บทที่ 132: ข้าอยากจะสั่งสอนเจ้ามานานแล้ว
ขณะนี้เด็กทั้ง 4 คนต่างก็หมกมุ่นอยู่กับการเฝ้าดูท่าทางของแม่ลูกกวาง จึงไม่ได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบของหลงเหยา
“ท่านแม่ ไอ้ตัวเล็กพวกนั้นเป็นคนทำทั้งหมด พวกมันจับข้ากดหัวลงไปในแม่น้ำเพื่อให้ข้าสำลักน้ำโคลน แถมยังโกนผมข้าออกด้วย ท่านแม่ ท่านต้องล้างแค้นให้ข้า!”
ลู่หลีคร่ำครวญเสียงดังด้วยใบหน้าที่บวมฉึ่ง พร้อมกับที่เขาสาธยายถึงการกระทำอันแสนชั่วร้ายของเด็กตระกูลหลงทั้ง 5
ในขณะที่เขาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แม่ฟัง น้ำหูน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วคราบสกปรกหลายจุดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เปื้อนโคลน ไม่นานน้ำมูกสายยาวก็ห้อยลงมาจากรูจมูก 2 ข้างและแกว่งไปมาจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง
ภาพของกวางหนุ่มตอนนี้ไม่ต่างจากตัวทากที่เต็มไปด้วยเมือกเหนอะหนะ
สภาพของลูกชายทำให้เปลือกตาของลู่มู่กระตุก นางพยายามฝืนสุดชีวิตเพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้สลัดมือออกจากมือของอีกฝ่าย
หญิงชราใช้เวลานานก่อนที่นางจะยอมรับความจริงได้ว่าเจ้าตัวน่าเกลียดตรงหน้าคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง
“ท่านแม่ ทำไมท่านแม่ไม่พูดอะไรเลยล่ะ ท่านแม่คิดว่าข้าเองก็น่าเกลียดเหมือนกันหรือ...”
เมื่อลู่หลีเห็นว่าผู้เป็นแม่ไม่ตอบสนอง เขาก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม
ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเวทนาแบบนี้ เขารู้สึกอับอายหากต้องไปพบปะกับใคร!
“ไม่น่าเกลียด ไม่…แอวะ” แม่กวางรีบอธิบาย แต่นางพูดยังไม่ทันจบ นางก็เหลือบไปเห็นน้ำมูกที่ขยายใหญ่ขึ้นของลูกรัก นางจึงกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วอาเจียนออกมา
“...”
“ข้าอยากตาย!!” ทันใดนั้นกวางหนุ่มก็ลงไปดีดดิ้นบนพื้นเหมือนคนเสียสติ
“ลูกแม่ เจ้าอย่าทำอะไรโง่ ๆ! แม่จะล้างแค้นให้เจ้า แม่จะล้างแค้นแทนเจ้าแน่นอน!”
ลู่มู่ตกใจรีบดึงลู่หลีกลับมา ยิ่งได้เห็นท่าทางเสียใจของลูกน้อย ความรังเกียจในใจของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธทันที
ครู่ต่อมา นางหันไปมองทางที่เด็กตระกูลหลงวิ่งไปพลางสบถด่าเสียงดัง
“ไอ้พวกเด็กเปรต คอยดูนะ วันนี้ข้าจะตัดมือพวกเจ้าเพื่อล้างแค้นให้ลูกของข้า!”
ในขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มยืดคอมาจากด้านหลังแม่และพูดเสริมว่า “ผมด้วย เราต้องถอนผมพวกมันด้วย!”
“ยัยแก่ใจร้ายกำลังจะมาทำร้ายเราแล้ว วิ่งหนีเร็ว!” หลงหลิงเอ๋อกรีดร้อง แต่นางไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตระหนก นางจับมือหลงเซียวที่มองไม่เห็นแล้ววิ่งกลับบ้านทันที
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หลงอวี้กับหลงจงก็หันหลังกลับเตรียมที่จะเดินตามไป
เด็กเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจะยืนบื้ออยู่เฉย ๆ ให้หญิงชราคนนั้นมาทุบตีตนเองทำไม
“เดี๋ยวก่อน! เสี่ยวเหยาอยู่ไหน?” ในตอนนั้นเอง สีหน้าของหลงจงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาเพิ่งรู้ว่าน้องชายคนเล็กที่อยู่ข้างหลังได้หายตัวไปแล้ว
จากนั้นการเคลื่อนไหวของพี่ ๆ ทั้ง 4 ก็หยุดลงในทันใด
“ฮึบ~ ฮึบ~”
ข้าอยากเอาถังกลับบ้าน~
ปัจจุบันหลงเหยาได้แอบย่องไปข้างหลังลู่หลีโดยไม่มีใครสังเกตเห็น หางเล็ก ๆ ของเขาม้วนจับถังหิน แต่เขาไม่สามารถยกมันขึ้นจากพื้นได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำได้แต่ลากมันไปตามพื้น
หลังจากนั้นไม่นาน ร่องรอยที่เกิดจากการลากสั้น ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นดิน
“แฮ่~”
เสี่ยวเหยาช้าเกินไป เสี่ยวเหยาต้องพยายามมากกว่านี้!
เจ้ามังกรตัวเล็กลากถังหินได้เพียงระยะทางสั้น ๆ แต่เขาก็ไม่ท้อถอยแม้แต่น้อย พร้อมกับพยายามให้กำลังใจตัวเอง
ทันใดนั้นเอง ลู่มู่ก็พบว่าหลงเหยาแอบอยู่ข้างหลังตน
“ไอ้เด็กเลว เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีกรึ คอยดูเถอะ ถ้าข้าไม่ได้ถลกหนังเจ้าก็อย่ามาเรียกข้าว่าลู่มู่!” ดวงตาของหญิงชราเปลี่ยนเป็นดุดัน และนางก็ปรี่เข้าไปหามังกรน้อยโดยใช้ประโยชน์จากการที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัวเพื่อฉวยโอกาสคว้าคอเขาที่มีถังหินติดตัวมาด้วย
ปึก!
เสียงถังหินใบเล็กตกลงบนพื้น
“อ๊ะ!”
“น้องห้า!”
เมื่อเด็กทั้ง 4 เห็นฉากที่เกิดขึ้นก็อุทานเสียงดัง
แม้ว่าหลงเซียวจะมองไม่เห็น แต่เขาก็ยังได้ยินคำพูดร้ายกาจของแม่กวางเฒ่า พอรู้ว่าหลงเหยาถูกจับตัวไปแล้ว เม็ดเหงื่อก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสีซีดของเด็กหนุ่ม
“ยัยแก่ชั่ว ปล่อยน้องชายของข้านะ!” หลงหลิงเอ๋อหยุดวิ่งหนีแล้วหันกลับไปคำรามใส่หญิงชรา
“ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรเสี่ยวเหยาแม้แต่นิดเดียว! ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!” หลงจงกัดฟัน ใบหน้ามืดมนของเขาดำมืดยิ่งกว่าหมึก
“อย่ากังวลไป ข้าไม่ปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้สักคนหรอก” ลู่มู่ยิ้มอย่างร้ายกาจปนมีความสุข และยกหางของหลงเหยาขึ้น “ข้าจะมาสะสางบัญชีกับพวกเจ้า หลังจากที่ข้าถลกหนังของมันออกแล้ว!”
“อ๊าาา!”
ยามนี้มังกรตัวเล็กพยายามดิ้นรน แต่แรงเพียงน้อยนิดไม่สามารถสู้แม่กวางเฒ่าตัวโตได้เลย ขณะนั้นหญิงชราสะบัดแขนหลบการโจมตีของเขา ทำให้กรงเล็บมังกรที่ทั้งเล็กและสั้นของหลงเหยาไม่สามารถแตะต้องนางได้เลย อีกทั้งเขายังรู้สึกเวียนหัวที่ถูกอีกฝ่ายแกว่งไปมา
“ท่านแม่ รีบถลกหนังของมันออกเร็ว ๆ ทำให้มันอัปลักษณ์เหมือนข้า!” ลู่หลีตะโกนบอกแม่ของตนจากด้านข้าง ใบหน้าที่น่าเกลียดของเขายิ่งดูน่าขยะแขยงมากขึ้นไปอีก
เนื่องจากแม่กวางเฒ่าไม่มีกรงเล็บ ดังนั้นนางจึงหยิบหินแหลมบนพื้น แล้วเหวี่ยงเข้าใส่เจ้ามังกรน้อย
จังหวะนั้นเอง หูเจียวเจียวมาถึงทันเวลาที่เธอได้เห็นภาพนี้พอดี
นั่นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจและตะโกนอย่างเดือดดาล “หยุดนะ! เจ้าลองทำร้ายลูกข้าดูสิ!”
เสียงตะโกนที่ดังเหมือนกับฟ้าผ่าดังขึ้น
ทางด้านแม่กวางเฒ่าชะงักนิ่งไปโดยไม่รู้ตัว พอนางหันกลับไปมองทางต้นเสียงและพบว่าเป็นแม่จิ้งจอก นางจึงกล่าวเย้ยหยัน
“ถ้าข้าทำอะไรมันแล้วยังไงรึ มันเป็นแค่มังกรไร้ประโยชน์ที่ยังแปลงร่างไม่ได้ ไอ้เด็กสวะนี่ไร้ค่าไม่ต่างจากมดปลวกหรอก”
น้ำเสียงของลู่มู่เย่อหยิ่งและมุ่งร้าย ยิ่งหูเจียวเจียวท้าทายนางมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งอยากทรมานไอ้ตัวเล็กตัวนี้มากขึ้นเท่านั้น เพื่อที่มันจะได้ไม่กล้ามารังแกลู่หลีอีก
“วันนี้ข้าจะถลกหนังมันเอาไปแขวนไว้ที่ประตูบ้าน— อ๊ะ!”
“เจ้ากล้ารึ!” จิ้งจอกสาวโกรธมาก วินาทีต่อมา มือของเธอเปลี่ยนเป็นกรงเล็บยาวแหลมคม และเธอก็คว้ามือข้างที่อีกฝ่ายจับหลงเหยาอย่างแรง จนมือของนางปรากฏรอยแผลลึกหลายจุดขึ้นทันที
“อ๊าาาา!” ขณะที่แม่กวางกำลังลำพองใจ นางหวดก้อนหินในมือหมายจะเลาะเกล็ดบนร่างกายของมังกรตัวน้อย จู่ ๆ ข้อมือของนางก็เจ็บจนต้องกรีดร้องออกมา
หลงเหยาถูกปล่อยตัวทันที และก่อนที่เขาจะบินหนีไปได้ เขาก็ถูกหูเจียวเจียวกอดไว้
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นหญิงชรากรีดร้อง เธอก็ยกเท้าขึ้นเตะฝ่ายตรงข้ามเต็มแรง
“กรี๊ดดดดด!” แม่กวางเฒ่าเซไปข้างหน้าและล้มลงกับพื้น
“เหยาเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรไหม?” หูเจียวเจียวสำรวจลูกชายคนเล็กในอ้อมแขนของเธออย่างเป็นห่วง ซึ่งมังกรน้อยเองก็กำลังเวียนหัว แต่เขาก็ยังส่ายหัวตอบรับ
“แฮ่~ งือ~”
เสี่ยวเหยาไม่เป็นไร เสี่ยวเหยาสบายดี อ๋อย~ เวียนหัว~
“ท่านแม่!”
เมื่อเด็กทั้ง 4 คนเห็นหูเจียวเจียวปรากฏตัว พวกเขาก็วิ่งกระวีกระวาดเข้าไปหา และในที่สุดก็พากันหัวใจพองโตราวกับว่าแม่จิ้งจอกเป็นเสาหลักของพวกตน
ทางด้านหญิงสาวมองสำรวจลูก ๆ ทีละคน ก่อนจะรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าทุกคนยังปลอดภัยกันดี
“ท่านแม่ มือของท่าน...” หลงหลิงเอ๋อเบิกตากว้างชี้ไปที่มือเปื้อนเลือดของผู้เป็นแม่ซึ่งมันเป็นเลือดของแม่กวางเฒ่า
หูเจียวเจียวยกมือขึ้นมาดูแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าเล็บของตนเองเปลี่ยนเป็นกรงเล็บสัตว์ร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทั้งมือของเธอไม่ได้กลายเป็นอุ้งเท้าจิ้งจอก มีเพียงกรงเล็บยาวเท่านั้นที่ปรากฏขึ้น
แต่ถึงกระนั้นมันก็คมมาก
“แม่ไม่เป็นไร พวกเจ้าดูแลเหยาเอ๋อให้ดีนะ” หญิงสาวส่งลูกชายคนเล็กเข้าไปในอ้อมแขนของหลงหลิงเอ๋ออย่างระมัดระวัง ก่อนจะออกคำสั่งเด็ก ๆ และหันไปมองลู่มู่
“ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นยังไงบ้าง?” ลู่หลีรีบก้าวเข้าไปช่วยแม่กวางอย่างเป็นกังวล แต่ด้วยความตื่นตระหนก น้ำมูกที่ยืดย้อยของเขาจึงถูใบหน้าของแม่กวางเต็ม ๆ
บัดนี้หญิงชราเจ็บปวดมาก นางลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับยั้งใจไม่ให้ตัวเองสบถออกมา “แม่-ไม่-เป็น-ไร”
หลังจากที่เกิดความโกลาหลมากมาย ไม่นานภูตจำนวนมากก็มารวมตัวกันที่ริมแม่น้ำ
ขณะนั้นแม่กวางเฒ่าหน้าแดงอยู่พักหนึ่ง แต่นางรู้สึกอับอายมากกว่าจึงพูดเสียงลอดไรฟันว่า
“อีสารเลว เจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้า—”
เพี้ยะ!
ก่อนที่นางจะพูดจบ หูเจียวเจียวก็ก้าวไปตบหน้านางต่อ
“วันนี้ข้าจะเอาเจ้าให้ตาย! เจ้ากล้ามากที่มาถลกหนังลูกข้า!”
“นี่เจ้า… เจ้า!”
ลู่มู่ยกมือขึ้นกุมแก้มข้างที่ถูกตบ พลางเบิกดวงตากว้างมองไปที่จิ้งจอกสาวด้วยความเหลือเชื่อ
นังจิ้งจอกมันบังอาจมาตบข้า!
ในอดีต หูเจียวเจียวเป็นคนขี้ขลาดตาขาว อย่างมากที่สุดนางก็โต้เถียงด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ และนางไม่เคยกล้าออกมาปกป้องลูกตัวเองในยามที่พวกมันถูกรังแกเลยสักครั้ง
เพี้ยะ!
แม่กวางเฒ่ายังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ แม่จิ้งจอกก็สะบัดหลังมือเข้าใส่หน้านางอีกครั้ง
“เจ้ามันเป็นอีแก่ที่ไม่น่าเคารพ แถมยังรังแกเด็กที่ไม่มีทางสู้อีก ข้าอยากจะสั่งสอนเจ้ามานานแล้ว!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอาซี่ แม่จิ้งจอกเริ่มกางกรงเล็บเป็นแล้ว!