บทที่ 36 รางวัล
บทที่ 36 รางวัล
เมื่อได้ยินคำถามของเดวิด โรเชลล์ฟลินน์ก็วางโถทองสัมฤทธิ์ในมือลง
ด้วยคุณสมบัติการประเมินวัตถุโบราณระดับปรมาจารย์ ตำหนิของโถทองสัมฤทธิ์ใบนี้ชัดเจนยิ่งดังนั้นเขาจึงพูดด้วยความมั่นใจ
“โถใบนี้เหมือนจริงมากไม่ว่าจะเป็นรูปแบบงานฝีมือ รอยสลักและทักษะการปั้นอื่นๆ ไม่แปลกใจเลยว่าหัวหน้าผู้ประเมินโรเชลล์จะไม่แน่ใจ”
ฟลินน์หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อพูดต่อโดยไม่คิดที่จะไว้หน้าเดวิด โรเชลล์
“เพราะว่าคุณไม่แน่ใจดังนั้นผมจะถือว่าความสามารถของคุณไม่เพียงพอจริงๆ”
“โอ้ ผมไม่รู้ว่าหัวหน้าฝ่ายซอร์คตัดสินจากที่ใดว่าเป็นของปลอม” เมื่อได้ยินว่าฟลินน์บอกว่าเป็นของปลอม เดวิดก็ไม่ตกใจแต่อย่างใด
มันไม่มีประโยชน์ที่จะ ‘เดา’ ให้ถูกต้องแต่จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อรู้ว่าช่องโหว่อยู่ที่ไหน
และสำหรับตำหนินั้น เขามั่นใจอย่างยิ่ง
แม้ว่าเดวิด โรเชลล์จะเพิ่งค้นพบตำหนิหลังจากตรวจสอบอยู่นานแต่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายที่มาจากสำนักงานประเมินขนาดเล็กจะสามารถค้นพบตำหนินั้นได้
“นี่เป็นของเลียนแบบโถสำริดในช่วงปลายศตวรรษเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน คำจารึกเป็นอักษรเยล่าของยุคจักรวรรดิ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ปัญหา” ฟลินน์หยุดลงชั่วคราวเมื่อก่อนพูดว่า
“ตัวอักษรในแต่ละยุคจะมีรูปแบบตัวอักษร แม้ว่ารูปแบบอักษรบนเครื่องทองสัมฤทธิ์นี้จะไม่มีปัญหาแต่ก็มีรูปแบบตัวอักษรที่ซับซ้อนของยุคอาณาจักรแฝงอยู่
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีปัญหา” ฟลินน์ชำเลืองมองไปยังเดวิด โรเซลล์แล้วพูดต่อ
“ดูเหมือนว่าหัวหน้าผู้ประเมินโรเชลล์จะต้องฝึกทักษะการจารึกให้มาก”
‘สิ่งที่ฉันเห็นชายคนนี้ก็เห็น!’
เมื่อได้ยินว่าฟลินน์ชี้ให้เห็นว่ารูปแบบตัวอักษรมีปัญหา เดวิดก็รู้สึกอึดอัดใจจนแทบระเบิด
อีกฝ่ายที่มาจากสำนักประเมินราคาเล็กๆ เท่านั้นแต่มีความสามารถในการประเมินในระดับนี้จริงๆ แม้ว่าเขาจะค้นพบตำหนิบนโถทองสัมฤทธิ์นี้แต่ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย
เมื่อเขาได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงตัวเองด้วย ‘ความรู้การประเมิน’ เขาก็รู้สึกหดหู่และเสียใจ มีความโกรธอย่างรุนแรงอยู่ในใจแต่เขาไม่สามารถระบายได้
แต่อย่างไรละครบทนี้ก็ต้องแสดงให้จบ
“หัวหน้าฝ่ายซอร์ค...” เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการทำลายภาพลักษณ์ของฟลินน์ ซอร์คแต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายทำให้ตัวเองขายหน้า
เวลานี้ไม่ว่าใครในที่นี้ก็พอจะนึกออกแล้วว่าเขาเสียใจเพียงใด
“น่าทึ่ง”
จู่ๆ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นใบหน้าของเดวิดก็ดูเศร้าหมอง
คนคนนี้กล้าที่จะตบมือเยาะเย้ยเดวิด โรเชลล์ต่อหน้าคนมากมาย ถึงแม้ว่าจะชายวัยกลางคนจะจัดการกับฟลินน์ ซอร์คไม่ได้แต่เขาจะไม่สามารถจัดการกับพนักงานตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้งั้นเหรอ? เขามองไปยังทิศทางของเสียง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นคนๆ ความเศร้าบนใบหน้าของเขาก็หายไปอีกครั้ง เหลือเพียงความมืดมน
นี่ก็เป็นคนที่เขารับมือไม่ได้เช่นกัน!
“น่าทึ่ง น่าทึ่งจริงๆ การรับคุณซอร์คเข้ามาทำงานที่นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ”
ชายสวมแว่นตาไว้หนวดเคราเล็กๆ ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและยื่นมือไปหาฟลินน์ แล้วพูดว่า
“คุณซอร์ค ผมชื่อนิค ฮาร์โลวินผู้จัดการทั่วไปของหอประมูลเกรทวีด”
ทุกคนในฝ่ายประเมินเมื่อเห็นว่าหัวหน้าผู้ประเมินและฟลินน์ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายประเมินไม่ลงรอยกัน จึงเลือกที่จะลอยตัวเหนืออากาศไม่ยอมสอดตัวกับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด
แต่ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของหอประมูลเกรทวีด เขาไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เพราะเขาคือผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในสาขาเมืองคอนสตันและเขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใคร
“สวัสดีครับ ผู้จัดการทั่วไปฮาร์โลวิน”
ฟลินน์ก็เอื้อมมือไปจับมือนิค ฮาร์โลวินที่ยื่นออกมาก่อน
“หัวหน้าฝ่ายซอร์คยังเด็กและมีแววดีจริงๆ” นิค ฮาร์โลวินมองฟลินน์แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
เขามาปรากฏตัวที่นี่เพราะเขาจัดให้มีคนคอยเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ก่อนแล้วทันทีที่ฟลินน์ ซอร์คปรากฏตัวในฝ่ายประเมินเขาก็ได้รับการรายงานทันที
กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาลินดี้ ฮาร์โลวิน บุตรสาวคนโตของครอบครัวสายหลักขอให้เขาจัดตำแหน่งงานว่างให้กับชายที่อยู่ต่อหน้าเขาในหอประมูล
ลินดี้ ฮาร์โลวินฝากฝังเเป็นการส่วนตัวจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาดังนั้นเขาจึงรอคอยการมาถึงของชายผู้นี้เสมอ
“ผู้จัดการทั่วไปฮาร์โลวินชมเกินไปแล้ว” ฟลินน์ตอบด้วยรอยยิ้ม
คำเดียวกันนี้ที่เปล่งออกมาจากปากของ นิค ฮาร์โลวินมีความหมายแตกต่างจากเดวิด โรเชลล์อย่างเห็นได้ชัด
“หัวหน้าฝ่ายซอร์คมาทำงานเป็นวันแรก ผมจะพาคุณไปรู้จักกับแผนกต่างๆ รวมถึงหัวหน้าฝ่ายแต่ละคน” นิค ฮาร์โลวิน พูดอย่างกระตือรือร้น
“ลำบากคุณแล้ว” ฟลินน์เห็นด้วยโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ที่เขามาที่หอประมูลในวันนี้ก็เพื่อแสดงใบหน้าของเขาที่นี่
ไม่นานนักฟลินน์และนิค ฮาร์โลวินก็จากไป
ในฝ่ายประเมินมองไปที่หัวหน้าผู้ประเมินด้วยสีหน้าย่ำแย่ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน
หัวหน้าผู้ประเมินพยายามทำให้หัวหน้าฝ่ายประเมินใหม่ลำบากใจแต่เห็นได้ชัดว่าล้มเหลว
ยิ่งไปกว่านั้นหัวหน้าฝ่ายประเมินคนใหม่ดูเหมือนจะมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งมาก ซึ่งเห็นได้จากท่าทีที่สุภาพของนิค ฮาร์โลวินที่มีต่อเขา
หลังจากกิน ‘อาหารพนักงาน’ ที่หอประมูลเกรทวีด ในตอนเที่ยงฟลินน์ก็ออกจากหอประมูลเกรทวีดแล้วซื้อขนมอบและตรงไปยังบ้านพี่สาวของเขา
หลังจากเล่นกับไคช่าสักพักเขาก็ออกจากบ้านพี่สาวก่อนที่พี่เขยจะกลับมา
...
ในขณะที่ฟลินน์กำลังใช้เวลาในการพักผ่อน คน 2 คนก็เดินทางไปถึงกระทรวงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรที่ใจกลางเมืองคอนสตัน
คนหนึ่งสวยสวมกระโปรงสีม่วงไว้มีผมสีน้ำตาลลอนยาวถึงกลางหลังและไฝใต้ตาซ้ายทรงเสน่ห์ คนที่พูดถึงนี้ย่อมเป็นลิลดี้ รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรสาขาเมืองคอนสตัน
“แค่กๆ …” อีกคนเป็นชายวัยกลางคนอายุราวๆ 40 ต้นๆ มีผมแซมขาวดูท่าทางสุขภาพไม่ดีและยังไอเป็นครั้งคราว
เขาคือดอร์จี้ ไป๋ผู้อำนวยการผู้ลึกลับอย่างยิ่งของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรสาขาเมืองคอนสตันและฟลินน์ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
“ผมละอายใจนักที่มีพวกขยะหลุดออกมาจากกระทรวงความมั่นคง”
ผู้อำนวยการกระทรวงความมั่นคงดัฟฟ์ แคมเบลล์รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและมีฐานะร่ำรวย
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเขาก็พูดออกมาด้วยสีหน้าละอายใจ
“รัฐมนตรีแคมป์เบลล์ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง พวกลัทธิมืดนั้นซ่อนตัวเก่งมากคุณก็แค่คนธรรมดาเป็นปกติที่คุณจะไม่รู้” ดอร์จิ ไป๋กล่าวปลอบโยน
“อย่าปลอบใจผมเลย กาเบรียล ซอโต้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ผมเลื่อนตำแหน่งให้กับมือ ต้องโทษที่ผมไม่ตรวจสอบเขาให้ดี” ดัฟฟ์ แคมเบลล์ส่ายศีรษะ
“ตอนนี้ยังไม่ทราบเบาะแสของกาเบรียล ซอโต้ เรามาที่นี่วันนี้เพื่อสอบถามผู้ที่คุ้นเคยกับกาเบรียล ซอโต้เพื่อดูว่าเราจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือไม่” ลินดี้กล่าว
“ไม่มีปัญหา กระทรวงความมั่นคงจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ผมหวังว่าพวกเราจะสามารถจับสวะนี้กลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด” ดัฟฟ์ แคมเบลล์รีบแสดงจุดยืนของเขา
“ขอบคุณมาก นอกจากนี้เพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูล สำนักงานความมั่นคงฯ จะใช้มาตรการพิเศษบางอย่าง ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ” ลินดี้ลังเลและพูด
“ผมรู้กฎของสำนักงานความมั่นคงฯ ดี คุณสามารถจัดการได้ตามสมควรโดยไม่ต้องกังวล” ดัฟฟ์ แคมเบลล์พยักหน้าอย่างเข้าใจ
เขารู้ได้โดยธรรมชาติว่าวิธีพิเศษที่ลินดี้พูดถึงคือศาสตร์ลึกลับเช่นการสะกดจิตหรือล้วงวิญญาณ
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจแต่เรื่องนี้เกิดขึ้นภายในกระทรวงความมั่นคงดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
...
วันหนึ่งหลังจากวันหยุดสิ้นสุดลง ฟลินน์นั่งรถไปยังสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรในตอนเช้าและผลักห้องรับรองหมายเลข 201
ในห้องร้อนอบอ้าว ไอวี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟายังคงสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาวและกระโปรงสีดำพลิกหนังสือในมือของเธอ
เสื้อสเวตเตอร์สีขาวรัดรูปเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธออย่างสมบูรณ์
หญิงสาวสังเกตเห็นฟลินน์ที่ผลักประตูเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นมองฟลินน์ที่เข้ามา
“อรุณสวัสดิ์” ฟลินน์ทักทายไอวี่
“เช้าแล้ว” ไอวี่ตอบอย่างไร้อารมณ์ เธอก้มหน้าลงอีกครั้งและอ่านหนังสือในมือ
ฟลินน์ไม่ได้รบกวนเธออีกต่อไป แต่ไปที่ตู้เซฟเปิดหนังสือลึกลับและหยิบปืนลึกลับออกมา
ตอนนี้มีคะแนนลึกลับมากเกินพอสิ่งที่ขาดไปคือวิธีการบ่มเพาะจากวงแหวนที่สองไปยังวงแหวนที่สาม
เขาต้องอ่านเนื้อหาส่วนหลังของหนังสือนี้โดยเร็วที่สุดเพื่ออัปเกรดปืนลึกลับ
กว่านั้นเขายังขาดความรู้เกี่ยวกับโลกลึกลับอีกมากมายจำเป็นจะต้องอ่านสิ่งที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมโดยเร่งด่วน
ยังมีอะไรต้องอ่านให้มาก! เขาหวังว่าตัวเองจะยังมีเวลาเพียงพอในการอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้อง
ก๊อกๆๆ!
เกือบเที่ยงมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา!” ฟลินน์พูด ผู้หญิงผมบลอนด์สวมแว่นตากรอบบางเปิดประตูและเดินเข้ามา เธอคือจูลี่
เธอมองไปที่ฟลินน์และพูดว่า
“คุณซอร์ค รองผู้อำนวยการขอให้คุณไปที่ห้องทำงานของเธอ”
“โอเค ผมจะไปทันที” ฟลินน์จำคำสัญญากับลินดีในวันนั้นได้และหัวใจของเขาก็ร้อนรุ่ม เขาลุกขึ้นยืนทันที มีบางคนแทบรอไม่ไหวที่จะรีบไปที่ห้องทำงานของลินดี้
ไอวี่ชำเลืองมองจูลี่ที่มาแจ้งข่าว จากนั้นมองไปยังฟลินน์ด้วยความรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ใช่คนที่มีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นดังนั้นความสนใจของเธอจึงกลับมาที่หนังสือในมืออีกครั้ง
เมื่อมาถึงสำนักงานของลินดี้ ฟลินน์เคาะประตูและเข้าไปในสำนักงาน
“มาแล้วเหรอ” ลินดี้ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ เลิกคิ้วขมวดเล็กน้อยแล้วยิ้มเมื่อเห็นฟลินน์ที่รีบมา
“รองผู้อำนวยการคุณจับ กาเบรียล ซอโต้ได้ไหม”
เมื่อเห็นความคาดหวังของเขาที่โชว์หราอยู่บนใบหน้า ฟลินน์จึงถามอย่างขัดเขินเล็กน้อย
“สัตว์ประหลาดไร้ตาพวกนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับกาเบรียล ซอโต้ หลังจากนั้น เขายังคงหลบซ่อนและยังไม่ถูกจับ” ลินดี้ ส่ายศีรษะ
“อ่า คุณจับเขาไม่ทันเหรอ” ฟลินน์ผงะ เขาถามอย่างสบายๆ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
สัตว์ประหลาดไร้ตานั้นมีความเกี่ยวข้องกับกาเบรียล ซอโต้และชายตาเดียวก็รู้ล่วงหน้าว่าความลับอาจถูกเปิดเผย
“อย่ากังวลเลย แม้ว่าคุณจะจับกาเบรียล ซอโต้ไม่ได้แต่คุณได้แจ้งให้ สำนักงานความมั่นคงฯ ให้ทราบถึงการฟื้นคืนของลัทธิเฟืองสังหาร ก็นับว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่แล้วและรางวัลตอบแทนครั้งนี้ก็ไม่น้อย” ลินดี้กล่าวพร้อมกับยิ้ม
“ผมไม่ได้กังวลเรื่องนี้...” ฟลินน์อธิบายอย่างรวดเร็ว
“อย่าตกใจน่า ฉันแค่ล้อเล่น” ลินดี้ยกมือขึ้นเพื่อไม่ให้ฟลินน์อธิบาย
เรื่องตลกเล็กน้อยช่วยคลายความหดหู่ใจของเธอในตอนนี้ เธอพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“หลังจากคุยกับผู้อำนวยการแล้ว ฉันตัดสินใจให้วัตถุเล่นแร่แปรธาตุเป็นรางวัลของคุณ”