3.ตรีลักษณ์ศักสิทธิ์ของปรมาจารย์จิตวิญญาณ
วิลเลียมรู้ดีว่าชะตากรรมของเขาจะต้องเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามเขาก็มีประสบการณ์ทั้งหมดอยู่ในตัว
“จิตวิญญาณของข้ายังอยู่ขั้นปนเปื้อน… ยังมีหนทางที่ต้องเดินอีกยาวไกล”
เขาวางคริสตัลลงบนโต๊ะแล้วใช้นิ้วเคาะ พลางตกเข้าสู่ภวังค์แห่งห้วงความคิดอันลึกล้ำ
ถ้ามีใครเห็นเขาในตอนนี้ คงไม่เชื่อว่านี่คือเด็กอายุแค่สิบเอ็ดขวบ
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออก ท่วงท่าที่นั่ง จังหวะเคาะโต๊ะแปลกๆ
หรือแม้กระทั่งดวงตาที่แน่วแน่...
ทุกอย่างล้วนบ่งบอกถึงความเป็นผู้มีประสบการณ์ในชีวิต แบบผู้ใหญ่ไม่ใช่แบบเด็ก
เขาย้อนเวลากลับมาพร้อมกับความทรงจำทั้งหมด
และที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ของเขาที่ติดมาด้วย เขามีความรู้มากมาย
ต้องขอบคุณการสั่งสอนของอาจารย์
ต้องขอบคุณชีวิตที่ยาวนานและความทุ่มเทของเขาหลังการล่มสลายของโลกนี้
“ข้ามีหลายอย่างที่ต้องทำ… แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงโดดเด่นแม้จะย้อนเวลากลับมาแล้วก็ตาม”
เขายืนขึ้นช้าๆ เดินไปที่ลิ้นชักหลักในห้อง แล้วหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ออกมาสวมเข้ากับไหล่
“ความแข็งแกร่งเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่แท้จริงที่จะกำหนดชีวิตและโชคชะตาของคนๆ หนึ่ง”
เขาพูดขึ้นก่อนจะปิดประตูตามหลัง
โลกภายนอกมืดกว่าจากที่มองผ่านหน้าต่าง เขารู้ดีว่ามันเป็นเวลาดึกมากแล้ว
แต่เขาก็ยังคงเดินผ่านถนนที่ว่างเปล่า มุ่งหน้าสู่ป่าใหญ่ข้างหน้า
นี่คือป่าสัตว์อสูรตอนใต้ขนาดใหญ่ หรือป่าแห่งคำอธิษฐาน
โลกใบนี้มีสองทวีปหลักที่มีแผ่นดินแคบๆห้าแห่งเชื่อมระหว่างสองทวีป
สถานศึกษาตั้งอยู่บนทวีปทางใต้
ภายใต้การปกครองของหนึ่งในอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในทวีป คือ อาณาจักรโนวิสติก
กล่าวได้ว่าสถานศึกษาแห่งนี้เป็นหนึ่งในห้าสถานศึกษาชั้นนำของอาณาจักร
และเป็นหนึ่งในร้อยสถานศึกษาชั้นนำของโลก
มันไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะพูดกันว่าบรรดาศิษย์และอาจารย์ของที่นี่มีความแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ในสายตาของวิลเลี่ยมแล้ว สถานศึกษานี้และแม้แต่สถานศึกษาอื่นๆในโลกนี้
ก็ยังมีการเรียนการสอนที่ย่ำแย่มาก พวกเขาทั้งหมดล้วนอ่อนแอ!
แต่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
เขารู้ว่านี่มันเกิดจากแผนอันลึกล้ำของสัตว์อสูรที่เป็นศัตรูตลอดกาลของมนุษย์
ในฐานะคนมีชีวิตรอดและเป็นสักขีพยานของการทำลายล้างโลกใบนี้
และเคยไปยังสถานที่ที่เกินกว่าใครจะไปถึง
เขาพูดได้อย่างไม่อายว่าแม้ความรู้ที่เรียบง่ายที่สุดของเขานั้นก็ห่างไกลเกินความเข้าใจของผู้คนในที่นี้
ยกตัวอย่างเช่น ลองมาดูความรู้ขั้นพื้นฐานเของปรมาจารย์จิตวิญญาณกัน
ในโลกนี้ ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์วิญญาณถูกค้นพบโดยใช้วิธีพิเศษเมื่ออายุหกขวบ
เมื่อเทียบโลกภายนอกที่วิลเลียมเคยอาศัยอยู่แล้ว
สิ่งเกือบเหมือนกันคืออายุที่เข้าทดสอบ
แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือลักษณะของการทดสอบและการแปรผล
คนในที่นี้เชื่อในจิตวิญญาณโดยกำเนิดที่ปรากฎขึ้นในการทดสอบเท่านั้น
และมุ่งเน้นไปที่คุณค่าของพลังวิญญาณเป็นหลัก
ตัวอย่างเช่น คนที่มีจิตวิญญาณของสิงโตจะจัดว่าเป็นปรมาจารย์วิญญาณที่ทรงพลัง
ส่วนคนที่มีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ห่างออกไปเช่น
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เสือบินหรือจิตวิญญาณความมืดอสรพิษเกล็ดดำก็จะถือว่าเป็นอัจฉริยะ
เช่นเดียวกับค่าของพลังวิญญาณที่วัดได้ในการทดสอบ
ถ้าสูงกว่า 25 ก๊จะเป็นที่ยอมรับในฐานะปรมาจารย์จิตวิญญาณ
แต่ถ้ามากกว่าร้อยจะทำให้กลายเป็นเด็กอัจฉริยะ
สำหรับวิลเลี่ยมแล้ว จิตวิญญาณของเขาไม่ได้มีรูปร่างที่โดดเด่น
และพลังวิญญาณของเขาก็วัดได้เพียงแค่สิบสองตอนอายุสิบเอ็ดขวบ
ถ้าตามมาตรฐานของที่นี่ เขาจัดเป็นคนที่ล้มเหลว ไม่มีใครสนใจที่จะดูแลเด็กเหล่านี้
เขาจึงถูกทอดทิ้งเหมือนฝุ่นผงและต้องคอยรับใช้ปรมาจารย์จิตวิญญาณคนอื่นๆเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่วิลเลียมรู้ดีกว่านั้นอย่างมาก
จุดเริ่มต้นอาจเป็นปัจจัยที่ดีในการกำหนดความแข็งแกร่งในอนาคต แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด
จากการใช้ชีวิตที่นอกโลกนี้ เขารู้ว่าโลกของปรมาจารย์จิตวิญญาณที่แท้จริง
มีหลักสำคัญสามประการในการประเมินศักยภาพของปรมาจารย์จิตวิญญาณ
เรียกว่า ตรีลักษณ์ศักสิทธิ์ของปรมาจารย์จิตวิญญาณ
สิ่งเหล่านี้คือ: พลังวิญญาณ ความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ
และเทคนิคการฝึกจิตวิญญาณหรือจะเรียกคัมภีร์การบ่มเพาะก็ได้
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่จุดเริ่มต้น แต่เป็นสิ่งที่ทำหลังจากจุดเริ่มต้นนั้น
ตัวอย่างเช่น ลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สอง ความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ
เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของวิลเลียม
ลักษณ์ของความบริสุทธิ์จิตวิญญาณสร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่า
มนุษย์ทุกคนเป็นปรมาจารย์จิตวิญญาณ
ต่างมีจิตวิญญาณเป็นของตนเองแต่มีความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกัน
การชำระสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้จะปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของมนุษย์
มันเปลี่ยนผู้พ่ายแพ้และล้มเหลวอย่างวิลเลี่ยมให้กลายเป็นขุมพลังที่แท้จริง
และเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่แท้จริงในโลกแห่งปรมาจารย์จิตวิญญาณ
แต่การพูดมักจะง่ายกว่าการกระทำเสมอ! การจะชำระจิตวิญญาณนั้น
ต้องทำหลายอย่างเป็นประจำจนเป็นกิจวัตรประจำวัน
ส่วนที่ยากที่สุดคือต้องเชื่อมโยงสิ่งนี้เข้ากับเทคนิคการฝึกจิตวิญญาณที่ดี
ร่วมกับการเพิ่มพลังวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
มันต้องใช้ความพยายามรอบด้าน แต่วิลเลียมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น
เขาทำสิ่งเหล่านี้เมื่อตอนอายุเกินสิบเจ็ดปี
แม้ว่ามันจะถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ตามมาตรฐานของโลกจิตวิญญาณที่แท้จริงภายนอก
เขาก็ยังทำมันได้สำเร็จ
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอาจารย์ของเขา
แล้วทำไมเขาจะต้องสงสัยในความสามารถของเขาที่จะทำมันอีกครั้งตอนอายุสิบเอ็ดเล่า
"ข้าต้องหาเงินก่อน"
เขารู้ว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคือเงิน เขามาจากครอบครัวที่ยากจน
จึงไม่มีใครพึ่งได้นอกจากตัวเอง
ถ้าจะหาเงิน เขาต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์อสูร
สัตว์อสูรทั่วไปแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าคนที่ไร้พลังอย่างเขาได้
แต่เขาไม่มีทางเลือก
ป่าแห่งคำอธิษฐานเป็นหนึ่งในป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มันแผ่ปกคลุมหลายอาณาจักร มีสถานศึกษากว่าสิบแห่งแบ่งปันกิจกรรมภายในป่าแห่งนี้
มันเป็นธรรมดาที่สถานศึกษาจะควบคุมการเข้าถึงป่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันสามารถเปลี่ยนคนอย่างวิลเลียมให้กลายเป็นคนที่ร่ำรวยและแข็งแกร่งได้
แต่จริงๆแล้วสถานศึกษาไม่ได้เข้มงวดการเข้าป่าแต่อย่างใด
และไม่ใช่สถานศึกษานี้แห่งเดียวที่ทำเช่นนั้น
ท้ายที่สุด หากคนที่อ่อนแออย่างพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ดเช่นวิลเลี่ยม
ตัดสินใจเข้าไปในป่า ก็ควรรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง
ป่าไม่ใช่สถานที่สวยงามที่จะใช้ท่องเที่ยว มันมีความตายที่หลั่งไหลเข้ามาจากทุกด้าน
ใครก็อาจเสียชีวิตได้ง่ายๆ แล้วอย่างนี้การจำกัดการเข้าป่าจะมีไว้เพื่ออะไร?
ข้อจำกัดเดียวคือห้ามคนภายนอกเข้าไปในพื้นที่ที่ควบคุมโดยสถานศึกษา
แต่วิลเลี่ยมเป็นส่วนหนึ่งของสถานศึกษา
เขาพบเส้นทางหลักที่มุ่งสู่ป่าอย่างง่ายดายและเริ่มเดินต่อไปข้างหน้า
เขาหยิบกระเป๋าเป้ออกมากลางทาง ตรวจสอบสิ่งของในนั้น ในกระเป๋ามีเพียงสามสิ่ง
ดาบเหล็กขึ้นสนิม ขวดน้ำ และแร่ชิ้นเล็กๆ ที่ใช้เป็นพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ
กระเป๋าของวิลเลียมไม่มีอย่างอื่นเลย ท้ายที่สุดพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ด
จะส่งทุกสิ่งที่พวกเขาซ่อมแซมคืนให้กับเหล่าศิษย์ที่พวกเขารับใช้ในตอนท้ายของวัน
ถ้าวิลเลียมจะบรรยายถึงอุปกรณ์ปัจจุบันของเขา
เขาจะบอกว่านี่เป็นอุปกรณ์ที่แย่ที่สุดที่เขาเคยมีมาในชีวิต
ถ้าเขาจะเรียกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดครั้งที่สองในชีวิตของเขา
คงไม่มีครั้งไหนที่เรียกว่าครั้งที่หนึ่งได้แน่นอน