นสิบเท่า ส่วนโหละทั่วไป ต้องเพิ่มเป็นพันเท่า”
ได้ยินจำนวนที่เพิ่มเป็นเท่าทวีของหยางซือเล่ย มุมปากไป่หยู่เจ๋อกระตุกเล็กน้อย
เมื่อครู่เขารับปากอย่างมั่นใจ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก คาดไม่ถึงว่าทรัพยากรโลหะที่หยางซือเล่ยต้องการ จะมโหฬารขนาดนี้
แต่เนื่องจากได้สัญญาไว้แล้ว คงได้แต่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เพราะยังไงซะ หยางซือเล่ยคือคนที่มีชะตาฟ้าในคำพยากรณ์ของท่านปรมาจารย์ มีแค่เขาที่จะสามารถหยุดภัยพิบัตินี้ลงได้
ต้องรีบทำให้ทันก่อนเกิดการรุกรานครั้งต่อไปของพวกต่างสายพันธุ์จากโบราณ
มีแต่ต้องพัฒนาพลังรบของหยางซือเล่ยเท่านั้นจึงจะมีหวัง!
***ความจริงเรื่องนี้ตันแค่นี้ แต่หลังจากซื้อลิขสิทธิ์ ผมได้ไปคุยกับทางจีน และได้ข้อสรุปว่าจะมีตอนเพิ่มอีกราวๆไม่เกิน 20 ตอนเพื่อให้นิยายเรื่องนี้อยู่ในสถานะ ‘จบบริบูรณ์จริงๆ’ รอติดตามกันนะครับ น่าจะเริ่มลงเพิ่มภายใน 7 วันข้างหน้าครับ****