บทที่ 130: สั่งสอนลู่หลี
“พวกเจ้าคิดว่าจะจับปลาได้จริงหรือ? ข้าว่าพวกเจ้าเหมาะจะเป็นอาหารปลามากกว่า”
“ฮ่า ๆๆๆ!”
ทันทีที่ลู่หลีพูดจบ ลูกสมุนคนอื่น ๆ ก็พากันส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
หลงจงมองไปที่พวกเด็กเกเรด้วยสายตาไม่พอใจ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความเกลียดชัง และเมื่อเด็กหนุ่มได้ยินคำว่า ‘ไอ้ตัวอัปลักษณ์’ เขาก็กำหมัดแน่นโดยจินตนาการว่ากำลังบีบคอไอ้คนปากพล่อยให้ตายในทันที
ในทางกลับกัน หลงเซียวยังคงสงบนิ่ง ใบหน้าที่เย็นชาไร้สีสันของเขาไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ลู่หลี ถ้าเจ้าแน่จริงก็อย่าร้องไห้วิ่งไปฟ้องพ่อแม่ตัวเองเสียล่ะ” หลงจงจ้องคู่อริเขม็งแล้วกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน
เมื่อลู่หลีได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กทั้ง 2 พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม
“เก่งจังนะไอ้ตัวเล็ก เจ้ายังกล้ามาขู่ข้าอีก ดูเหมือนว่าบทเรียนที่ข้ามอบให้เจ้าคงยังไม่เพียงพอ วันนี้เจ้าอยากกินน้ำมากกว่าเดิมใช่ไหม?”
“แล้วข้าจะทำให้เจ้าเป็นสัตว์ประหลาดอัปลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม!”
ลู่หลีลูบกำปั้นของตัวเองในขณะที่หัวเราะร่าอย่างมีชัย
ในตอนนั้นเอง มีเสียง ‘ฟิ้ว’ ทะลุผ่านอากาศ และหินก้อนเล็ก ๆ ก็ลอยมาจากหลังต้นไม้กระแทกเข้าที่ปากของกวางหนุ่มอย่างแม่นยำ ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมม่วงเพราะเจ็บปวด
เขาปิดปากแล้วตะโกนร้องเหมือนวัวกำลังถูกเชือด “อื้อออออ!”
“ใคร!? ใครทำ!?”
“ออกมานะ!”
บัดนี้เหล่าลูกกะจ๊อกมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางตื่นตระหนกอยู่พักหนึ่ง พวกเขาคิดว่ามีใครบางคนมาช่วยไอ้เด็กเหลือขอพวกนี้
“พี่ ๆ ข้าจะเอาคืน! ข้าจะเอาคืนให้พวกท่านเอง!” ตรงหลังต้นไม้ ดวงตาของหลงหลิงเอ๋อเป็นประกายอย่างตื่นเต้น นางยื่นหน้าออกมาโบกมือให้พี่ชายทั้ง 2
ในขณะที่หลงอวี้เผยรอยยิ้ม ถัดมา เขาเม้มริมฝีปาก หลับตาข้างหนึ่งและเล็งเป้าไปที่เด็กคนอื่น ๆ จากนั้นก็มีเสียงของบางอย่างแหวกผ่านอากาศ ไม่นานพวกเด็กเกเรก็พากันยกมือกุมหัววิ่งหนีกระจัดกระจาย
ไม่กี่อึดใจต่อมา ก้อนใหญ่ ๆ ก็พองขึ้นบนหัวของพวกเขาหลายจุด และทุกคนก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เมื่อหลงเหยาเห็นว่าพี่น้องทั้งหมดยิงโดนศัตรู เขาก็กระตือรือร้นที่จะลองยิงบ้างเช่นกัน เขาใช้หางม้วนหนังสติ๊ก คาบก้อนหินไว้ในปากอย่างงุ่มง่าม โดยเล็งไปที่ดวงตาของลู่หลีอย่างมั่นใจ...
ทางด้านกวางหนุ่มที่อาการปวดตุบกำลังบรรเทาลงหันมาเห็นหลงหลิงเอ๋อกับหลงอวี้ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างและก่นด่าเสียงเกรี้ยวกราด “ไอ้พวกโคลนเน่า พวกเจ้าบังอาจทำร้ายข้า! ไอ้สารเลว พวกเจ้ามันน่าขยะแขยงไม่ต่างจากขี้!!”
“ฮ่าาา~”
เอาไปกินซะ!
มังกรดำตัวน้อยปล่อยปากออกและก้อนหินจำนวนหนึ่งก็พุ่งไปข้างหน้าทันที
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ากกกกกก!”
ทันทีที่ลู่หลีพูดจบ ก้อนหินทั่วท้องฟ้าก็ลอยมากระแทกเข้าที่ศีรษะตนอย่างแรง ต่อจากนั้นก็โดนจมูก, ริมฝีปากและ…ระหว่างต้นขา
ส่วนเด็กที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน พวกเขาได้รับบาดเจ็บจนระบมไปทั่วทั้งตัวแล้ว
“แฮ่! แฮ่!”
เย้! เสี่ยวเหยาก็ยิงโดนด้วย!
เวลานี้หลงเหยากระดิกหางไปมาเพราะรู้สึกตื่นเต้นมากจนหนังสติ๊กที่อยู่ตรงปลายหางสะบัดไปตามแรง วินาทีต่อมา หนังสติ๊กถูกง้างแล้วก็หลุดออกจากปากและหางของเจ้าตัวเล็ก
ปัก! ซู่ม!
มันฟาดเข้าที่หัวของลู่หลีเสียงดัง หนังสติ๊กที่เป็นท่อนไม้หนากระแทกใส่เขาจนล้มกลิ้งลงไปในแม่น้ำ
ทางด้านหลงจงที่กำลังโกรธจนถึงขีดสุดเปลี่ยนอารมณ์เป็นตกตะลึงแทน
เสี่ยวเหยาวันนี้เก่งมากขนาดนี้เลยหรือ?
“อ๊ากกกกก! ช่วยด้วยยย!”
“ลู่หลี เราคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ เจ้า…เจ้าก็พยายามเอานะ!”
เหล่าลูกสมุนที่ไม่เคยพบกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อนมีสีหน้าเหมือนเห็นผี ทั้ง ๆ ที่เด็กตระกูลหลงไม่มีใครเข้าใกล้พวกตนเลยสักนิด แต่พวกเขากลับถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนเจ็บไปทั้งตัว พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยลู่หลีอีก
“อ๊าาา~”
หนังสติ๊กของเสี่ยวเหยา~
เจ้าตัวเล็กกรีดร้องพลางบินไปเก็บหนังสติ๊กของตัวเองกลับมา เพราะนี่เป็นของที่ท่านแม่มอบให้กับเขา ดังนั้นเขาจะทำให้มันหายไปไม่ได้!
“อย่า อย่าตีเรา!”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา ลู่หลีเป็นคนบังคับให้เราทำ ถ้าอยากจะแก้แค้นก็ไปลงที่เขาสิ!”
ตอนที่กลุ่มเด็กเกเรเห็นมังกรดำบินผ่านหน้าของตนเองไป พวกเขาก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนก แล้วเอามือกุมหัววิ่งหนีไปแบบไม่คิดชีวิต
“หือ?” หลงเหยาม้วนหางที่มีหนังสติ๊กขึ้น พอหันกลับมาก็พบว่าพวกเด็กอันธพาลหนีไปหมดแล้ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเกินขอบเขตความเข้าใจของเจ้ามังกรตัวเล็ก ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็ไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
ขณะนี้ลู่หลียังคงตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ เขากลัวน้ำมากที่สุด ปกติแล้วเขาไม่กล้าลงไปในแม่น้ำเลย ครั้งก่อนเด็กหนุ่มเป็นคนสั่งให้เด็กคนอื่น ๆ ลงไปกดหัวพวกหลงอวี้ในน้ำ
เมื่อเห็นว่าลูกสมุนวิ่งหนีไปหมดแล้ว คนเป็นหัวโจกก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
“ไอ้พวกโคลนเน่า ฝากไว้ก่อนเถอะ!!”
หลังจากที่เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากแม่น้ำได้ในที่สุด เขาก็เช็ดน้ำออกจากใบหน้า ก่อนจะเอามือข้างหนึ่งกุมศีรษะ และอีกข้างจับเป้า พลางค่อย ๆ เดินไปทางริมฝั่งด้วยสีหน้าเหยเก
ทันทีที่เขาเข้าใกล้ฝั่ง เขาเห็นว่ามีเท้าคู่หนึ่งปรากฏขึ้นขวางทาง
พอลู่หลีเงยหน้าขึ้นก็พบว่าหลงจงกำลังมองเขาด้วยสายตาดุดัน
“ไอ้อัปลักษณ์ ไสหัวไปให้พ้น ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า”
ตอนนี้กวางหนุ่มเจ็บไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น เขาได้ยินจากแม่กวางว่าอวัยวะเพศของผู้ชายสำคัญมาก เขาต้องกลับไปให้แม่ดูว่ามันยังใช้การได้อยู่ไหม เขาจึงหมดความสนใจไอ้เด็กเหลือขอพวกนี้ไปหมดแล้ว
หลงจงแสยะยิ้มร้าย จากนั้นเขาใช้มือข้างหนึ่งจิกผมคู่อริแล้วเตะข้อพับขาของอีกฝ่ายให้คุกเข่าลงในแม่น้ำ ก่อนจะกดหัวของเขาลงไปในน้ำ
ถ้าจะสู้ต้องทำให้คู่ต่อสู้ต้านทานไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ท่านแม่สอน
เขาจดจำมันได้อย่างดี...
“เจ้าจะฆ่าข้างั้นหรือ?”
“ข้าเกลียดการดื่มน้ำที่สุด ในเมื่อเจ้าชอบดื่มน้ำมาก งั้นข้าจะให้เจ้าดื่มให้เต็มที่”
เสียงนั้นเยือกเย็นจนเหมือนทั่วทั้งบริเวณนี้ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
ปัจจุบันลู่หลีได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย และตอนนี้เขายังถูกหลงจงทำร้ายจนอยู่ในสภาพอ่อนแออีก ก่อนที่เขาจะทันได้โต้กลับ เขาก็ดื่มน้ำในแม่น้ำไปหลายอึก
อีกทั้งขณะนี้ น้ำในสายธารยังกลายเป็นสีขุ่นเพราะถูกกวน
เด็กหนุ่มผู้มีแผลเป็นครึ่งใบหน้ากดศีรษะครึ่งหนึ่งของศัตรูลงน้ำ แล้วเห็นว่าบนหัวของอีกคนมีแผลปรากฏขึ้นรอบ ๆ
ในเวลาเดียวกัน เด็กตระกูลหลงคนอื่นวิ่งไปที่แม่น้ำ ส่วนหลงเซียวที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อได้ยินคำพูดของน้องชาย เขาจึงกล่าวเตือนสติอีกฝ่ายเล็กน้อย
“น้องสาม อย่าฆ่าเขา มันจะสร้างปัญหาให้กับท่านแม่และท่านพ่อ”
ในวินาทีต่อมา หลงจงก็จับผมของลู่หลีแล้วดึงเขาขึ้นจากน้ำ เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา ขณะที่เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบนิ่ง
“อย่ากังวลไปพี่รอง ข้ารู้อยู่แก่ใจว่าข้าทำอะไรอยู่ ข้าไม่ฆ่ามันหรอก แค่อยากให้มันดื่มน้ำมากกว่านี้สักหน่อย”
หลงจงจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในการแก้แค้นครั้งแรกนี้เสียเปล่า
ในอดีต ทุกครั้งที่ลู่หลีรังแกเด็กตระกูลหลง เขาจะปล่อยให้เด็กเกเรคนอื่น ๆ จับล็อกตัวพวกเขาอยู่ในน้ำจนดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ และทุกครั้งที่เหล่าพี่น้องถูกกดหน้าลงน้ำ ทุกคนก็เกือบจะจมน้ำตาย
ครั้งล่าสุดที่เด็กทั้ง 5 กลับบ้านตัวเปียก ไม่มีใครไม่กล้าบอกหูเจียวเจียวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสักคน พวกเขาจะแอบปิดรอยที่คอและสำรอกน้ำในท้องออกมาจนหมดก่อนจะกลับไป
“อืม” หลงเซียวพยักหน้าตอบรับและไม่พูดอะไรอีก
ตอนนี้ลู่หลีหอบหนักราวกับว่าเขาเพิ่งผ่านประตูนรกมาและได้เกิดใหม่ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลงจง เขาก็สบถด้วยความโกรธ
“ไอ้อัปลักษณ์...เจ้ากล้าดียังไง—”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เด็กหนุ่มตัวน้อยก็จิกหัวเขากดลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง
“บุ๋ง ๆๆ...”
“ครั้งสุดท้ายที่เจ้ากดหัวเราลงน้ำ เจ้าไม่เปิดโอกาสให้เราได้พูดอะไรเลย”
กว่า 10 วินาทีต่อมา กวางหนุ่มถูกดึงกลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยามนี้ปากของเขาเป็นสีขาวซีดเหมือนกระดาษแล้วและใบหน้าก็บวมฉึ่ง
“ไอ้สัตว์ประหลาด— บุ๋ง ๆๆ...”
หลังจากที่ลู่หลีได้ดื่มน้ำติดต่อกันมากกว่า 10 ครั้ง หลงหลิงเอ๋อก็แทบรอไม่ไหวที่จะเอ่ยปากถาม “พี่สาม ท่านสนุกไหม? ถึงตาข้าแล้ว!”