บทที่ 140: ท่านชอบลุงสี่หรือ?
ลู่เมี่ยนเอ๋อรู้สึกว่าวันนี้หู่จิงดูแปลกไปเล็กน้อย
“จู่ ๆ ข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าข้ายังมีบางอย่างที่ต้องไปทำ เจ้าไปหาหูเจียวเจียวก่อนเถอะ ข้าจะอยู่ที่นี่สักครู่” เสือสาวผลักสหายของตนไปข้างหน้า แล้วหันหลังวิ่งหนีก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้พูดอะไร
“เอ๊ะ…”
ลู่เมี่ยนเอ๋อยื่นมือออกมา จากนั้นก็ลดมือลงพร้อมกับทำสีหน้างุนงง
“วันนี้หู่จิงเป็นอะไรไป? นางดูเหม่อลอยแปลก ๆ...” หญิงสาวพึมพำด้วยความสับสน ก่อนจะส่ายหัวและหันไปหาหูเจียวเจียว
ขณะนี้หู่จิงวิ่งออกมาจากฝูงชน แต่ทันใดนั้นนางก็ถูกเงาดำบางอย่างบินชนเข้าที่หน้าผากอย่างจัง
“โอ๊ย!”
หู่จิงกัดฟันด้วยความเจ็บปวด นางถอยหลังไป 2-3 ก้าวก่อนจะลืมตาขึ้นและพบว่ามันเป็นมังกรดำตัวเล็กที่พุ่งชนนาง
นี่ลูกคนเล็กของหูเจียวเจียวไม่ใช่หรือ?
“ซี๊ด...” หน้าผากของหญิงสาวปวดตุบ ๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง นางลูบบริเวณนั้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บพลางแอบกัดฟันบ่นในใจว่า
หัวของเด็กคนนี้ทำจากหินหรือไง? ทำไมมันแข็งขนาดนี้!
“อ๊าาา~”
หลงเหยาชนเข้ากับเสือสาวจนตีลังกาไปในอากาศและตกลงสู่อ้อมแขนของหลงอวี้ที่อยู่ข้างหลังเขา
“เสี่ยวเหยา เจ้าเป็นอะไรไหม?” ผู้เป็นพี่ใหญ่กอดมังกรตัวน้อยพร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง “ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าบินช้าลงหน่อย เห็นไหมว่าเจ้าไปชนเข้ากับคนอื่นจนได้”
หลังจากที่เด็กหนุ่มพูดกับน้องเล็กจบ เขาก็มองไปที่หู่จิงแล้วกล่าวขอโทษอีกฝ่ายเสียงเบา “ข้าขอโทษท่านด้วย เสี่ยวเหยาไม่ได้ตั้งใจ”
ยามนี้หลงเหยาทำหน้าเสียใจ หัวของเขาเจ็บมาก อีกทั้งเขาอยากจะเอากรงเล็บลูบตรงบริเวณที่ถูกชน แต่กรงเล็บของเขาสั้นเกินไปจึงเอื้อมไม่ถึงหัว ดังนั้นเขาจึงยกหางแตะหัวเพื่อปลอบใจตัวเอง
ต่อมา หลงหลิงเอ๋อกับหลงจงก็ตามมาทัน ในขณะที่หลงเซียวอยู่ในบ้านไม้ไม่ยอมออกมาเพราะเขาไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะ
ทางด้านหู่จิงชำเลืองมองไปที่เด็กน้อยทั้ง 4 และโบกมือตอบไปว่า “ไม่เป็นไร ๆ”
นางเป็นภูตหญิงที่โตเต็มวัยแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่สามารถสร้างความลำบากให้กับเด็กเล็กที่ยังไม่แปลงร่างได้
นอกจากนี้ ขนาดเสือสาวเองก็ยังรู้สึกเจ็บมาก เด็กคนนั้นต้องเจ็บปวดมากกว่านางหลายเท่าแน่
เนื่องจากเด็กตระกูลหลงมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อหู่จิง พวกเขาจำได้เพียงว่าอีกฝ่ายเคยทำร้ายหูเจียวเจียว แถมนางยังดุพวกตนตอนที่พบกัน แต่นางไม่เคยรังแกพี่น้องคนไหนสักคน
เมื่อเด็กทั้ง 4 เห็นว่าวันนี้หญิงสาวคุยง่ายขึ้น ใบหน้าของทุกคนจึงเต็มไปด้วยความสงสัย
ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ดุอย่างที่คิด…
ไม่นานความเจ็บปวดของหู่จิงก็บรรเทาลง พอนางมองเจ้าตัวเล็ก 4 คน ทันใดนั้น ความคิดบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นมาในใจ นางจึงกวักมือเรียกเด็ก ๆ มาถามด้วยเสียงกระซิบ
“นี่... ลูกของหูเจียวเจียว พวกเจ้าเห็นหูชิงหยวนหรือไม่? เขาเป็นลุงสี่ของพวกเจ้าน่ะ”
หลงหลิงเอ๋อกะพริบตามองคนถามอย่างสงสัย และโพล่งออกมาว่า
“ท่านกำลังตามหาลุงสี่รึ? วันนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ ท่านมีธุระอะไรกับเขาอย่างนั้นหรือ?”
เสียงของเด็กสาวดังไม่เบาเลยและเสียงที่นุ่มนวลก็กระจายออกไปในวงกว้างทันที มันทำให้หู่จิงรู้สึกประหม่ามากจนอยากจะปิดปากเจ้าเด็กน้อยคนนี้ แต่ทันทีที่นางยื่นมือออกไป หลงอวี้กับหลงจงก็ออกมากันน้องสาวไปข้างหลังทันที
ในขณะที่พวกเขามองผู้ใหญ่ตรงหน้าอย่างระแวดระวัง
เด็กหนุ่มทั้ง 2 คิดว่าหู่จิงกำลังจะตีหลิงเอ๋อ
เมื่อเสือสาวเห็นว่าเด็กชาย 2 คนนี้ระวังตัวมาก นางเลยรีบดึงมือกลับมาพลางยิ้มเจื่อน ๆ และอธิบายว่า
“ข้าไม่ได้จะทำอะไรนาง พวกเจ้าอย่ากลัวไปเลย”
จากนั้นหญิงสาวหันศีรษะมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบว่าความสนใจของทุกคนยังอยู่ที่บ้านหิน นางจึงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ครู่ถัดมา นางก็ตอบคำถามของหลงหลิงเอ๋อ
“ข้าไม่ได้ตามหาเขา แค่ถามเฉย ๆ... ถ้าอย่างนั้น… เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เขาเป็นพี่ชายของหูเจียวเจียวไม่ใช่หรือ หูเจียวเจียวกำลังสร้างบ้านหิน เขาจะไม่มาช่วยนางหรือไง?”
หู่จิงถามแล้วฉีกยิ้มแห้ง ๆ ยามนี้ดวงตาของนางเหม่อลอย คล้ายกับว่านางกำลังเสียใจกับอะไรบางอย่าง
ทางด้านหลงอวี้กับหลงจงมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสัย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหลงหลิงเอ๋อ ดังนั้นพวกเขาจึงคลายการป้องกันลง
ต่อมา หลงจงเม้มริมฝีปากและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ท่านอยากรู้เกี่ยวกับลุงสี่ไปทำไม ท่านชอบเขางั้นรึ?”
“ไม่! ไม่! เจ้าหนูน้อย อย่าพูดไร้สาระสิ ข้าแค่ถามเฉย ๆ”
แต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของหู่จิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่นางรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มผู้มีแผลเป็นบนใบหน้ายกแขนขึ้นกอดอกพลางมองเสือสาวด้วยรอยยิ้มมุมปาก ทว่าเขาก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรกลับไป แต่หู่จิงรู้สึกเหมือนถูกเด็กคนนี้อ่านใจ
หลงอวี้เองก็ทำเพียงแค่กอดหลงเหยาโดยไม่พูดอะไรสักคำ คล้ายกับไม่แยแสเรื่องตรงหน้า เขาคิดเพียงว่าตราบใดที่นางไม่ทำร้ายพี่น้องของตน เขาก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่าย
ส่วนหลงหลิงเอ๋อดันไหล่ของพี่ชายทั้ง 2 ด้วยมือ 2 ข้าง แล้วโผล่ศีรษะเล็ก ๆ ออกมาก่อนจะอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“ท่านปู่บอกว่าพวกลุงเป็นคนในครอบครัวของท่านแม่เอง และนี่เป็นโอกาสในการเรียนรู้วิธีสร้างบ้านหิน โอกาสดี ๆ แบบนี้จึงตกเป็นของภูตคนอื่น ฉะนั้นพวกเขาก็เลยไม่ยอมให้พวกลุงมาช่วย!”
“วันนี้ลุงสี่ไม่อยู่ที่นี่ ถ้าท่านอยากพบเขา ท่านควรไปที่บ้านของลุงสี่”
เด็กสาวพูดเตือน
ปัจจุบันลูกชาย 4 คนของตระกูลหูโตเต็มวัยแล้ว โดยที่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่กับหูเฉียงและหูหมินผู้เป็นพ่อแม่ พวกเขาทั้งหมดมีบ้านของตัวเอง
“ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้ตามหาเขา ข้าแค่ถามเฉย ๆ...”
หู่จิงรู้สึกอยากกัดลิ้นตัวเอง
เด็กตระกูลหลงเซ้าซี้เสียจริง ทั้ง ๆ ที่นางตอบว่าไม่ใช่ เจ้าเด็กพวกนี้ก็ยังเพิกเฉยต่อคำพูดของนางอีก
ลูกของหูเจียวเจียวนี่มันจริง ๆ เลย!
“ข้าไม่คุยกับพวกเจ้าแล้ว” เสือสาวตัดสินใจอยู่ห่างจากเด็กเหล่านี้ และมุ่งหน้ากลับไปหาลู่เมี่ยนเอ๋อ
ทว่า...พอหญิงสาวก้าวไป 2 ก้าวก็หันหลังกลับมามองไปที่เด็กทั้ง 4 คน ก่อนที่นางจะก้มลงพูดกับพวกเขา
“เอาล่ะ พวกเจ้าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกภูตคนอื่นนะ คราวหน้าข้าจะเอาอาหารอร่อย ๆ มาให้”
ทันทีที่หลงเหยาได้ยินว่ามีของอร่อย ดวงตาของมังกรน้อยก็สว่างขึ้นในพริบตา และเขาก็บินออกจากอ้อมแขนของหลงอวี้ไปโดยลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปจนสิ้น ก่อนจะพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
สำหรับสิ่งที่หู่จิงพูดน่ะหรือ?
มันไม่สำคัญหรอก!
แต่ไม่นานสีหน้าที่เบิกบานก็ชะงักค้างไปก่อนที่จะก้มต่ำลงอีกครั้ง
เมื่อนึกถึงสิ่งที่แม่จิ้งจอกพูดกับเขาหลังจากที่เกิดเรื่องในทุ่งหญ้ารกร้าง เขาก็ลดศีรษะลงทันทีและบินกลับเข้าไปซุกตัวในอ้อมแขนของพี่ชายคนโต
“โฮ โฮ~”
ไม่ได้ ๆ เสี่ยวเหยาสัญญากับท่านแม่แล้วว่าจะไม่กินอาหารที่คนอื่นให้อีก ถึงจะหิวแค่ไหน อยากกินแค่ไหนก็กินไม่ได้!
เสี่ยวเหยา เจ้าต้องอดทน!
ทางด้านหู่จิงและเด็กคนอื่น ๆ มองดูหลงเหยาที่ตอนแรกแสดงท่าทางตื่นเต้น แต่จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นหดหู่อยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถหาคำตอบของเรื่องนี้ได้สักคน
เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ามังกรตัวเล็กคนนี้?
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ ทุกคนก็รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของมังกรน้อย
“ตกลงตามนี้ พวกเจ้าห้ามพูดนะ” เป็นธรรมดาที่หู่จิงจะไม่รู้เกี่ยวกับความคิดในใจของหลงเหยา เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่พูดอะไร นางจึงถือว่าอีกฝ่ายยินยอม และหันไปตามหาลู่เมี่ยนเอ๋อ
ส่วนเด็กน้อยหันมามองหน้ากันก่อนจะก้าวเดินต่อไป
พวกเขาใช้โอกาสนี้ในการหาทางช่วยพ่อตัวเองอีกครั้ง
ขณะนี้หูเจียวเจียวกำลังอธิบายโครงสร้างของบ้านหินให้โหวเสี่ยวเตียวกับผู้ชายอีก 2-3 คนฟัง เธอกำลังจะสร้างบ้านแบบมณฑณทางเหนือของจีนและเตียงจะทำเป็นเตียงให้ความอบอุ่นในตอนฤดูหนาว
เธอเชื่อว่าภูตทุกคนอยากสร้างบ้านหินให้เสร็จโดยเร็วที่สุดเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เหล่าภูตจะอยู่แต่ในบ้าน นอกจากกินและดื่มแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือการทำลูกเพื่อมีส่วนช่วยในการขยายจำนวนประชากรของเผ่า
ลู่เมี่ยนเอ๋อที่เพิ่งมาถึงก็เห็นว่าปากของจิ้งจอกสาวแห้งเนื่องจากต้องพูดเยอะ ขณะที่โหวเสี่ยวเตียวกับคนอื่น ๆ ยังทำสีหน้าว่างเปล่า ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารอีกฝ่าย
หูเจียวเจียวเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่นางมีความรู้มากกว่าผู้ชาย และนางต้องทำงานหนักมาก
ทำไมกวางสาวถึงไม่รู้ว่าแม่จิ้งจอกเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้มาก่อน?
เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อเห็นว่าหูเจียวเจียวไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำ นางจึงไปหยิบชามน้ำจากด้านข้าง ก่อนที่นางจะเข้าไปใกล้ นางก็เห็นว่ามีมือหนึ่งยื่นชามน้ำไปที่ปากของอีกคนแล้ว