4.เผชิญผู้ก่อปัญหา
วิลเลียมไม่ได้เศร้าใจกับเรื่องนี้ เขาหยิบดาบออกมา แขวนกระเป๋าเป้ไว้บนไหล่ของเขา
เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียว ก็ถูกขวางโดยกลุ่มคนที่มาจากฝั่งตรงข้าม
พวกเขามากันห้าคน สูงกว่าเขาพอควร เขาหยุดทันทีที่สังเกตเห็น
ขณะที่พวกเขากำลังจ้องมองมาเหมือนกำลังมองอะไรที่น่าขัน
"ว้าว! ดูสิว่าเราเจออะไรที่นี่"
หนึ่งในนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาสูงกว่าวิลเลียมเกือบยี่สิบเซนติเมตร
ยืนอยู่ที่นั่นด้วยไหล่ที่กว้าง เผยกล้ามเนื้อหน้าท้องที่นูนออกมา
แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเด็กคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด
ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงกลางหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของครอบครัว แถมยังมีดวงตาสีบรอนซ์
ผิวสีแทนจางๆอีกด้วย เขาเป็นสมาชิกในตระกูลกิ้งก่าสัมฤทธิ์
วิลเลียมนึกถึงสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับตระกูลนี้ เย่อหยิ่ง เจ้าเล่ห์สกปรก กระหายอำนาจ…
เครื่องหมายเชิงลบทั้งหมดนี้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาทันทีที่เขาจำครอบครัวของเด็กหนุ่มคนนี้ได้
พวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในสถานศึกษาและอาณาจักร
ขึ้นชื่อเรื่องการข่มเหงรังแกและกดขี่ข่มเหงไปทั่ว
แม้แต่วิลเลียมก็ยังจำได้ว่าเขาเคยถูกทำร้ายและคุกคามมากกว่าหนึ่งครั้งภายใต้เงื้อมมือของเด็กๆของตระกูลนี้
ความทรงจำนี้เหมือนจะเป็นความฝันเก่าๆ แต่ก็ยังทำให้เลือดเดือดได้อยู่ดี
“นายน้อย เขาเป็นพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ด เป็นเด็กไร้ประโยชน์ที่กลุ่มคนในสถานศึกษาของเราเห็นอกเห็นใจ”
เด็กอีกคนที่ลักษณะคล้ายนายน้อยพูดขึ้น
เมื่อวิลเลียมได้ยินคำที่เด็กนั้นเรียก เขาก็รู้ว่าเขาเจอคนที่เลวที่สุดคนหนึ่งในสถานศึกษา
เขาคือ กัวนิน ที่ถูกจัดว่าเป็นอัจฉริยะในสถานศึกษาตั้งแต่อายุหกขวบ
และเขายังเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในอันธพาลตัวเอ้ของสถานศึกษา
เขามีความคิดเหยียดหยามต่อคนที่มาจากครอบครัวหรือตระกูลที่อ่อนแอหรือยากจนเช่นวิลเลียม
ในสายตาของกัวนิน ไม่ใช่ทุกคนที่มีคุณค่าเพียงพอที่จะใช้ทรัพยากร ในความคิดของเขา
คนแบบวิลเลี่ยมควรเป็นทาส ที่ไม่ควรจะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกับเขา
“ไสหัวไป”
กัวนินพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งตามปกติ
“คนอย่างเจ้าควรจะเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพื่อที่จะได้ตื่นอย่างสดชื่นมารับใช้คนอย่างข้า”
วิลเลียมกำด้ามดาบด้วยใจที่สงบ คนอย่างกัวนินไม่สามารถก่อกวนความกังวลในใจของเขาได้
ในสายตาของวิลเลียม กัวนินเป็นคนแค่ขี้แพ้ เป็นเด็กที่ถูกทำให้เสียคนที่มีคนป้อนทุกอย่างให้ตั้งแต่เกิด
เขาไม่ได้ทุ่มเทเพื่อให้ได้ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้ เป็นคนที่ไม่คู่ควรกับสิ่งที่เขามีอยู่ตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่วิลเลียมก็ยังคิดได้ว่า ตอนนี้ทั้งคู่มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากเกินไป
“ข้าต้องเข้าไปช่วยบางคนในป่า”
วิลเลียมพูดอย่างใจเย็นโดยไม่แสดงความอ่อนแอ
“เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ใช่ไหม”
เด็กอีกคนก้าวไปข้างหน้า ชี้กระบี่ยาวโค้งไปทางวิลเลี่ยม
“ถ้าเจ้าไม่จากไปตอนนี้ อย่ามาโทษข้าที่จะสั่งสอนเจ้า”
“ฮึ่ม” แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีช่องว่างของความแข็งแกร่งที่กว้างมาก
แต่วิลเลียมก็ไม่คิดจะถอย เขาไม่ได้ปราศจากตัวเลือก
เขายังมีประสบการณ์การต่อสู้จำนวนมากและมีกลอุบายในแขนเสื้ออีกมากมาย
แม้เขาจะเอาชนะพวกมันไม่ได้ แต่ก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บไม่ว่าพวกมันจะพยายามมากแค่ไหน
“ถ้าเจ้าไม่หลีกทางให้ข้า ข้าจะตะโกนเรียกผู้พิทักษ์ให้มาช่วย”
วิลเลียมขู่กลับ
“นี่คือพื้นที่ของสถานศึกษา ไม่ใช่ของครอบครัวเจ้า”
วิลเลียมยังตัดสินใจที่จะเล่นตามกฎโดยใช้อุบายที่ง่ายที่สุดในทำให้เขาหลุดพ้นออกจากสถานการณ์นี้
“เจ้า…” เด็กน้อยตกใจผงะกับคำพูดของวิลเลียม ก่อนที่เขาจะขยับตัวตอบสนองการยั่วยุนั้น
จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนมาจากข้างหลังวิลเลียม หยุดพวกเขาทั้งหมด
“เขามาที่นี่เพื่อช่วยข้า พวกเจ้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
วิลเลี่ยมหันกลับไปเห็นเด็กสาวหน้าตางดงามเดินตรงมาอย่างมั่นคง
เธอสวมชุดคลุมยาวสีขาวมาหยุดอยู่ตรงหน้า
จมูกที่เล็ก ดวงตาที่กลมโต ริมฝีปากแดงอวบอิ่ม แก้มเล็ก ผมยาวสีแดงยุ่งเหยิงปรกลงบนไหล่
ชุดที่สวมเผยให้เห็นช่องว่างเพรียวบางและสง่างามสองช่องตั้งแต่คอไปจนถึงแขน
เผยให้เห็นมุมแหลมเล็กๆของไหล่เธอ
ผมแดง ตาแดง รูปลักษณ์สวยงาม และกล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้กับคนอย่างกัวนิน…
วิลเลียมจำชื่อจากความทรงจำเก่า ๆ ได้ทันทีมันตรงกับใบหน้าที่งดงามเหมือนนางฟ้า
เป็นชื่อที่กัวนินพูดออกมาอย่างประหลาดใจ
“เบอร์รี่… เจ้ามาทำอะไรที่นี่ดึกๆดื่นๆ?!”
“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
เบอร์รี่เดินมาอยู่ข้างวิลเลียม
“การขวางทางพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ดของข้าไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เจ้าไม่มีอะไรจะทำหรือไง”
“ฮึ่ม เจ้าที่เป็นคนที่ติดอยู่ที่พลังวิญญาณเก้าสิบเก้ามาหลายปีแล้วนี่นะ”
กัวนินมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพ่อของเจ้า ข้าคงไม่ได้เห็นหน้าเจ้าด้วยซ้ำ!”
“กลับไปหาแม่เจ้าเถอะ ข้ารู้มาว่าเธอเป็นห่วงถ้าเจ้าไม่ได้อยู่ข้างเธอ”
เบอร์รี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
การได้เห็นเธอยืนอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว ด้วยรูปร่างที่สูงกว่าวิลเลียมเล็กน้อย
ถึงแม้จะอายุเท่ากัน ก็ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
เขารู้จักเธอ ครั้งหนึ่งเธอมีชื่อว่าเป็นนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ของตระกูลหลง
ตระกูลหลงเป็นตระกูลใหญ่ที่มีตระกูลรับใช้หลายตระกูล ซึ่งแตกต่างจากตระกูลกิ้งก่าสัมฤทธิ์
และบังเอิญที่เบอร์รีเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน
และเป็นหลานสาวของอดีตผู้นำตระกูลที่รู้จักกันในนามมังกรไฟที่โด่งดังไปทั่วโลก
แต่เธอถูกมองว่าเป็นผู้พ่ายแพ้ในสายตาของหลาย ๆ คนรวมถึงกัวนิน
เธอถูกรับเข้ามาเรียนในสถานศึกษาเมื่อสองปีที่แล้วและถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพลังวิญญาณแปดสิบแปด
แต่ถึงแม้จะผ่านไปสองปีแล้ว พลังวิญญาณของเธอก็ติดอยู่ที่คอขวดเก้าสิบเก้า
โดยไม่มีสัญญาณว่าจะทะลวงผ่านได้ และนั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวที่น่าสังเวชของเธอ