971 - ออกเดินทางอีกครั้ง
971 - ออกเดินทางอีกครั้ง
“แท่นบูชานี้ถูกสร้างขึ้นแล้ว แต่เหล่าทวยเทพไม่สามารถกลับสู่สถานที่ที่เขาจากมาได้อีกต่อไป ตอนนี้ชีวิตของเขาต่ำต้อยยิ่งกว่าภูตผี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพียงเพราะสัญชาตญาณของตัวเองสั่งการเท่านั้น”
เมื่อยืนอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน ในที่สุดเย่ฟ่านก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด และเขาก็ค้นพบความลับที่น่าอัศจรรย์จากเสียงโบราณต่างๆ เทพคนนี้มาจากทุ่งดาวโบราณจื่อเว่ย(ดาวจระเข้หรือดาวหมีใหญ่)
“ในตำนานและตำนานของจีนโบราณดาวจื่อเว่ยเป็นดาวจักรพรรดิ เป็นที่รู้จักในฐานะเทพสงครามที่แข็งแกร่งที่สุด”
เย่ฟ่านครุ่นคิด
มีบันทึกไว้ในลัทธิเต๋า ราชาแห่งจื่อเว่ยเป็นผู้ควบคุมของสวรรค์พิภพและเป็นผู้นำของเทพดวงดาวแห่งสามอาณาจักร เขาคือจักรพรรดิโบราณอย่างแท้จริง
เย่ฟ่านยืนอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดก็ไม่พบสิ่งอื่น จากนั้นเขาจะเดินทางไปทั่วดวงดาวเพื่อค้นหาซากศพของเทพโบราณคนนี้
ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ใหญ่มาก และมีขนาดเล็กกว่าโลกที่เป็นบ้านเกิดของเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับโลกอำพรางสวรรค์ ขนาดของมันยังค่อนข้างเล็กอยู่บ้าง
เย่ฟ่านใช้เวลาไม่นานในการสำรวจให้ทั่ว แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เคยพบศพของเทพเจ้า สุดท้ายเขาก็กลับมาหาวิญญาณของชายชราที่หมกมุ่นอยู่กับการสร้างแท่นบูชาอีกครั้ง
เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนบนดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ และเกือบทำให้ทั้งแผ่นดินกลับหัวกลับหาง แต่ก็ไม่มีทางค้นพบซากศพของเทพโบราณได้เลย
“เขาอาจจะไม่ใช่เทพโบราณ อาจเป็นวิญญาณเทพที่มาจากจักรพรรดิคนใดคนหนึ่ง” เย่ฟ่านถอนหายใจเบาๆ
บางที เช่นเดียวกับจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า เขาฝังตัวเองในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ขอบเขต สุดท้ายวิญญาณเทพของเขาได้ล่องลอยเข้ามาอยู่ในโลกใบนี้โดยไม่ตั้งใจ
เย่ฟ่านกลับไปที่ศพมังกรและโลงทองแดงเพื่อสังเกตร่องรอยอุ้งเท้าที่เขามองเห็นในตอนแรก และมั่นใจว่านี่จะต้องเป็นรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้าจะติดอยู่บนดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ตลอดไปหรือไม่?” เขาพึมพำกับตัวเอง
ในอีกหกเดือนข้างหน้า เขาไปต่อสู้กับราชาต้นไม้โบราณทุกวันเพื่อหาผลึกเทพชนิดนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อสร้างแท่นบูชาห้าสี แต่เพื่อฝึกฝนและฝึกฝนอย่างหนัก
ดาวโบราณดวงนี้มีความพิเศษมาก โดยธรรมชาติแล้วเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของห้าธาตุ และอาจเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการสร้างแท่นบูชาห้าสี
ทุกๆ วัน เขาจะใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่อสังเกตดูชายชราซ่อมแท่นบูชาห้าสี ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้แท่นบูชานี้เดินทางเข้าสู่จักรวาลอันมืดมิดอีกครั้ง!
เนื่องจากดาวโบราณดวงนี้แปลกประหลาดเกินไป มันไม่มีทางที่เขาจะอาศัยอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป
ในที่สุดเย่ฟ่านก็ตัดสินใจละทิ้งศพมังกรทั้งเก้าและโลงศพทองแดง เพราะในขณะนี้ไม่ว่าเขาจะออกแรงมากเพียงใดก็ไม่สามารถทำให้โลงศพทองแดงขยับได้
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าสู่ทุ่งรวมดาวโบราณจื่อเว่ยเนื่องจากโลกใบนี้ไม่มีทางออกเดิน
แท่นบูชาห้าสีใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ เพราะวิญญาณเทพดูเหมือนจะสร้างแท่นบูชานี้มาหลายแสนปีแล้ว
แต่เมื่อเย่ฟ่านปรากฏตัวขึ้นมาแท่นบูชาก็แทบจะถูกสร้างเสร็จแล้ว มันเป็นความบังเอิญที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง?
เย่ฟ่านเฝ้าดูที่นี่มาครึ่งปีแล้วและเขาได้ค้นพบความลับบางอย่างเขาได้ฉีดพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในนั้นและแท่นบูชาห้าสีก็ส่องสว่างขึ้นมาทันที
เย่ฟ่านก้าวขึ้นไปยืนตรงกลางแท่นบูชาโดยไม่ลังเล ประตูเล็กๆ ปรากฏขึ้นพร้อมกับอักขระสีทองที่กระจายไปทั่วความว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าแท่นบูชานี้กำลังจะพาเขาออกจากโลกโบราณแล้ว
ทันใดนั้นชายชราก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ดวงตาของเขาเบิกตากว้างและยิงลำแสงสีม่วงขึ้นไปบนท้องฟ้าและทำให้โลกโบราณแห่งนี้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ชายชรายื่นมือใหญ่ออกมาและตะกุยเข้าไปในอากาศ จากนั้นโลงศพโบราณขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลาก็ถูกดึงออกมาจากใจกลางของดวงดาว
“ปัง!”
ดวงตาของเย่ฟ่านเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว อย่างไรก็ตามวิญญาณเทพคนนี้ไม่ได้สนใจเขาแต่นำโลงศพโบราณของตัวเองมาตั้งบนแท่นบูชาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ศพเทพ!”
ภายในโลงศพนี้ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้นอกจากซากศพของเทพ เย่ฟ่านค้นหาอยู่นานแต่ใครจะคิดว่ามันถูกซุกซ่อนอยู่ในใจกลางของดวงดาว!?
“ข้าต้องการไปที่ดาวโบราณจื่อเว่ยกับเขา?!”
เย่ฟ่านตัวสั่น นี่เป็นวิญญาณเทพ แม้ว่าความลุ่มหลงเดียวของฝ่ายตรงข้ามจะอยู่ที่การสร้างแท่นบูชาเพื่อออกจากที่นี่ แต่เย่ฟ่านก็ไม่รู้ว่าชายชราจะคุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไหร่
“ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่เพียงลำพังได้ ตายเป็นตาย”
เย่ฟ่านตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางหลบหนีออกจากแท่นบูชาอย่างแน่นอน!
ปัง!
ภายใต้เสียงระเบิดที่ดังคือกล้องแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เย่ฟ่าน ชายชราแขนเดียว รวมทั้งโลงศพโบราณได้ถูกดึงดูดเข้าสู่ประตูมิติทันที
“จงกลับไปยังบ้านเกิดของเจ้า เจ้าไม่สามารถฝังกระดูกในต่างแดนได้…”
ประโยคดังกล่าวยังคงดังกึกอก้องอยู่ในหูของเย่ฟ่าน
……..
ดินแดนบรรพชนตระกูลจี้
เป็นเวลาดึกอีกคืนหนึ่ง ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ จี้จื่อเยว่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และนั่งร้องไห้ตลอดทั้งคืน
หลายปีผ่านไปแล้ว นางไม่รู้ว่าโลงศพทองแดงไปถึงอีกฝั่งของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้วหรือยัง นางทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จ
….
ในถ้ำโบราณซึ่งเป็นที่ตั้งของรังหมื่นมังกรมีสิ่งมีชีวิตโบราณตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เขาหันไปมองผู้ติดตามของเขาและกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเขากำลังจะไปที่ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ย”
“หากเราเปิดแท่นบูชาที่จักรพรรดิโบราณทิ้งไว้ตอนนี้ เราอาจติดตามเขาท่านได้!”
“อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป!”
ภายในรังหมื่นมังกร ท่ามกลางถ้ำมังกรทั้งเก้า ราชาโบราณที่ทรงอำนาจมากมายเริ่มตื่นขึ้น พวกเขาโผล่ออกมาจากต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ก้อนใหญ่และส่งเสียงคำรามอยู่ตลอดเวลา
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อ่อนแอในตอนนั้นกลับแข็งแกร่งจนกลายเป็นผู้ปกครองโลกแล้ว น่าสนใจจริงๆ”
เสียงที่เย็นชาดังออกมาจากโลงศพสีแดงสดขนาดใหญ่
แต่ในขณะนั้นราชาโบราณผมทองซึ่งปรากฏตัวออกมาจากต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างเคียงก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า
“ในสมัยโบราณเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เคยอ่อนแออย่างที่เจ้ากล่าว คัมภีร์สุริยันจันทราทั้งสองเล่มล้วนเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพ ต่อให้เป็นบรรพชนของพวกเราเผ่าพันธุ์โบราณก็ไม่มีทางสร้างคัมภีร์แบบนี้ขึ้นมาได้”
“ใช่ เจ้ายังจำมนุษย์โบราณที่ฝึกคัมภีร์จันทราได้หรือไม่ เพียงเขาคนเดียวก็แทบจะทำลายเผ่าพันธุ์โบราณของพวกเราให้ดับสูญแล้ว”
“เอาพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันอ่อนแอมากเกินไป ขอเพียงพวกเราลงมือเราจะสามารถกวาดล้างเผ่าพันธุ์ของพวกมันออกไปจากโลกอำพรางสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย”
“อย่าทำอะไรโดยประมาท จักรพรรดิโบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ใช่ว่าจะตายจนหมดสิ้น หากมีใครลงมือต่อมนุษย์อย่างไร้ความปรานีคนเหล่านั้นจะปรากฏตัวออกมาอย่างแน่นอน”
กลุ่มคนเหล่านี้คือราชาโบราณของเผ่าพันธุ์โบราณที่มาชุมนุมกันเพื่อปรึกษาปัญหาสำคัญภายในรังหมื่นมังกร
ในสมัยโบราณ แท่นบูชาที่จักรพรรดิโบราณทิ้งไว้ถูกแบ่งออกเป็นเก้าชิ้น หนึ่งในนั้นอยู่ในรังหมื่นมังกร แล้วตอนนี้มันกำลังส่องแสงระยิบระยับซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแท่นบูชาแห่งอื่นกำลังเปิดใช้งาน
เห็นได้ชัดว่าแท่นบูชาห้าสีทุกแห่งภายในจักรวาลนี้ล้วนเชื่อมต่อกันด้วยวิธีการบางอย่าง
“จักรพรรดิมนุษย์ทรงพลังเกินไป ต่อให้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้”
สิ่งมีชีวิตโบราณไกล่าวด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ซ่อมแท่นบูชาและข้ามไปที่ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยจะดีกว่า บางทีเราอาจประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกก็ได้”
“มันจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากเกินไป ถ้าอยากให้พวกเจ้าทบทวนอีกครั้ง!”
มีการโต้เถียงดังขึ้นอย่างไม่รู้จบ ทั้งสองฝ่ายต่างยกเหตุผลออกมาสนับสนุนข้อเสนอของตัวเอง
“เช่นนั้นก็รอให้เขาเข้าสู่ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง”
เสียงที่เย็นชาภายในโลงศพสีแดงเลือดกล่าวสรุปก่อนที่ราชาโบราณหลายคนจะพยักหน้าเห็นด้วยทันที