บทที่8
“ที่รัก ไม่ต้องกังวลนะคะ”
ในขณะที่หลิวเฉิงกำลังคิดว่าจะหนียังไงดี เซี่ยว่านชิวที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตบไหล่เขาเบา ๆ
หลิวเฉิงทันใดนั้นก็จำได้ว่าแฟนของเขายังอยู่ด้านหลัง
ไม่สิ บางทีอาจเป็นเพราะแฟนผีของเขาอยู่ด้านหลังก็ได้ ดังนั้นอดีตเจ้านายและอดีตเพื่อนร่วมงานเลยไม่เข้ามาโจมตีหลิวเฉิง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลิวเฉิงรู้สึกว่าออฟฟิศวันนี้เย็นมาก แต่ก็ไม่มีผีมารังควานเขา
ต้องเป็นเพราะแฟนของเขาอยู่ด้วนแน่ ผีเลยกลัว
ผีก็มีความคิดและรู้สึกเหมือนกัน พวกมันไม่โง่พอที่จะพุ่งเข้ามาและถูกฆ่าตาย
การที่อดีตเจ้านายของเขาเรียกเขาเข้าไปในห้อง บางทีอาจเพราะจงใจก็ได้
เขาต้องการหลอกให้หลิวเฉิงเข้าไปในห้อง แล้วก็...
แน่นอนว่าห้องบอส ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผีก็น่ากลัวพอกัน
“เซี่ยว่านชิว คนในชั้นนี้เป็นผีกันหมดหรือเปล่า?” หลิวเฉิงตั้งสติครู่หนึ่ง เมื่อผ่อนคลายลงแล้วจึงได้ถามเซี่ยว่านชิวออกมา
อุบัติเหตุรถตกผาคร่าชีวิตเจ้านายของเขารวมไปถึงเพื่อนร่วมงานอีกสามคน
แต่ในปัจจุบัน รวมหลิวเฉิงแล้วยังมีอีกเก้าคนที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่
“ยกเว้นคุณที่รัก มันมีวิญญาณอยู่ทั้งหมดแปดตัว”
“แปด?”
หลิวเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เป็นไปได้ไหมว่าพนักงานคนอื่นถูกเจ้านายและอีกสามคนฆ่าตายแล้วกลายเป็นผี
พอคิดแล้วก็มีความเป็นไปได้
ไม่อย่างนั้นพนักงานที่ควรมีชีวิตอยู่จะกลายเป็นผีไปได้ยังไง?
เจ้านายของเขานี่ทั้งร้ายกาจและชั่วร้ายจริง ๆ ฆ่าคนที่มีชีวิต แล้วอีกฝ่ายจะเข้าโจมตีเขาหรือเปล่านะ?
“ตอนยังมีชีวิตก็เป็นคนขี้งก ดุร้ายและร้ายกาจ น่าขยะแขยงจริง ๆ” หลิวเฉิงอดด่าหัวหน้าที่ตายไปแล้วไม่ได้
เขาถูกอีกฝ่ายเพ่งเล็งจริง ๆอย่างที่คิด หากไ่ใช่เซี่ยว่านชิวอยู่ที่นี่ด้วย ตัวเขาคงตายไปแล้วตตั้งแต่เข้ามาที่บริษัท
ยิ่งคิด หลิวเฉิงก็ยิ่งโกรธ
เขาต้องการให้เซี่ยว่านชิวฆ่าผีบอสของเขาซ้ำอีกครั้งจริง ๆ
ขณะที่หลิวเฉิงกำลังคิดบางอย่างด้วยความไม่พอใจ เสียงเคาะประตูก็ดังมา
หลิวเฉิงถูกประตูดึงดูดความสนใจได้ชะงักนัก
ผีจะไม่มีทางเคาะประตู นอกเสียจากอยากจะหลอกคน
“นั่นคือคนมีชีวิตหรือเปล่า?”
“สามีที่รัก พวกเขาเป็นคนจริง ๆ แต่พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา” เซี่ยว่านชิวมองไปที่ประตูแล้วตอบหลิวเฉิง
“ไม่ใช่คนธรรมดา?”
หลิวเฉิงตกตะลึง
จะเป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามาเพื่อจับผี?
ถ้าคิดแบบปกติตามหลักก็เข้าใจได้ ในเมื่อมีผีบนโลกก็ย่อมต้องมีคนคอยจับผี ไม่อย่างนั้นคนทั้งโลกคงโดนหลอกไปแล้ว
ผีตัวอื่น ๆในออฟฟิศยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีความผิดปกติ มีเพียงเซี่ยว่านชิวตนเดียวที่รู้ว่าคนที่มาไม่ใช่คนธรรมดา เพราะว่าเซี่ยว่านชิวนั้นแข็งแกร่งมาก
“เซี่ยว่านชิว เธอต้องเลี่ยงพวกเขาหรือเปล่า? ถ้าหากพวกเขาเห็นเธอ...” หลิวเฉิงมองไปที่เซี่ยว่านชิวด้วยความกังวล เขายอมรับเลยว่าเป็นห่วงเธอ
แม้ว่าแฟนของเขาจะไม่ทำร้ายคน แต่เธอก็เป็นผีอยู่ดี หากถูกจับได้ ไม่ว่าจะเป็นนักบวชลัทธิเต๋าหรือพระสงฆ์รวมไปถึงบุคคลจากองค์กรบางแห่ง ไม่ว่าอย่างไหน หลิวเฉิงก็ช่วยเธอไม่ได้ เขาเป็นคนธรรมดา ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้แน่
หลิวเฉิงไม่มีพลังพอ
ถ้าเขามีพลัง เขาก็ยังคงปกป้องเซี่ยว่านชิวได้อยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขายังเป็นคนปกติ แม้แต่ผีร้ายตัวเล็กตัวน้อย เขาก็ยังสู้ไม่ได้เลย
เซี่ยว่านชิวเห็นความเป็นห่วงผ่านแววตาของหลิวเฉิง เธอก็คลี่ยิ้มงดงามออกมา เธอพูดปลอบหลิวเฉิงด้วยเสียงอ่อนโยน “ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้พวกมันมา ฉันก็สามารถฆ่าพวกมันได้ภายในไม่กี่วินาที”
คำพูดของเธอนั้นไม่ได้เป็นการปลอบอย่างเดียว แต่พูดเพื่อให้คนรักของเธอนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเธอด้วย
“โล่งอก...”
หลิวเฉิงถอนหายใจเพื่อปลดปล่อยความเครียดในใจ
เขารู้ว่าแฟนของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าแข็งแกร่งแค่ไหน แต่หลังจากได้ยินจากปากของเซี่ยว่านชิว หลิวเฉิงก็โล่งใจทันที
อย่างน้อยเธอก็พอป้องกันตัวได้
อย่างไรก็ตาม หลิวเฉิงไม่ต้องการให้เซี่ยว่านชิวฆ่าคน
เขาแค่อยากจะมีชีวิตที่สงบสุขกับแฟนผีของเขา ตราบใดที่ไม่มีใครมายุ่งกับตัวเขาเอง เขาก็ไม่คิดที่จะให้เซี่ยว่านชิวฆ่าใคร
แต่หากเป็นวิญญาณชอบหาเรื่องเหมือนบอสที่ตายไปของเขา หลิวเฉิงไม่ใจอ่อนเด็ดขาด
“เซี่ยว่านชิว ไปที่ห้องบอสกันก่อน อย่าเพิ่งไปสนใจคนข้างนอกเลย” หลิวเฉิงจ้องไปที่ประตูห้องทำงานของบอสแล้วกล่าวกับเซี่ยว่านชิว
หลิวเฉิงต้องการฆ่าบอสคนนี้อีกครั้ง เพราะว่าตอนตายไปแล้ว อีกฝ่ายก็ยังหมายหัวเขา
“ได้ค่ะที่รัก”
เซี่ยว่านชิวพยักหน้าพลางจับมือของหลิวเฉิง นิ้วมือสอดประสานกันและทำให้แฟนของเธอลอยขึ้นด้วยพลังจิตและลอยมาที่หน้าห้องทำงานบอส
เธอมีพลังจิตที่แข็งแกร่งและสามารถทำให้คนอื่นบินไปกับเธอได้สบาย
หลิวเฉิงมีประสบการณ์การบินเป็นครั้งแรก มันไม่เหมือนกับสิ่งที่เขาเคยประสบพบเจอมาเลย
มนุษย์นั้นโหยหาการบิน เพราะรักความอิสระ เพราะหากบินได้ มันจะเป็นอิสระจากแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ผู้คนรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
และหลังจากหลิวเฉิงบินได้ มันก็ทำให้เขารู้สึกว่าการบินครั้งแรกของเขานี่มันยอดเยี่ยมมากจริง ๆ0
ถ้าหากเขาบินได้ด้วยตัวเอง ปราศจากการช่วยเหลือของเซี่ยว่านชิวมันก็คงจะดี
หลิวเฉิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะผลักประตูห้องทำงานเข้าไป
ประตูห้องทำงานบอสเปิดออกช้า ๆ
ในขณะนั้นเอง สภาพแวดล้อมในสายตาของหลิวเฉิงก็มืดมิดลงทันที ราวกับว่ามีบางอย่างมากั้นแสงไว้ ทั้งสำนักงานมืดมาก
ตอนนั้นเองที่หลิวเฉิงเห็นว่ามีคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของบอสเขา