บทที่ 26 มานาธาตุดิน
“ครั้งแรกของเธองั้นหรอ?” วานถามอย่างสบายๆ แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
ลิเนตต์พยักหน้าอย่างเงียบๆ
จากแก้มที่แดง ไหล่ที่สั่นไหว และขนตาที่กระเพื่อม วานสามารถเข้าใจความกังวลของเธอได้
ในฐานะคนที่เคยทำงานซ่องโสเภณี หน้าที่ของเขาคือกำจัดความกังวลนั้นให้หมดไปแล้วมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับคู่นอนของเขา
“ใจเย็นๆก่อน ผมจะเริ่มต้นด้วยการนวดเพื่อผ่อนคลายร่างกายของเธอแล้วกัน” วานกล่าว
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ขยับมือและเริ่มนวด
“อื๊ม~”
เสียงครางที่แผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของเธอ
เริ่มจากคอของเธอลงมาถึงไหล่ แขน หน้าอก ลำตัว ขา และเท้า ความอบอุ่นจากมือของวานประสานกับความเย็นของผิวที่อ่อนโยนของลิเนตต์
การปะทะกันของอุณหภูมิที่ตรงข้ามกันทั้งสองไม่ได้ขัดแย่งกัน แต่กลับหมุนรอบกันและกันเหมือนน้ำวน ผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อสร้างความรู้สึกกลมกลืนอย่างน่าอัศจรรย์ เสมือนความเป็นคู่ของหยินและหยาง
ความสบายทำให้กล้ามเนื้อของเธอผ่อนคลาย และในไม่ช้า การหายใจของเธอก็มั่นคงและสงบ
ขั้นตอนแรกเสร็จสมบูรณ์
วานดำเนินการนวดกดจุดของเธอและกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของเธอ เปิดรูขุมขนและดึงมานาเพื่อเพิ่มพูนความเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ของพวกเขา
ด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และเม็ดเหงื่อที่มีกลิ่นเหมือนดอกลาเวนเดอร์ที่กำลังผลิบานในฤดูร้อนอันอบอุ่น ความกระวนกระวายก่อนหน้านี้ของลิเนตต์เหมือนเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
เธอพร้อมที่จะยอมรับเขาแล้ว
โดยไม่เสียเวลาไปกับคำพูดฟุ่มเฟือยหรือยืนยันถึงความปรารถนาในหัวใจของเธอ วานดึงชุดลูกไม้ที่อยู่บนเสื้อของเธอและถอดเสื้อผ้าของเธอออกทั้งหมดก่อนที่จะถอดของตัวเอง
ในไม่ช้า วานก็จับเอวบางของเธอและโอบกอดร่างกายที่เปลือยเปล่า
พวกเขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของพวกเขาที่อยู่ติดกันและเสียงหัวใจเต้นเบาๆ ขณะที่พวกเขาจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกัน เหมือนต้องการที่จะมองเข้าไปในคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวในจิตวิญญาณ
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของทั้งคู่ก็เชื่อมต่อกัน และเสียงร้องเบาๆ ของดอกไม้ที่กำลังผลิบานก็ดังก้องมาจากเต็นท์แห่งตัณหา
“อร๊า~!”
…
…
…
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กลุ่มคุ้มกันก็ยังคงไม่ได้เดินทางต่อ
นักรบหนุ่มใจร้อนเริ่มเดินไปมารอบๆแคมป์ไฟในขณะที่พวกเขาสงสัยว่าจะทำอย่างไรกับดวงตาที่แดงก่ำนี้ดี
“อ๊าก นี่จะฆ่ากันรึไง” นักรบหนุ่มเกาหัวด้วยความหงุดหงิดและถาม “เราต้องรออีกนานแค่ไหนเนี่ย”
“จนกว่าเลดี้ลิเนตต์กับเลดี้ลิเลีย จะพร้อมออกเดินทาง” กัปตันริสตอบโดยหลับตาและไขว่ห้างในท่านั่งสมาธิราวกับว่าเขากำลังพยายามบรรลุธรรม
เสียงครางที่ตามมาหลังจากการร้องครั้งแรกทำให้ทุกคนมีจินตนาการที่ดื่มด่ำและเกือบจะทำให้พวกเขาคลั่ง
พวกเขาต้องอดทนด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อและหัวใจที่แกร่งราวกับโลหะ หรือยอมจำนนต่อปีศาจภายในตนและใช้ดิน ใช้ต้นไม้ หรือใช้มือ
มังกรที่ไร้ลมหายใจที่พวกเขาสามารถยับยั้งได้ก็ยังต้องตื่นขึ้นด้วยไฟที่แรงกว่า
“ฮึ ข้าทนไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้ช่วยหยุดพวกเขาที” นักรบหนุ่มล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ
คนสองคนที่ติดอยู่ในโลกแห่งกิเลสตัณหาเล็กๆของพวกเขา และไม่มีความเห็นอกเห็นใจหรือคำนึงถึงคนที่อยู่ภายนอกเลย
“ถ้าเจ้าอยากตาย ก็สามารถหยุดการร่วมรักของพวกเขาและขอพวกเขาโดยตรงเลยก็ได้” กัปตันริสกล่าว
นักรบหนุ่มตกใจกับทางเลือกนั้นทันที
“งั้นข้าสบายดี และยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อนานๆ…”
“ว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ กัปตัน”
หลังจากถามคำถามนั้นไป นักรบหนุ่มที่เหลือก็สงสัยว่ากัปตันของพวกเขาถึงไม่เป็นอะไรเลย
“อยากรู้จริงๆ เหรอ”
“ใช่!”
เหล่านักรบหนุ่มตอบพร้อมกัน
“หายใจเข้าลึกๆแล้วหายใจออกช้าๆ ทำซ้ำตามข้านะ ความสงบภายใน…” กัปตันริสสอนขณะหลับตาโดยไม่ได้ออกจากท่าสมาธิ
“ฟู่… ความสงบภายใน…”
“ฮ่า… ความสงบภายใน…”
นักรบหนุ่มพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสงบไฟที่ลุกโชนที่อยู่ระหว่างขาได้ เมื่อใดก็ตามที่เสียงของเลดี้ลิเนตต์เข้ามาในหูมันราวกับได้ยินเสียงกระซิบของปีศาจซัคคิวบัส
ดวงตาของพวกเขากลายเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง
“อ๊าก ข้าทำไม่ได้—”
หวิ้ง~!
ก่อนที่นักรบหนุ่มจะทันได้พูดจบ จู่ๆทุกคนก็สัมผัสได้ถึงมานาที่หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ราวกับลมกระโชก
ดวงตาของกัปตันริสเบิกกว่างก่อนที่เขาจะมองขึ้นไปบนยอดเสาหินด้วยความประหลาดใจ
“นั่นมัน…”
“การเลื่อนระดับ”
กัปตันริสพูดโดยไม่มีข้อกังขาใดๆในขณะที่นักรบหนุ่มสงสัย
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงที่มาจากเต็นท์บนยอดเสาหินก็เงียบลงในที่สุด ปลดปล่อยกลุ่มคุ้มกันจากการทรมานทางจิตใจ
“ในที่สุดก็เงียบสักที”
…
…
ดิ๊ง!
<คุณได้สำเร็จการล่าแม่มดแบบพิชิตที่ไม่ได้มอบหมาย>
<คุณได้รับแก่นแท้แรกเริ่มและมานาธาตุดินของเป้าหมาย>
<กำลังคำนวณรางวัลที่เหมาะสม…>
<…>
วานฟังการแจ้งเตือนของระบบอย่างเงียบๆขณะที่นอนอยู่บนเตียงโดยมีลิเนตต์ อยู่ในอ้อมแขนของเขา ห่มด้วยผ้าห่มผืนบาง
เขาปัดปอยผมสองสามเส้นที่ปิดหน้าเธออย่างสบายๆ ก่อนที่เธอจะทำเสียงในคอเพราะรู้สึกถูกสัมผัสและผลิกร่างของเธอให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น
ตระกูลเดลาโรซาเป็นตระกูลที่มหึมาในอาณาจักรกุหลาบดำ
หากวานสามารถยืมชื่อเสียงและเส้นสายของพวกเขาได้ การพบปะและการมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลขุนนางอื่นๆในเมืองหลวงของอาณาจักรก็จะง่ายกว่าเดิม
ขณะที่เขาคิดถึงการไปเยือนเมืองหลวงหลังจากบรรลุเป้าหมายปัจจุบัน วานก็วางแผนอย่างแน่วแน่ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เมืองหลวงเป็นสถานที่ที่เฟื่องฟูไปด้วยแม่มดที่มีพรสวรรค์และทรงพลัง
มันเป็นที่ที่ดีที่สุดในการเติบโต
…
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่หรอ?” ลิเนตต์เริ่มถามในขณะที่วาดวงกลมบนหน้าอกของเขาอย่างมั่นใจและสนุกสนาน
หลังจากประสบกับช่วงเวลาอันเร่าร้อนด้วยกัน เธอก็เปล่งประกายด้วยความมั่นใจและความเป็นผู้ใหญ่
ตอนนี้ดอกไม้ก็ได้บานอย่างสวยงามแล้ว
วานซ่อนความคิดที่แท้จริงของเขาและตอบด้วยรอยยิ้ม “ผมแค่คิดว่าการที่เธอให้ครั้งแรกกับคนที่เพิ่งรู้จักนั้นเป็นการดีแล้วงั้นหรอครับ”
“โอ้?”
ลิเนตต์รู้สึกทึ่งกับคำถามของเขาทันที
ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายธรรมดาที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรแม่มดจะถาม
“ผู้หญิงทุกคนต้องสูญเสียมันไปในจุดจุดหนึ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่ล่ำค่า แต่ผู้ชายกลับปฏิบัติเหมือนมันเป็นเช่นนั้นเวลาเลือกคู่ของพวกเขา วางความคาดหวังและแรงกดดันที่ไม่จำเป็นต่อผู้หญิงเพื่อให้เธอรักษาพรหมจรรย์และบังคับให้พวกเธอสงวนตัว คุณเป็นคนแบบนั้นด้วยหรือ”
ดิ๊ง!
<รางวัลถูกคำนวณแล้ว>
ระบบก็แจ้งเตือนก่อนที่วานจะได้ตอบ