ตำนานเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 259 ศักดิ์ศรีของพยัคฆ์ (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 259 ศักดิ์ศรีของพยัคฆ์ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
เฉียนหรงจื่อฟังแผนของหลี่ฉิงซานและถาม “เจ้าจะไม่เดินเข้าไปในกับดักหรือ? ฐานทัพใหญ่ของนิกายเมฆาพิรุณตั้งอยู่ในเมืองชิงเหอ พวกเขาจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าและจะไม่ปล่อยเสี่ยวอันเช่นกัน เว้นเพียงเจ้าจะให้เสี่ยวอันเข้าสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์ด้วย”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าตั้งใจจะทำ นิกายเมฆาพิรุณอาจยิ่งใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแตะต้องข้าโดยตรงเมื่อข้าอยู่ในสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์” หลี่ฉิงซานลูบศีรษะเสี่ยวอัน ด้วยพรสวรรค์ของนาง การเข้าสู่สำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์ไม่ใช่เรื่องยาก
เฉียนหรงจื่อกล่าว “สำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์เป็นรากฐานของจักรวรรดิ มันเป็นสถานที่สุดท้ายที่นิกายจะเข้าไปยุ่ง สถานที่ที่อันตรายที่สุดอาจเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดเช่นกัน ยังมีเวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่สำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์จะเปิดรับศิษย์ใหม่ เจ้าวางแผนที่จะทำสิ่งใด?”
“ปิดประตูบ่มเพาะอย่างสันโดษ” หลี่ฉิงซานกล่าว เขาต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อทะลวงขอบเขตที่สูงขึ้น ในโลกใบนี้ ความแข็งแกร่งคือโล่ป้องกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
“นั่นเป็นความคิดที่ฉลาด มีสถานที่พิเศษสำหรับการปิดประตูบ่มเพาะอย่างสันโดษอยู่บนภูเขา ตราบเท่าที่เจ้าไม่ลงจากภูเขา นิกายเมฆาพิรุณจะไม่สามารถทำสิ่งใดกับเจ้า”
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่หลี่ฉิงซานเลือกที่จะกลับมายังหน่วยผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์แห่งเมืองเจียเผิง โลกมนุษย์แตกต่างจากโลกของปีศาจ มันมีกฎระเบียบที่ซับซ้อนกว่ามาก เมื่อสูญเสียการปกป้องจากปีศาจกิ้งกือ หน่วยผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ก็ปลอดภัยกว่าโลกใต้พิภพ
หลี่ฉิงซานต้องหาสถานที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนิกายเมฆาพิรุณก่อนที่เขาจมีพลังมากพอ
เฉียนหรงจื่อยิ้ม “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ตอนนี้ข้าเป็นผู้บัญชาการแล้ว!”
เฉียนหรงจื่อจัดแจงตัวเองเล็กน้อยที่หน้ากระจกก่อนจะพาหลี่ฉิงซานไปพบผู้บัญชาการหมาป่าทมิฬคนปัจจุบันของเมืองเจียเผิงโดยทิ้งเสี่ยวอันไว้ในบ้านพัก
หลี่ฉิงซานรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเฉียนหรงจื่อไม่น้อยกว่าตัวเขาเอง นางไม่ทำตัวเย้ายวนอีกต่อไป เช่นเดียวกันกับนิสัยหยิ่งยโสที่นางเคยแสดงออก ราวกับนางก้าวขึ้นมาจากโคลนตมและกลายเป็นหญิงชั้นสูงที่สง่างาม
มันอาจเกินจริงหากนางสามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนที่อยู่ภายในได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยที่สุดความคิดชั่วร้ายของนางก็ถูกซ่อนไว้ลึกมากกว่าเดิม
แน่อนนว่าหลี่ฉิงซานรู้ว่าหญิงผู้นี้ไม่ใช่คนดี คนไม่ดีทั่วไปอาจกลับใจและเข้าสู่เส้นทางของนักบุญ อาจมีเพียงคนฉลาดและโง่เขลาที่สุดเท่านั้นที่ยังดื้อรั้นอยู่บนเส้นทางของตนต่อไป คนธรรมดาอาจหลงเสน่ห์และถูกชักจูงให้หลงผิดจนกลายเป็นคนชั่ว อาจมีเพียงคนฉลาดและโง่เขลาที่สุดเท่านั้นที่จะยืดหยัดในสิ่งที่พวกเขาเชื่อและยังคงอยู่บนเส้นทางของตน
แม้เขาจะไม่ชอบหญิงผู้นี้ แต่เขาต้องยอมรับว่านางเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดที่สุด เมื่อคนเช่นนั้นเชื่อในบางสิ่ง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเปลี่ยนความคิด
ตอนนี้พึ่งรุ่งเช้า ผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์สองสามคนออกมาจากที่พักเพื่อไปทานอาหาร
หลี่ฉิงซานคุ้นเคยกับคนส่วนใหญ่แต่ยังมีบางส่วนที่เขาไม่รู้จัก เฉียนหรงจื่อกล่าว “หลังจากที่เจ้าจากไป เราเปิดรับสมัครผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์อีกครั้งเพื่อเติมเต็มช่องว่าง การแข่งขันรุนแรงมาก น่าเสียดายที่เจ้าไม่เห็นมันด้วยตัวเอง”
“อรุณสวัสดิ์ผู้บัญชาการ!” คนใหม่ทักทายเฉียนหรงจื่ออย่างกระตือรือร้น เมื่อพวกเขาเห็นหลี่ฉิงซานที่อยู่ข้างๆนาง พวกเขาค่อนข้างประหลาดใจ ชายผู้นี้เป็นผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ด้วยงั้นหรือ เหตุใดพวกเขาไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางคือสิ่งใด?
ในทางกลับกัน บางคนที่รู้จักหลี่ฉิงซานมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงกว่ามาก ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขณะที่ปากของพวกเขาอ้าค้าง ผู้บัญชาการสองคนของเมืองเจียเผิงและกลุ่มผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ชั้นยอดถูกกวาดล้างไปแล้ว และทั้งหมดเกี่ยวข้องกับหลี่ฉิงซาน
“อรุณสวัสดิ์” เฉียนหรงจื่อตอบด้วยรอยยิ้ม นางทำตัวอ่อนโยนเหมือนพี่สาวคนโตซึ่งทำให้ผู้คนประทับใจทันทีที่เห็น
หลี่ฉิงซานรู้สึกว่าแม้เขาจะบอกคนเหล่านี้เกี่ยวกับความชั่วร้ายของเฉียนหรงจื่อ พวกเขาก็จะไม่เชื่อ มันทำให้เขานึกถึงคำกล่าวหนึ่งที่ว่า คนที่ซ่อนความคิดชั่วร้ายได้ดีจะดูไม่เหมือนพวกเขากำลังซ่อนความคิด ในทางตรงข้าม พวกเขาจะดูอ่อนโยนและเปิดเผยมากกว่าคนทั่วไป
จ้าวจื่อป๋อไม่สามารถเปรียบเทียบกับนางในด้านนี้ เมื่องูพิษซ่อนเขี้ยวพิษของมันหรือแม้แต่ความจริงที่ว่ามันเป็นงูพิษ มันจะเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุด
“ผู้บัญชาการ เด็กคนนี้คือ?”
เป็นเพียงเวลานี้ที่กลุ่มผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์สี่หรือห้าคนเดินเข้ามา พวกเขาแสดงออกด้วยความเป็นปรปักษ์ ผู้นำกลุ่มเป็นจอมยุทธ์ขั้นห้าอายุประมาณสามสิบปี เขาดูน่ากลัวและน่าเกลียดมาก เขามองหลี่ฉิงซานด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เฉียนหรงจื่อกล่าว “นี่คือรุ่นพี่ของพวกเจ้า”
“เขาเป็นรุ่นพี่ของข้า? เรามีผู้สูงอายุจำนวนมากรวมทั้งผู้หญิงและเด็ก!”
ชายอัปลักษณ์และผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์คนอื่นๆหัวเราะเสียงดัง
เดิมทีหลี่ฉิงซานคิดว่าพวกเขาพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากเฉียนหรงจื่อ แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้น เขาตระหนักว่าคนเหลานี้อาจไม่พอใจเฉียนหรงจื่อในฐานะผู้บังคับบัญชาของพวกเขา
หลี่ฉิงซานเดาถูก เพื่อเติมเต็มตำแหน่งผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์อย่างรวดเร็ว พวกเขาต้องลดมาตรฐานของกระบวนการคัดสรร พวกเขายอมรับคนทุกประเภท ดังนั้นมันจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทั้งคนดีและไม่ดี ชายอัปลักษณ์ไม่ใช่ตัวตนที่รับมือได้ง่าย เขามาจากนิกายเล็กๆและจัดตั้งกลุ่มของตนเพื่อสังหารจอมยุทธ์พลังปราณ พวกเขาไม่เคยแตะต้องคนธรรมดาซึ่งเป็นเหตุผลที่ชื่อของพวกเขาไม่ได้อยู่ในบัญชีดำ
เขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นห้าเช่นเดียวกับเฉียนหรงจื่อ โดยส่วนตัวแล้วเขาเชื่อว่าตนเองใช้เวลาและความพยายามไปมากกับการบ่มเพาะ เขายังได้รับการสนับสนุนจากรุ่นพี่รุ่นน้อง ดังนั้นเขาจะเต็มใจอยู่ใต้อำนาจของเฉียนหรงจื่อได้อย่างไร นั่นเป็นต้นเหตุที่เขามักยั่วยุนางเสมอ
เฉียนหรงจื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย นางดูน่าสงสารและเหมือนทำตัวไม่ถูก ผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ที่เดินผ่านไปมาล้วนแสดงความไม่พอใจแต่พวกเขาไม่กล้าพูด ทุกคนต่างถอนหายใจอยู่ภายในและคิดว่านางใจอ่อนเกินไป
หลี่ฉิงซานชำเลืองมองเฉียนหรงจื่อ “ดูเหมือนเจ้ายังไม่สามารถเอาชนะใจทุกคนหลังจากรับสมาชิกใหม่ครั้งนี้”
หากบางคนเก่งเกินไปในการอดทนต่อการยั่วยุ บางคนอาจรู้สึกว่าพวกเขาอ่อนแอและเป็นเป้าหมายที่จัดการได้โดยง่าย
ชายอัปลักษณ์ชี้ไปที่หลี่ฉิงซาน “เจ้าหนู มาอยู่กับเรา!” เขาวางแผนที่จะรับผู้ใต้บังคับบัญชาทันทีที่เข้าร่วมหน่วยผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ เขาต้องการดึงคนใหม่ทั้งหมดมาอยู่ข้างเขา อย่างไรก็ตามแม้หญิงผู้นี้จะอ่อนแอแต่นางรู้วิธีเอาชนะใจคน ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงลงเอยด้วยการเกลียดเขา
เขาพบว่าหลี่ฉิงซานเป็นจอมยุทธ์ขั้นสี่ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นเขาจึงต้องการผูกมัดเด็กหนุ่ม
หลี่ฉิงซานกล่าว “ไปตายซะ”
“พี่ใหญ่ เด็กคนนี้ไม่รู้ว่าสิ่งใดดีสำหรับตัวเอง!”
“รนหาที่ตาย!”
ชายอัปลักษณ์อารมณ์เสีย เขาถ่มน้ำลายก่อนจะสบตากับหลี่ฉิงซาน แต่ความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเขากลับสงบลงอย่างรวดเร็ว สายตาของหลี่ฉิงซานไม่เหมือนกับกำลังมองสิ่งมีชีวิต นี่ทำให้เหงื่อเริ่มไหลออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง
ผู้ใดจะรู้ว่าจอมยุทธ์ที่ต่ำชั้นกว่าระดับหกจำนวนเท่าใดที่หลี่ฉิงซานสังหารไป ในสายตาของเขา คนเหล่านี้ไม่ต่างจากปศุสัตว์ หากเขาอยู่ในสถานที่ห่างไกล เขาจะไม่เสียเวลาพูดคุยแต่จะฆ่าพวกเขาทันที
ไม่มีความจำเป็นสำหรับเขาที่จะแสดงเจตนาสังหารออกมา กลิ่นอายนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งทำให้ศัตรูตกตะลึงและหวาดกลัวด้วยตัวมันเอง
เฉียนหรงจื่อเชี่ยวชาญมากในการสังเกตและอ่านใจผู้คน นางลอบสั่นสะท้านเล็กน้อย เขาน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ นางไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่นางต้องระวังตัวให้มากขึ้นในอนาคต
นี่คือศักดิ์ศรีของพยัคฆ์