ตอนที่ 24 ป่าแดนวงกต
ถังฮวนพูดอย่างสิ้นหวัง
“สิบเม็ดจะไปพอได้ยังไง ข้าอยากจะเป็นนักตีอาวุธระดับกลางให้เร็วที่สุด ข้าต้องการอัญมณีระดับต่ำอย่างน้อยร้อยเม็ด”
ช่างตีอาวุธเป็นอาชีพที่ใช้เงินเยอะมาก
ห้าร้อยเหรียญทองนั้นดูเหมือนจะเยอะ มากพอที่ครอบครัวทั่วไปจะอยู่ได้หลายปี แต่ในการซื้ออัญมณีนั้น มันเหมือนกับหยดน้ำในถัง
เมื่อชายแก่อ้วนได้ยินเขาก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
“ที่ใกล้ที่สุดที่มีอัญมณีระดับต่ำก็คือป่าแดนวงกต”
“ป่าแดนวงกตรึ?”
เมื่อได้ยิน ถังฮวนก็อึ้งไปสักระยะ
แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินเรื่องป่าแดนวงกตมาก่อน
ป่าแดนวงกดนั้นอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของดินแดนต้นกำเนิด มันอยู่ห่างจากดินแดนรุ่งโรจน์และต้องข้ามทะเลคลื่นคลั่งผ่านเรือ ที่แรกที่ไปถึงก็จะเป็นป่าแดนวงกตแห่งดินแดนต้นกำเนิด
“มุนษย์เราในตอนนี้กำลังสู้กับเผ่าอสูรในดินแดนต้นกำเนิด การไปที่นั่นมันไม่อันตรายหรอกหรือ?”
เมื่อคิดดูแล้วถังฮวนก็อดถามออกไปไม่ได้
“พื้นที่ที่มนุษย์และอสูรต่อสู้กันนั้นมันลึกเข้าไปในดินแดนต้นกำเนิด ระยะทางระหว่างป่าแดนวงกตกับดินแดนรุ่งโรจน์ของเรานั้นสั้นมาก และมันก็เป็นแค่ช่องแคบระหว่างกัน มันนับว่าปลอดภัย”
ชายแก่อ้วนหัวเราะและกล่าว
“ในเมืองคลื่นคลั่งของพวกเรามีผู้ฝึกยุทธจำนวนมากไปที่ป่าแดนวงกตทุกวันเพื่อบ่มเพาะพลัง และผู้ฝึกยุทธจำนวนมากก็กลับมาจากป่าแดนวงกตเช่นกัน ตอนนี้เช้ากลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสองแล้ว ถ้าเจ้าอยากจะไปป่าแดนวงกตจริง เจ้าก็ไปได้”
“ก็ได้ ตาแก่อ้วน รู้ว่าข้าเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสองทั้งที่เจอกันแค่ไม่นาน ดูเหมือนท่านจะเป็นจอมยุทธจริง ๆ นะ”
ถังฮวนมองชายแก่อ้วนและหัวเราะเบา ๆ
“บอกข้าได้ไหมว่าท่านเป็นจอมยุทธขั้นสี่ ขั้นห้า หรือขั้นหก?”
“ถ้ามีใครถามข้าจะบอกว่าข้าเป็นจอมยุทธขั้นสี่ แต่ถ้าเจ้าถาม ข้าจะบอกว่าข้าเป็นขั้นห้า”
ชายแก่อ้วนยิ้มเจ้าเล่ห์
เมื่อได้ยินแบบนั้น ถังฮวนตกใจในทีแรก แต่จากนั้นเขาก็ตะคอกด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้จิ้งจอกเฒ่า! ท่านมีพลังอย่างน้อยขั้นหก!”
“จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า? ข้าโกงใครก็ได้แต่ไม่ใช่กับเจ้า! ข้าเป็นขั้นห้าจริง ๆ นะ”
ชายแก่อ้วนอึ้งครู่หนึ่งก่อนจะรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
ถังฮวนไม่เชื่อคำพูดของเขา เขามองชายแก่อ้วนและพูด
“ตาแก่อ้วน ถ้างั้นข้าจะไปที่ป่าแดนวงกตในวันนี้ ถ้าท่านมีเวลาก็ช่วยดูแลร้านข้าด้วย ถ้าอาจารย์ข้ากลับมาเมื่อไหร่ให้บอกว่าเดี๋ยวข้ากลับมา”
“ตอนนี้รึ? ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนนัก?”
ชายแก่อ้วนถามด้วยความแปลกใจ
“รีบไว้ก่อนคงดีกว่า เมืองคลื่นคลั่งไม่ได้ไกลจากป่าแดนวงกตเท่าใดนัก มันกินเวลาเดินทางหนึ่งวันอยู่แล้ว”
ถังฮวนยิ้มพูด
“ระยะทางไม่ได้ไกลเกินไปก็จริง แต่ป่าแดนวงกตนั้นกว้างใหญ่ และเจ้าจะเข้าป่าลึกเกินไปไม่ได้ มีคนมากมายในชายป่าทุกวัน และถ้าเจ้าไปที่นั่น เจ้าก็อาจจะหาอัญมณีระดับต่ำไม่เจอ”
ชายแก่อ้วนแนะนำเขา
“ทำไมเจ้าถึงไม่รออีกสักหน่อยเล่า? ข้าจะช่วยหาข่าวเรื่องสถานการณ์ในป่าแดนวงกตให้และดูว่าพื้นที่ใดในบริเวณชายป่าที่เหมาะกับการหาอัญมณี”
“ตาแก่อ้วน ท่านไปเอาข้อมูลนี้มาจากไหน? ส่วนเรื่องสถานที่หาอัญมณี ใครจะไม่เก็บเป็นความลับเล่า? พวกเขาไม่อยากจะให้คนอื่นรู้อยู่แล้ว ช่างเถอะ ข้าจะไปด้วยตัวเอง ถ้าข้าไม่ลอง แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าหาเจอหรือไม่เจอ? ถ้าข้าหาไม่เจอ ข้าก็จะคิดว่านี่เป็นประสบการณ์ไม่ดีกว่าหรือ?”
ถังฮวนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและเก็บดาบเมฆาเพลิงและแบกบนไหล่ เขาเดินออกจากร้านอาวุธอย่างรวดเร็ว
“อย่าลืมที่ข้าพูดล่ะ ข้าจะไปแล้ว”
“รีบร้อนจริงเชียว”
เมื่อชายแก่อ้วนเดินออกมาจากร้าน ร่างของถังฮวนก็หายไปแล้ว เขาอดส่ายหน้าและถอนหายใจไม่ได้
“ข้าถูกลิขิตให้ต้องยุ่งตลอดชีวิตเลยสินะ เด็กนี่เพิ่งจะผสานกับเพลิงแท้และผ่านการทดสอบเป็นช่างตีอาวุธระดับต่ำด้วย เขาเป็นอัจฉริยะในการตีอาวุธโดยแท้ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นตอนที่เขาไปป่าแดนวงกต ตาแก่อู๋จะต้องมีเรื่องกับข้าแน่!”
… …
ทันทีที่ถังฮวนออกจากร้านอาวุธของชายแก่อ้วนเขาก็มุ่งหน้าตรงไปที่ท่าเรือบูรพาของเมืองคลื่นคลั่ง
บนผิวคลื่นทะเล มีเรือทุปประเภททอดสมออยู่ ที่ด้านซ้ายของท่าเรือนั้นมีเรือขนส่งผู้โดยสารเสียส่วนใหญ่ ส่วนด้านขวานั้นเป็นเรือขนส่งสินค้าหลากหลายขนาด
ถังฮวนขึ้นเรือส่งผู้โดยการที่ไปยังดินแดนต้นกำเนิดอย่างรวดเร็ว
เรือนั้นแล่นไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่ในเวลาไม่นาน เมื่อออกเรือแล้วถังฮวนก็สังเกตได้ว่ามีสองคนที่มองมาจากท่าเรือ
หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ถังฮวนคุ้นหน้า แค่นึกถึงก็ทำให้ถังฮวนรู้ว่าเขาเป็นคนตระกูลถัง
ในเรื่องนี้ ถังฮวนไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย
แต่มั่นใจมากตั้งแต่ที่ถังเฉาและถังหงถูกทำร้ายในสถาพนั้นว่าตระกูลถังโดยเฉพาะถังเทียนฉีที่เป็นพ่อของสองพี่น้องจะต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป แม้ว่าความตายของถังเทียนห่าวก็จะตกมาเป็นความผิดของเขา ในตอนนี้พวกเขากลัวหออาวุธเทพและไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม แต่ตราบเท่าที่พวกเขาเจอโอกาส พวกเขาจะต้องลงมืออย่างแน่นอน
ในวันที่ผ่านมานี้ แม้ว่าร้านตีอาวุธจะสงบและไม่ถูกรบกวน ถังฮวนก็มังจะสังเกตได้ว่ามีผู้คนแอบมองเขาผ่านร้านตีอาวุธอยู่
ในวันนี้ เหตุผลที่เขารีบออกเดินทางก็เพราะว่าเขาอยากจะเดินทางในตอนที่ตระกูลถังไม่ทันรู้ตัว
ตราบเท่าที่ตระกูลถังช้ากว่าเขาหนึ่งก้าว กว่าพวกเขาจะส่งคนมา ถังฮวนก็เข้าสู่ป่าแดนวงกตแล้ว และที่นั่นก็กว้างใหญ่อย่างมาก มันยากมากที่จะหาเขาเจอ
แน่นอนว่าเขายังหวังพึ่งพาฐานะของช่างตีอาวุธระดับต่ำในเมืองคลื่นคลั่งและไม่ออกเดินทางก็ได้
ด้วยเหตุผล ตราบเท่าที่หออาวุธเทพไม่เสื่อมอำนาจ เขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการเจออันตราย แต่ถ้าตระกูลถังทำให้เขาต้องเก็บตัว เขาก็จะไม่มีทางก้าวหน้าในอนาคต ส่วนการล้างแค้นตระกูลถังนั้น ในตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้
ถังฮวนมีเกียรติยศมากมายในชีวิตที่แล้ว และเมื่อมายังดินแดนรุ่งโรจน์ เขาก็ไม่อยากจะเป็นคนที่สิ้นไร้ไม้ตอก
“ฟู่ว!”
เรือส่งผู้โดยสารแล่นผ่านคลื่นและสายลม มันมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานจากนั้นเมืองคลื่นคลั่งก็หายไปจากท้องนภา
“ดี! ดี! มันออกไปจากเมืองคลื่นคลั่งแล้ว!”
ในตอนนั้น ห้องหารือของตระกูลถัง ถังเทียนฉีได้พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
“พี่ใหญ่ ข้าจะออกเดินทางไปจับไอ้เด็กสารเลวนั่นมาลงโทษด้วยตัวเอง!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ถังเทียนฉีก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เหมือนดับสปริงและก้าวเท้าไกล ๆ
“น้องสอง อย่าทำแบบนั้น!”
เมื่อเห็นแล้วถังเทียนเฟิงก็รีบตะโกน
“กลับมา”
ถังเทียนเหรินเองก็เรียกถังเทียนฉี
“มันชัดเจนเกินไปถ้าเจ้าไปด้วยตัวเอง ถ้าเจ้านั่นเกิดอุบัติเหตุในดินแดนต้นกำเนิด หออาวุธเทพจะต้องสงสัยตระกูลถังของเราแน่!”
“แล้วข้าต้องทำยังไงเล่า?”
ถังเทียนฉีถามด้วยความวิตกกังวล
“ไอ้เด็กนั่นเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง เราส่งศิษย์ตระกูลเราไม่กี่คนไปก็ได้ พลังบ่มเพาะของพวกเขาไม่ควรจะสูงเกินไปและไม่ควรจะต่ำเกินไปเช่นกัน ขั้นสามก็มากพอแล้ว เจ้าเด็กนั่น ถ้าเราจับเป็นได้ เราก็จะจับเป็น ถ้าจับเป็นไม่ได้ เราก็จะ…จับตาย!”
ทันทีที่สองคำสุดท้ายออกมาจากปาก ใบหน้าถังเทียนเหรินก็บิดเบี้ยวเล็กน้อย ดวงตาเขาแข็งกร้าวเย็นชา
“ย่อมได้ ข้าจะทำแบบนั้นเดี๋ยวนี้”
“...”
ในขณะเดียวกัน ที่สวนในตระกูลถังอันเงียบเชียบ เสียงของสตรีที่หม่นหมองได้ดังขึ้น
“ถ้าเจ้านั่นออกจากเมืองไปแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะ ลุงหลิน หลานท่านพึ่งพาได้หรือไม่? ถ้าเขาพึ่งพาได้ เราก็จะให้เขาเดินทางไปที่ดินแดนต้นกำเนิด”
“ถ้าเจ้าเด็กนั่นไร้พลังต่อไปมันก็ไม่เป็นไร แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะกลายเป็นช่างตีอาวุธได้ และถึงกับมีพรสวรรค์ทั้งที่มีร่างกายธาตุโลหะและจุดเสาเงาเพลิงได้สิบสองเมตร ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ปล่อยให้มันมีชีวิตไม่ได้อีกแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
“...”