บทที่ 138: จับได้ว่าหลงโม่นอนอยู่บนต้นไม้
ตอนนี้หูเจียวเจียวไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาก่อนดี
เธอลืมไปเลยว่าภูตไม่กินอาหารรสเผ็ด ในระหว่างที่ทำเนื้อสับคั่วพริก เธอก็เผลอเติมพริกชี้ฟ้าเข้าไปเยอะมากด้วย
“เหยาเอ๋อ มานี่สิ ดื่มนี่หน่อย” แม่จิ้งจอกหยิบขวดนมออกมาจากมิติ แล้วเทมันลงในชาม ซึ่งการดื่มนมสามารถบรรเทาอาการเผ็ดร้อนได้
เมื่อหลงเหยาได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ เขาก็บินไปเอาหัวจุ่มลงในชามเพื่อดื่มมันให้หมดชาม ก่อนจะแลบลิ้นเลียชามจนสะอาด
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วฟุบลงบนโต๊ะอย่างโล่งใจ
ยามนี้ศีรษะเล็กยังคงซบอยู่ตรงขอบชาม เขาหันหน้าไปทางหูเจียวเจียวในสภาพที่ปากเปื้อนฟองนมสีขาว
พอความเผ็ดร้อนในปากของมังกรน้อยบรรเทาลง เขาก็เริ่มหวนนึกถึงรสชาติของนมอีกครั้ง จึงแลบลิ้นออกมาเพื่อเลียทำความสะอาดคราบนมที่อยู่รอบ ๆ ปากตัวเอง
“อ้าาา~”
น้ำสีขาวนี้อร่อยมาก!
ดวงตาสีทับทิมเป็นประกายโดยที่เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย จากสีหน้าที่ขมขื่นเมื่อครู่ได้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่มีความสุขในทันที
จิ้งจอกสาวมองท่าทางของลูกชายคนเล็กอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเอื้อมมือไปดึงเขามากอดไว้ข้าง ๆ “เนื้อพวกนี้เผ็ดเกินไป เจ้ากินไม่ได้ เอาไว้คราวหน้าแม่จะทำแบบไม่เผ็ดให้เจ้า”
“แฮ่~” หลงเหยาน้ำลายไหลพร้อมกับกระดิกหางอย่างร่าเริง
เวลาต่อมา หูเจียวเจียวเดินไปหยิบไหหิน 2-3 ใบมาเทเนื้อสับคั่วพริกลงไปแล้วปิดผนึกปากไหไว้แบบแน่นหนา ก่อนจะเอาไปวางไว้ในกระท่อม
ตราบใดที่เนื้อสับคั่วพริกเหล่านี้ถูกปิดผนึกอย่างดี มันก็สามารถเก็บไว้ได้จนถึงฤดูหนาว วันหลังเธอจะทำเนื้อสับคั่วพริกเพิ่มอีกและส่งไปให้พ่อแม่กับพี่ชายที่บ้าน
หลังจากที่หญิงสาวทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แสงสีดอกกุหลาบก็กระจายไปทั่วท้องฟ้าแล้ว
ถัดมา หูเจียวเจียวทำความสะอาดอ่างหินกับกระทะที่เพิ่งทำเนื้อสับคั่วพริก จากนั้นก็เริ่มทำอาหารเย็น พอเวลาผ่านไปไม่นานในที่สุดหลงโม่ก็กลับมา
ทันทีที่มังกรหนุ่มกลับมาถึงบ้าน เขาก็เดินมาหยิบฟืนจากมือของจิ้งจอกสาวไปนั่งลงที่ปากเตาเพื่อคอยช่วยเธอเติมฟืนทีละท่อน ซึ่งท่าทางนั้นไม่เข้ากับอารมณ์เย็นชาของเขาเลยจริง ๆ
เนื่องจากเด็กทั้ง 5 คนไม่ชอบฝีมือการทำอาหารของพ่อมังกร เขาจึงทำได้เพียงช่วยแม่จิ้งจอกทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้
“ก่อนหน้านี้เจ้าไปไหนมาหรือ? พวกโหวเสี่ยวเตียวเพิ่งขนเหยื่อมาให้ที่บ้าน” หูเจียวเจียวถามอย่างสงสัย
อีกทั้งเธอเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดโชยมาจากตัวอีกฝ่ายด้วย
“ข้าเห็นตัวเรือด 2 ตัว เลยไปกำจัดมัน” หลงโม่ตอบช้า ๆ โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
ก่อนจะกลับบ้าน เขาไปชำระล้างเลือดบนร่างกายมาก่อนแล้ว
“อ่า” หญิงสาวพยักหน้า เมื่อเห็นว่าร่างกายของชายหนุ่มสะอาดหมดจด เธอจึงคิดว่าตนเองคงได้กลิ่นเลือดจากที่อื่น
...
หลังจากที่ครอบครัวทั้ง 7 คนทานอาหารเย็นเสร็จ หูเจียวเจียวก็ต้มน้ำให้ลูก ๆ อาบ ก่อนจะส่งพวกเขาเข้านอนบนเตียงให้เรียบร้อย ส่วนเธอก็กลับไปนอนที่กระท่อมหลังเล็ก
ขณะที่เธอกำลังเดินออกไปจากบ้านไม้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างดึงตนไว้
จิ้งจอกสาวมองย้อนกลับไปเห็นหลงเหยากัดเสื้อของเธอและมองมาที่เธออย่างกระตือรือร้น
“มีอะไรหรือเหยาเอ๋อ?”
“แจ๊บ ๆ~”
มังกรตัวน้อยแลบลิ้นออกมาทำท่าเลียอากาศพร้อมกับกะพริบตาให้ผู้เป็นแม่
ครู่ต่อมา แม่จิ้งจอกก็เข้าใจว่าลูกชายต้องการอะไร “เจ้าอยากกินน้ำที่แม่ให้เจ้ากินในวันนี้อีกหรือ?”
เด็กน้อยคนนี้ชอบรสชาติของนมใช่ไหม?
หลงเหยาพยักหน้าระรัว
หูเจียวเจียวหลุดหัวเราะเบา ๆ เจ้าตัวเล็กนี่อยู่ในวัยกำลังโต คงจะดีหากเขาได้ดื่มนมสักชามก่อนเข้านอน เธอจึงหยิบขวดนมจากมิติมาเทใส่ชามให้อีกฝ่าย
“แผล่บ ๆ!”
เนื่องจากตอนนี้เด็กอีก 4 คนหลับกันไปหมดแล้ว จิ้งจอกสาวจึงไม่ได้ปลุกพวกเขาขึ้นมาและปล่อยให้มังกรน้อยกลับไปนอนหลังจากที่ดื่มนมเสร็จ
…
กลางดึก
ในตอนนั้นเอง หลงเหยาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยอาการปวดฉี่
“งือ~”
เสี่ยวเหยาง่วงมากจริง ๆ แต่เสี่ยวเหยาปวดฉี่~
เนื่องจากมังกรตัวเล็กยังคงง่วงนอนมากจึงยังไม่ลืมตา เขาบินโซเซออกจากบ้านไปที่ต้นไม้นอกลานบ้าน
จ๊อก~
หลังจากที่หลงเหยาทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขาก็สะบัดหาง ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกโล่งแล้ว ไม่นานเปลือกตาที่หนักอึ้งก็หลุบลงและกำลังจะกลับไปนอน แต่เมื่อเขาหันกลับมา เขาก็สังเกตเห็นร่างหนึ่งอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล
“ว้ากกก!” มังกรน้อยตกใจแทบหัวใจวายตาย!
ภาพตรงหน้าทำให้เจ้าตัวเล็กสะดุ้งตาสว่างขึ้นทันที จนอาการง่วงนอนหายเป็นปลิดทิ้งไปหมด
จากนั้นเขามองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง เขาพบว่าร่างบนต้นไม้กำลังหลับใหลอยู่ เมื่อเด็กน้อยเห็นใบหน้าของคนบนต้นไม้อย่างชัดเจน เขาก็เบิกตากว้างด้วยความสงสัย
“หือ?”
ท่านพ่อเองหรือ? ทำไมท่านพ่อมานอนอยู่ที่นี่?
เป็นเพราะเขานอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืนหรือเปล่า?
เอ๊ะ! หรือว่าเขาโดนท่านแม่ไล่ออกมา?
ยามนี้ดวงตากลมโตของหลงเหยาเต็มไปด้วยความสงสัย และจำอะไรบางอย่างได้ในทันที เขาตัดสินใจบินกลับไปที่บ้านไม้
“ฮว่าาา!”
พี่ ๆ ตื่นเร็วเข้า! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ในขณะที่เจ้าตัวเล็กกรีดร้องด้วยเสียงเล็กแหลม เขาก็ดันหัวเข้ากับตัวของพี่น้องอีก 4 คนที่กำลังนอนหลับสนิท พร้อมกันนั้น เขาเก็บเล็บตัวเองแล้วใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าของพวกเขา!
“โอ๊ย… เสี่ยวเหยา เจ้าทำอะไรเนี่ย ดึกดื่นป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ยอมนอน!” หลงจงระงับความโกรธและตะโกนใส่น้องเล็ก
เขาหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่สีหน้าเต็มไปด้วยอาการง่วงงุน
หลงเหยาไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น แต่เขาจงใจอ้าปากกว้าง โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของพี่สามแล้วตะโกนว่า “อ๊าาา~”
“น้องห้า!”
ครั้งนี้หลงจงตื่นเต็มตาแล้วเด้งตัวดิ้นไปมาเหมือนปลาคาร์พตัวหนึ่งบนเตียง จากนั้นเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งท่าจะจับเจ้าตัวแสบมาสั่งสอนสักที
“น้องสาม เดี๋ยวก่อน รอดูก่อนว่าเสี่ยวเหยาต้องการพูดอะไร” หลงอวี้เองก็ตื่นแล้วเช่นกัน เขารีบห้ามหลงจงและพูดด้วยเสียงทุ้ม
“พี่สาม เสียงของท่านดังกว่าเสี่ยวเหยาอีก...” หลงหลิงเอ๋อขยี้ตา พลางลุกขึ้นนั่งด้วยความงุนงง
หลงเซียวเองก็ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน ในขณะที่เขาปิดปากหาวพร้อมกับขมวดคิ้วฟังการเคลื่อนไหวของเหล่าพี่น้องอย่างเงียบ ๆ
คนเป็นพี่ใหญ่มองไปที่น้องชายคนเล็ก แต่เสียงที่ยังเล็กแหลมของเขาสงบนิ่งมาก “เสี่ยวเหยา เกิดอะไรขึ้น?”
หลงเหยาชำเลืองมองหลงจงที่จ้องตนด้วยความโกรธ
“เสี่ยวเหยา เรื่องที่เจ้าอยากพูดมันต้องสำคัญจริง ๆ นะ ไม่งั้นคืนนี้ข้าจะไม่นอนจนกว่าตูดของเจ้าจะบาน”
พอถึงเวลาอธิบาย มังกรตัวเล็กแลบลิ้นออกมา พลางชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกด้วยกรงเล็บมังกรด้านหน้าทั้ง 2 จากนั้นเขาประกบกรงเล็บเข้าด้วยกันอีกครั้ง ก่อนจะบินไปที่เตียงแล้วนอนลง โดยหลับตาปล่อยเสียงกรนออกมา “คร่อกฟี้ ๆ”
“เสี่ยวเหยา เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?”
หลงหลิงเอ๋อและเด็กคนอื่น ๆ ทำสีหน้างุนงงกับท่าทางของน้องเล็ก
“แฮ่!” หลงเหยารู้สึกกระวนกระวายมากขึ้น เขาไม่สนใจแม้แต่จะขยับอุ้งเท้า เขาใช้หางแทนมือแล้วชี้ไปมาระหว่างประตูกับเตียง
ระหว่างนั้นเขาเลียนแบบเสียงกรนเป็นระยะ ๆ
หลงอวี้ดูเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อยจึงเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “เจ้าหมายถึง มีคนมานอนหลับอยู่ข้างนอกหรือ?”
“แฮ่!” เจ้าตัวเล็กเบิกตากว้างพร้อมพยักหน้าตอบระรัว
“ใครกันที่มานอนนอกบ้านเรากลางดึก ช่างน่าสงสารจริง ๆ เหมือนพวกเราเมื่อก่อนเลย” หลงหลิงเอ๋อนอนอยู่บนเตียงพลางเอามือยันคางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเห็นใจ
“เสี่ยวเหยา เจ้าเห็นไหมว่าใครนอนหลับอยู่ข้างนอก?” ผู้เป็นพี่ใหญ่ถามอีกครั้ง
หลงเหยาพยักหน้าแล้วใช้ภาษากายอธิบายต่อไป เขาหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะหันกลับมาพร้อมกับสีหน้ามืดมนราวกับว่าตนเพิ่งกินแตงขมปี๋เข้าไป
ถัดมา เจ้าตัวเล็กสะบัดหน้ากลับไปทางเดิม 2-3 วินาที สักพักสีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นเด็กน้อยชี้ไปที่ร่างเล็กของตัวเอง และวาดวงกลมขนาดใหญ่ในอากาศด้วยกรงเล็บมังกร
ขณะเดียวกัน เด็กทุกคนมองดูน้องชายคนสุดท้องที่วาดลีลาท่าทางอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่นานพวกเขาก็หันมามองหน้ากันพลางเดาบางอย่างในใจ
สีหน้าของเสี่ยวเหยาในตอนนี้...ทำไมมันช่างคล้ายกับใบหน้าเหม็นสาบของท่านพ่อนักนะ?
ในที่สุดหลงหลิงเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะพูดสิ่งที่นางคาดเดาออกมา
“เสี่ยวเหยา เจ้าไม่ได้หมายความว่า... ท่านพ่อนอนอยู่ข้างนอกหรอกใช่ไหม!?”