บทที่ 35 หอประมูลเกรทวีด
บทที่ 35 หอประมูลเกรทวีด
ในวันที่สองฟลินน์ซึ่งไม่ได้ทำงานกำลังรับประทานอาหารเช้าอย่างสบายใจพลางอ่านหนังสือพิมพ์ของวันนี้จนกระทั่งเก้านาฬิการถม้าจึงขับมาเทียบท่า
เพราะเป็นฤดูหนาวและอากาศก็เย็นลงเรื่อย ๆ มีคนเดินเท้าบนถนนไม่มากนักจึงเห็นได้เป็นครั้งคราว
รถม้าหยุดที่หน้าทางเข้าของหอประมูลเกรทวีด ฟลินน์ลงจากรถและเดินไปที่ประตูทางเข้า
ที่ประตูทางเข้าของหอประมูลเกรทวีดมีชายสี่คนสวมเครื่องแบบคล้ายกับเครื่องแบบตำรวจแต่ก็ไม่ทั้งหมด เครื่องแบบเหล่านี้มักสวมใส่โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
แต่ละคนแข็งแรงปราดเปรียวและมีปืน
มันไม่ได้เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกแต่เป็นคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี
บนตัวพวกเขาให้อารมณ์คล้ายกับเคน ดาร์บี้และเป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะเป็นทหารผ่านศึกเช่นเดียวกับเคน ดาร์บี้
“เรียนท่านชายตอนนี้โรงประมูลเกรทวีดไม่ได้จัดการประมูล ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรไหม” ทันทีที่ฟลินน์เข้ามาใกล้ ชายไว้หนวดจากหนึ่งในสี่คนก้าวไปข้างหน้าทันทีและถามฟลินน์
“มาทำงาน”
ฟลินน์หยิบบัตรพนักงานของหอประมูลเกรทวีดที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้งออกมาและส่งให้ชายไว้หนวด
ชายไว้หนวดหยิบบัตรประจำตัวพนักงานและเห็น ‘หัวหน้าฝ่ายประเมิน’ ตัวหนาและใหญ่โชว์หราอยู่บนบัตรทันที
ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจ เขามองขึ้นและลงที่ฟลินน์ก่อนจะส่งบัตรพนักงานคืนให้ฟลินน์ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วพูดว่า
“หัวหน้าฝ่ายซอร์คนี่ครับ บัตรของคุณ!” ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาได้รับแจ้งว่ามีการเพิ่มตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประเมินที่หอประมูลเกรทวีด
แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยเห็นหัวหน้าฝ่ายประเมินมาทำงานเลยและในที่สุดชายไว้หนวดก็ได้เห็นหัวหน้าฝ่ายประเมิน
หลังจากได้รับบัตรพนักงานคืน ฟลินน์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เดิมทีชายหนุ่มคิดว่าเขาจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการพิสูจน์ตัวตนของเขาแต่ดูเหมือนว่าทางต้นสังกัดจะแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล่วงหน้าแล้วอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาไม่ต้องลำบากมาก
อย่างไรก็ตามเท่าที่รู้หอประมูลเกรทวีดได้เตรียมสำนักงานส่วนตัวไว้ให้เขาด้วย
เมื่อคิดว่าตัวเองยังไม่รู้ว่าสำนักงานที่หอประมูลเกรทวีดจัดอยู่ตรงไหนเขาจึงถามอีกครั้ง
“วันนี้เป็นวันแรกที่ผมทำงานที่นี่ คุณช่วยนำทางผมหน่อยได้ไหม”
“แน่นอนครับ เชิญตามผมมา” ชายไว้หนวดตอบตกลงทันทีด้วยความกระตือรือร้น
ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคือตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในหอประมูลเกรทวีดเป็นรองแค่ตำแหน่งผู้จัดการสาขา
การได้รู้จักกับคนระดับสูงเช่นนี้ย่อมมีประโยชน์อย่างมากต่อการเลื่อนตำแหน่งในอนาคตของเขา
เขาเชื่อว่าหากเปลี่ยนเป็นเพื่อนร่วมงานทั้งสามก็จะไม่พลาดโอกาสนี้เช่นกัน
และเป็นไปตามคาดเพื่อร่วมงานทั้งสามคนที่ปฏิบัติหน้าที่กับเขาในเวลานี้ต่างก็มองชายไว้หนวดด้วยความริษยา
อิจฉาในความโชคดีของเขาที่สามารถสร้างความประทับใจต่อหน้าผู้บังคับบัญชา
ชายไว้หนวดเดินนำฟลินน์เข้าไปในหอประมูลเกรทวีด
หอประมูลเกรทวีดมีขนาดใหญ่มากและแบ่งออกเป็นหลายส่วน
มีส่วนประมูล ส่วนสำนักงาน ส่วนพักผ่อนสำหรับแขกและห้องอาหาร
ตัวอาคารสร้างด้วยหินแกรนิตคุณภาพสูงเป็นวัสดุหลัก เสริมด้วยวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงอื่นๆ
ตะเกียงคริสทัลที่ทำขึ้นอย่างประณีตประดับอยู่เป็นระยะๆ
ของตกแต่งและภาพวาดสีน้ำมันติดผนังตามทางเดินล้วนมีราคาแพง บางชิ้นเป็นของเก่าและมีภาพบางภาพเป็นของผู้มีชื่อเสียงแห่งยุค
ความหรูหราที่ไม่ซับซ้อน
ฟลินน์อดคิดคำนี้ในใจไม่ได้
มาที่ส่วนสำนักงานเมื่อเข้าไปในอาคารสำนักงานห้าชั้น
ในแผนกประเมินบนชั้นสี่ฟลินน์เห็นห้องทำงานของตัวเองที่มีคำว่า ‘หัวหน้าฝ่ายประเมิน’ ติดอยู่
โชคดีที่เขามองการณ์ไกลให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำทางมา มิฉะนั้นฟลินน์ไม่รู้ว่าเขาจะต้องหาห้องทำงานของเขาถึงเมื่อใด
สำนักงานกว้างขวางกว่า 100 ตร.ม. ตกแต่งด้วยโต๊ะ โซฟา โต๊ะกลาง ตู้หนังสือ ฯลฯ ไม่ด้อยกว่าห้องรับรองของสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
น่าจะเป็นเพราะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันทำให้ในห้องสะอาดมากปราศจากไรฝุ่น
“ขอบคุณที่นำทาง” ฟลินน์มองไปที่ชายไว้หนวดแล้วพูด
“นี่คือสิ่งที่ผมควรทำและเป็นเกียรติของผมที่ได้เป็นผู้นำทางให้กับคุณ” ชายไว้หนวดกล่าวอย่างสุภาพ
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วชายไว้หนวดก็จากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากดูแผนผังของสำนักงานประเมินราคาแล้ว ฟลินน์ก็ออกจากสำนักงานประเมินราคามาที่พื้นที่ส่วนรวมด้านนอก
มีคนทำงานที่นี่มากกว่าสิบคนซึ่งล้วนเป็นพนักงานธรรมดาที่ทำหน้าที่ประเมินสินค้า
ในเวลานี้หัวหน้าผู้ประเมินและผู้ประเมินอาวุโสทั้งสี่ได้ทราบจากผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วว่าหัวหน้าฝ่ายประเมินผู้ลึกลับได้มาถึงแล้ว
พวกเขาออกจากสำนักงานทันทีและไปที่พื้นที่ส่วนรวมด้านนอก
“สวัสดี ผมชื่อฟลินน์ ซอร์คผู้รับผิดชอบฝ่ายประเมินราคา” จุดประสงค์ของฟลินน์ที่มายังหอประมูลเกรทวีดในวันนี้ก็เพื่อแสดงตัวตนของเขาที่นี่ เขาจึงแนะนำตัวเองอย่างกระฉับกระเฉง
“สวัสดีหัวหน้าฝ่ายซอร์ค ฉันผู้ประเมินอาวุโสพาเมล่า ออสติน”
“ผมผู้ประเมินอาวุโสวิคเทอร์ เบอร์เรร่า”
“ผมผู้ประเมินอาวุโสจอร์น เคอร์”
“ผมผู้ประเมินอาวุโสแมททิว เบลเชอร์”
ผู้ประเมินอาวุโสทั้งสี่คนเป็นหญิงหนึ่งคนและชายสามคน พวกเขาปฏิบัติต่อฟลินน์อย่างสุภาพมาก
ก่อนที่ตำแหน่งของฟลินน์ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายประเมินจะมา พวกเขามีหัวหน้าฝ่ายประเมินอยู่ก่อนแล้ว 1 คน
ตอนนี้มีเจ้านายเพิ่มขึ้นหนึ่งคนมันส่งผลต่อพวกเขาเพียงเล็กน้อยแต่หัวหน้าฝ่ายประเมินเดวิด โรเชลล์ไม่พอใจอย่างมากกับการมาของฟลินน์
เขาเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายประเมินมาโดยตลอดแต่ตอนนี้มีเจ้านายพิเศษที่กดหัวเขาไว้ ดังนั้นเขาย่อมไม่มีความสุขเป็นธรรมดา
“ผมเป็นหัวหน้าผู้ประเมินราคาเดวิด โรเชลล์ ไม่ทราบว่าหัวหน้าฝ่ายซอร์คเคยทำงานให้กับบริษัทใดมาก่อนหรือเปล่า” เขาระงับความโกรธในใจ
“ก่อนหน้านี้ ผมเปิดบริษัทของตัวเอง” ฟลินน์กล่าว
“สเกลต้องใหญ่มากแน่ๆ ไม่ทราบว่าชื่อบริษัทอะไรเหรอครับ” เดวิด โรเชลล์ถาม
“มันเป็นแค่บริษัทเล็กๆ และมีพนักงานคนเพียงคนเดียวรวมผมด้วย” ฟลินน์ส่ายศีรษะ
“บริษัทที่มีเพียงคนเดียว?” เมื่อได้ยินว่าฟลินน์เป็นเพียงผู้ประเมินในบริษัทเล็กๆ หนังตาของเดวิด โรเชลล์ก็กระตุกก่อนที่ความโกรธในใจพุ่งทะยานไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป ชายวัยกลางคนจึงพูดด้วยท่าทางแปลก ๆ
“สามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายได้ทันทีหลังจากมาที่นี่ หัวหน้าฝ่ายซอร์ค อายุน้อยคงมีอนาคตที่ดี” เขาเดาได้ว่าฟลินน์ ซอร์คมีภูมิหลังไม่ธรรมดาแต่เดวิด โรเชลล์เองก็เป็นหัวหน้าผู้ประเมินเขาก็ย่อมมีรากฐานที่ดีเช่นกัน ดังนั้นชายวัยกลางคนจึงไม่กลัวที่จะเป็นอริกับอีกฝ่าย
“ก็แค่โชคช่วย ผมแค่ลองดูแต่ไม่คิดว่าจะสมัครสำเร็จ” เมื่อได้ยินความเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดเจนจากคำพูดของเดวิด โรเชลล์ ฟลินน์รู้สึกหมดหนทางดูเหมือนว่าเขาจะเป็นศัตรูกับหัวหน้าผู้ประเมิน
หัวหน้าฝ่ายประเมินของเขาเป็นแค่งานหลอกๆ และเขาแทบไม่เคยทำงานที่นี่แต่ดันไปตัดหน้าครอบครองตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประเมินของเดวิด โรเชลล์ จึงช่วยไม่ได้ที่ชายกลางคนจะไม่พอใจ
และเห็นได้ชัดว่าเดวิด โรเชลล์ไม่รู้เรื่องนี้ ชายกลางคนจึงคิดว่าเขาเป็นคนที่เข้ามาแย่งตำแหน่งของตัวเอง
“พูดถึงก็บังเอิญที่หัวหน้าฝ่ายซอร์คมาที่นี่ ผมเพิ่งเจอของเก่าที่ไม่แน่ใจ ถ้าหัวหน้าฝ่ายซอร์มีเวลา คุณก็น่าจะช่วยผมดูด้วย” เดวิด โรเชลล์พูดออกมาพลางคิดในใจยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ในไม่ช้าก็มีแผนที่จะทำให้ฟลินน์ต้องอับอาย
เขามีของเก่าลอกเลียนแบบเกรดเอบวกอยู่ในมือและเกือบทำพลาดไป โชคดีที่เขาระมัดระวังตรวจซ้ำอยู่หลายครั้งก่อนที่จะระบุได้ว่าเป็นของโบราณคุณภาพสูงผ่านช่องโหว่ที่เล็กมากๆ ในที่สุด
“เอาล่ะ มาดูกัน” ฟลินน์พูดเบาๆ
แม้ว่าฟลินน์จะเข้าใจว่าเหตุใดเดวิด โรเชลล์หัวหน้าฝ่ายประเมินจึงไม่พอใจเขา แต่ความเข้าใจก็เป็นเพียงความเข้าใจไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมให้ตัวเองกลายเป็นพรมเช็ดเท้าของคนอื่น
“เยี่ยมมาก ผมจะนำมันมาทันที” เดวิด โรเชลล์ยิ้มแต่เป็นเพียงรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา
เขาไปที่สำนักงานของตัวเองและไม่นานก็ออกมาพร้อมกับโถทองสัมฤทธิ์
เมื่อวางโถทองสัมฤทธิ์ลงบนโต๊ะกาแฟ เขาก้าวถอยหลังเพื่อให้ฟลินน์เข้ามาประเมิน
“ขอยืมถุงมือหน่อย!” เครื่องสำริดห้ามเปื้อนเหงื่อเพราะเหงื่อจะทำให้เครื่องสำริดสึกกร่อนได้
ฟลินน์ยืมถุงมือสีขาวคู่หนึ่ง ค่อยๆ หยิบโถทองสัมฤทธิ์ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
หลังจากตรวจดูอยู่ครู่หนึ่งเขาก็สรุปว่านี่คือของจริง
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดว่าเดวิด โรเชลล์ต้องการทดสอบและโถทองสัมฤทธิ์นี้คงไม่ง่ายอย่างนั้น
หากคำตอบคือของจริง เขาเกรงว่า เดวิด โรเชลล์จะใช้โอกาสนี้ถากถางตัวเองแล้ว
เดิมทีชายหนุ่มคิดว่าระดับความชำนาญของเครื่องประดับและการประเมินโบราณวัตถุของเขานั้นเพียงพอที่จะจัดการกับมัน แต่ฟลินน์ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะไม่สามารถจัดการกับมันได้
ความสามารถของเดวิด โรเชลล์ นั้นสูงกว่าเขาจริง ๆ แต่ยังไม่ถึงระดับปรมาจารย์ แต่เกรงว่าคงอยู่ไม่ห่างจากระดับปรมาจารย์นัก
‘ถ้าคำตอบคือของเลียนแบบเกรดเอ มันไม่ได้ผลเช่นกัน’ แม้ว่าเขาจะเดาว่าเครื่องสำริดนี้น่าจะเป็นของเลียนแบบแต่ก็ไม่กล้าตอบออกมา
เดวิด โรเชลล์จะต้องถามถึงเหตุผลแต่ถ้าเขาไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ฟลินน์ยังคงถูกเยาะเย้ย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากชายหนุ่มกล้ายอมรับการยั่วยุของเดวิด โรเชลล์ เขาจึงมีความมั่นใจโดยธรรมชาติและระบบก็คือความมั่นใจของเขา
“ระบบ”
เขาเรียกระบบ ทันใดนั้นระบบก็ปรากฏขึ้นบนเรตินาของเขา
ชื่อ: ฟลินน์
การประเมินวัตถุโบราณ : เชี่ยวชาญ (อัปเกรดได้)
ปืนลึกลับ: 2 วงแหวน (อัปเกรดไม่ได้)
ชันสูตรพลิกศพ: เชี่ยวชาญ (อัปเกรดไม่ได้)
คะแนนลึกลับ: 12.3
เลือกคอลัมน์การประเมินวัตถุโบราณ เลือกอัปเกรด คะแนนลึกลับเพื่อลด 0.6 เปลี่ยนกลายเป็น 11:7
คอลัมน์การประเมินวัตถุโบราณถูกเป็นระดับปรมาจารย์ ความทรงจำมากมายเกี่ยวกับการประเมินวัตถุโบราณหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขาไม่ขาด เดิมทีชายหนุ่มไม่คิดที่จะอัปเกรดการประเมินวัตถุโบราณในขณะนี้แต่เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยในฐานะ ‘หัวหน้าฝ่ายประเมิน’ ที่สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรจัดหาให้ ฟลินน์ทำได้เพียงอัปเกรดเท่านั้น
โชคดีที่เขาได้คะแนนลึกลับอีก 6 แต้มเมื่อวานนี้ ดังนั้นในตอนนี้คะแนนลึกลับของเขาจึงอุดมสมบูรณ์มาก สำหรับคะแนน 0.6 แต้ม ที่หายไปไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับฟลินน์
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าอึดอัดเหมือนกับเหตุการณ์ในงานเลี้ยงครั้งล่าสุดคะแนนลึกลับ 0.6 แต้มจึงเป็นเรื่องที่สมควรจ่ายออกไป
“หัวหน้าฝ่ายซอร์ค วัตถุโบราณชิ้นนี้เป็นของจริงหรือเปล่า” เมื่อเห็นว่าฟลินน์มองดูอยู่ครู่หนึ่งและยังไม่พูด เห็นได้ชัดว่านิ่งงันเดวิด โรเชลล์ถามด้วยรอยยิ้มที่พอใจในใจ