ตอนที่ 14 หินหยกเย็น
ถังฮวนอยากจะรับมัน แต่ก่อนที่เขาจะได้ยื่นมือออกไป ก้อนแสงสีขาวก็มาหยุดตรงหน้าเขาและค่อย ๆ ลอยลงมาอย่างกับขนนกในฝ่ามือขเา
ถังฮวนมองชิงเย่ด้วยความตกตะลึง การควบคุมปราณแท้ของจ้าวหอนั้นสุดยอดมาก เขาไม่รู้เลยว่าระดับพลังบ่มเพาะของนางคือเท่าใด
แต่ถังฮวนก็ไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจเรื่องนี้ ความเยือกเย็นถึงกระดูกนั้นกำลังดึงความสนใจของเขาไป ในตอนนี้ มีหินสีขาวขนาดเท่าไข่ไก่ในฝ่ามือเขา มันกลมเหมือนกับก้อนหินและเป็นหยกที่เปล่งประกายอย่างต่อเนื่องในแสงสีขาว
การถือหินหยกเย็นในมือให้ความรู้สึกเหมือนกับถือก้อนน้ำแข็ง แต่ความเย็นนั้นมันเหนือยิ่งกว่าน้ำแข็งและหิมะใดที่ถังฮวนเคยเห็นมา
“ทุกท่าน เวลาเริ่มนับแล้ว!”
เสียงสดใสดังที่เหมือนกับเสียงนกดังขึ้น
ในขณะเดียวกันนั้น แผ่นหยกขาวหกแผ่นก็ลอยออกมาจากกล่องไม้ของชิงเย่และร่อนลงที่หน้าทั้งหกคนอย่างสง่างาม มันใช้เพื่อเก็บหินหยกเย็นที่หลอมแล้ว
ชายชราและคนอื่น ๆ รีบปรับอารมณ์และเริ่มทดสอบ
ถังฮวนหายใจเข้าลึก และทันใดนั้นก็วางหินหยกเย็นไว้ที่ระหว่างฝ่ามือ เมื่อใช้ความคิดเล็กน้อย เตาหลอมเทพเก้าหยางก็เริ่มหมุนในตันเถียน ลูกไฟเพลิงแท้เริ่มกระเพื่อมในทันทีอย่างรุนแรง และจากนั้นคลื่นความร้อนสองสายก็ไหลออกมาจากเตาหลอม ความร้อนนั้นไหลตามเส้นปราณด้วยการนำของปราณแท้มาถึงฝ่ามือทั้งสองของถังฮวน
“ฟู่ว!”
เมื่อคลื่นความร้อนออกมาจากฝ่ามือมันก็กลายเป็นความร้อนสูงปกคลุมหินหยกเย็นและฝ่ามือเองด้วย พลังความร้อนที่เหนือกว่าความร้อนอื่นใดกระจายออกไปเพิ่มความร้อนในพื้นที่รอบข้างทันที
ทั้งสองมือของเขาอาบไปด้วยเพลิง ถังฮวนเพียงแค่รู้สึกอุ่นและไม่ได้แสบร้อนทรมานเหมือนตอนที่เขาผสานเพลิงแท้อีกแล้ว
“เอ๋?”
ที่ไม่ไกลออกไปนัก ชิงเย่อุทานออกมาเบา ๆ และแสดงความแปลกใจออกมาด้วยดวงตาที่งดงามนั้น
ทั้งหกนั้นลงมือแทบจะพร้อมกัน และห้าคนอื่นก็เพิ่งจะสร้างประกายไฟเล็ก ๆ ได้เท่านั้น ส่วนอีกสี่คนยังสร้างประกายไฟไม่ได้เลย ส่วนชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้จะสร้างเปลวเพลิงในฝ่ามือ แต่เปลวเพลิงยังแข็งแกร่งจนปกคลุมมือทั้งสองของเขา
“ความเร็วในการใช้เพลิงแท้มันมากขนาดนี้เลยรึ?”
ชิงเย่ประทับใจเล็กน้อย นางพูดด้วยเสียงที่มีแต่นางที่ได้ยินเท่านั้น และความสนใจในดวงตาอันงดงามนั้นก็มีมากขึ้น
ความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้ห้าคนที่เหลือเสียสมาธิจากการใช้เพลิงแท้ของตัวเอง
“เร็วยิ่งนัก!”
หญิงสาวชุดแดงที่นั่งใกล้สุดกับเขารู้สึกร้อนมากกว่าใคร เมื่อนางเห็นเพลิงลูกใหญ่ในมือถังฮวนก็อดร้องออกมาด้วยความตกใจไม่ได้ ดวงตาดำของนางเบิกกว้าง เช่นเดียวกับปากสีแดงเข้ม
เมื่อชายชรา หญิงสาว และชายหนุ่มที่ไกลออกไปเห็นภาพนี้ พวกเขาก็ตกใจจนพูดไม่ออก ใบหน้าต่างอึ้ง
เวลาผ่านไปนานเพียงใดกัน? เด็กที่ไม่เคยจะสร้างอาวุธระดับต่ำสักชิ้นแต่ก็ก่อร่างเพลิงแท้ออกมาภายนอกได้ในระยะเวลาอันสั้น ยิ่งไปกว่านั้นเพลิงยังรุนแรงจนทำให้พวกเขาที่เคยสร้างอายุระดับต่ำมาแล้วหลายปียังแข่งด้วยไม่ได้
“ฮื่ม!”
เสียงถอนหายใจแรงทำให้พวกเขาหลุดจากความหยุดนิ่ง ชิงเย่พูดเบา ๆ
“ทุกท่าน อย่าลืมว่าการสอบรอบแรกมีเวลาสี่ชั่วโมงเท่านั้น!”
พวกเขาหลุดจากภวังค์และรีบหันมาตั้งสมาธิอย่างรวดเร็ว
การทดสอบกินเวลาอันสั้นในสี่ชั่วโมง การเสียเวลาเพียงเล็กน้อยอาจทำให้พวกเขาสอบตกได้
“อ๊ะ ไฟข้าดับแล้ว!”
สาวน้อยในชุดแดงร้องออกมาเบา ๆ ใบหน้าน่ารักของนางเต็มไปด้วยความเศร้า การเหม่อลอยเมื่อครู่นั้นทำลายประกายไฟในมือนางจนหมด นางไม่มีทางเลือกนอกจากเริ่มใหม่
ถังฮวนหลับตาช้า ๆ เขาตั้งสมาธิเต็มที่
ในตันเถียนนั้น เตาหลอมเทพเก้าหยางหมุนด้วยความเร็วสูงและถังฮวนก็ผลักดันเพลิงแท้ออกมาจนถึงขีดจำกัด เพลิงร้อนสูงหนาแน่นสองสายหลั่งไหลออกมาจากเตาหลอมและไหลมาที่ฝ่ามือของเขาอย่างรวดเร็ว ก้อนเปลวเพลิงใหญ่ขยายอย่างรวดเร็วและใหญ่เท่ากับอ่างล้างหน้า
“หืม?”
สายตาชิงเย่มองอยู่เป็นระยะ ความสงสัยที่อยู่ในส่วนลึกของดวงตางดงามในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นความตกใจ
ไม่เพียงแต่เขาจะใช้เพลิงแท้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าคนทั่วไป แต่เปลวเพลิงที่เขาสร้างขึ้นยังอยู่ในระดับนั้นเชียวหรือ? ทุกคนรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นนักตีอาวุธระดับต่ำด้วยซ้ำไป แต่ดูจากความร้อนที่ปล่อยออกมา เขานั้นไปถึงระดับของนักตีอาวุธระดับกลางแล้ว
สาวน้อยจากเมืองช่างสวรรค์นั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นนักตีอาวุธที่มีพรสวรรค์ดีและมักจะปรากฏในรอบพันปี แต่เมื่อนางเข้าร่วมการทดสอบนักตีอาวุธระดับต่ำเมื่อไม่กี่ปีก่อน เพลิงที่นางจุดก็อยู่ได้แค่ระดับนั้นใช่ไหม? หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทานที่อยู่ในระดับเดียวกับนาง?
ต่อมาชิงเย่ก็มองลูกไฟอีกครั้ง ที่กลางลูกไฟนั้นมีสีขาว ไม่ได้สีแดงเหมือนกับคนอื่น
“ช้าก่อน นั่นมัน…”
ต่อมาจิตใจของนางก็สั่นคลอนอย่างหนัก ถ้าหากนางไม่ได้ปิดปากเอาไว้อย่างดีนางก็อาจจะตะโกนเสียงดังออกมาแล้ว แต่แม้ว่านางจะข่มเสียงในคอเอาไว้ได้ ความตกตะลึงที่ไม่อาจเชื่อสายตาก็เกิดขึ้นในดวงตาอันงดงามของนาง
แกนเพลิงสีขาวนั้นมองดูได้ยาก แต่มันซ่อนจากสายตานางไม่ได้
“เขามีร่างกายธาตุโลหะ!”
ชิงเย่เบิกตากว้าง คลื่นคลั่งเกิดขึ้นในอกของนาง แกนกลางของเพลิงกลายเป็นสีขาวและมีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้นที่เกิดจากร่างกายของเขา
ในฐานะนักตีอาวุธ นางชัดเจนมากว่าร่างกายของเขาเป้นธาตุอะไร
ในห้าธาตุ โลหะนั้นเป็นธาตุที่แพ้ไฟ จอมยุทธที่มีร่างกายเช่นนี้ที่อยากจะผสานตัวเองกับเพลิงแท้นั้นมันเกินจินตนาการได้ ยิ่งไปกว่านั้น ขั้นตอนการผสานกับเพลิงแท้ ความเจ็บปวดที่จอมยุทธต้องแบกรับนั้นมันจะเหนือกว่าธาตุไฟหลายเท่าตัว บางทีอาจจะเกินสิบเท่าของจอมยุทธธาตุไฟก็ได้
ถ้าหากเป็นจอมยุทธที่มีพลังแข็งแกร่งและใช้ปราณแท้ต่อต้านการเผาของเพลิงแท้ไปได้ แต่ถ้าหากอยากจะเป็นนักตีอาวุธ พวกเขาต้องผสานเพลิงแท้ให้เสร็จเมื่อตอนที่ยังเป็นผู้ฝึกยุทธ เมื่อกงล้อจิตถูกสร้างขึ้นมาแล้วก็ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะกลายเป็นนักตีอาวุธได้อีก
ด้วยเหตุนี้ การมีอยู่ของนักตีอาวุธจึงหาได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น การผสานเพลิงแท้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ด้วยเวลาข้ามคืน
แม้ว่าจอมยุทธจะมีร่างกายธาตุไฟเหมือนนาง เมื่อนางผสานกับเพลิงแท้ครั้งแรก นางเกือบถูกเผาตายด้วยความร้อนสูง ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธที่มีร่างกายธาตุเหล็กที่แพ้ไฟ ถ้าหากเป็นนาง นางคงยังมีความกลัวเมื่อนึกย้อนกลับไปถึงภาพในอดีต นางจะไม่มีวันผสานเพลิงแท้อีกแล้วเป็นครั้งที่แล้ว
แต่ว่านางไม่คิดว่าเด็กตรงหน้านางจะทำได้สำเร็จ
จากที่นางรู้ คนที่ผสานกับเพลิงแท้ได้เร็วที่สุดน่าจะเป็นสาวน้อยจากเมืองช่างสวรรค์ นางใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น
ถ้าหากเด็กคนนี้ผสานเพลิงแท้ได้เร็ว พรสวรรค์ของเขาก็น่าจะเทียบเท่ากับสาวน้อย แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเหนือกว่านาง
ด้วยเวลาที่นานเช่นนั้น ใครจะไปรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดยาวนานเท่าใด สำหรับจอมยุทธทั่วไปที่เป็นธาตุเหล็กนั้น พวกเขาทนได้ไม่ถึง 15 นาทีด้วยซ้ำและสติของพวกเขาก็หลุดลอยไป
เมื่อเสียสติไปแล้ว มันก็ไม่ห่างไกลจากความตายนัก
“กริ๊ก!”
หยดของเหลวกระทบแผ่นหยกเสียงสดใส แม้ว่ามันจะเบา แต่มันก็เป็นเสียงที่ดังทะลุหูได้อย่างประหลาดในชั้นสองอันเงียบงันที่ได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่น
ชิงเย่ได้ยินเสียงและมองดูใกล้ นางเห็นหินหยกเย็นในฝ่ามือถังฮวนละลายเป็นหยดที่เริ่มไหลลงมาในแผ่นหยกด้านล่าง
“เด็กคนนี้อาจจะเป็นนักตีอาวุธที่มีร่างธาตุโลหะคนแรกในดินแดนรุ่นโรจน์ ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีนักตีอาวุธธาตุโลหะปรากฏตัวมาหลายร้อยปีแล้ว”
ชิงเย่วางมือที่ปิดปากสีแดงนางลงไป นางหายใจเข้าลึก นางแสดงสีหน้าของการยอมรับออกมาโดยไม่รู้ตัว
แต่ทันทีหลังจากนั้น ที่มุมปากของชิงเย่ก็ยิ้มประหลาด
นางมีอายุมากกว่ายี่สิบปีแล้ว และนักตีอาวุธที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่นางเคยเห็นก็คือสาวน้อยที่มาจากเมืองช่างสวรรค์ เสาเงาเพลิงในเมืองช่างสวรรค์นั้นมีนางที่จุดได้ถึงสิบสองเมตรซึ่งไปถึงขีดจำกัดของเสาเงาเพลิง
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีอัจฉริยะนักตีอาวุธที่เหมือนกับนางแล้ว
ไม่เพียงแต่จะใช้เพลิงแท้ได้อย่างแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักตีอาวุธระดับกลาง เขายังมีร่างกายธาตุโลหะอีกด้วย ถ้าหากสาวน้อยจากเมืองช่างสวรรค์รู้เข้า นางจะตกใจมากเพียงใดกัน
แต่เด็กคนนี้เพิ่งจะเข้าร่วมการทดสอบนักตีอาวุธระดับต่ำซึ่งหมายความว่าเขาเพิ่งจะเดินบนวิถีแห่งการตีอาวุธ ส่วนสาวน้อยนั้นนำหน้ามาไกลแล้ว ถ้าหากเด็กคนนี้อยากจะไปถึงระดับของนาง เขายังมีเส้นทางอีกไกลให้เดิน
“กริ๊ก! กริ๊ก กริ๊ก…”
เสียงแหลมยังคงหยดดังอย่างต่อเนื่อง และอีกห้าคนที่อยู่ไม่ไกลจากถังฮวนตกใจอีกครั้ง
หญิงสาวชุดแดงหันหน้าไปมอง และเมื่อเห็นหยกสีขาวบนแผ่นหยกหน้าถังฮวน นางก็ตกใจอีกครั้ะง แต่ก่อนที่นางตะอุทานออกมานางก็รีบตั้งสติทำไฟในมือที่สั่นไหวให้มั่นคง
สาวน้อยในชุดแดงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและไม่มองดูเขาอีก แต่นางก็มิอาจปิดบังควาตกใจในดวงตาไปได้
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที หินหยกเย็นของคนคนนี้เริ่มละลายแล้ว…มันเร็วเกินไป!
อีกสี่คนที่อยู่ไกลจากถังฮวนมากกว่าเองก็จ้องมองด้วยดวงตาว่างเปล่า
แต่พวกเขาก็เหมือนกับสาวชุดแดงที่ไม่กล้ามองต่อไปเพราะถ้าหากตั้งใจดูถังฮวน พวกเขาก็จะเสียสมาธิทำให้ไฟดับจนต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง
พวกเขาตั้งใจหลอมหินหยกเย็นโดยข่มความตกใจเอาไว้
“กริ๊ก! กริ๊ก กริ๊ก…”
เสียงหยดกระทบแผ่นหยกยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทีแรกต้องใช้เวลาหลายลมหายใจกว่าที่จะเกิดเสียงหยดสองครั้ง แต่จากนั้นเวลาก็ยิ่งสั้นลงเรื่อย ๆ สุดท้ายเสียงก็ดับแทบจะต่อเนื่องและดังขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งชายชราและคนอื่นไม่อยากจะได้ยินมากเพียงใด เสียงมันก็ยิ่งชัดใสมากขึ้นเท่านั้น
แค่เพียงได้ยินเสียง พวกเขาก็ระบุได้อย่างชัดเจนว่าหินหยกเย็นในมือถังฮวนนั้นกำลังละลายเร็วขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้พวกเขารำคาญใจเล็กน้อยและเพลิงในมือของพวกเขาก็สั่นไหวเป็นเพลิงร้อนและเพลิงอุ่น กลับกัน สาวน้อยในชุดแดงนั้นถูกรบกวนน้อยที่สุด
เมื่อผ่านมานาน หยดของเหลวก็เริ่มหลดลงมาจากฝ่ามือของนาง
“กริ๊ก!”
เสียงสดใสดังขึ้นอีกครั้ง ถังฮวนลืมตาขึ้นและแบมือ เขาเห็นว่าไม่มีร่องรอยของหินหยกเย็นอยู่ในเปลวเพลิงอันบ้าคลั่งอีกแล้ว แแต่เขาเห็นกองของเหลวสีขาวที่อยู่ใต้ฝ่ามือเขาแทน
“ข้าเสร็จแล้ว!”
ถังฮวนทำหน้าประหลาดใจอย่างเสียไม่ได้ ในทันทีที่เพลิงในมือของเขาหายไปและเขาก็มองไปที่ด้านข้างตัว หญิงสาวในชุดแดงเองก็เริ่มมีหยดละลายบนแผ่นหยกแล้ว ส่วนอีกสี่คนที่นั่งไกลกว่านั้นไม่มีอะไรอยู่ในแผ่นหยก