ตอนที่ 155: พลังที่ซ่อนอยู่!
ตอนที่ 155: พลังที่ซ่อนอยู่!
ปฎิเสธไม่ได้ว่าในช่วงเวลาปกติเซี่ยเฟยเป็นคนใจเย็นที่ชอบคิดวิเคราะห์และลงมือในช่วงเวลาที่ศัตรูอ่อนแอ
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีอารมณ์
ตราบใดก็ตามที่เขายังหนุ่มยังแน่นมันก็จะต้องมีสักวันที่เขารู้สึกโกรธ เพราะท้ายที่สุดเลือดภายในกายของเขามันก็กำลังเดือดพล่าน!
เช่นเดียวกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เซี่ยเฟยได้ทำการปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างสุดเหวี่ยงแล้วเขาจึงไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรใครทั้งนั้น
เขาจะต้องผ่านที่นี่ไปให้ได้!
“หากใครขวางทางตาย!!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงคำรามพร้อมกับถือเซเลสเชียลมูนไว้ในมือ
ในเวลาเดียวกันจิตสังหารอันเยือกเย็นก็แผ่กระจายไปทั่วทุกที่ โดยภายในจิตสังหารนั้นให้ความรู้สึกถึงความดุร้ายอยู่เล็กน้อย
“จิตสังหารดุร้ายมาก! ฉันยอมปล่อยนายไปไม่ได้!!” บอดี้การ์ดหัวโล้นพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ถุย!
ทันใดนั้นเขาก็เริ่มทำการพ่นลมออกจากปาก ซึ่งหลังจากที่อากาศถูกบีบอัดมันก็พุ่งตรงออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่
แม้ว่ากระสุนอากาศนี้จะมองไม่เห็น แต่เซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ถึงออร่าอันเยือกเย็นที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาได้อย่างชัดเจน
“หายไปซะ!” เซี่ยเฟยตะโกนด้วยดวงตาที่เปลี่ยนกลายเป็นสีแดง ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้คิดที่จะหลบกระสุนลมที่พุ่งเข้ามาเลย แต่เขาเลือกที่จะใช้เซเลสเชียลมูนฟาดลงมาแยกกระสุนอากาศให้ขาดออกเป็นสองท่อน!
ตูม!
เมื่อแรงดันอากาศถูกคลายออก มันก็ก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
ฟิ้ว!
สายลมกรรโชกแรงไปทั่วทุกพื้นที่ก่อให้เกิดความผันผวนของอากาศอย่างฉับพลัน บอดี้การ์ดที่เฝ้าชมอยู่ด้านหลังต้องเริ่มหลับตาลงทีละคนเนื่องมาจากทนแรงลมที่พุ่งเข้ามาปะทะกับดวงตาของพวกเขาไม่ได้
ไม่มีใครรู้ว่าเซี่ยเฟยสามารถพุ่งผ่านกระแสลมที่รุนแรงนี้ไปได้อย่างไร เพราะเมื่อพวกเขาลืมตากลับมาได้อีกครั้งเซเลสเชียลมูนก็กำลังฟาดฟันเข้าใส่หัวหน้าบอดี้การ์ดของพวกเขาแล้ว
ขวับ!
เสียงเซเลสเชียลมูนเคลื่อนที่ผ่านอากาศส่งเสียงคำรามออกมาอย่างรุนแรง
“แย่แล้ว!” บอดี้การ์ดหัวโล้นไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยเฟยจะใช้วิธีการต่อสู้แบบนี้ ถึงขนาดยอมแลกทุกอย่างเพื่อทำการโจมตีโต้กลับ
ปัจจุบันเซเลสเชียลมูนได้เปลี่ยนรูปแบบในการโจมตีเป็นรูปแบบที่มีพลังทำลายสูงที่สุดแล้วและมันก็เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถที่จะรับมือได้ ดังนั้นบอดี้การ์ดหัวโล้นจึงได้ใช้เท้าถีบพื้นอย่างรุนแรงเพื่อที่จะพยายามถอยหนีไป
ในวินาทีเดียวกันกับที่ร่างบอดี้การ์ดหัวโล้นถีบตัวออกไป เซเลสเชียลมูนก็ฟาดเข้าใส่พื้นที่ตรงบริเวณที่เขาเคยยืนอยู่
ตูม!
เซเลสเชียลมูนเฉียดผ่านร่างของเขาไปแค่ไม่ไกลและทุบลงไปกับพื้นด้วยความรุนแรง
ใช่แล้วเซเลสเชียลมูนทุบลงไปบนพื้น!
ทุบลงไปเหมือนกับค้อนขนาดใหญ่!!
แม้ว่าบอดี้การ์ดหัวโล้นจะสามารถหลบรอดจากเซเลสเชียลมูนไปได้ แต่แรงกระแทกก็ก่อให้เกิดเศษหินกระเด็นออกไปในทุกทิศทางและทำให้ตรงจุดปะทะกลายเป็นหลุมลึกถึง 1 เมตร!
แรงกระแทกที่ตามมาทำให้บอดี้การ์ดหัวโล้นรีบถอยหลังอย่างตื่นตระหนกจนทำให้เขาสูญเสียการทรงตัวและกำลังจะล้มลงกับพื้น
แต่ทันใดนั้นเองเขาก็เหยียดมือข้างหนึ่งออกไปยันกับพื้นพร้อมกับพลิกลำตัวให้กลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง
เศษหินที่พุ่งออกมาจากจุดปะทะทำให้ชุดสูทสีดำของเขาฉีกขาดไปทั่วทั้งตัวเผยให้เห็นเนื้อสีขาวที่ซ่อนอยู่ด้านในและคราบเลือดสีแดงที่กำลังไหลออกมาด้านนอก
“อันตรายมาก!” ชายหัวโล้นใช้มือปาดเหงื่อพึมพำออกมาด้วยความหวาดกลัว
การโจมตีของเซี่ยเฟยเกินกว่าขีดความสามารถของเขาแล้ว หากเขายังคงเลือกที่จะทำการต่อสู้ต่อไปผลที่ตามมาก็อาจจะเป็นหายนะ
“พี่ชิง พี่ยังโอเคไหม?”
บอดี้การ์ดรอบข้างเริ่มถามด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว พี่ชิงคือคนที่พวกเขารู้สึกชื่นชมมากที่สุดและการที่บอดี้การ์ดคนนี้ได้รับบาดเจ็บ มันจึงทำให้พวกเขาทั้งรู้สึกตกใจและรู้สึกกลัว
ชายหนุ่มคนนี้สามารถทำร้ายพี่ชิงของพวกเขาได้จริง ๆ หรอ?!
เมื่อฝุ่นควันได้จางหายไปพวกบอดี้การ์ดก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น เพราะมันเริ่มเผยให้เห็นร่างของเซี่ยเฟยที่อยู่ท่ามกลางฝุ่นควัน
เนื่องจากว่าในปัจจุบันเซี่ยเฟยไม่ได้สวมใส่ชุดต่อสู้เอาไว้ ชุดกีฬาตัวเก่งของเขาจึงมีสภาพรุ่งริ่งไม่ต่างไปจากผ้าขี้ริ้ว และทำให้ในตอนนี้เขาหลงเหลืออยู่แค่กางเกงขาสั้นที่ยืนเปลือยกายท่อนบนอยู่กลางแดด
กางเกงขาสั้นและรองเท้าที่เขาสวมใส่อยู่เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนของชุดต่อสู้วินด์ชาโดว์ ซึ่งนอกเหนือจากเสื้อผ้าทั้งสองชิ้นนี้แล้วเสื้อผ้าส่วนที่เหลือบนลำตัวของเขาต่างก็ถูกฉีกขาดออกไปทั้งหมด
ทันใดนั้นบอดี้การ์ดหัวโล้นก็มองเห็นรอยแผลเป็นสีแดงเข้มบนร่างกายของเซี่ยเฟย โดยรอยแผลเป็นพวกนี้เป็นรอยแผลเป็นที่หนาทึบทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เมื่อประกอบกับผมหงอกที่ดูด้านนอกเป็นสีเทาและจิตสังหารที่เขาได้ปลดปล่อยออกมา มันจึงทำให้ชายหนุ่มคนนี้ดูไม่ต่างไปจากปีศาจที่เพิ่งคลานขึ้นมาจากนรก!!
“เขาอายุแค่ไม่ถึง 20 ปี แล้วเขาจะผ่านการต่อสู้มาอย่างมากมายขนาดนี้ได้ยังไง!” บอดี้การ์ดหัวโล้นพึมพำกับตัวเอง
เมื่อพิจารณาจากร่างกายของเซี่ยเฟยแล้วไม่เพียงแต่ชายหนุ่มคนนี้จะมีรอยแผลเป็นตามร่างกายมากกว่าตัวเขาเท่านั้น แต่จิตสังหารที่ชายหนุ่มได้ปล่อยออกมาก็มีความรุนแรงมากกว่าตัวเขาเช่นเดียวกัน!
ร่องรอยแผลเป็นอาจจะสามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้ แต่จิตสังหารที่เซี่ยเฟยปล่อยออกมาทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
เขาเป็นถึงผู้ใช้พลังแอเรียลเอชระดับลีเจนด์ขั้นกลาง แต่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเฟยที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี ซึ่งการพ่ายแพ้แบบนี้ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการต่อสู้, ความรุนแรงของจิตสังหารหรือแม้กระทั่งประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่ด้อยกว่าเซี่ยเฟยทั้งหมด
เซี่ยเฟยมีอายุไม่ถึง 20 ปีเท่านั้น แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับผ่านพ้นประสบการณ์นองเลือดมาอย่างมากมายทำให้บอดี้การ์ดหัวโล้นเริ่มสงสัยว่าเซี่ยเฟยยังเป็นมนุษย์อยู่จริง ๆ หรือเปล่า
ฟุบ!
ทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็กระโดดออกไปจากสนามรบมุ่งหน้าไปทางภูเขาโดยไม่สนใจจะทำการต่อสู้อีกต่อไป
จุดประสงค์ของเซี่ยเฟยเรียบง่ายมากคือเขาต้องการได้เห็นหน้าแอวริลสักครั้ง และถ้าหากว่าใครเข้ามาขวางทางเขาในเวลานี้คนพวกนั้นก็จะถูกโจมตีอย่างไร้ความปราณี
ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์เพื่อถามแอวริลกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อบอดี้การ์ดหัวโล้นเห็นชายหนุ่มวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ เขาก็รีบไล่ตามด้วยความรวดเร็วแต่น่าเสียดายที่ความเร็วของเขาไม่สามารถจะติดตามความเร็วของเซี่ยเฟยได้
ถุย! ถุย! ถุย!
กระสุนลมถูกยิงออกไปตามหลังเซี่ยเฟยทีละนัด ๆ แต่ชายหนุ่มก็อาศัยเทคนิคเล่ห์กายาในการหลบการโจมตีโดยไม่หันหลังกลับมามอง
ตรงบริเวณไหล่เขามีอาคารโบราณขนาดใหญ่และมีลานกว้างเพื่อให้ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามโดยรอบได้ตามต้องการ
ทันทีที่เซี่ยเฟยได้ก้าวเท้าเข้าไปในเขตของอาคาร เขาก็รู้สึกราวกับได้ปะทะเข้าใส่กำแพงที่มองไม่เห็น
“หายไปซะ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับจู่โจมเข้าใส่กำแพงที่มองไม่เห็นด้วยกำลังทั้งหมด
ร่างของเซี่ยเฟยรู้สึกแน่นราวกับว่าเขาเป็นสปริงที่กำลังพุ่งเข้าใส่กำแพง ซึ่งถ้าหากว่าเขายอมแพ้เขาก็จะถูกผลักออกไปด้านหลัง
ยอมแพ้?
ความคิดนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวของชายหนุ่มเลย เพราะแอวริลอยู่ห่างจากเขาออกไปเพียงแค่ไม่ไกลแล้วทำไมเขาจะต้องมายอมแพ้ในตอนนี้ด้วย!
อากาศบริเวณโดยรอบเริ่มบิดเบี้ยวและกำแพงที่มองไม่เห็นนี้ก็กำลังถูกเซี่ยเฟยพุ่งเข้าชนจนเริ่มไม่เสถียร
ในเวลาเดียวกันบอดี้การ์ดหัวโล้นก็ตามมาจากด้านหลังพร้อมกับทำการพ่นกระสุน 3 นัดออกมาจากปาก
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เซี่ยเฟยกัดฟันพร้อมกับขยับไปด้านข้างเพื่อหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
ตูม! ตูม! ตูม!
กระสุนลมทั้งสามนัดพุ่งเข้าชนกำแพงที่มองไม่เห็นและก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว!
ขณะเดียวกันแรงระเบิดก็ก่อให้เกิดคลื่นกระเพื่อมไปทั่วทั้งกำแพง
“ตอนนี้แหละ!” เซี่ยเฟยยื่นมือขวาที่มีเซเลสเชียลมูนออกไปดันเข้าใส่กำแพงสุดแรง
พริบตาต่อมาแรงกระแทกอันรุนแรงก็ปะทุขึ้นจากขาทั้งสองข้างของเซี่ยเฟยจนทำให้บันไดหินปูนใต้เท้าของเขาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
เพล้ง!
แรงระเบิดของกระสุนลมทำให้กำแพงเกิดความไม่เสถียร เมื่อรวมกับเซี่ยเฟยที่ออกแรงผลักเข้าใส่กำแพงสุดกำลังทำให้ในที่สุดกำแพงที่ขวางกั้นก็แตกออก!
ร่างของเซี่ยเฟยถลาไปข้างหน้าอย่างเสียการทรงตัว แต่เขาก็ม้วนตัวไปกับพื้นก่อนที่จะลุกขึ้นมาวิ่งขึ้นไปยังยอดเขาใหม่อีกครั้ง
ปัก!
แต่หลังจากที่ชายหนุ่มเคลื่อนที่ไปได้ไม่ไกลเขาก็ปะทะเข้าใส่กำแพงที่มองไม่เห็นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้กำแพงที่มองไม่เห็นไม่ได้เป็นกำแพงในแนวราบอีกต่อไป แต่มันเป็นเหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยมที่ขังเขาเอาไว้ตรงกลาง
เซี่ยเฟยกำลังพยายามทำลายกำแพงด้วยความโกรธอีกครั้ง แต่เขาก็ได้ยินเสียงของชายชราดังขึ้นมาจากระยะไกล
“คุณคือเซี่ยเฟยใช่ไหม?” ชายชราในชุดสูทสีดำลอยลงมาจากภูเขาพร้อมกับเสียง
ชายชราคนนี้ดูเหมือนมีอายุประมาณ 70 ปี เขาสวมชุดสูทสีดำเช่นเดียวกับบอดี้การ์ดของคฤหาสน์คนอื่น ๆ เว้นแต่ว่าหูกระต่ายที่ผูกอยู่ตรงบริเวณลำคอของชายชราคนนี้เป็นสีแดง และเขาก็สวมถุงมือสีขาว, โกนหนวดโกนเคราอย่างเกลี้ยงเกลาพร้อมหวีสีเทาที่ประดับอยู่บนศีรษะอย่างพิถีพิถัน
“ใช่ผมคือเซี่ยเฟย คุณรู้จักกับผมงั้นหรอ?” เซี่ยเฟยจับจ้องมองไปยังชายชราพร้อมกับพาดเซเลสเชียลมูนที่มีความยาวเกือบ 3 เมตรเอาไว้บนบ่า
“ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก” ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลอยไปหยุดอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยประมาณ 20 เมตร
“คุณกำลังหมายความว่ายังไง?” เซี่ยเฟยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“คุณหนูของเรารู้จักกับคุณ ส่วนผมก็เป็นพ่อบ้านของเธอ ดังนั้นผมจึงรู้จักคุณผ่านทางเธอเป็นเรื่องธรรมดา” ชายชราพูดอย่างใจเย็น
“หรือว่าคุณคือพ่อบ้านผาง?”
“ใช่แล้วผมชื่อผางไห่ ตระกูลผางของพวกเราทำหน้าที่เป็นคนดูแลตระกูลเจี่ยนมาเป็นเวลากว่า 70 ชั่วอายุคนแล้ว” ผางไห่กล่าว
“ผมอยากเจอแอวริล” เซี่ยเฟยพูดออกไปตรง ๆ โดยไม่สนใจประวัติของตระกูลผางเลย
“ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณคิด แต่ตอนนี้คุณพบกับคุณหนูไม่ได้” ผางไห่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“ทำไม?”
“เพื่อตัวคุณเอง”
คำตอบของชายชราทำให้เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็พูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเย้ยหยันว่า
“อะไรจะดีกับผมหรือไม่ดี ผมขอเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องมากังวล”
ในเวลานี้กลุ่มบอดี้การ์ดที่ตามมาจากด้านหลังวิ่งมาทันแล้วและเมื่อพวกเขาเห็นผางไห่ พวกเขาก็โค้งคำนับด้วยความเคารพโดยเฉพาะบอดี้การ์ดหัวโล้นที่ร้องอุทานออกมาว่า
“พ่อ!”
ผางไห่พยักหน้าให้ทุกคนเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมองไปทางผางชิงที่มีเนื้อตัวที่สะบักสะบอม
“ชิงเอ๋อร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวพ่อจัดการเรื่องนี้เอง ทุกคนก็ถอยออกไปด้วย”
ผางชิงและบอดี้การ์ดทุกคนพยักหน้ารับก่อนที่จะเคลื่อนที่กลับด้วยความอัปยศ
“ที่แท้ลุงคนนี้ก็เป็นพ่อกับบอดี้การ์ดหัวโล้นคนนั้น ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพลังพิเศษของพวกเขาถึงเกี่ยวข้องกับอากาศเหมือนกัน แต่แอเรียลวอร์ของชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าแอเรียลเอชของลูกชายเขามาก นายระวังตัวเอาไว้ด้วย” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยไม่ได้สนใจจะเรียนรู้เรื่องพวกนี้เลย เพราะในตอนนี้ความคิดเดียวของเขาคือรีบไปที่ยอดเขาเพื่อพบกับแอวริล
“ลูกชายของคุณหยุดผมไม่ได้และคุณก็หยุดผมไม่ได้ด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าว
“ผมจะรู้ได้ยังไง ถ้าผมยังไม่ได้ลอง” ผางไห่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้ม
จากนั้นเซี่ยเฟยก็ใช้นิ้วกดลงไปบนกลไกของเซเลสเชียลมูนทำให้ใบมีดกลม ๆ ทั้ง 18 ใบของมันแตกแยกออกจากกันทันที!
พริบตาต่อมาใบมีดเหล่านี้ก็เริ่มหมุนในอากาศอย่างรวดเร็วและบินพุ่งตรงไปข้างหน้าราวกับพวกมันถูกควบคุมโดยพลังจิต!!
“ที่แท้นอกจากคุณจะมีพลังความเร็วแล้วคุณยังมีพลังจิตด้วย!!” ผางไห่อุทานอย่างหน้าซีดด้วยความตกใจ
***************
นี่สินะไพ่ลับของพี่เฟย! มีใครเดาออกบ้าง?