ตอนที่ 13 จ้าวหอผู้งดงาม
เสียงฝีเท้าเดินลงมาจากบันไดชั้นบนอย่างรวดเร็ว
ถังฮวนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ผู้ที่เดินเข้ามานั้นเป็นหญิงสาวชุดเขียวที่อายุราว 20 ปี นางตัวสูงหุ่นดีและมีใบหน้าน่าหลงใหล
ภายใต้ขนตาเป็นแพของนางนั้นมีดวงตาสีเข้มงดงาม คลื่นในดวงตานั้นเหมือนกับวารีในฤดูใบไม้ร่วง มันยั่วยวนเป็นพิเศษ และผิวหน้าของนางก็นุ่มละเอียด ผิวของนางเรียบและไม่มีร่องรอยเลยแม้แต่น้อย
ใต้คออันงดงามนั้นมีอกที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด อกกลมสองข้างอัดแน่นราวกับอยากจะหลุดจากพันธนาการ จะเห็นผิวขาวราวหิมะจาง ๆ ของนางผ่านชุดที่นางสวมใส่และส่วนโค้งเว้าที่น่ามอง
ภายใต้ส่วนโค้งเว้าอันสง่างามนั้นจะมีส่วนที่ยั่วยวนตรงกันข้ามกับบั้นท้ายกลมที่ยื่นออกมา ลงจากบั้นท้ายกลมกลึงแล้วจะเห็นขาสองข้างที่สลับเข้ามาราวกับหยก ในชุดสีเขียวนี้ นางทั้งหุ่นดีและงดงาม
ที่ฝ่ามือนางมีกล่องไม้และนางก็เดินลงมาอย่างสง่าผ่าเผย ผมยาวของนางไหลลงมาเหมือนกับน้ำตก ทั้งร่างกายนั้นแสดงความเป็นผู้ใหญ่และเสน่ห์
“คนที่ดูแลการสอบนักตีอาวุธต้องเป็นจ้าวหออาวุธเทพเมืองคลื่นคลั่งสิ คนบอกว่าเขาเป็นชายชรา แล้วทำไมถึงกลายเป็นหญิงงามไปได้?”
ถังฮวนอึ้งในดวงตา แต่เขาก็รีบตั้งสติและหยุดนิ่ง
แม้จะเป็นครั้งแรกที่เขามายังหออาวุธเทพ แต่เมื่อเขาตั้งใจจะเป็นนักตีอาวุธ เขาจะต้องเข้าใจสถานการณ์ของหออาวุธเทพ เขาได้ยินว่าจ้าวหออาวุธเทพในเมืองคลื่นคลั่งนั้นเป็นชายที่ชื่อกู้หยี เขาอายุราวหกสิบปีและน่าจะเป็นนักตีอาวุธระดับสูง
เขาไม่ใช่คนเดียวที่ทำหน้าตกใจ แต่คนเข้ารับการทดสอบคนอื่นก็ตกใจไม่แพ้กัน
ในตอนที่พวกเขาสับสน หญิงสาวชุดเขียวก็เดินมาหาพวกเขาและนั่งลงบนเบาะรองนั่ง
“ทุกท่าน ข้าคือชิงเย่ ท่านกู้หยีถูกย้ายไปเมืองช่างสวรรค์แล้ว เมืองคลื่นคลั่งจะให้ข้าดูแล และการทดสอบจะถูกข้าดูแล”
เมื่อนางพูด ชิงเย่ก็ยิ้มจาง ๆ และมองทั้งหกคน
“คารวะท่านจ้าวหอชิงเย่”
ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและรีบโค้งคำนับคารวะ แต่บางคนก็ตอบสนองช้าส่วนคนอื่นนั้นทำได้รวดเร็ว เสียงของพวกเขาไม่พร้อมกันเล็กน้อย
ในตอนนี้ ทุกคนต่างวิตกกังวล
จ้าวหอต่างคนกันย่อมมีความเข้มงวดในการทดสอบที่ต่างกัด จ้าวหอกู้หยีคนก่อนหน้านั้นนับว่าเข้มงวด แต่ไม่รู้ว่าจ้าวหอคนใหม่นี้จะผ่อนคลายกว่าหรือเข้มกว่าเดิม
“หากทุกท่านมาเพื่อเข้ารับการทดสอบ ข้าก็คิดว่าทุกท่านผสานกับเพลิงแท้แล้วใช่หรือไม่?”
ดวงตาอันงดงามของชิงเย่มองทั้งหกคนและยิ้ม
“ใช่แล้ว!”
ถังฮวนและคนที่เหลือตอบพร้อมกัน
“ถ้าเช่นนั้น มีใครเคยตีอาวุธระดับต่ำมาก่อนหรือไม่?”
ชิงเย่หรี่ตาและยิ้มอีกครั้ง
“ข้าเคย!”
“ข้าไม่เคย!”
ในการตอบครั้งนี้ คำตอบของถังฮวนนั้นค่อนข้างน่าสนใจ
ต่อมาสายตามากมายก็มองมาที่ถังฮวนด้วยใบหน้าประหลาด เขาไม่เคยตีอาวุธระดับต่ำมาก่อนด้วยซ้ำแต่ยังกล้าเข้าร่วมการทดสอบนักตีอาวุธระดับต่ำหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่เป็นไรถ้าเขาจะไม่เคยตีอาวุธมาก่อน แต่ทำไมเขาถึงตอบอย่างมั่นใจได้แบบนี้?
คนคนนี้ไม่ได้มาเพื่อก่อปัญหาใช่ไหม? แต่ทุกคนก็คิดว่าเขาจะสอบตกในอีกไม่นาน
พวกเขายิ้ม เริ่มมีคนย่ามใจแล้ว
แต่ที่ทำให้พวกเขาผิดหวังก็คือชิงเย่นั้นไม่คิดจะไล่ถังฮวนออกไป นางเพียงแค่เหลือบมองเขาและพยักหน้า
“ไม่เป็นไรถ้าเจ้าไม่เคยตีอาวุธระดับต่ำมาก่อน ถ้าหากเจ้าผสานกับเพลิงแท้แล้วและผ่านการทดสอบได้ เจ้าก็จะได้ตรานักตีอาวุธระดับต่ำอยู่ดี”
เมื่อมีคนได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจ แต่คำที่พูดโดยจ้าวหออาวุธเทพนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะไม่พอใจเพียงใด พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงออกมา
“ทุกท่าน ในการทดสอบรอบแรกคือการหลอมอัญมณีระดับต่ำ ถ้าหากทำได้ในสี่ชั่วโมงจะได้ไปทดสอบต่อที่รอบสอง ถ้าหากสำเร็จแล้วก็จะได้รับตรานักตีอาวุธระดับต่ำ”
ชิงเย่ยิ้มเล็กน้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าจ้าวหอคนใหม่จะไม่ได้เข้มงวดนัก การหลอมอัญมณีในสี่ชั่วโมงนั้นนานเกินพอ
“แกร๊ก!”
จากนั้นก็มีเสียงเบาดังขึ้น เป็นชิงเย่ที่เปิดกล่องไม้ในมือและแสงสีข่าวเปล่งประกายก็ระเบิดออกมาจากกล่องไม้
ทันใดนั้นความเยือกเย็นสุดยอดก็กระจายออกมาจากกล่อง มันใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจก่อนที่ความเยือกเย็นถึงกระดูกนั้นจะแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่บริเวณนี้
ไม่นาน ทุกคนก็รู้สึกเหมือนกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
“หินหยกเย็น?”
ชายชราตะโกนออกมา สีหน้าของคนอื่นก็เปลี่ยนแปลงไปโดนสิ้นเชิง
ทุกคนผสานกับเพลิงแท้มาแล้ว พวกเขาจึงต่อต้านความเย็นได้ แต่หลังจากรู้ว่าอัญมณีข้างในคืออะไรพวกเขาก็หัวใจเยือกเย็นลง
ถังฮวนมองพวกเขาด้วยความแปลกใจ “หินหยกเย็น” นั้นเขาก็เคยได้ยินมาก่อน จำเป็นต้องตกอกตกใจขนาดนั้นเชียวหรือ?
“มันคือหินหยกเย็น”
ดวงตางดงามของชิงเย่เปล่งประกาย ที่มุมปากนั้นยิ้มเล็กน้อย และนางก็พูด้า ๆ
“ทุกท่าน นี่คือการสอบรอบแรก”
“ท่านจ้าวหอ เราจะหลอมในสี่ชั่วโมงได้อย่างไร?”
ชายชราหนวดขาวอดพูดไม่ได้
“ในบรรดาอัญมณีระดับต่ำ แม้หินหยกเย็นจะไม่ได้หลอมยากที่สุด แต่มันก็หลอมได้ยากมาก สำหรับนักตีอาวุธระดับต่ำ แม้แต่หกชั่วโมงก็อาจจะยังไม่พอใจการหลอมให้สำเร็จ ไม่ต้องพูดถึงสี่ชั่วโมงหรอก”
“ตามการฝึกทั่วไปแล้ว อัญมณีนี้หลอมได้ยากมาก ควรจะให้เวลานานกว่านี้”
ชายหนุ่มชุดดำเห็นด้วยกับเขา
“ใช่แล้ว ท่านจ้าวหอ นี่มันเป็นไปไม่ได้”
“...”
“ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าก็สอบตก”
ชิงเย่ยิ้มอย่างไม่แยแส
“ทุกท่าน แน่นอนว่าการทดสอบควรจะใช้เวลานานขึ้น แต่หออาวุธเทพได้ขอให้ทุกสาขาเข้มงวดกับการทดสอบนักตีอาวุธมากขึ้น ไม่ใช่แค่นักตีอาวุธระดับต่ำจะเป็นแบบนี้ แต่การทดสอบระดับกลางและระดับสูงเองก็เป็นแบบเดียวกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดนาง ทุกคนก็รู้สึกขุ่นเคืองใจ
ในบรรดาพวกเขาห้าคนนั้น มีคนหนึ่งที่ใจเย็นที่สุดนั่นก็คือหญิงสาวในชุดแดง แต่นางก็มีความกังวลอยู่ในใบหน้า
ถังฮวนกระพริบตาสองสามครั้ง การหลอมหินหยกเย็นด้วยเพลิงแท้ในสี่ชั่วโมงมันยากขนาดนั้นเชียวหรือ?
ใช่ มันยาก!
เมื่อเขานึกย้อนกลับไปยังความทรงจำเก่า ถังฮวนก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
ความต่างระหว่างอาวุธมีระดับและอาวุธธรรมดาก็คือมันผ่านการผสานอัญมณีและพลังประหลาดในระหว่างการสร้าง เพื่อที่จะทำเช่นนี้ จะเป็นต้องใช้เพลิงแท้ในการหลอมอัญมณีและสร้างมันขึ้นมา
ถ้าหากหลอมอัญมณีระดับต่ำได้ การตีอาวุธระดับต่ำก็ไม่มีปัญหา
ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน
เดิมทีถังฮวนนั้นมั่นใจมาก แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะไม่มั่นใจแล้ว แม้ว่าเขาจะสร้างเพลิงสิบสองเมตรในเสาเงาเพลิงได้ที่ร้านอาวุธสมุทรดารา แต่มันก็แสดงถึงพรสวรรค์ไม่ใช่พลัง น่าเสียดายที่เวลาไม่เคยคอยใคร มิเช่นนั้นเขาคงจะลองฝึกมาก่อนแล้ว ถ้าเขาจำไม่ผิด มันน่าจะมีอัญมณีระดับต่ำในห้องอาจารย์เขาด้วย
ในขณะนี้ทุกคนมีสีหน้าต่างกัน ฝ่ามือที่เหมือนกับหยกของชิงเย่ก็ขยับผ่านกล่องไม้และก้อนแสงสีขาวทั้งหกก็พุ่งมายังถังฮวนและคนอื่น ๆ แทบจะพร้อมกัน