บทที่ 139: การสร้างบ้านหินนั้นทำได้ยากไม่ใช่หรือ?
หลงหลิงเอ๋อไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้น่าสงสารคนนั้นจะกลายเป็นพ่อของนางเอง!
หลงเหยาพยักหน้ารับระรัว ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยมาก การอธิบายบางอย่างให้ทุกคนฟังมันเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริง ๆ
“ท่านพ่อไม่ได้นอนกับท่านแม่หรือ? เขามานอนข้างนอกได้ยังไง? หรือท่านพ่อถูกไล่ออกมา?” สาวน้อยพูดพร้อมกับใบหน้าที่หดหู่ลง
“ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ท่านพ่อชอบทำหน้าตาบูดบึ้ง คงมีน้อยคนนักที่จะยอมนอนกับเขา” หลงจงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฮัดชิ้ว...”
ทางด้านหลงโม่ที่กำลังหลับอยู่บนต้นไม้จู่ ๆ ก็จามออกมา
“ท่านพ่อคงทำให้ท่านแม่โกรธอีกแล้วแน่ ๆ เลย!” หลงหลิงเอ๋อเม้มริมฝีปาก พองแก้มด้วยความโกรธ
แม้ว่าเจ้าเด็กน้อยเหล่านี้จะยังเล็ก แต่พวกเขาก็รู้ว่าภูตที่เป็นคู่กันแล้วก็ต้องนอนด้วยกัน
หลงเซียวที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นทันทีว่า “บางทีท่านแม่อาจไม่รู้ว่าท่านพ่อกำลังนอนหลับอยู่ข้างนอก และคิดว่าท่านพ่อกำลังนอนกับเราหรือเปล่า?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากพี่ชายคนรอง เด็กที่เหลือก็ตกตะลึง
ใช่แล้ว!
วันนั้นพ่อมังกรยังอยากนอนกับพวกตน เป็นไปได้ไหมว่าท่านพ่อไม่เคยนอนกับท่านแม่เลยสักคืน?
“แล้วเราควรทำยังไงดี?” หลงหลิงเอ๋อถามด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“ข้ามีวิธีแก้ปัญหา” คนเป็นพี่ใหญ่พูดขึ้น
จากนั้นเด็กน้อยทั้ง 5 คนก็สุมหัวเพื่อกระซิบพูดคุยกันกลางดึก
…
วันถัดมา
เด็กตระกูลหลง 5 คนฉวยโอกาสตอนที่หูเจียวเจียวกับหลงโม่ออกไปนอกบ้าน โดยที่พวกเขาแอบเอาขวานออกจากบ้านไปสับกิ่งไม้บนต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้บ้าน
เวลาผ่านไปสักพัก หลงหลิงเอ๋อก็ถามขึ้นมาเพราะรู้สึกไม่แน่ใจ “พี่ใหญ่ วิธีนี้จะได้ผลหรือเปล่า?”
“แน่นอน ข้ามั่นใจ หลังจากตัดกิ่งไม้ใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว ท่านพ่อก็จะไม่มีที่ซุกหัวนอนอีก เพราะฉะนั้นเขาจะทำได้แค่กลับไปนอนกับท่านแม่” หลงอวี้ตอบเสียงเคร่งขรึม
ส่วนหลงเหยาที่นอนอยู่บนหัวของพี่สาวกะพริบตาที่แสดงถึงความสับสน
“หือ~”
เสี่ยวเหยารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกตินิดหน่อย...
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าไม่ลองก็คงไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่” หลงจงขัดจังหวะการสนทนาของ 2 พี่น้องอย่างกระวนกระวายใจ
ไม่นานเด็กที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะขนกิ่งไม้ทั้งหมดบนพื้นออกจาก ‘สถานที่เกิดเหตุ’ เพื่อให้บริเวณโดยรอบกลับมาสะอาดดังเดิม
วันนี้หูเจียวเจียวไปตรวจสอบการเจริญเติบโตของต้นมันฝรั่ง และเมื่อเธอกลับมา เธอก็ต้องตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า
ทำไมต้นไม้ใกล้บ้านของเธอถึงโล่งเตียนไปหมด?
ปกติหญิงสาวจะเห็นต้นไม้ใหญ่หลาย 10 ต้นอยู่นอกลานบ้าน ทว่าตอนนี้พวกมันได้กลายเป็นต้นไม้แขนขาดไปแล้ว ยกเว้นกิ่งบนสุดที่ยังมีใบไม้สีเขียวอยู่ ส่วนนอกนั้นถูกตัดทิ้งทั้งหมด
“ใครกันที่ใจร้ายถึงขนาดตัดต้นไม้แบบนี้...”
หูเจียวเจียวบ่นพึมพำพลางเดินกลับบ้านโดยคิดว่าภูตบางคนในเผ่าคงไม่พอใจเธอจึงทำแบบนี้เพื่อแก้แค้น
เพราะท้ายที่สุด ด้วยนิสัยของยัยคนเก่า ถือว่าบุญแค่ไหนแล้วเมื่อยามที่เธอเดินไปมาในเผ่าแล้วไม่โดนใครสักคนปาอึใส่หน้า
ทันทีที่จิ้งจอกสาวเข้าไปในลานบ้าน เธอก็เห็นลูกน้อย 5 คนกำลังตั้งอกตั้งใจตัดฟืนอยู่
เนื่องจากกิ่งไม้สดที่ยังปกคลุมไปด้วยใบไม้สีเขียวทำให้เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง...
“เด็ก ๆ พวกเจ้าตัดต้นไม้ข้างนอกหรือเปล่า?” หูเจียวเจียวตัดสินใจถามเสียงเบาด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ
เมื่อหลงหลิงเอ๋อมองย้อนกลับไป นางก็เห็นว่าแม่จิ้งจอกกลับมาแล้ว นางจึงวางไม้ในมือลงทันทีและวิ่งไปกอดต้นขาของผู้เป็นแม่
“ท่านแม่ ท่านแม่กลับมาแล้ว! พี่ใหญ่บอกว่าไม่มีฟืนให้เผา เราก็เลยไปตัดต้นไม้กัน ตอนนี้เรามีฟืนให้เผาแล้ว!”
“ท่านแม่โกรธหรือ?” สาวน้อยเอ่ยถาม
เจ้าตัวเล็กพวกนี้มีเจตนาดี พวกเขากระตือรือร้นที่จะช่วยงานหญิงสาว หากเธอตำหนิอีกฝ่ายในเวลานี้ มันจะบั่นทอนจิตใจของเด็กน้อยทั้ง 5 จนรู้สึกไม่มั่นใจ
ถัดมา หูเจียวเจียวลูบหัวของลูกสาวอย่างอ่อนโยน “แม่จะโกรธได้ยังไง ลูกของแม่เก่งมาก พวกเจ้าตัดฟืนได้มากมาย พวกเจ้าช่วยแม่ได้มากจริง ๆ”
หลงหลิงเอ๋อยิ้มหวานรับคำพูดของคนเป็นแม่พลางลูบมือเธอ ก่อนจะวิ่งกลับไปตั้งไม้ให้พวกพี่ ๆ ผ่าต่อ
…
ตกกลางคืน
หลงโม่กำลังจะขึ้นไปนอนบนต้นไม้ แต่เมื่อเขาเดินไปที่ใต้ต้นไม้ เขาก็พบว่ากิ่งก้านทั้งหมดของมันถูกตัดออกไปแล้ว
พอชายหนุ่มจะเดินไปอีกต้น สภาพของมันก็เป็นเหมือนกับต้นก่อน
“...”
หลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดมังกรหนุ่มก็เลือกที่จะนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้
ทางด้านเด็ก 5 คนที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูในบ้านไม้กำลังโผล่หัวออกไปสังเกตการณ์ข้างนอก เมื่อทุกคนเห็นภาพของพ่อมังกรก็เกิดความโกลาหลขึ้น
“วิธีของพี่ใหญ่ไม่ได้ผลเลย!” หลงหลิงเอ๋อโวยวาย
“ท่านพ่อไม่ไปนอนกับท่านแม่ เราทำแบบนี้ไปมันก็ไร้ประโยชน์” หลงจงบ่นอุบอิบ
เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ทำไมพี่สามไม่ไปคุยกับท่านแม่ล่ะ!”
พ่อมังกรของพวกนางนี่ใช้ไม่ได้เลย เขาไม่รู้จักเข้าหาแม่จิ้งจอกก่อน
ในขณะที่หลงเซียวส่ายหัว “ไม่ ถ้านางเข้าใจท่านพ่อผิดและคิดว่าท่านพ่อไม่อยากเข้าไปนอนด้วยล่ะ นางจะยิ่งโกรธมากขึ้น”
“นี่พวกเราเข้าใจผิดไปเองหรือ… ที่จริงแล้วท่านพ่อไม่อยากเข้าไปนอนกับท่านแม่เอง” หลงหลิงเอ๋อพึมพำเสียงเบา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของพี่ชายคนรอง
ยามนี้เด็กทั้ง 4 มองไปที่สาวน้อยพร้อมกันและคิดว่า
เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?
แล้วเด็กตระกูลหลงก็พากันทำหน้าเศร้าหมองก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน แต่คืนนี้ไม่มีใครนอนหลับสนิทเลยสักคน
เพราะเด็ก ๆ รู้สึกเป็นห่วงท่านพ่อ
…
ในอีกไม่กี่วันต่อมา
วัสดุที่จำเป็นในการสร้างบ้านหินทั้งหมดถูกส่งกลับมาครบแล้ว นอกจากนี้ภูตทั้ง 10 คนที่หัวหน้าเผ่าเป็นคนคัดเลือกให้มาช่วยงานก็มาที่บ้านของหูเจียวเจียวในตอนเช้าตรู่
ทุกคนพร้อมที่จะเริ่มสร้างบ้านหินกันแล้ว
ในบรรดาภูตทั้ง 10 คน ยกเว้นโหวเสี่ยวเตียวที่หูเจียวเจียวคุ้นเคย เธอไม่รู้จักคนอื่น ๆ เลย
แต่จิ้งจอกสาวมักจะเห็นภูตเหล่านี้อยู่ข้างกายท่านผู้เฒ่า และพวกเขาต้องเป็นภูตที่ผู้นำสูงสุดไว้วางใจ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกโล่งใจมากเช่นกัน
หลังจากทำความรู้จักกันสั้น ๆ หูเจียวเจียวก็เริ่มอธิบายงานให้ทุกคนฟัง
ใกล้ ๆ บ้านของหญิงสาวมีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เธอวางแผนที่จะสร้างบ้านหินถัดจากบ้านตัวเอง พอวางแผนขนาดของบ้านหินกับกลุ่มภูตเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็เริ่มวางรากฐาน
เป็นเพราะหัวหน้าเผ่าได้เลือกช่างสร้างบ้านที่มีฝีมือดีในเผ่ามาทั้งหมด พวกเขาจึงมีพละกำลัง ว่องไว และไม่เกียจคร้าน
ภูตเหล่านี้ทำตามที่จิ้งจอกสาวบอกทุกอย่าง ทำให้ความคืบหน้าของงานราบรื่นกว่าที่เธอคิดไว้มาก
เนื่องจากหลงโม่ต้องออกไปล่าสัตว์เพื่อกักตุนอาหาร เขาจึงออกไปล่าสัตว์ในตอนเช้าก่อนจะกลับมาในตอนบ่ายเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มสร้างบ้าน
หูเจียวเจียวไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือไม่ แต่เธอรู้สึกว่าความก้าวหน้าหลังจากที่มังกรหนุ่มมาช่วยงานมันรวดเร็วขึ้น
โดยทั่วไปจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ในทำฐานรากสำหรับบ้านชั้น 1 เพราะหญิงสาววางแผนที่จะสร้างบ้าน 2 ชั้น แต่ภูตนั้นมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง พวกเขาสามารถทำงาน 1 สัปดาห์ของมนุษย์ให้เสร็จได้ภายใน 2 วัน
แต่หลังจากที่หลงโม่กลับมาจากการล่าสัตว์ เขาก็กลายร่างเป็นมังกรดำแล้วใช้ร่างนั้นทำงาน เขาตอกเสาไม้ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เวลาผ่านไป 1 วัน ภาระงานตามแผนสำหรับ 4 วันก็เสร็จสิ้นไป 1 ใน 3 ส่วนแล้ว
เมื่อภูตทั้ง 10 รวมถึงโหวเสี่ยวเตียวเห็นการเคลื่อนไหวของมังกรตัวยักษ์ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
นั่นมัน…เกินไปไหม?
ไม่ใช่ว่าการสร้างบ้านหินนั้นทำได้ยากหรอกหรือ?
เหล่าภูตชายอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่า
ใครบอกว่าหลงโม่เป็นคนไร้ประโยชน์กัน? หากหลงโม่เป็นคนไร้ประโยชน์ พวกเราไม่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าหรือ?
ในเวลาเดียวกัน เมื่อภูตหลายคนในเผ่ารู้ว่าหูเจียวเจียวกำลังสร้างบ้านหินในวันนี้ พวกเขาก็มาดูด้วยความสงสัยปนตื่นเต้น
ลู่เมี่ยนเอ๋อกับหู่จิงก็มาดูว่าพวกตนสามารถช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่
แต่ทั้งคู่ไม่คาดคิดว่าจะมีภูตมารวมตัวกันที่นี่เยอะมาก พวกนาง 2 คนต้องใช้เวลานานกว่าจะตามหาหูเจียวเจียวจากฝูงชนเจอ
กวางสาวกำลังจะเดินไปหาจิ้งจอกสาว แต่นางสังเกตเห็นว่าสหายคนสนิทของตนยังคงมองไปรอบ ๆ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“หู่จิง เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่? เรากำลังตามหาเจียวเจียวไม่ใช่หรือ เจียวเจียวไม่ได้อยู่ทางนั้น...”
เมื่อเสือสาวได้ยินเสียงเรียกของเพื่อน นางก็รีบละสายตาออกจากตรงนั้น แล้วมองไปทางหูเจียวเจียวที่อยู่ไม่ไกลอย่างรู้สึกผิด “เปล่า ข้าไม่ได้มองอะไร...”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ขำแผนของพี่ใหญ่มาก 5555 เอ็นดูเจ้าพวกเด็กน้อย พยายามเป็นสะพานสื่อรักให้พ่อแม่