(ฟรี) บทที่ 490 วันหยุดเล็กๆของเซินหนิง คำขอพิเศษของจีเชินหยวน!
‘ฝึกซ้อม?’
เหลิงอู่เหยียนจ้องมองหลี่หรานด้วยความอับอาย
‘ของแบบนี้มันซ้อมล่วงหน้าได้หรือไง?’
‘เจ้าศิษย์อกตัญญูคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา!’
หลี่หรานกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล ศิษย์คนนี้มีประสบการณ์มากมาย… อะแฮ่ม มีประสบการณ์อยู่บ้าง ข้าสามารถแนะนำท่านเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่สำคัญบางอย่างได้”
“แนะนำบ้านเจ้าสิ!” เหลิงอู่เหยียนไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไปและปิดปากเขา
แก้มของนางแดงก่ำและร้อนผ่าว นางกัดฟันและพูดว่า “ถ้ายังกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก ข้าจะสับเจ้าไปเป็นอาหารปลา!”
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล”
หลี่หรานจับมือเรียวยาวของนางและพูดด้วยรอยยิ้ม “ว่ากันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ จะเป็นยอดครูได้อย่างไรถ้าไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ?”
“……”
ดวงตาของเหลิงอู่เหยียนสั่นไหวเล็กน้อย “สิ่งใหม่ๆอะไร? เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว!”
นางพ่ายแพ้ให้กับผิวหนาของหลี่หรานอย่างสิ้นเชิง
หลี่หรานถูมือเข้าด้วยกันพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “ท่านอาจารย์ ศิษย์คนนี้จะไม่สุภาพ…”
ขณะพูดเช่นนั้นเขาก็ทำท่าจะทำอะไรบางอย่าง
“ไม่!” เหลิงอู่เหยียนหน้าแดง ลุกลี้ลุกลน และเตะเขาด้วยจิตใต้สำนึก
ปัง!
หลี่หรานลอยจากเตียงตรงไปที่ประตู วาดเส้นโค้งพาราโบลาที่สวยงามและล้มลงกับพื้น
คนทั้งร่างแน่นิ่งราวกับประติมากรรม
ห้องเงียบลงทันใด
เหลิงอู่เหยียนกลับมามีสติอีกครั้งและมองไปที่หลี่หรานซึ่งอยู่ในสภาพน่าสังเวชตรงประตูด้วยความตื่นตระหนก “ระ...หรานเอ๋อร์ เจ้าสบายดีไหม?!”
“ไม่เป็นไร”
หลี่หรานพูดด้วยเสียงอู้อี้ “มันเป็นเพียงว่ากระดูกก้นกบของศิษย์ดูเหมือนจะหัก”
“……”
เหลิงอู่เหยียนลดศีรษะลงและปิดหน้าของนาง
ในขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกผลักเปิด
พวกเขาทั้งสองเงยหน้าขึ้นพร้อมกันและเห็นเซินหนิงยืนอยู่ที่ประตู “ท่านอาจารย์ ศิษย์คนนี้เสร็จสิ้นการฝึกแล้ว...”
เพียงพูดไปได้ครึ่งทางเซินหนิงก็สังเกตเห็นหลี่หรานที่มีท่าทางแปลกๆบนพื้น
“พี่… พี่ชาย?”
เด็กสาวตัวเล็กๆมีความสุขเล็กน้อย แต่ก็งุนงงเช่นกัน “ท่านกำลังทำอะไรอยู่?”
“……”
หลี่หรานรีบลุกขึ้นยืนและกระแอมด้วยความกระอักกระอ่วน “ไม่มีอันใด พี่ชายแค่กำลังบ่มเพาะ”
ใบหน้าที่สวยงามของเหลิงอู่เหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงยิ่งขึ้น
“โอ้” เซินหนิงพยักหน้า
แม้นางจะไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีท่าทางการบ่มเพาะที่แปลกประหลาดเช่นนี้ แต่เนื่องจากพี่ชายของนางพูดเช่นนั้น มันจึงต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน
“พี่ชาย หนิงเอ๋อร์คิดถึงท่าน!”
เซินหนิงโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของหลี่หรานและกอดเขาอย่างรักใคร่ “พี่ชาย วันนี้ท่านไม่ได้มาหาหนิงเอ๋อร์เลย”
หลี่หรานลูบศีรษะเล็กๆของนาง “ช่วงนี้พี่ชายเองก็ยุ่งกับการบ่มเพาะ ข้าวางแผนจะไปหาเจ้าหลังจากทำมันเสร็จสิ้น”
“พี่ชายดีที่สุดเลย” เซินหนิงยิ้มอย่างสดใสและสัมผัสใบหน้าของเขาเบาๆด้วยริมฝีปากสีแดงของนาง
นางไม่เคยกระทำเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม การดูแลอย่างทะนุถนอมของหลี่หรานในช่วงเวลานี้ทำให้อารมณ์และบุคลิกของนางสดใสขึ้นมาก
หลี่หรานบีบใบหน้าน่ารักของนาง “เมื่อเร็วๆนี้หนิงเอ๋อร์เชื่อฟังท่านอาจารย์หรือเปล่า?”
“อื้อ!”
เซินหนิงพยักหน้าอย่างแรง “ข้าเชื่อฟังและบ่มเพาะอย่างจริงจังทุกวัน ท่านอาจารย์บอกว่าหากข้าทำเช่นนี้ต่อไป ข้าจะสามารถสร้างรากฐานได้ในไม่ช้า”
“โอ้? เร็วขนาดนี้เลย?”
หลี่หรานมองนางอย่างระมัดระวังและพบว่านางมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตหลอมรวมลมปราณก่อนที่เขาจะรู้ตัว
ด้วยความเร็วนี้ นางอยู่ไม่ไกลจากการสร้างรากฐาน!
มันพึ่งผ่านไปเพียงกี่วัน? ความเร็วในการบ่มเพาะนี้น่าอัศจรรย์มาก!
แม้แต่หลี่หรานก็อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เพียงเพราะพรสวรรค์เหนือมนุษย์ของเซินหนิง แต่ยังเกี่ยวพันกับการสอนอย่างระมัดระวังของเหลิงอู่เหยียนและพัฒนาจุดตันเถียนของนางทุกคืน
สำหรับศิษย์ใหม่คนนี้ เหลิงอู่เหยียนทุ่มเทให้กับมันจริงๆ
ในเวลานี้ เซินหนิงถามอย่างระมัดระวังว่า “พี่ชาย เมื่อไหร่ข้าจะได้พบกับพี่สาว?”
“หือ?” หลี่หรานชะงักเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเซินหนิง เขาก็จำได้ว่าตั้งแต่เด็กสาวตัวเล็กๆมาถึงวิหารโหยวหลัว นางก็ฝึกฝนกับอาจารย์มาโดยตลอด นางยังไม่เคยเจอเซินฉินเลยสักครั้ง!
“นี่…”
เขาหันศีรษะไปมองเหลิงอู่เหยียน “ท่านอาจารย์ ความเร็วในการบ่มเพาะของหนิงเอ๋อร์นั้นเร็วมากแล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้นางพักผ่อนสักสองสามวันล่ะ? มันเกิดขึ้นว่าพี่สาวน้องสาวไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วย”
แน่นอนว่าเหลิงอู่เหยียนย่อมไม่คัดค้าน
“ก็จริง ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท”
เหลิงอู่เหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ด้วยการพัฒนาตันเถียนของหนิงเอ๋อร์ มันไม่เป็นไรหากจะพักสักหนึ่งหรือสองวัน… ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้นางอยู่กับเจ้าสองสามวันตั้งแต่พรุ่งนี้”
“จริงหรือ?”
เซินหนิงส่งเสียงอย่างมีความสุขในอ้อมแขนของหลี่หราน “เยี่ยมเลย ขอให้ท่านอาจารย์อายุยืนยาว!”
เหลิงอู่เหยียนปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดีและยังให้นางอาศัยอยู่ในห้องนอน… แต่ไม่ว่าอาจารย์จะดีแค่ไหน มันก็ยังเทียบชั้นกับพี่ชายของนางไม่ได้ นับประสาอะไรกับการได้เห็นพี่สาวของนางในตอนนี้
แน่นอนว่าสาวน้อยย่อมตื่นเต้นมาก
แต่หลี่หรานถามแปลกๆเล็กน้อยว่า “ทำไมต้องเป็นพรุ่งนี้ล่ะ? ท่านอาจารย์จะช่วยนางพัฒนาตันเถียนในคืนนี้หรือ?”
“ไม่ใช่”
เหลิงอู่เหยียนส่ายหัวและพูดเสียงเบาด้วยใบหน้าแดง “เป็นเพราะคืนนี้เจ้าต้องอยู่กับผู้นำนิกายคนนี้”
ดวงตาของหลี่หรานเป็นประกายเมื่อเขาได้ยิน “ท่านอาจารย์หมายความว่า…”
“ไม่!”
เหลิงอู่เหยียนหน้าแดงก่ำ หัวของนางสั่นเหมือนกลอง “ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“จริงหรือ?” มุมปากของหลี่หรานโค้งขึ้นเล็กน้อย
โดยทั่วไป เมื่อผู้หญิงพูดว่า “ไม่” นั่นแปลว่า “ใช่”!
ทันใดนั้นเขาก็ตั้งตารอการมาถึงของคืนนี้
—
ดินแดนตะวันตก เทือกเขาอู๋เซียง
เทือกเขาถูกปกคลุมด้วยเมฆและหมอกตลอดทั้งปี มีภูเขาลูกคลื่นและหน้าผาขรุขระ มองจากระยะไกลราวกับเป็นรอยพระหัตถ์ที่สร้างขึ้น เผยให้เห็นบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบ
จากฉากนี้เพียงอย่างเดียว คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่านี่เป็นประตูภูเขาของนิกายเหอหวนแห่งวิถีมาร
วิหารอาซาเซีย
หลิวซุนฮวนนั่งบนเก้าอี้ มองไปที่จีเชินหยวนซึ่งสวมชุดสีดำตรงหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “พี่จี ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?”
จีเชินหยวนวางถ้วยชาลง “ไม่มีอันใดหรอก ข้ามาหาน้องหลิวเพื่อย้อนวันวานไม่ได้หรือ?”
“……”
หลิวซุนฮวนนวดหว่างคิ้วของเขา “ถ้าท่านเอาแต่อ้อมค้อมไปรอบๆ ข้าจะไม่คุยกับท่านแล้ว”
เขาว่าพลางทำท่าทางลุกจะจากไป
“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ”
จีเชินหยวนรีบหยุดเขา “น้องหลิวไม่ใจร้อนเกินไปหน่อยเหรอ?”
“ใจร้อน?”
หลิวซุนฮวนพูดอย่างโกรธๆว่า “ข้านั่งอยู่ที่นี่มาเกือบสี่ชั่วยามแล้ว ดื่มชาหมดไปสองสามถ้วย ท่านยังหาว่าข้าใจร้อนอีกเหรอ? ถ้าท่านมีอะไรจะพูดก็พูดมา หากไม่มีอะไรข้าจะไปทำอย่างอื่น”
‘ตาแก่คนนี้ดูมีลับลมคมในจริงๆ’
อะแฮ่ม!
จีเชินหยวนหน้าแดงและกระแอมในลำคอ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น... ข้าจะไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป”
หลิวซุนฮวนหยิบถ้วยชาขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น ลองบอกข้าดูก่อน”
จีเชินหยวนพูดอย่างละอายเล็กน้อย “จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย ข้ามาที่นี่เพื่อให้น้องหลิวหาสาวๆที่ดูดีให้ข้า”
พรวดด!
หลิวซุนฮวนพ่นน้ำชาออกมาเป็นสายหลังจากได้ยิน
“ท่านว่าอะไรนะ?!”
/////