บทที่ 24 ไม่มีเวลาพักสำหรับคนต่ำช้า
“เลดี้ลิเนตต์ คืนนี้เราเดินทางได้ระยะทางพอสมควรแล้ว” กัปตันริสแจ้งก่อนออกคำขอ “โปรดอนุญาตให้เราได้พักสักครู่ก่อนเดินทางต่อเถอะ”
“ฉันอนุญาต” ลิเนตต์เหลือบมองวานแวบหนึ่งก่อนที่เธอจะตกลงตามคำขอของกัปตันของกลุ่มคุ้มกัน
แม้ว่าวานกำลังตรวจสอบพื้นที่และไม่ได้หันหน้าให้กับลิเนตต์โดยตรง แต่เขาสัมผัสได้ถึงการเหลือบมองของเธอและรู้สึกว่าเธอมีความตั้งใจอื่นสำหรับการตกลงของเธอ
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
“ขอบคุณครับ ท่านหญิง” กัปตันริสทำความเคารพด้วยความยกย่องก่อนจะกลับไปหาคนของเขา
ไม่นานหลังจากที่ซาลามานเดอร์พสุธาหยุดเดิน กัปตันริสและกลุ่มคุ้มกันคนอื่นๆสำรวจบริเวณใกล้เคียงก่อนที่จะเลือกเสาหินที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพักผ่อน
เกวียนขนของสองเล่มถูกทิ้งไว้ที่ด้านล่าง ก่อนที่กลุ่มคุ้มกันจะเหวี่ยงตะขอเกี่ยวเหนือเสาหินและเริ่มปีนขึ้นไป
หลังจากที่ลิเนตต์ยกเลิกการอัญเชิญสัตว์ของเธอแล้ว เธอใช้คาถาวายุเพื่อบินขึ้นไปบนยอดเสาหินโดยมีลิเลียอยู่บนหลัง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็มองลงไปที่วานที่อยู่ด้านล่างก่อนที่จะถามว่า “คุณต้องการความช่วยเหลือเพื่อขึ้นมาไหม”
“ไม่เป็นไรครับ ท่านหญิง” วานส่ายหัวและตอบว่า “ผมสามารถขึ้นไปเองได้ แต่ขอบคุณสำหรับการเสนอความช่วยเหลือนะครับ”
อย่างไรก็ตาม วานไม่ได้ปีนเสาหินทันที
เขาเดินไปหากัปตันริสข้างเกวียนก่อนจะแตะไหล่เขาเพื่อเรียกความสนใจ
“หืม? คุณต้องการอะไรจากข้างั้นหรือ” กัปตันริสถาม
“ไม่ครับ แต่ว่าผมมีอะไรจะให้คุณมากกว่า” วานหยิบกระเป๋าใบเล็กออกมาใบหนึ่งก่อนจะส่งต่อให้หัวหน้าคุ้มกัน “ผงขจัดกลิ่นในซองนี้สามารถลบกลิ่นใดๆได้ด้วยการโรยบางๆลงบนเป้าหมาย”
“เรื่องจริงหรือ?” กัปตันริสรับกระเป๋าด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้วครับ ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาหลอกคุณ” วานพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจและพูดว่า “และผมแน่ใจว่าคุณรู้ว่าต้องทำอะไรกับมัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว! หากมันใช้งานได้ตรงตามที่คุณพูด แสดงว่านี่คือสิ่งที่มีประโยชน์มาก เราจะสามารถประหยัดพลังงานได้มากมายด้วยสิ่งนี้! ข้าจะนำไปทดสอบทันที!” กัปตันริสพูดด้วยความประหลาดใจ
เขาเริ่มเรียกเหล่านักรบหนุ่มให้ลงมาจากเสาหิน ก่อนที่พวกเขาจะตั้งค่ายเล็กๆล้อมรอบ และปกคลุมทุกสิ่งด้วยพุ่มไม้ กิ่งไม้แห้ง ใบไม้ และดิน อะไรก็ตามที่หาได้ในพื้นที่เพื่อปกปิดตำแหน่งของพวกเขา
หมาป่าโลกันตร์สองตัวโจมตีพวกเขาระหว่างการตั้งค่าย แต่หลังจากกัปตันริสโรยผงแป้งรอบๆเล็กน้อย สิบห้านาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการโจมตีอีก
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเลย วาน! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงมั่นใจในการเดินทางคนเดียว!” กัปตันริสอุทานออกมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างขบขันขณะที่เขาตบหลังวานอย่างหนักแน่น
การตบเบาๆจากผู้เชี่ยวชาญออร่าระดับ 2 นั้นเจ็บ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่เขาทนไม่ได้
“คุณไปเอาของแบบนี้มาจากไหน”
“ผมทำมันเอง”
วานตอบอย่างสบายๆ แต่มันทำให้กัปตันริสประหลาดใจมากยิ่งขึ้นหลังจากได้ยิน
“จริงเหรอ? คุณเก่งขนาดไหนกันแน่? ข้าเกือบจะลืมไปแล้วว่ามันนานแค่ไหนแล้วที่ได้พบกับชายคนหนึ่งที่มีความรู้ระดับเดียวกับคุณ” กัปตันริสกล่าวชื่นชม
ในขณะที่ดูเหมือนว่าวานจะมีพรสวรรค์ในหลายด้าน แต่ทั้งหมดนั้นเกิดจากการบ่มเพาะความรู้
อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่มีผู้ชายที่มีการศึกษาและรอบรู้ไม่มากนักในบริเวณใกล้เคียงกับอาณาจักรแม่มดทั้งเจ็ด
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ” วานยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “ในขณะที่อาณาจักรกุหลาบดำไม่มีกฎหมายใดๆ ที่ห้ามไม่ให้ผู้ชายเรียน สถานะของพวกเขาไม่ได้ทำให้เข้าถึงหนังสือได้โดยง่ายเช่นกัน”
ตำราที่มีความรู้ทั้งหมดถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่มีแม่มดเกิดขึ้นและถูกเก็บไว้ภายในห้องสมุดเพื่อปกป้องพวกมัน
ท้ายที่สุดแล้ว การสะสมความรู้มีความสำคัญต่อความสำเร็จของแม่มดในศาสตร์เวท
“นั่นก็เป็นเรื่องจริง” กัปตันริสพยักหน้าเห็นด้วยและเสริมว่า “สถานะของผู้ชายต่ำมากในดินแดนของอาณาจักรแม่มดทั้งเจ็ด การเข้าถึงหนังสือไม่ใช่เรื่องง่ายหากไม่มีเส้นสายที่ดี”
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่พักหนึ่ง วานสังเกตเห็นว่ากัปตันริสมีบางอย่างอยู่ในใจ
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาว่ามันเกี่ยวข้องกับวิธีการผลิตของผงขจัดกลิ่น
กัปตันริสไม่สามารถหาจังหวะที่เหมาะสมในการถามได้ และในที่สุดก็เสียโอกาสนั้นไปเมื่อจู่ๆ เลดี้ลิเนตต์ก็เรียกหาวาน
“วาน ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ฉันอยากจะคุยต่อ ฉันสนใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กับคนที่ฉลาดเช่นคุณมากเลย” คนๆนั้นพูดจากยอดเสาหิน
“แน่นอนครับ ท่านหญิง ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง” วานตอบก่อนที่จะแจ้งให้กัปตันริสทราบเกี่ยวกับการต้องไปของเขา “ในเมื่อท่านหญิงเรียกมา ผมก็ไม่ควรปล่อยให้เธอรอนาน”
“อืม ไปเถอะ” กัปตันริสพยักหน้า
อย่างไรก็ตาม ความผิดหวังของเขานั้นแสดงออกอย่างชัดเจน
วานยิ้มและตัดสินใจทิ้งคำพูดไว้ให้กัปตันของกลุ่มคุ้มกันกลับไปคิด
“การผลิตผงขจัดกลิ่นไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญในการเล่นแร่แปรธาตุระดับสูง อีกทั้งสูตรของมันก็ไม่ได้ซับซ้อนและใช้ของมากเกินไป หากคุณจำข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกไว้ของกระต่ายมีเขา ในสารานุกรมสัตว์อสูรได้ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะคิดผลิตภัณฑ์พื้นฐาน”
“กระต่ายมีเขา…สารานุกรมสัตว์อสูร…” กัปตันริสพึมพำก่อนที่ดวงตาของเขาจะสว่างขึ้นและกล่าวคำขอบคุณจากใจจริงต่อวาน “ข้าได้รับประโยชน์อย่างมากจากคำพูดที่ใจดีของคุณ ขอบใจนะ วาน”
วานโบกมือให้กัปตันริสโดยไม่หันกลับไปมอง
ครึ่งทางเหนือของภูมิภาคจันทราทมิฬเป็นที่อยู่อาศัยของหมาป่าโลกันตร์ทมิฬ แต่พวกมันไม่ใช่สัตว์อสูรเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในพื้นที่
หนอนศิลาและกระต่ายมีเขา ก็อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เช่นกัน แต่พวกมันไม่เคยอยู่ในสิ่งที่วานกังวล
พวกมันไม่เป็นภัยคุกคามมากนัก
แม้ว่าจะไม่มีสารานุกรมสัตว์อสูร แต่กลุ่มคุ้มกันเหล็กไหลก็ควรมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคจันทราทมิฬ
บนเสาหิน วานสังเกตเห็นเต็นท์ส่วนตัวของลิเนตต์ที่ถูกตั้งขึ้น ซึ่งกินพื้นที่ส่วนใหญ่
ผู้หญิงคนนั้นกำลังรอเขาอยู่ที่ขอบหิน
วานยิ้มก่อนจะถามอย่างสุภาพ “คุณอยากจะคุยเรื่องอะไรหรือครับ ท่านหญิง”
“นั่นสิ… อันที่จริง ฉันอยากให้คุณมาต่อจากที่เราค้างไว้ในเต็นท์ของฉัน” ลิเนตต์ร้องขอด้วยหน้าตาที่แดงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม หน้าที่แดงเล็กน้อยก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอย่างรวดเร็ว และหัวใจของเธอก็เต้นรัวอย่างกระวนกระวายด้วยความวิตกกังวลและความคาดหวัง
ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้
จากสถาพที่เห็นๆกันอยู่ ความหมายของเธอไม่สามารถชัดเจนได้มากกว่านี้แล้ว เมื่อวาน เข้าใจว่าเธอกำลังจะขออะไรจากสีหน้าของเธอ
“แน่นอนครับ ท่านหญิง ด้วยความเคารพ” วานก้มหัวลงพร้อมกับคำนับอย่างสุภาพบุรุษ ซ่อนรอยยิ้มกว้างของเขาจากมุมมองของลิเนตต์
มันเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งของเขาในการเดินทาง
เขาจะไม่เสียโอกาสในการพัฒนาตัวเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับใครก็ตามที่มุ่งหน้าไปในทิศทางของเมืองหลวงในอาณาจักร
‘ไม่มีเวลาพักสำหรับคนต่ำช้างั้นสินะ’ วานรำพึงในใจ