ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 649 มอบจักรวรรดิของเจ้ามาซะ!! (ฟรี)
สถานที่แรกที่ซู่เสี่ยวไป่คิดถึงคือจักรวรรดิจือเฉินที่มีสิ่งที่เรียกว่าเทพยักษ์อยู่
ว่ากันว่าเทคนิคเทพยักษ์นั้นถูกสืบทอดต่อกันมาจากยุคบรรพกาลของจักรวรรดิไท่เจียง และตกทอดจนเหลือในจักรวรรดิจือเฉิน
ที่ซู่เสี่ยวไป่คิดถึงจักรวรรดินี้เพราะในสนามรบนั้นสามารถเห็นร่างของเทพยักษ์ได้มากมายหลายแห่ง แสดงให้เห็นว่าเทคนิคนี้ถูกสืบทอดกันในจักรวรรดิไท่เจียงด้วย
เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สนใจที่จะสู้รบที่เขตภายนอก และมุ่งตรงไปยังจักรวรรดิจือเฉิน
เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์เกิดจากเงาหลักรวมร่างกัน 1 ล้านร่างจนมีขอบเขตพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 เสริมด้วยความสามารถและวิชาต่างๆ ที่มีทำให้มันเข้าใกล้จุดสูงสุดของขั้นนี้แล้ว
ดังนั้นในสายตาของซู่เสี่ยวไป่มองว่าการป้องกันของจักรวรรดิจือเฉินนั้นไม่สามารถที่จะต้านทานเงาของเขาได้
ในขณะที่จักรพรรดิจือเฉินกำลังหารือกับเหล่าแม่ทัพทั้งหลายเพื่อเตรียมแผนการรับมือต่อไป ในขณะที่กำลังประชุมอยู่นั้นพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังที่ล้นหลามมาจากนอกจักรวรรดิของเขา
และเมื่อออกมาตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นไป่หยิน สร้างความตกใจให้กับทุกคนอย่างมาก
ซู่เสี่ยวไป่ชี้นิ้วไปยังจักรพรรดิอย่างไม่ใยดีทันที
“มอบดินแดนของเจ้ามาให้ข้า หรือไม่ก็ตายตรงนี้ เจ้าเป็นคนตัดสินใจเอง!”
“ไป่หยิน!!! เจ้าเป็นบ้าอะไร!! ไม่เห็นรึไงว่าตอนนี้สถานการณ์ของจักรวรรดิย่ำแย่ขนาดไหน!!”
จักรพรรดิจือเฉินนั้นตอบกลับมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่เขากลับรับรู้ถึงกลิ่นไอและจิตฆ่าฟันที่แผ่ออกมาจากตัวตนนี้ได้ ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ไป่หยินพูดนั้นไม่ได้ล้อเล่น
“ก็ในเมื่อเข้าใจสถานการณ์อยู่แล้วก็ง่ายขึ้น เพราะนั่นคือเหตุผลที่ข้าจะยึดทั้งจักรวรรดิไท่เจียงด้วยตัวของข้าเอง ให้เวลาเจ้าคิดอีกแค่ 3 ลมหายใจเท่านั้น”
ซู่เสี่ยวไป่ค่อยๆ ยกนิ้วขึ้นที่ละนิ้วเป็นการนับถอยหลัง
“หนึ่ง….สอง….”
สีหน้าของจักรพรรดิเปลี่ยนไปเป็นมืดมนและเย็นชาทันที
“เจ้าคิดจะฉวยโอกาสยึดจักรวรรดิอื่นงั้นหรอ? นี้เจ้าคิดจะทำบ้าอะไรกันแน่!!”
“นั่นไม่ใช่คำตอบ และข้าไม่ต้องการพูดคุย”
แล้วทันใดประกายแสงก็สว่างขึ้นจนแสบตา และหัวของจักรพรรดิจือเฉินก็หลุดออกจากบ่า
ซู่เสี่ยวไป่ดึงจิตวิญญาณของจักรพรรดิจือเฉินออกมา และบีบขยี้มันแหลกคามือ!
“หมดเวลา!! ข้าไม่ได้ล้อเล่นอะไรทั้งสิ้น ต่อจากนี้จักรวรรดิจือเฉินตกเป็นของข้าไป่หยินผู้นี้แล้ว!”
เหล่าแม่ทัพและผู้ฝึกตนของจักรวรรดิต่างคุ้นเคยกับภาพนี้ดี มันคือวิธีการฆ่าของไป่หยิน ทำให้หลายคนเริ่มหวาดกลัวและขวัญเสีย
จักรพรรดิจือเฉินผู้แข็งแกร่งที่สุดตอนเป็นถึงจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 กลับตายในการโจมตีเพียงพริบตาเดียว!
แล้วแบบนี้จะมีใครในจักรวรรดิที่ต่อต้านไป่หยินได้อีก
ที่เหลือในจักรวรรดิตอนนี้มีเพียงแค่จ้าวภัยพิบัติขั้น 5 เท่านั้นที่แข็งแกร่งสุด และไม่มีทางที่จะต้านทานได้เลย ทำให้ทั้งจักรวรรดิยอมจำนน และหลีกเลี่ยงการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
จักรวรรดิจือเฉินนั้นเป็นเหมือนกับศูนย์ฝึกทหาร และสร้างกำลังพลให้กับจักรวรรดิไท่เจียง ด้วยสิ่งที่เรียกว่าเทพยักษ์ หลักฐานก็คือผลึกต้นกำเนิดจำนวนมากที่หลายจักรวรรดิภายใต้จักรวรรดิไท่เจียงยอมจ่ายเพื่อแลกกับกำลังของเทพยักษ์
ซู่เสี่ยวไป่เข้าไปตรวจค้นคลังสมบัติของจักรวรรดิ และพบว่าความมั่งคั่งของจักรวรรดิจือเฉินนั้นเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก เพราะมันเทียบได้กับมหาจักรวรรดิผิงเจียงที่มีดินแดนน้อยใหญ่และจักรวรรดิใต้การปกครองอีก เพียงจักรวรรดิเดียวมีผลึกต้นกำเนิด 30 ล้านก้อน และมีวิชาระดับภัยพิบัติ 50 วิชา!!
“หากว่าเอาผลึกไปหมดจักรวรรดิแห่งนี้จะไม่สามารถเอาตัวรอดจากภัยคุกคามใดได้อีก!”
ผู้ว่าการคลังของจักรวรรดิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา แต่เขาต้องพูดเพื่อความอยู่รอดของจักรวรรดิแม้จะกลัวถูกซู่เสี่ยวไปตัดหัวก็ตาม
ซู่เสี่ยวไป่เหลือบไปมองเล็กน้อย และหันหน้าออกไปที่แนวป้องกันของจักรวรรดิที่กำลังพังทลายลง พร้อมกับยิ้มและส่ายหัว
“ไม่เป็นไร…ข้าจะจัดการพวกมันก่อนที่มันจะบุกเข้ามา! ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เทพยักษ์อีกต่อไป หากพวกมันมาข้าจะฆ่ามันทั้งหมด!”
ซู่เสี่ยวไป่เตรียมตัวรับมือจ้าวภัยพิบัติที่จะบุกเข้ามา โดยไม่ต้องใช้กำลังของเทพยักษ์เพื่อประหยัดผลึกต้นกำเนิด และช่วยเหล่าผู้ฝึกตนตามแนวรบของจักรวรรดิ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ผลึกต้นกำเนิดอีก
เพื่อแลกกับผลึกทั้งหมด ซู่เสี่ยวไป่ส่งเงายักษ์ปฐพีสองสามร่างออกไปจัดการเรื่องนี้ ซึ่งนั้นก็พอแล้วที่จะปกป้องจักรวรรดิจือเฉินได้
จากนั้นซู่เสี่ยวไป่ก็ส่งให้เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในพายุดาวฤกษ์ และมุ่งหน้าสู่จักรวรรดิดวงดาวคู่
จักรวรรดิดวงดาวคู่นั้นเรียกได้ว่าแทบจะอยู่ติดกับดินแดนดวงดาวทางเหนือ และพายุแห่งนี้คือสนามรบหลักของจักรวรรดิ ซึ่งตอนนี้แม้แต่จักรพรรดิของดวงดาวคู่เองก็ออกหน้าสู้ศึกเองด้วย
เพื่อจะต้านทานการบุกของจ้าวภัยพิบัติขั้น 6
มีผู้ฝึกตนล้มตายจำนวนมากในการสู้รบ แต่หากว่าไม่มีพายุดาวฤกษ์นี้เป็นแนวป้องกันเอาไว้จักรวรรดิคงถูกผ่าออกเป็นสองซีกไปแล้ว
เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มาถึงก็เห็นสภาพของจักรพรรดิดวงดาวคู่นั้น-ร่อแรอย่างมาก ใกล้จะหมดแรงลงทุกที ถึงแม้ว่ายังมีลมหายใจอยู่ แต่ก็ไม่ต่างจากคนที่ตายแล้ว
จักรวรรดิดวงดาวคู่นั้นเวลานี้ถูกรุมล้อมไปด้วยศัตรูทุกทิศทาง -และพลังที่น่าหวาดกลัวปกคลุมไปทั่ว หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปจักรวรรดิก็จะล่มสลาย
แต่อย่างไรก็ตามจักรวรรดิดวงดาวคู่นั้นก้ยังยืนหยัดต่อสู้ได้มาจนถึงตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเองก็มีกองกำลังที่แข็งแกร่ง และจงรักภักดีต่อจักรวรรดิมากขนาดที่ยอมพลีชีพให้ได้
แต่พวกเขาก็ยังตกอยู่ใต้พลังทำลายล้างอันน่ากลัว และประกายแสงจากระเบิดมากมาย
“มีแต่เสียงร้องโหยหวนเต็มไปหมด เราจะจัดการทุกอย่างเอง”
ด้วยการดีดนิ้วครั้งเดียว เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นปล่อยรัศมีฆ่าฟันออกมาทันที และปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้ พร้อมกับเข้าไปสังหารจ้าวภัยพิบัติทั้งหมด
เงาของซู่เสี่ยวไป่มาช้าเกินไป หากมาเร็วกว่านี้เขาคงยึดจักรวรรดิดวงดาวคู่ได้ไม่ยากเหมือนกับจักรวรรดิจือเฉิน
ซู่เสี่ยวไป่เข้ายึดจักรวรรดิแห่งนี้อีกครั้ง พร้อมกับส่งเงายักษ์ออกไปรอบๆ ดินแดนอีกหลายร้อยตัว เพื่อกวาดล้างศัตรูทั้งหมด
…..
ซู่เสี่ยวไป่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิต่อทันที จนสุดท้ายเขาก็เริ่มออกเก็บรวบรวมดินแดนน้อยใหญ่เข้าด้วยกันจนกอบกู้จักรวรรดิไท่เจียงกลับมา
“โชคยังดีที่สงครามไม่ได้ทำลายจักรวรรดิไท่เจียงทั้งหมด พวกเขาเองก็มีขุมกำลังพอที่จะฟื้นฟูตัวเองได้ แม้จะใช้เวลานานสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้มหาจักรวรรดิผิงเจียงอยู่ในกำมือของเราแล้วด้วย”
“และตราบใดที่ยังปรับปรุงระบบได้อยู่เราก็จะควบคุมไม่ให้จักรวรรดิใต้การปกครองของเราล่มสลาย”
ตอนนี้การเคลื่อนไหวของซู่เสี่ยวไป่นั้นอันตรายมาก และสามารถสั่นสะเทือนไปทั่วทะเลแห่งความว่างเปล่า หรือกระทั้งปิดล้อมทั้งทะเลแห่งความว่างเปล่า
ซู่เสี่ยวไป่สนใจเกี่ยวกับตัวตนที่ทรงพลังของดวงดาวทางเหนือมากกว่าขุมกำลังจากจักรวรรดิระดับสูงที่บุกรุกเข้ามาเสียอีก เพราะหากว่าดินแดนดวงดาวทางเหนือไม่สามารถต้านทานได้นานพอ ทั้งจักรวรรดิไท่เจียงจะล่มสลายก่อนที่เขาจะยึดครองได้
….
ตอนนี้กองกำลังส่วนใหญ่ของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์นั้นได้กระจุกตัวอยู่ในดินแดนดวงดาวทางเหนือหมดแล้ว เพื่อเตรียมจะทำการสู้รบในศึกสุดท้าย
ที่อาณาเขตภายนอกนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มกองกำลังมากมายแอบซ่อนตัวอยู่เต็มไปหมด เพราะจักรวรรดิไท่เจียงนั้นคือฟางเส้นสุดท้ายของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์
มีบางกองกำลังแอบเข้ามาตั้งฐานในเหมืองใต้ขุนเขาต้นกำเนิด เพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเข้ามาในเหมืองแห่งนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอเข้ากับไป่หยินหลายร้อยร่างกำลังขุดเหมืองอยู่
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!! ทำไมถึงมีคนเข้ามาขุดเหมืองได้!”
“อย่ามัวแต่พูด รีบฆ่าพวกมันก่อน!”
ผู้ที่หลบเข้ามานั้นไม่กล้าที่จะโจมตีก่อนอยู่ดี เพราะอีกฝั่งคือไป่หยิน หากว่าเขาเปิดก่อนจะกลายเป็นว่าไป่หยินจะได้ความชอบธรรมในการโจมตีเอาคืนทั้งจักรวรรดิได้
พวกเขาทำได้เพียงแค่ถอยออกมา แต่ก็ถูกเงาหลักนั้นโจมตีไล่หลังออกมาอีกด้วย สร้างความไม่พอใจให้กับพวกเขาอย่างมาก
กลุ่มที่เข้ามานั้นเป็นเทวฑูตโบราณที่เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ กลุ่มคนกลุ่มนี้มีความสามารถสูงก็จริง แต่ในสงครามแบบนี้พวกเขาก็ไม่ต่างจากก้อนเนื้อเดินได้เท่านั้น
ซู่เสี่ยวไป่หัวเราะออกมาพร้อมกับพูดขึ้น
“คิดว่าโผล่หน้ามาแล้วจะรอดกลับไปได้งั้นหรอ?”
เหล่าเทวฑูตโบราณสีหน้าซีดเซียว
“ท่านผู้อาวุโสได้โปรดไว้ชีวิตพวกข้าด้วย!”
ซู่เสี่ยวไป่จี้ไปยังสายธารแร่
“ไหนๆ ก็มากันแล้วกำลังขาดคนพอดีเลย ไปขุดเหมืองช่วยข้าไถ่ชีวิตตัวเองแล้วกัน!”
(ประกาศจากผู้แปลนะครับ วันนี้ตอนเดียวนะครับ เพราะเนื่องด้วยตอนนี้ ผมมีปัญหากับเว็บต้นฉบับ การลงต่อจากนี้จะล่าช้า และขาดช่วง เพราะผมเปิดอ่านจากเว็บต้นฉบับไม่ได้กำลังรีบแก้ไขอยู่ ติดปัญหาเรื่อง user ซื้อตอนนิยายต่อไม่ได้ ต้องกราบขออภัย ณ ที่นี่ด้วย)