ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ชิมสมุนไพร

ตอนที่ 1 ความเป็นอมตะ


อาณาจักรหยาน เมืองต้าหยุน(เมฆก้อนใหญ่) ภูเขาหยุนหมิง

ในตอนเที่ยงของฤดูร้อน คลื่นความร้อนได้พัดผ่านป่าไม้และภูเขา ทำให้หญ้าและต้นไม้สั่นไหวส่งเสียงดังกรอบแกรบ

เจียงหมิงลืมตาด้วยความงุนงงและรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซานไปทั่วร่างกาย

เขาหันศีรษะไปด้วยความลำบากและพบว่าเขานอนอยู่บนเศษหินสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบที่โชกไปด้วยเลือด

"เกิดอะไรขึ้น?”

ฉันกำลังนั่งตากแอร์ นั่งมองพี่สาวตัวน้อย ทำไมพริบตาเดียวถึงกลายเป็นอย่างนี้

ทันใดนั้น ความทรงจำที่ท่วมท้นก็เข้ามาในความคิดของเขา

เด็กชายชื่อเจียงหมิอายุเพียง 16 ปี พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ และร่างกายของเขาก็อ่อนแอ เขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บสมุนไพรบนภูเขา

วันนี้ เจียงหมิงคนนี้พบสมุนไพรหายากบนหน้าผาและต้องการเสี่ยงที่จะเก็บมัน อนิจจา เขาไม่คาดคิดว่าจะลื่นตกจากหน้าผาและเสียชีวิตลง

“ไอ้บ้า!”

ในฐานะ เซียนฉีเตียน[1]ผู้รอบรู้ เจียงหมิงเข้าใจสถานการณ์ในทันที

นี่ไม่ใช่ความฝัน ฉันข้ามมิติมาแล้ว

เจียงหมิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ เขามองไปที่ฝ่ามือซ้ายของเขาและเห็นสมุนไพรสีแดงเข้มแปลก ๆ

หลังจากค้นหามันในความทรงจำของร่างเก่า เขาค้นพบว่านี่คือโลกที่แปลกประหลาดที่ปกครองด้วยพลัง ทุกอย่างล้วนต่ำ มีเพียงวรยุทธที่สูง อาณาจักรหยานที่เขาอาศัยอยู่นั้นก่อตั้งขึ้นโดยปรมาจารย์วรยุทธที่ไร้เทียมทานผู้หนึ่ง

มีแม้กระทั่งตำนานของเทพเซียนที่เหาะเหินบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและเข้าสู่สวรรค์ได้!

ดูเหมือนว่าเขาจะข้ามมายังโลกแห่งการฝึกตนเพื่อแสงหาความเป็นอมตะ

แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับเขาอย่างไร

ตอนนี้ เจียงหมิงเป็นเพียงชายผู้โชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและอาจตายได้ทุกเมื่อ

“ไม่มีระบบช่วยฉันเหรอ?”

“การจำลอง”

“เพิ่มคะแนนสถานะ”

ไม่มีการตอบสนอง

เจียงหมิงรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย เขาจะเล่นได้อย่างไรหากเขาบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่ต้น?

ทันใดนั้น

เขาเหมือนกำลังมองเห็นร่างกายของเขาเอง

ในใจของเขา ลูกบอลแสงลอยขึ้นและลง

ในขณะนี้ จุดแสงระเบิดเหมือนซุปเปอร์โนวาจู่ๆ ก็ปลดปล่อยแสงสว่างออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสงนำพาพลังอันไร้ขอบเขซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อทุกตารางนิ้วและเลือดทุกหยดของเขา

บาดแผลทั้งหมดของ เจียงหมิงสมานกันอย่างรวดเร็วด้วยตาเปล่า กระดูกที่หักของเขาก็เชื่อมใหม่และฟื้นตัวได้ในทันที

เมื่อ เจียงหมิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง จุดแสงก็นิ่งสลบเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ไม่มีวันร่วงหล่นอยู่ในใจของ เจียงหมิง

ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลจำนวนหนึ่งถูกส่งเข้าสู่จิตสำนึกของ เจียงหมิง

แสงนิรันดร์สามารถรับประกันอายุยืนยาวและความเป็นอมตะของเจ้าของได้

“นี่คือนิ้วทองคำของฉัน?” เจียงหมิงพึมพำ จากข้อมูลชิ้นนี้ เขารู้แล้วว่าแสงนิรันดร์นั้นได้หลอมรวมเข้ากับจิตสำนึกของเขาแล้ว

แม้ว่าร่างกายจะถูกทำลายและวิญญาณก็แตกสลาย เขาก็ยังสามารถเกิดใหม่ได้

เขาพยายามยืนขึ้น แต่ไม่มีอาการไม่สบายในร่างกายของเขา ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะถูกรักษาเอาไว้ได้ชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม เจียงหมิงไม่ได้หลงระเริงไปกับกลโกงของตัวเอง

'ฉันเคยดูหนังที่มีคนที่เป็นอมตะมามาก ถ้าคนๆนั้นโชคร้ายจะถูกมัด ขัง หั่นเป็นชิ้นๆ และถูกดูดเลือด บางครั้งพวกเขาก็ยังถูกกินอีกด้วย '

เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นิ้วทองคำของเขาทำให้เขาเหมือนกลายเป็นพระถังสำหรับคนอื่น[2] เขาจะไม่ปลอดภัย เขาต้องรักษาโปรไฟล์ต่ำเอาไว้โดยใช้ทุกสิ่ง

การไล่ล่าชื่อเสียงและเกียรติยศจะไม่จบลงด้วยดีสำหรับเขา

แน่นอน นอกเหนือจากนั้น นิ้วทองคำนี้ยังค่อนข้างดี

ความเป็นอมตะไม่ใช่เส้นทางสู่การไร้เทียมทาน แต่หมายถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่ว่าจะเป็นในชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ขีดจำกัดของอายุขัยคือปัญหาชั่วนิรันดร์ที่ส่งผลต่อการพัฒนาตนเองและแม้แต่ความเจริญก้าวหน้าของอารยธรรม

เนื่องจากอายุขัยของนักวิทยาศาสตร์ในชาติก่อนของเขามีจำกัด เพียงแค่เรียนรู้ความรู้จากบรรพบุรุษของพวกเขาก็จะต้องใช้เวลาหลายสิบปี เมื่อถึงเวลาที่พวกเขามีทรัพยากรและกำลังพอที่จะไปถึงจุดสูงสุดของวิทยาศาสตร์ พวกเขาก็เข้าสู่ช่วงโรยราและได้แต่จากไปอย่างเสียใจ

มันก็เหมือนกันสำหรับการฝึกตน ไม่ว่าคนๆ หนึ่งจะเก่งกาจเพียงใด สุดท้ายแล้วเขาก็จะกลายเป็นฝุ่นผงในท้ายที่สุด

อายุขัยที่จำกัดของพวกเขาเป็นเหมือนกำแพงสีดำที่ไม่มีที่สิ้นสุด ขังพวกเขาไว้ในกรงเล็กๆ ทุกๆคนพยายามที่จะหลบหนี แต่ก็ไม่สามารถทำได้

เจียงหมิงคนปัจจุบันเป็นเหมือนกบที่กระโดดออกมาจากบ่อน้ำลึก แม้ว่าเขาจะอ่อนแอมาก แต่เขาก็มีความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด ตราบเท่าที่เขามีชีวิตอยู่อย่างมั่นคง สักวันหนึ่งเขาจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก แม้จะใช้เวลานาน

“แน่นอน ทั้งหมดนี้ฉันต้องไม่ถูกจับหรือถูกวิจัยซะก่อน” เจียงหมิงพึมพำกับตัวเอง “ฉันต้องอยู่รอดให้ถึงที่สุด ปรมาจารย์วรยุทธและเหล่าเซียน เมื่อพวกนายตายไปแล้ง ฉันจะขุดหลุมฝังศพของนายและตามหาสมบัติ”

ในขณะที่ เจียงหมิงกำลังปล่อยให้จินตนาการของเขาโลดแล่น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ไม่ไกล

ชายวัยกลางคนที่มีตะกร้าสมุนไพรอยู่บนหลังและเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยรอยก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา

“เสี่ยวหมิง?”

ชายคนนั้นรู้สึกประหลาดใจ

เจียงหมิงเงยหน้าขึ้น ชายผู้นั้นผอมแห้ง เบ้าตาลึก ดูเหมือนจะขาดฉีและเลือด[3]เขาจ้องมองที่เจียงหมิงขณะถือขวานในมือของเขา

เจียงหมิงจำเขาได้ เขายังเป็นคนเก็บสมุนไพรที่เชิงเขา เขารู้เพียงว่าเขาถูกเรียกว่าผีเฒ่าหวง แต่พวกเขามักจะไม่ได้ติดต่อกันมากนัก

คนเก็บสมุนไพรทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง และบางพื้นที่ที่ปลูกสมุนไพรหายากก็ยิ่งถูกเก็บเป็นความลับมากขึ้นไปอีก มันไม่ใช่โอกาสที่ดีที่จะพบกับคนเก็บสมุนไพรคนอื่นๆ บนภูเขา

เจียงหมิงมองไปที่เขาและไม่พูด

“เจ้าได้รับบาดเจ็บเหรอ? ร้ายแรงหรือเปล่า?” ผีเฒ่าหวงพูดด้วยความกังวล สายตาของเขาจับจ้องไปที่มือของ เจียงหมิงและมีประกายไฟปรากฏในดวงตาของเขา

หัวใจของ เจียงหมิงจมดิ่งลง 'ให้ตายเถอะ ฉันตื่นเต้นมากเกินไป เลยประมาทเลินเล่อขนาดนี้'

“ไม่ มันไม่ร้ายแรง ข้าจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักครู่” เขาตอบอย่างรวดเร็ว

ผีเฒ่าหวงหัวเราะเสียงแหบแห้ง “ดีแล้วที่เจ้าไม่เป็นไร เสี่ยวหมิง เจ้าโชคดีมากที่ได้พบหญ้าเมฆเพลิง เจ้าสามารถขายมันได้ในราคาสามสิบตำลึงเงิน เพียงพอที่จะอยู่ได้สองสามปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า”

“ข้าจะรีบขึ้นภูเขาก่อนและดูว่าข้าจะมีโชคไหม” เขาโบกมือแล้วเดินต่อไป

เจียงหมิงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและดูเหมือนว่าจะลดการป้องกันลง

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังจะเดินผ่านกัน ดวงตาของ ผีเฒ่าหวงก็เผยแววทตาดุร้าย

“สารเลวตัวน้อย ไปลงนรกซะ!”

เขายกขวานขึ้นในมือแล้วฟันไปที่หน้าอกของ เจียงหมิง

“ให้ตายเถอะ!” เปลือกตาของ เจียงหมิงกระตุกอย่างต่อเนื่อง

เขาคาดเดาไว้นานแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาร้าย แต่เขาไม่เคยคิดว่าชาคนนี้จะต้องการฆ่าเขา!

เจียงหมิงหยิบพลั่วขุดสมุนไพรออกมาจากเอวของเขาและฟันที่คอของ ผีเฒ่าหวงโดยไม่ลังเล

พลั่วถูกลับโดยหินภูเขาตลอดทั้งปีและคมกว่าใบมีดธรรมดา ตราบใดที่มันกรีดเข้าไปในผิวหนัง เลือดจะกระเซ็นออกมา

อย่างไรก็ตาม ดวงตาของผีเฒ่าหวงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เด็กสารเลวคนนี้ยังไร้ประสบการณ์เกินไป และปฏิกิริยาของเขาก็ช้าเกินไป

ฟึ้บ!

ขวานแทงเข้าไปในหัวใจของเจียงหมิงและทะลุออกมาจากด้านหลังของเขาทำให้เลือดกระเซ็นไปทั่ว

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ด้วยหญ้าเมฆเพลิงนี้ ข้าจะ!” ผีเฒ่าหวงหัวเราะออกมาด้วยความดีใจและเอื้อมมือไปหยิบหญ้าเมฆเพลิง

ในความคิดของเขา เจียงหมิงผู้ซึ่งถูกแทงเข้าที่หัวใจไม่มีแรงมากพอที่จะต้านทานได้

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เขาลดการป้องกันลง...

ทันใดนั้นแสงเย็นก็สว่างวาบต่อหน้าของเขา

มันรวดเร็วและไร้ความปรานี!

จึก! พลั่วตัดเนื้อของเขาเหมือนมีดตัดผ่านกระดาษ รอยเลือดปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ บนคอของผีเฒ่าหวง ก่อนเลือดก็พุ่งออกมาเหมือนละอองน้ำ

“เป็นไป…ได้..ยะ.ยังไง?” เขาจ้องมองที่ เจียงหมิงด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่คอของเขาถูกอุดด้วยเลือด และเขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

ต่อหน้าเขา ร่างของเจียงหมิงที่ยังคงถูกแทงด้วยขวานมีเลือดไหลไม่หยุด กลับกำลังยิ้มด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังยืนอย่างมั่นคง

“ทุกผู้คนย่อมหลีกเลี่ยงความตายไม่ได้ ใยต้องเข่นฆ่ากันเอง?”

เจียงหมิงมองไปที่ ผีเฒ่าหวงที่กำลังกระอักเลือดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ภายใต้การจ้องมองอย่างหวาดกลัวของผีเฒ่าหวง เจียงหมิงสูดลมหายใจ ค่อยๆดึงขวานออกจากหน้าอกของเขาอย่างช้าๆ เล็งไปที่คอของผีเฒ่าหวงและฟันลงมาอีกครั้ง

ฉึบ! เลือดพุ่งออกมาและร่างของผีเฒ่าหวงล้มลงกับพื้น

[1] ฉีเตียน เป็น เว็บนิยายของจีน

[2] ในไซอิ๋ว  บอกเล่ากันว่าปีศาจตนใดที่ได้กินเนื้อพระถัง มันผู้นั้นจะได้รับชีวิตอมตะ

[3] ฉีและเลือด ในแพทย์แผนจีน หมายถึง สารพื้นฐานหลัก 2 ชนิด ในร่างกายมนุษย์ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในชีวิตของมนุษย์ ฉี มีหน้าที่ส่งเสริม ควบคุมร่างกายมนุษย์ ความร้อนและความเย็น

เลือด มีหน้าที่หล่อเลี้ยงร่างกายของมนุษย์และเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด