ตอนที่ 149: เครื่องขยายพลังชาร์จ
ตอนที่ 149: เครื่องขยายพลังชาร์จ
ทันทีที่สมาชิกหลักในบริษัทควอนตัมได้ยินเซี่ยเฟยเรียกประชุม พวกเขาก็รีบทำการเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารของบริษัทในทันที
หลังจากไม่ได้เจอกันนานเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีเหล่าคนที่เซี่ยเฟยไว้ใจก็เปลี่ยนไปมาก เช่น ซาร่าที่ได้รู้จักวิธีการแต่งหน้าแต่งตัวก็ทำให้เธอดูเป็นสาวชาวเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แต่ลักษณะของสาวเท่ที่มีอยู่ในตอนแรกก็ยังไม่จางหายไป
ซันนี่เปลี่ยนมาใส่ชุดสูทและยังคงเป็นคนที่เผยรอยยิ้มออกมาตลอดเวลา แต่เขาดูมีความใจเย็นและสุขุมขึ้นกว่าเดิม
คนเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปคือโบเดน โดยเขายังคงชอบสวมชุดทำงานที่ทำมาจากผ้าเนื้อหยาบและหนีบคีมอเนกประสงค์เอาไว้ที่เอวเสมอ
เซี่ยเฟยยังไม่ได้เล่าให้โบเดนฟังเรื่องที่เขาจะเดินทางไปยังภูมิภาคดาวมฤตยูตามคำร้องขอของลุงพอตเตอร์ มันจึงทำให้เขารู้สึกผิดต่อพี่ชายของเขาคนนี้อยู่เล็กน้อย
ท้ายที่สุดโบเดนก็เป็นเพียงแค่ช่างซ่อมบำรุงธรรมดาที่ไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองเท่านั้น นอกจากนี้การเดินทางไปยังภูมิภาคดาวมฤตยูยังเต็มไปด้วยอันตรายที่ไม่รู้จัก และชายหนุ่มก็ไม่อยากที่จะต้องแบ่งความสนใจมาคอยปกป้องโบเดนในช่วงเวลาวิกฤติ
ที่สำคัญคือสถานะของพอตเตอร์ยังไม่แน่นอน หากพอตเตอร์เสียชีวิตไปแล้วจริง ๆ โบเดนจะต้องรู้สึกเสียใจมาก และสำหรับคนที่จงรักภักดีอย่างโบเดนแล้วความตายของพอตเตอร์อาจจะเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้ เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจซ่อนเรื่องของพอตเตอร์เอาไว้และให้โบเดนรู้สึกมีความหวังอยู่เช่นเดิม
“เอาล่ะในเมื่อทุกคนมากันครบแล้วก็เริ่มประชุมกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้ทุกคน
“นี่คือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผมตั้งชื่อว่า ‘เครื่องขยายพลังชาร์จ’ ผมได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่าในปัจจุบันยังไม่มีผู้ผลิตรายใดเคยทำผลิตภัณฑ์ประเภทนี้วางขายมาก่อน ในขั้นต่อ ๆ ไปพวกเราจะเริ่มทำการศึกษาเพื่อผลิตเครื่องขยายพลังชาร์จในระดับอุตสาหกรรม และใช้สินค้าตัวนี้เป็นเรือธงของบริษัท ทุกคนเชิญดูที่แบบแปลนที่ผมแจกไปได้เลย ถ้าใครมีคำถามอะไรเชิญถามมาได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งแบบแปลนให้ทุกคนผ่านทางสตาร์เน็ตเวิร์ก
ทุกคนพยักหน้ารับและทำการพลิกดูเอกสารภายในมือ แต่ซาร่าแค่ทำการเหลือบสายตามองเอกสารพวกนี้แล้วจ้องมองไปที่เซี่ยเฟยต่อไป ท้ายที่สุดเธอก็ไม่เข้าใจข้อมูลในแบบแปลนพวกนี้เลย เธอจึงนั่งอยู่เฉย ๆ และชื่นชมการเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มตรงหน้าแทน
สาว ๆ จากเขตดาววิลเดอร์เนสมักจะมีนิสัยแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ ดังนั้นในแววตาของเธอจึงร้อนผ่าวที่สื่อถึงบรรยากาศอันอบอุ่น แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงสงบนิ่งและปล่อยให้เธอจ้องมองมาที่เขาโดยที่ไม่พูดอะไร
โบเดนเป็นคนแรกที่เข้าใจแบบแปลนที่เซี่ยเฟยได้ให้มา เพราะท้ายที่สุดเขาก็ทำหน้าที่เป็นช่างซ่อมบำรุงมาเป็นเวลานับ 10 ปี มันจึงทำให้เขามีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรพอสมควร
“นี่มันเป็นความคิดที่บ้ามากจริง ๆ ฉันซ่อมยานอวกาศมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย อุปกรณ์ชิ้นนี้มันจะได้ผลใช่ไหม?” โบเดนถามด้วยความประหลาดใจ
ชาร์ลีวางแบบแปลนในมือของเขาลงก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมากล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“แบบแปลนนี้มันซับซ้อนมากจนเกินไป ผมไม่เข้าใจอะไรเลย คุณช่วยอธิบายมันสั้น ๆ ให้หน่อยได้ไหม”
เซี่ยเฟยได้ทำการประยุกต์เทคโนโลยีจากอารยธรรมโบราณในระหว่างการออกแบบผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ มันจึงทำให้แม้แต่โบเดนก็เข้าใจจุดประสงค์ของเครื่องขยายพลังชาร์จเท่านั้น แต่เขาไม่เข้าใจหลักการในการทำงานของอุปกรณ์ชิ้นนี้เลย
“ยานอวกาศทุกลำที่แล่นในจักรวาลไม่ว่าจะเป็นยานขนาดเล็กหรือยานขนาดใหญ่ต่างก็มีระบบเกราะพลังงานเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยานกระทบกับวัตถุในอวกาศหรืออุกกาบาต ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ยานทุกลำจำเป็นจะต้องติดตั้งเอาไว้”
“เมื่อมีวัตถุพุ่งเข้ามากระทบกับตัวเกราะ พลังงานภายในเกราะก็จะลดลงอย่างต่อเนื่องและเมื่อไหร่ก็ตามที่พลังงานในเกราะพลังงานหมดลง ยานอวกาศก็จะสูญเสียการป้องกันของพวกเขาไปในที่สุด”
“ในเวลานั้นระบบชาร์จพลังงานก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเกราะพลังงานที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งระบบนี้จะมีความสำคัญมากในยามสงครามหรือในตอนที่ยานต้องเผชิญหน้ากับฝนดาวตก”
“สาเหตุที่ผมตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ว่าเครื่องขยายพลังชาร์จ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเครื่องที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพระบบชาร์จเกราะพลังงานได้โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานเพิ่มเติม ซึ่งถ้าหากว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ได้ถูกปล่อยออกไป มันจะทำให้ระบบชาร์จเกราะพลังงานเข้าสู่ยุคสมัยใหม่อย่างแน่นอน”
“ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาปกติเกราะพลังงานของยานอวกาศจะมีพลังป้องกันอยู่ที่ 100 แต่หลังจากที่เกราะพลังงานได้รับความเสียหายพลังป้องกันของมันก็จะตกลงมาเหลือเพียงแค่ 50”
“ในเวลานั้นระบบชาร์จพลังงานจะเริ่มทำการซ่อมแซมให้เกราะกลับมามีพลังป้องกันที่ 100 ภายในเวลา 5 นาที แต่ถ้าหากระบบชาร์จพลังงานได้ติดตั้งตัวขยายพลังซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เข้าไป ระบบก็จะสามารถซ่อมแซมเกราะพลังงานได้ในเวลาเพียงแค่ 3 นาที 30 วินาที”
เพิ่มความเร็วในการซ่อมเกราะพลังงานได้ 30%!!
ทุกคนต่างก็รู้สึกตกตะลึงกับคำอธิบายของเซี่ยเฟย เพราะแม้แต่คนโง่ก็ยังสามารถเข้าใจคุณค่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่ามองจากมุมไหนยานอวกาศทุกลำต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องการอุปกรณ์ชิ้นนี้ และถ้าหากว่ายานอวกาศทุกลำในพันธมิตรซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้ไปทำการติดตั้งจริง ๆ บริษัทควอนตัมก็จะได้รับผลกำไรในระดับที่เหนือเกินกว่าจินตนาการ
“ฉันคิดว่าความผันผวนของพลังงานที่เกิดขึ้นในถังโมเลกุลแบบอัดอยู่ในระดับที่เกินกว่ากำลังการควบคุมที่พวกเราสามารถทำได้ในตอนนี้” เอเลนกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
สิ่งที่เอเลนพูดมาถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเทคโนโลยีเกี่ยวกับการควบคุมแรงดันภายในถังโมเลกุลแบบอัดถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูงสุดแม้แต่ภายในพันธมิตรก็ตาม
“ผมได้พิจารณาปัญหาในเรื่องนั้นแล้ว แต่พวกเราจะไม่หยุดแม้ว่าพวกเราจะพบกับอุปสรรค ผมตัดสินใจที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัยลับเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการผลิตเครื่องขยายพลังชาร์จในระดับอุตสาหกรรม” เซี่ยเฟยกล่าว
“ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้จะต้องเก็บรักษาความลับอย่างเคร่งครัดและต้องดำเนินการทุกอย่างอย่างเงียบเชียบมากที่สุด ผู้รับผิดชอบดูแลห้องวิจัยในปฏิบัติการนี้ผมขอมอบหน้าที่ให้กับพี่อู่หลงและลุงเอเลน”
อู่หลงกับเอเลนพยักหน้ารับกับคำสั่งของเซี่ยเฟย
“ผมได้จัดสรรเงินในส่วนที่จำเป็นเอาไว้แล้วไม่ต้องเป็นห่วงในส่วนนั้น และเพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนผมจะทำการจดทะเบียนสิทธิบัตรทันทีเมื่อผมเดินทางไปถึงกลุ่มดาวนครหลวง สินค้าของพวกเราจะได้ไม่ถูกคนอื่นลอกเลียนแบบไป”
“ชาร์ลีก่อนที่โครงการวิจัยในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ พวกเราต้องทำการปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงานทั้งหมดเพื่อเตรียมการรองรับการผลิตขนาดใหญ่”
“หากการคำนวณของฉันไม่ผิดพลาดความต้องการผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้จะสูงมากเกินกว่ากำลังผลิตของพวกเรา นี่เป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทของพวกเราจะพัฒนากลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่และผมขอให้ทุกคนทุ่มเทกับปฎิบัติการในครั้งนี้อย่างเต็มที่”
เซี่ยเฟยทำการมอบหมายงานให้แต่ละคนอย่างช้า ๆ ซึ่งทำให้ผู้ได้รับมอบหมายต่างก็พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น
ภายในพันธมิตรมียานอวกาศอยู่เป็นจำนวนหลายล้านลำ ถึงแม้ว่ามันจะมียานอวกาศเพียงแค่ 1 ใน 3 ที่ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ไปทำการติดตั้ง แต่ผลกำไรที่พวกเขาจะได้รับก็เป็นตัวเลขที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการเอาไว้อยู่ดี
เมื่อไหร่ก็ตามที่บริษัทควอนตัมสามารถทำการผลิตเครื่องขยายพลังชาร์จในระดับอุตสาหกรรมได้ กำลังการผลิตของพวกเขาย่อมไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดอย่างแน่นอน พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเพิ่มกำลังการผลิตตลอดเวลา
“พี่โบเดน ซาร่า เรื่องการฝึกอบรมนักบินเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยเฟยถาม
ซาร่าใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าจออย่างชำนาญก่อนที่เธอจะเรียกตารางการฝึกขึ้นมาในหน้าจอใหญ่
“ปัจจุบันศูนย์ฝึกขับยานอวกาศภายใต้บริษัทของเราทำการฝึกอบรมนักบินได้ 2 รุ่นแล้ว แต่การฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงยานอวกาศจำเป็นต้องใช้เวลาทำให้ในตอนนี้พวกเราสามารถดูแลยานอุตสาหกรรมได้พร้อมกัน 30 ลำ แต่มันก็ไม่มีปัญหาในการจัดส่งสินค้าออกจากดาวโลก”
“ดีมาก พี่โบเดนพี่ช่วยติดต่อไปหาสหายเก่าที่สุสานยานแล้วหาซื้อยานอุตสาหกรรม 42 ลำกับยานรบอีก 8 ลำมาให้กับบริษัทหน่อย กองยานขนส่งของพวกเราจะได้มียานอุตสาหกรรมครบ 50 ลำ หลังจากนี้ยานอุตสาหกรรมทั้ง 50 ลำจะถูกแบ่งออกเป็น 10 กองยานขนส่งย่อย โดยกองยานขนส่งย่อยแต่ละกองจะมียานรบคอยคุ้มกัน 2 ลำ ระหว่างนี้ช่วยให้พนักงานฝึกฝนทำความคุ้นเคยกับยานอวกาศให้ได้มากที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่โครงการผลิตเครื่องขยายพลังชาร์จเสร็จสมบูรณ์ กองยานขนส่งจะมีภาระเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าว
“ไม่มีปัญหา ฉันขอเวลาแค่ 3 เดือน กองยานขนส่งชุดใหม่จะพร้อมเริ่มงานทันที” โบเดนกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ยานบรรทุกสินค้าเป็นขุมกำลังหลักสำหรับการขนส่งขนาดใหญ่ เพราะท้ายที่สุดยานบรรทุกสินค้า 1 ลำสามารถบรรทุกสินค้าได้ 10 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีปริมาณเทียบเท่ากับยานอุตสาหกรรม 40 ลำ นอกจากนี้ระบบอัตโนมัติบนยานบรรทุกสินค้ายังล้ำหน้ากว่ายานอุตสาหกรรมไปไกลจึงทำให้ตัวยานต้องการลูกเรือมากกว่ายานอุตสาหกรรมมาก
อย่างไรก็ตามแม้แต่ราคาของยานบรรทุกสินค้าที่ถูกที่สุดก็มีราคาถึง 4,000 ล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งในช่วงเวลานี้บริษัทควอนตัมยังมีงบประมาณไม่พอที่จะซื้อยานบรรทุกสินค้าได้
ในบัญชีธนาคารของเซี่ยเฟยเหลือเงินอยู่เพียงแค่ 8,200 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น ซึ่งเงินส่วนใหญ่เขาจะต้องเอาไปใช้ในโครงการวิจัย, ปรับปรุงเครื่องจักรและซื้อยานอวกาศมาเพิ่มกำลังการขนส่ง
นอกจากนี้เซี่ยเฟยยังจำเป็นที่จะต้องซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในระยะไกล ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะประหยัดงบประมาณในส่วนของกองยานขนส่งให้ได้มากที่สุด
“ชาร์ลีช่วยคำนวณเงินทุนที่บริษัทจะต้องใช้ปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตด้วย เดี๋ยวฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัททีหลัง” เซี่ยเฟยกล่าว
ชาร์ลีพยักหน้ารับและเริ่มคำนวณยอดเงินทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ขณะที่อันเดร์กำลังครุ่นคิดบางอย่างก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นมาอย่างลังเลว่า
“เซี่ยเฟยถ้าหากว่าพวกเราต้องการเร่งการวิจัยเครื่องขยายพลังชาร์จ พวกเราสามารถทำการว่าจ้างนักวิจัยและวิศวกรจากดาวเคราะห์ดวงอื่นได้นะ ฉันคิดว่ามันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัยและลดเวลาที่ต้องใช้ในการวิจัยให้สั้นลงกว่าเดิมมาก”
“มันยังไม่ถึงเวลาที่เรื่องนี้จะหลุดออกไปยังโลกภายนอกครับ สิ่งที่ทุกคนจำเป็นจะต้องทำคือการพยายามช่วยกันศึกษาหาวิธีการผลิตเครื่องขยายพลังนี้ในระดับอุตสาหกรรมอย่างเป็นความลับและเร็วที่สุด แม้แต่นักวิจัยบนโลกของพวกเราก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการป้องกันอย่างเข้มงวดด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับโบกมือ
“ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่นักวิจัยของพวกเราจะได้ลงมือคิดค้นเครื่องมือระดับจักรวาลด้วยตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะดูงานวิจัยของคนอื่นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถได้มากนัก พวกเขาต้องลงมือทำเองพวกเขาถึงจะได้ทำการเรียนรู้”
จุดมุ่งหมายของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่เรียบง่ายคือการทำให้บริษัทควอนตัมถูกจดจำว่าเป็นบริษัทของดาวโลก
การที่ชายหนุ่มตั้งเป้าหมายแบบนี้เป็นทั้งความท้าทายและความดื้อรั้นในเวลาเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดการเลือกเส้นทางนี้จะทำให้บริษัทต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมากมาย แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ผู้คนบนดาวโลกจะได้เริ่มศึกษาเทคโนโลยีในระดับจักรวาล
หลังจากนั้นไม่นานชาร์ลีก็คิดคำนวณทุกอย่างจนเสร็จเขาจึงพูดขึ้นมาว่า
“หากบริษัทต้องการจะขยายกำลังการผลิตพวกเราจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและสำรองวัตถุดิบเอาไว้เป็นจำนวนมาก ผมพยายามจัดสรรเงินทุนทั้งหมดที่มีอยู่ในบริษัทและพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดแล้ว แต่มันก็ยังมีเงินในส่วนที่ยังขาดอีกจำนวน 3,700 ล้านสตาร์คอยน์”
หลังจากได้ยินเงินจำนวน 3,700 ล้านสตาร์คอยน์ทุกคนก็เริ่มถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง
ขนาดของบริษัทควอนตัมในปัจจุบันมีมูลค่าเพียงแค่ 1,000 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น หรือมันอาจจะกล่าวได้ว่าโครงการของเซี่ยเฟยในครั้งนี้เป็นโครงการที่เกินกว่ามูลค่าของบริษัทไปเสียอีก
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะทำการโอนเงินจำนวน 4,000 ล้านสตาร์คอยน์เข้าไปยังบัญชีของบริษัท
“ฉันโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทไปแล้ว 4,000 ล้าน ถ้ามันยังไม่พอติดต่อมาขอเพิ่มได้เลย ไม่ว่ายังไงพวกเราจะต้องผลักดันโครงการนี้จนสำเร็จให้ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่บริษัทควอนตัมสามารถผลิตเครื่องขยายพลังชาร์จได้ในระดับอุตสาหกรรม พวกเราจะกลายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมของยานอวกาศระดับจักรวาลทันที”
ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับคำปราศรัยของเซี่ยเฟย โดยเฉพาะอู่หลงกับชาร์ลีที่อาศัยอยู่บนโลกมาตั้งแต่เด็ก
นี่คือความปรารถนาอันยาวนานของพลเมืองบนดาวโลกทุกคนที่ต้องการจะมีบริษัทที่สามารถออกไปแข่งขันในระดับจักรวาลได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อพวกเขาได้เห็นรายละเอียดของโครงการมันก็เหมือนกับพวกเขาได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
เซี่ยเฟยใช้เวลาพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานของบริษัทในอนาคต จากนั้นเขาก็จบการประชุมเพื่อให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ขอให้อันเดร์อยู่พูดคุยกับเขาต่อ ซึ่งหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้วเขาก็เริ่มถามขึ้นมาว่า
“ครอบครัวของเซียวรั่วหยูเป็นยังไงบ้างครับ?”
เซี่ยเฟยต้องการจะไปเยี่ยมครอบครัวของเซียวรั่วหยูเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยทำใจไปหาครอบครัวของเธอได้เลยสักครั้ง เพราะเขามักจะคิดว่าตัวเองเป็นหนี้ของเด็กสาวคนนี้ เขาจึงขอให้อันเดร์ช่วยดูแลครอบครัวของเซียวรั่วหยูเท่าที่จะเป็นไปได้ถือว่าเป็นการชดเชยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาได้มอบให้กับเด็กสาว
“เรื่องนี้มันก็นานมาแล้วนะแต่ดูเหมือนว่าคุณจะยังปล่อยเธอไปไม่ได้ ความจริงแล้วการหายตัวไปของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย คุณไม่จำเป็นจะต้องห่วงเรื่องในทางนี้หรอกผมได้จัดการดูแลครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี” อันเดร์กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ขอบคุณมากครับ อย่าลืมว่าทำให้ครอบครัวของเซียวรั่วหยูสบายที่สุดไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ก็ตาม” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
หลังจากพูดคุยธุระทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็ทำการค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่าและเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นล่วงหน้าสำหรับการเดินทางเข้าสู่กลุ่มดาวนครหลวงในวันพรุ่งนี้
พื้นที่ของคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่าใหญ่กว่าที่เซี่ยเฟยเคยคิดเอาไว้มาก โดยในพื้นที่บริเวณนั้นมีสระน้ำใสอยู่กลางภูเขา ชาวบ้านจึงได้เรียกสถานที่แห่งนั้นว่าหุบเขาสรวงสวรรค์
ขณะเดียวกันพื้นที่ของคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่าก็ล้อมรอบภูเขาแห่งนี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้พื้นที่ปลายด้านหนึ่งไปยังปลายอีกด้านหนึ่งของคฤหาสน์มีความยาวถึง 30 กิโลเมตร
“บ้านของแอวริลโคตรใหญ่!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
อย่าลืมว่าดาวเคราะห์ในกลุ่มดาวนี้คือเมืองหลวงของพันธมิตรมนุษย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งของผู้คนทั่วทั้งจักรวาล ดังนั้นการได้เป็นเจ้าของบ้านขนาดเล็กภายในกลุ่มดาวนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมากแล้ว มันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงการมีโอกาสได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในทิวทัศน์ที่สวยงามเลย
เมื่อเซี่ยเฟยอ่านคำอธิบายของคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่า เขาก็ได้พบว่าเจ้าของคฤหาสน์นี้คือตระกูลเจี่ยนผู้เป็นเจ้าของบริษัทสตาร์ยูไนเต็ด
***************