บทที่ 6 โน้ตของวาน
ภายในพื้นที่ทิ้งขยะ วานตรวจดูดาบเหล็กที่หักเหลือความยาวเพียงครึ่งเดียวก่อนที่จะเริ่มค้นหาต่อ
“ดูเหมือนว่าที่นี่ไม่มีหินลับมีดที่สามารถใช้ได้เลย เราคงต้องหาวิธีเลือกอื่นซะแล้ว” วานตัดสินใจ
หลังจากนั้นไม่นาน สายตาของเขาก็จ้องไปที่หนังสัตว์อสูรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดเกราะหนังสีดำที่เสียหาย
“เกราะที่ทำจากหนังอสูรที่ทนทานของเดรกซ์พลบค่ำงั้นเหรอ? โดยทั่วไปแล้วสิ่งนี้เหมือนกระดาษทราย และอาจทำงานได้ดีกว่าหินลับมีดทั่วไปด้วยซ้ำ…” วานพึมพำ รวบรวมชิ้นส่วนของ เกราะหนังของเดรกพลบค่ำ ก่อนที่จะมองไปที่อุปกรณ์ที่เสียหายอื่นๆ
“สิ่งของเหล่านี้น่าจะได้รับความเสียหายจากพวกแม่มดฝึกหัดโดยใช้ข้ารับใช้เป็นเป้า… เฮ้อ ช่างฟุ่มเฟือยกันจริงๆ”
“การซ่อมแซมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือสิ่งที่อุปกรณ์เหล่านี้ต้องการ…”
วานส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย ถึงจะเข้าใจ แต่เขาไม่อยากรู้เลยว่าจิตใจของพวกแม่มดชั้นสูงและร่ำรวยทำงานแบบไหน
“ภาพลักษณ์ของแม่มดจะได้รับผลกระทบหากข้ารับใช้ของพวกเขาใส่อุปกรณ์พังๆ ใช่ไหม? ของดีๆ มากมายเลยถูกโยนทิ้งไปทุกเดือน”
หลังจากใช้ชิ้นส่วนของหนังหยาบขัดดาบที่หักให้มันวาวและเข้ารูป มันดูไม่ต่างจากดาบสั้นทั่วไป—เว้นแต่ด้ามจับที่ยาวกว่าปกติเล็กน้อย
วานไล่นิ้วทั้งสามไปตามผิวของใบมีด สัมผัสได้ถึงความเรียบและพื้นผิวของดาบสั้นก่อนที่จะพยักหน้า
“ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเรา ดาบที่มีคุณภาพเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะตัดหัวแม่มดที่ยังไม่ตื่นขึ้น ถ้านั้นคือทั้งหมดที่เราจะทำ”
“น่าเสียดาย มันคงไม่เป็นเช่นนั้นนะสิ เรายังคงต้องคำนึงถึงการเอาชีวิตรอดในป่าหลังจากหลบหนี น่าจะมีวัสดุเหลือใช้จากชั้นเรียนเล่นแร่แปรธาตุกับการแกะสลักแถวๆนี้…”
“เจอแล้ว!” วานอุทานเบาๆไม่นานหลังจากเห็นกองหินสีรุ้งกองเล็กๆ
“เศษหยกอัคคี? หยกเวทมนตร์เหล่านี้มีร่องรอยของมานาที่มีคุณสมบัติธาตุไฟอยู่เล็กน้อยอยู่ในนั้น ถึงปริมาณค่อนข้างน้อย แต่เราไม่จำเป็นต้องเสริมพลังใบมีดทั้งหมด”
วานคัดแยกของก่อนที่จะคิดออกแบบการเสริมพลังในหัวของเขา
“อืม หินออบซิเดียนจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวดาบ ในขณะที่หยกอัคคีจะให้คุณสมบัติธาตุไฟแก่ใบมีด ด้วยหินเหล็กไฟ เราจุดไฟได้ทุกที่ง่ายๆเลย”
“สิ่งที่ขาดหายไปคือ สารละลายเสริมพลังเวท” วานรำพึงก่อนจะครุ่นคิด “หากไม่มีสารละลายเสริมพลังเวท เราคงจะต้องลืมความคิดทั้งหมดของการเสริมพลัง…”
สารละลายเสริมพลังเวท สามารถทำละลายได้เกือบทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณภาพของมัน โดยทั่วไปจะใช้สำหรับการเสริมพลัง แต่มันก็สามารถใช้เป็นอาวุธได้เช่นกัน
“สารละลายเสริมพลังเวท ไม่ใช่สิ่งที่จะถูกโยนทิ้งไป ไม่ว่าจะเหลือเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม…” วาน ครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่สงบ
“ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบอะไรแบบนั้นในลานขยะอยู่แล้ว เนื่องจากมีของเสียจากชั้นเรียนเล่นแร่แปรธาตุ เราพอใจกับสิ่งท—”
ทันใดนั้น ดวงตาของวานก็สว่างขึ้น
หลังจากพบขวดแก้วที่แตกซึ่งมีสารละลายสีฟ้าอยู่ข้างใน วานก็อุทานเบาๆว่า “เจอล่ะ”
“เลือดของ เดรกซ์เหมันต์ เมื่อผสมกับขี้เถ้ากำมะถันในปริมาณที่เหมาะสมจะผลิตสารละลายเสริมพลังเวทระดับ 1 ถ้าขี้เถ้ามากเกินไปจะกลายเป็นสารละลายที่มีฤทธิ์กัดกร่อนแทน”
“ขวดที่แตกเหล่านี้มีคาถาต่อต้านการกัดกร่อนที่ร่ายใส่ไว้ สิ่งนี้จะช่วยให้เราไม่มีปัญหาในการหาวัสดุระดับ 2 เพื่อใส่สารละลายเสริมพลังเวทระดับ 1”
หลังจากรวบรวมทุกอย่างแล้ว วานก็ซ่อนตัวอยู่ในกองขยะและพึมพำว่า “สิ่งที่เหลืออยู่คือการขัดหยกอัคคีกับหินออบซิเดียน เหล่านี้ให้เป็นผงด้วยเกราะหนังของเดรกซ์พลบค่ำ การทำแบบนี้จะช่วยประหยัดเวลาในกระบวนการทำละลาย”
ไม่นานนักท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงหลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
หยกอัคคีและหินออบซิเดียนถูกขัดเป็นผง และสารละลายเสริมพลังเวทระดับ 1 ก็ทำเสร็จซึ่งถูกแยกออกเป็นสองส่วน
หลังจากนั้นไม่นาน ผงทั้งสองถูกผสมเข้ากับสารละลาย ทำให้เกิดสารละลายข้นหนืดสีแดงเลือดในขวดที่แตกใบหนึ่ง และสารสีดำข้นในอีกขวดหนึ่ง
หลังจากทำแม่พิมพ์ดาบบนดินสำหรับดาบสั้นแล้ว วานก็เทสารสีดำลงไป เปลี่ยนใบมีดสีเงินให้เป็นสีดำสนิทก่อนที่จะปล่อยให้มันแข็งตัว
วานทำตามขั้นตอนปกติของช่างฝีมือ ขัดดาบสั้นอีกครั้งก่อนที่จะเติมสารละลายสีแดงเลือดลงไป
ผลลัพธ์สุดท้ายคือดาบสั้นสีดำที่มีขอบสีแดงเข้ม มาพร้อมกับฝักดาบหนังหยาบที่วานใช้เวลาทำไม่นาน
เขาใช้เวลาสองชั่วโมงต่อมาในการซ่อมแซมอุปกรณ์เพิ่มเติมก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชุดฮู้ดของแม่มดสีดำขาดๆ ผ้าคลุม และทุกอย่างจะกลมกลืนไปกับค่ำคืนนี้ มันถูกดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับรสนิยมเสื้อผ้าของเขาในฐานะผู้ชาย
หลังจากตรวจสอบอุปกรณ์อเนกประสงค์และความสบายในชุดใหม่แล้ว วานก็พึมพำ “ยังมีบางสิ่งที่ควรเตรียมก่อนที่เราจะพร้อม…”
…
นอกห้องทำงานของเอเลน แม่มดอาวุโสกวีน่าเคาะประตูก่อนจะเข้าไปพร้อมกล่องไม้ในมือ
“กวีน่า? สภาพลูกสาวของเจ้าเมืองเป็นอย่างไรบ้าง” แม่มดอาวุโสเอเลนขมวดคิ้วถามก่อนจะเหลือบมองกล่องไม้ “แล้วนี่คืออะไร”
“อาการของอิสซาเบลคงที่แล้ว” แม่มดอาวุโสเกวีน่าตอบก่อนจะพูดว่า “แต่ไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น ลองดูสิ่งที่เราพบจากซากปรักหักพังของห้องสมุดก่อน”
“นี่คือ…”
เอเลนชำเลืองดูโน้ตที่กระจัดกระจายซึ่งถูกรวบรวมไว้อย่างเรียบร้อยในกล่องก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจ “นี่คือโน้ตการวิจัยของเอนิวส์เหรอ? ไม่ ฉันเคยเห็นงานวิจัยของเธอมาก่อน นี่ไม่ใช่ลายมือของเธอ”
“ใช่”
แม่มดอาวุโสกวีน่าพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอเลน เธอจะต้องประหลาดใจมากกว่านี้แน่ถ้าอ่านบันทึกการวิจัย”
“ได้เล… หืม? ทฤษฎีที่เสนอเกี่ยวกับการตื่นขึ้นสองครั้ง? ความน่าจะเป็นของระดับที่มากกว่า เหนือธรรมชาติ? คนที่เขียนสิ่งนี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน!”
หลังจากอ่านผ่านๆ เอเลนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที เตรียมจะเยาะเย้ยผู้เขียน—ทันใดนั้นจู่ๆ เธอก็หยุดแล้วขมวดคิ้ว
“ฮะ?”
“ขีดจำกัดของคาถา กระสุนมนตรา?” เอเลนพึมพำก่อนที่จะหมกมุ่นอยู่กับการอ่านของเธอ
ไม่นานหลังจากอ่านบันทึกการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับคาถากระสุนมนตรา เอเลนพูดด้วยความประหลาดใจ “ฉันกำลังจะเยาะเย้ยใครก็ตามที่เขียนสิ่งนี้…”
ดวงตาของเอเลนเบิกกว้างขณะที่เธอยังคงอ่านโน้ตต่อไป ก่อนที่เธอจะพบกับเครื่องมือแปลกๆ ที่ด้านล่างของกล่อง
“แล้วนี่คืออะไรล่ะ”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นอาวุธยิงระยะไกลชนิดใหม่ที่อยู่ระหว่างการผลิต แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ—มันขาดกระสุนชนิดพิเศษที่จะใช้ มีเพียงผู้สร้างเท่านั้นแหละ ที่จะเข้าใจว่าเครื่องมือนี้ทรงพลังแค่ไหน”
“ก็อาจจะ”
ดวงตาของเอเลนเป็นประกายก่อนจะชมเชย “ถึงอย่างนั้น ใครก็ตามที่เขียนทฤษฎีทั้งหมดนี้ก็เป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ สมควรได้รับความดีความชอบและให้ชื่อเสียงที่แพร่หลายไปทั่วทั้งอาณาจักรแม่มดแน่นอน!”
หลังจากคำชมของเอเลน กวีน่าก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันคิดมาตลอดว่าอันดับ 1 คือขีดจำกัดของคาถากระสุนมนตรา แต่หลังจากอ่านบันทึกแล้ว ฉันก็ต้องเปลี่ยนใจ กระสุนมนตราสามารถขึ้นได้ถึงอันดับ 2”
“ไม่ แม้แต่อันดับ 3 ก็อาจเป็นไปได้! มันมีศักยภาพที่จะเป็นเวทมนตร์ที่เหมาะสมสำหรับแม่มดอาวุโสเช่นพวกเราที่จะใช้ อัจฉริยะนี้อยู่ที่ไหน ทำไมสถาบันถึงไม่เคยได้ยินชื่อบุคคลนี้? เราไม่สามารถปล่อยให้อัจฉริยะเช่นนี้ถูกฝังอยู่ใน-”
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของกวีน่าที่หม่นหมองลง เอเลนชะงักไปชั่วขณะก่อนที่ความตื่นเต้นในดวงตาของเธอจะค่อยๆสูญเสียแสงริบหรี่ไป
“ฉันเข้าใจแล้ว… ไม่น่าแปลกใจที่เอนิวส์โกรธจนคลั่ง… ช่างเป็นวันที่เลวร้ายอะไรเช่นนี้” เอเลนพึมพำก่อนจะเอนกายลงนั่งด้วยท่าทางเศร้าหมอง “เราสูญเสีย แม่มดอาวุโส และอัจฉริยะทางด้านทฤษฎีเกี่ยวกับเวทมนต์ ในวันเดียวกัน…”
“ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ชายหรือข้ารับใช้ คนๆนั้นสามารถเป็นผู้บุกเบิกเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับแม่มดได้เลย แม้ว่าลูกสาวของท่านลอร์ดจะตายเป็นสิบรอบ ก็ไม่สามารถบรรเทาความโกรธและความไม่พอใจที่ฉันรู้สึกในตอนนี้ได้”
“ฉันรู้สึกเหมือนกัน แต่คนที่ตายแล้วไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ อย่างน้อยที่สุด เรายังมีบันทึกเชิงทฤษฎีของบุคคลนั้น เราสามารถเรียนรู้หลายสิ่งจากบันทึกเหล่านี้ ถึงเป็นแบบนั้น ฉันควรส่งคนไปเก็บศพและฝังเขาอย่างเหมาะสมหรือไม่” กวีณาเสนอ
เอเลนเคาะโต๊ะอย่างครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจ “ตอนนี้มันมืดแล้ว ไว้ทำในตอนเช้า ที่สำคัญกว่านั้นเมืองรอบๆได้รับแจ้งถึงภัยคุกคามระดับ B แล้วหรือยัง?”
“แคลริลล์ส่งจดหมายออกไปก่อนหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากเวลาแล้ว เมืองรอบๆ น่าจะได้รับจดหมายแล้วในตอนนี้”