บทที่ 22 ความโกรธเกรี้ยวของเจ้าเมืองอิสตาน่า
ณ วิทยาลัยจันทราทมิฬ
“เธออยู่ที่ไหน?!”
เสียงคำรามอันกึกก้องของเจ้าเมืองอิสตาน่า สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณวิทยาลัย รบกวนชั้นเรียนที่กำลังสอนอยู่หลายแห่งตั้งแต่วินาทีที่เธอมาถึงพร้อมกับกลุ่มทหารและแม่มดประจัญบาน
“เลดี้อิสตาน่า” กวีน่าทักทายอย่างสุภาพ โดยคาดไว้แล้วว่าเจ้าเมืองจะมา
เธอรีบนำทางไปยังห้องพยาบาลที่ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุและยังไม่ถูกแตะต้อง เกรงว่าเจ้าเมืองจะมีข้อสงสัยแล้วจับผิด จากนั้นก็กล่าวหาวิทยาลัยในทางที่ผิด
“กลิ่นฉุนนี่มันอะไรกัน”
อิสตาน่าขมวดคิ้วก่อนที่เธอจะไปถึงวอร์ดแรกเสียอีก เมื่อกลิ่นเหม็นโชยไปทั่วโถงทางเดินของห้องพยาบาล
“อย่างที่ท่านทราบ นักเรียนของเรายังเด็กและไร้ประสบการณ์ในการเห็นเลือด หลายคนจึงอาเจียนเมื่อเห็นภาพอันน่าสยดสยองภายในวอร์ดแรก” เลดี้กวีน่าอธิบาย
เลดี้อิสตาน่า ขมวดคิ้วทันทีและจ้องมองมาที่เธอ “แล้วเจ้าไม่คิดจะให้คนมาทำความสะอาดเลยหรือไง”
“เมื่อคำนึงถึงท่านเจ้าเมือง เราคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ทำอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบส่วนตัวของท่านในที่เกิดเหตุ”
อิสตาน่าพยักหน้าหลังจากได้ยินคำอธิบายของเลดี้กวีน่า แล้วพูดว่า “อย่างน้อยเจ้าก็รู้จักกาลเทศะ”
หลังจากก้าวข้ามแอ่งอ้วกได้ไม่นานอิสตาน่า ก็เข้าไปในวอร์ดแรกและตรวจดูที่เกิดเหตุก่อนที่บรรยากาศโดยรอบจะหนักอึ้งเมื่อเลดี้อิสตาน่า หลับตาลงอย่างเจ็บปวด
“ฉันเสียใจกับการสูญเสียของท่าน เลดี้อิสตาน่า” เลดี้กวีน่ากล่าว
“…”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เลดี้อิสตาน่าก็ถามว่า “เจ้าจะต้องมีเบาะแสให้ข้าอย่างแน่นอน ผลการสอบสวนของเจ้าเองเป็นยังไง”
“ตามเบาะแสที่เหลือไว้ เลดี้เอเลนและฉันสรุปว่ามันเป็นฝีมือของอสูร” เลดี้กวีน่ากล่าว
อย่างไรก็ตาม ไหล่ของเลดี้อิสตาน่าก็สั่นในทันทีด้วยความโกรธขณะที่เธอจ้องเลดี้กวีน่าด้วยสายตาที่ดุดันและเต็มไปด้วยความอาฆาต
“การกระทำของอสูร เจ้าว่างั้น…? คิดว่าข้าจะเชื่องั้นเหรอห๊ะ?! ถ้ามีการเคลื่อนไหวของอสูรแม้แต่น้อยนิดในอาณาเขตของข้า เจ้าคิดเหรอว่าข้าจะปล่อยให้หนูเล็ดลอดเข้ามาในเมือง?!” เลดี้อิสตาน่าตะโกนอย่างเดือดดาล
ข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครรายงานว่าเหตุใดลูกสาวของเธอจึงมาอยู่ในห้องพยาบาลนั้นทำให้เธอโกรธมากกว่าเดิม
วิทยาลัยจะต้องพยายามซ่อนบางอย่างจากเธออย่างแน่นอน! ซึ่งมันอาจเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมของลูกสาวของเธอซะด้วยซ้ำ!
ไม่ว่าวิทยาลัยจะซ่อนอะไรอยู่ก็ตาม เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร!
“จากนี้ไปคนของข้าจะดำเนินการสอบสวน! วิทยาลัยควรให้ความร่วมมือและช่วยเหลือการสืบสวนให้ดีที่สุด ไม่อย่างงั้นข้าจะถือว่าพวกเจ้าทั้งหมดเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการสังหารลูกสาวของข้า!”
คำพูดที่รุนแรงของเลดี้อิสตาน่า ทำให้เลดี้กวีน่าขมวดคิ้วขณะที่เธอตอบอย่างเคร่งขรึม “เป็นธรรมดาอยู่แล้ว วิทยาลัยจะให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจตราบเท่าที่ท่านเจ้าเมืองจะไม่เลยเถิดเกินไปและถือว่าทุกคนเป็นอาชญากรก่อนที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเขา”
“หากเหล่านักเรียนถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ฉันจะต้องรายงานทุกอย่างให้กับอาจารย์ใหญ่แอสโทเรีย เมื่อเธอกลับมาที่นี่” เลดี้กวีน่ากล่าวเสริมขณะที่เธอจ้องมองอิสตาน่าอย่างเข้มงวด
“ข้าต้องการเอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับทุกคนที่ลูกสาวของข้ามีปฏิสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เธอเข้าเรียนในวิทยาลัยบนโต๊ะทำงานในวันพรุ่งนี้! แยกย้าย!”
“รับทราบค่ะ นายหญิง!” เหล่าแม่มดประจัญบานปฏิบัติตามด้วยรูปลักษณ์ที่เคร่งครัดในทันที
ในเวลาต่อมา อิสตาน่าห่อร่างลูกสาวของเธอด้วยมานาอีกชั้นหนึ่ง และวางศพไว้ในโลงคุณภาพสูงที่เธอเตรียมไว้ก่อนออกจากวิทยาลัย
กลับมาที่ปราสาท แม่มดประจัญบานกำลังรอคอยการกลับมาของเจ้าเมืองอยู่
“ตามคำสั่งของท่าน ทั้งเมืองได้เข้าสู่การปิดล้อมแล้วนายหญิง ไม่มีใครสามารถเข้าหรือออกได้จนกว่าจะมีประกาศยกเลิก!” แม่มดประจัญบานรายงานว่าภารกิจของเธอเสร็จสิ้นแล้ว
“ดี” อิสตาน่าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมก่อนจะพูดว่า “แต่นั่นยังไม่เพียงพอ ลูกสาวของข้าถูกฆ่าตายในช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ไปตรวจสอบดูว่ามีใครออกจากเมืองไปแล้วบ้าง แล้วกลับมารายงานข้าด้วย”
“ได้ค่ะ นายหญิง!”
หลังจากรับภารกิจแล้ว แม่มดประจัญบานก็จากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลและบินไปยังกองทหารรักษาการณ์ทางตอนเหนือ
อิสตาน่าถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในสวนพร้อมกับโลงศพของลูกสาว
บรรยากาศดูเงียบสงบในขณะที่คนใช้เฝ้าดูนายหญิงของพวกเธอ จ้องมองที่โลงศพในความเงียบจากระยะไกล
อย่างไรก็ตาม พวกเธอทุกคนรู้ว่านี่เป็นเพียงความสงบก่อนเกิดพายุ เมื่อพบตัวฆาตกรแล้วหายนะจะตามมาอย่างแน่นอน
…
…
…
ทางตอนเหนือของภูมิภาคจันทราทมิฬ วานยังคงเดินทางกับพี่น้องแม่มดและกลุ่มคุ้มกันเหล็กไหล โดยไม่รู้ถึงพายุที่กำลังก่อตัวขึ้นในเมืองจันทราทมิฬ
“อยากรู้จริงๆหรอครับ?”
เมื่อวานถามคำถามนี้ออกไป พี่สาวลิเนตต์ก็มองกลับมาที่เขาอย่างอยากรู้อยากเห็น เธออยากรู้จริงๆว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากแม่มดอาวุโสได้อย่างไร
“แน่นอนค่ะ!” ลิเลียพยักหน้าด้วยความกระตือรือร้นและความอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
“มันอาจไม่ใช่เรื่องที่จะคุยโว แต่ผมเคยทำงานในซ่องโสเภณีและมีอาจารย์ที่ดี ดังนั้นทักษะด้านความเสียวของผมจึงดีกว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่” วานอธิบายอย่างสบายๆก่อนจะถาม “เธออยากฟังรายละเอียดหรือสัมผัสมันด้วยตัวเองไหมล่ะครับ ท่านหญิง”
“ถ้ามันดีพอที่จะได้รับความกรุณาจากแม่มดอาวุโส แน่นอนว่าฉันอยากจะ—”
“พอแค่นั้นเลยนะ!”
ลิเนตต์ปิดปากลิเลียน้องสาวของเธอทันทีก่อนที่เธอจะพูดจบและหันร่างของเธอไปพบกับวานโดยตรง
“น้องสาวของฉันยังเด็กและยังไม่เติบโตมากนัก โปรดแสดงทักษะของคุณกับฉันแทน” ลิเนตต์อาสา
“อื้มม—! หึ—!”
ลิเลียเบิกตากว้างขณะที่พี่สาวของเธอห้ามไม่ให้เธอพูด
เธอ? ไม่โตที? ไม่มีทาง! เธออายุ 18 ปีแล้ว! ร่างกายของเธอยังคงเติบโตได้อีกเพราะเธอยังไม่ได้ปลุกเวทมนตร์เฉพาะทางของเธอและกลายเป็นแม่มดที่แท้จริง!
เห็นได้ชัดว่าพี่สาวของเธอต้องการขโมยโอกาสที่เธอจะได้!
“คือ มันก็แค่การนวดธรรมดาๆครับ” วานไออย่างลำบากใจ สงสัยว่าพี่น้องแม่มดอาจเข้าใจเขาผิด “ไม่มีอะไรที่ส่วนตัวเกินไป ที่นี่แทบจะไม่ใช่เวลาและสถานที่สำหรับเรื่องนั้นเลยครับ”
“หากว่าเลดี้ลิเนตต์ต้องการ ผมสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีกว่านี้ในช่วงพักของเราได้ครับ” วานกล่าวเสริม
“อะแฮ่ม ฉันเข้าใจแล้ว” ลิเนตต์ไอและทำสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะพูดอย่างสุขุมว่า “เราจะมาดูกันก่อนว่าการนวดของคุณยอดเยี่ยมแค่ไหน คุณสามารถนวดที่ไหล่ของฉันได้”
“เข้าใจแล้วครับ ท่านหญิง” วานพยักหน้า
ในไม่ช้าสายตาที่สงบนิ่งแต่แหลมคมของเขาตกลงบนไหล่ที่ไร้การปกปิดและผิวที่ขาวเนียนของลิเนตต์ หลังจากที่เธอเสยผมยาวสีน้ำตาลของเธอให้พ้นทาง...
“อื้มม—! หึ—!” เสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากปากของลิเลีย ขณะที่เธอยังคงต่อสู้ดิ้นรนในอ้อมแขนของพี่สาวของเธอ