ตอนที่ 214 ตัดการเชื่อมต่อและกลับไป
เฉินเหิงดูหล่ออย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังมอบออร่าที่สงบและอ่อนโยน
แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
หลังจากได้รับมรดกของเครื่องหมายแห่งศรัทธา ร่างกายของเฉินเหิงดูเหมือนจะถูกแช่แข็งเวลา
หลังจากกลืนแก่นเลือดของเอลฟ์ ร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
หูของเขาแหลมขึ้น ผิวของเขาละมุนมากขึ้น โดยรวมแล้วคือเขาหล่อขึ้นอีก
ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากแก่นเลือดของเอลฟ์ อายุของร่างกายจึงถดถอยบลง ทำให้เขาดูอ่อนกว่าวัย
เมื่อมองดูรูปร่างหน้าตาของตัวเองในกระจก เฉินเหิงพยักหน้า
ตามที่เขาคาดไว้ หลังจากที่ดูดกลืนแก่นเลือดของเอลฟ์ รูปลักษณ์ของเขาเกิดผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง อย่างไรก็ตามมันยังคงยอมรับได้
.....
นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงภายนอก แต่การเปลี่ยนแปลงภายในนั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก
พลังงานสีเงินจางๆ ไหลเวียนในร่างกายของเขา พลังเทพจันทราหมุนเวียนไปรอบๆ ร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติจนไม่น่าเชื่อ
หากเป็นในอดีต มันจะค่อนข้างยาก แต่ตอนนี้เฉินเหิงรู้สึกว่ามันง่ายมากที่จะใช้พลังเทพจันทรา และผลกระทบจากการใช้บูชาเทพจันทราก็ดีขึ้นเช่นกัน
‘มันสมกับเป็นเทคนิคการทำสมาธิของเอลฟ์จริงๆ….’
เมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย การแสดงออกของเฉินเหิงสงบในขณะที่เขาคิดกับตัวเอง
ไม่ว่าเขาจะดัดแปลงอย่างไร เทคนิคบูชาเทพจันทราก็ยังเป็นเทคนิคการทำสมาธิที่เป็นของเอลฟ์
ตอนนี้เขาได้หลอมรวมกับสายเลือดเอลฟ์แล้ว มันจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเฉินเหิงที่จะฝึกฝนเทคนิคบูชาเทพจันทรา
หลังจากวันนี้ ผลจากการใช้บูชาเทพจันทราจะดีขึ้นมาก
หลังจากทำแบบนี้ เขาก็ได้เสร็จสิ้นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการทำที่นี่
ถึงเวลาออกเดินทาง
‘ฉันสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ฉันจากไป’ เฉินเหิงคิดขณะเดินออกจากห้องทดลองและมองดูแสงไฟสว่างไสวในเมือง
ภายใต้การนำของผู้ข้ามโลกอย่างเขา ไฟฟ้าถูกสร้างขึ้นและนำไปใช้ในบางเมือง
แน่นอนว่าเป็นแค่บางเมืองเท่านั้น
ในความเป็นจริง ด้วยความรู้ของพ่อมด การเข้าใจความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ไฟฟ้านั้นไม่ยากเกินไป และพวกเขาก็ได้สร้างทักษะเวทมนตร์ที่สอดคล้องกันมานานแล้ว
ตอนนี้พวกเขาค้นพบไฟฟ้าแล้ว อะไรหลายๆ อย่างก็สามารถพัฒนาได้
บางทีในอีกไม่กี่ร้อยปี สถานที่แห่งนี้อาจจะดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
‘ฉันหวังว่าครั้งต่อไปที่ฉันมา มันจะเป็นอย่างที่ฉันต้องการ’ เฉินเหิงคิดกับตัวเองขณะที่เขายิ้มเมื่อมองแสงจ้า
เขาตัดสินใจที่จะจากไปแล้ว แต่เฉินเหิงไม่ได้วางแผนที่จะยอมแพ้ต่อร่างกายนี้
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เฉินเหิงได้ทำการตรวจสอบการทำงานของระบบจำลอง
‘ตัดร่างนี้และสร้างร่างกายจำลอง’ เฉินเหิงคิดกับตัวเอง
‘หากคุณตัดการเชื่อมต่อร่างจำลองนี้ การจำลองนี้จะไม่ถือว่าสิ้นสุดและคุณจะไม่สามารถนำสิ่งใดกลับไปได้ คุณต้องการดำเนินการต่อหรือไม่’
ข้อความที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นต่อหน้าของเฉินเหิงอย่างชัดเจน
‘ใช่’
เฉินเหิงตัดสินใจมานานแล้วและไม่ลังเล
ต่อจากนั้น ข้อความเหล่านั้นก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยคำใหม่
‘คุณต้องการออกจากการจำลองนี้หรือไม่’
เมื่อมองดูคำเหล่านี้ เฉินเหิงก็พยักหน้าอีกครั้ง ‘ใช่’
นี่คือสิ่งที่เขาตัดสินใจมานานแล้ว และไม่จำเป็นต้องลังเล
ฟังก์ชั่นการตัดการเชื่อมต่อของระบบจำลองเป็นสิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบ
ความสามารถนี้ทำให้ร่างกายจำลองของเฉินเหิงสามารถทำหน้าที่เป็นร่างโคลนอิสระของเฉินเหิงได้ และร่างกายหลักของเฉินเหิงก็สามารถกลับไปยังโลกก่อนหน้าได้
อย่างไรก็ตามนี่หมายความว่าการจำลองจะไม่สิ้นสุดลง ดังนั้นไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้รับคะแนนเท่านั้น แต่เขายังไม่สามารถใช้วงล้อรางวัลได้อีกด้วย
เรื่องนี้สมเหตุสมผล เพราะทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากการจำลองสิ้นสุดลง
เนื่องจากร่างกายจำลองยังไม่ตาย การจำลองจึงยังไม่สิ้นสุด ดังนั้นเฉินเหิงย่อมไม่ได้รับรางวัลของเขา
เฉินเหิงได้พิจารณาเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
ถ้าเขาจบการจำลองโดยตรง เขาจะสามารถรับคะแนนได้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่คุ้มค่า เนื่องจากเขาจะต้องสละร่างกายจำลองของเขา
หลังจากที่เครื่องหมายแห่งศรัทธาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าร่างกายนี้จะได้รับการแก้ไข ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่พลังชีวิตของเขาก็ไม่ลดลงเช่นกัน
ร่างของเขาดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้นานมากๆ และมันคงจะเสียเปล่าถ้าจะให้จบเรื่องทุกอย่างตรงนี้
ยิ่งไปกว่านั้นจักรวรรดิรุ่งอรุณกำลังพัฒนา ถ้าเขาต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสิ่งนี้ เขาก็ต้องดำเนินต่อไป
เฉินเหิงสามารถเลือกที่จะอยู่ในการจำลองได้ แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้เลือกตัวเลือกนี้
ผลกระทบของพลังงานศรัทธาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เฉินเหิงกังวลว่าบุคลิกภาพของเขาจะเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันไปไกลเกินไป มันอาจส่งผลกระทบต่อเขาแม้ว่าเขาจะทิ้งร่างนี้ไปแล้วก็ตาม
แทนที่จะปล่อยให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาควรจะออกไปก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง
เรื่องนี้มีประโยชน์ในตัวของมันเอง ในอนาคตเฉินเหิงจะกลับไปสู่โลกแห่งพ่อมดอย่างแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้น จักรวรรดิรุ่งอรุณจะสนับสนุนเขา การพัฒนาของเขาจะราบรื่นขึ้น และเขาจะไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
ความคิดต่างๆ ปรากฏขึ้นในจิตใจของเฉินเหิง ขณะที่เขาพูด “กลับไป!”
แสงสีทองจางๆ กระจายออกจากร่างกายของเฉินเหิง ไม่นานก็ปกคลุมตัวเขา
ไม่เหมือนครั้งก่อน คราวนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับภายนอก แต่ภายในจิตวิญญาณของเขามีแสงปรากฏขึ้นและหายไป
หลังจากนั้นไม่นานเฉินเหิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
พลังงานศรัทธาเชิงบวกปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา
ภายในดวงตาของเขา ปรากฏแสงสีทองจางๆ
หลังจากสูญเสียจิตสำนึกดั้งเดิม ร่างกายนี้ก็ได้รับผลกระทบจากพลังงานศรัทธาเชิงบวกเร็วขึ้น ตอนนี้มันเต็มไปด้วยพลังศรัทธาเชิงบวก และการกระทำทุกอย่างก็ดูเหมือนกับนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์
หลังจากลืมตา สีหน้าของเขาสงบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาดูเหมือนร่างอวตารของพลังศรัทธาเชิงบวก
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
‘ฉันในปัจจุบันไม่สามารถเรียกว่าเฉินเหิงได้อีกต่อไป สามารถเรียกว่าเอ็ดได้เท่านั้น…’
เขาคิดในใจขณะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า