ตอนที่ 9 หมัดพยัคฆ์กระโจน
ถังฮวนตกใจ เขารีบวิ่งไปที่หน้าโรงตีอาวุธและพบว่าประตูร้านแตกล้มลงบนพื้น ชายหนุ่มชุดดำอายุราวสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีเดินเข้ามาด้วยกระบี่ที่ห้อยไว้ที่เอว เขาสูงตระหง่าน
ด้านหลังเขามีชายหนุ่มอีกสามคน พวกเขาคือถังหง ถังเจียง และถังจุนเจี้ย ทั้งหมดล้วนโกรธเกรี้ยว
“ถังเฉา?”
ถังฮวนขมวดคิ้วในทีแรก แต่ก็มีความเคร่งเครียดในแววตาของเขา
ถังเฉานั้นเป็นพี่คนที่สองของถังหงและแก่กว่าเขาแค่ปีเดียว แต่พรสวรรค์ของเขาเหนือกว่ามาก ว่ากันว่าเขาเปิดเส้นปราณที่หกได้เมื่อไม่นานมานี้และถูกเลื่อนขั้นเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง ยิ่งกว่านั้นถังเฉายังบ่มเพาะพลังอย่างหนักมาโดยตลอด พลังของเขาจึงเทียบไม่ได้กับพวกรักสนุกอย่างถังหง
แต่ถึงอย่างนั้น ถังฮวนก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย
ในพริบตาเดียว ถังฮวนเหลือบมองถังหงและอีกสองคน รอยยิ้มเยาะปรากฏนใบหน้าเขา
“พออัดน้องเล็กไปแล้วพี่ใหญ่ก็เลยมาแทนหรือ? ถังหง คราวที่แล้วเจ้ารู้สึกอย่างไร้บ้าง? อยากจะลองอีกรอบไหม?”
จากนั้นถังฮวนก็รีบเดินมาข้างหน้าราวกับว่าจะลงมือ
สีหน้าของถังหง ถังเจียง และถังจุนเจี้ยเปลี่ยนไป พวกเขาถอยโดยไม่รู้ตัวทันที
“ฮื่ม!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายชุดดำนามถังเฉาก็ถอนหายใจแรงด้วยใบหน้าหม่นหมอง
ถังหงและอีกสองคนได้สติกลับมาและหยุดการถอยทันที สีหน้าของพวกเขาแดงก่ำเมื่อรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้า ถังหงร้องคำถามด้วยโทสะ
“ถังฮวน อย่าได้ใจไปนัก คราวที่แล้วข้าก็แค่ประมาท ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าทำให้ข้าโมโหแล้วมันเป็นยังไง!”
ถังหงชักดาบของเขาออกมาและกำลังจะกระโจนเข้าใส่ถังฮวน
“เข้ามา!”
ถังฮวนหัวเราะ เขาหยิบกระบี่จากราวแขวนอาวุธข้าง ๆ อย่างสบายใจ
ทันทีที่กระบี่เข้ามือ รังสีของถังฮวนก็เปลี่ยนไปเหมือนกับมังกรที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมลึก มันพ้อมจะปล่อยคลื่นยิ่งใหญ่ออกมาทุกเมื่อ
ถังหงขนลุกซู่ สีหน้าของเขาเริ่มไม่มั่นคงเหมือนกับกำลังขี่หลังเสือ
แม้เขาจะไม่เต็มใจยอมรับ แต่สภาพทุกข์ทรมานในวันนั้นยังคงทิ้งเงาในใจเขาอยู่ เมื่อเจอกับถังฮวน เขาจึงกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เสี่ยวหง ถอยไป!”
ถังเฉาก้าวเข้ามาก้างหน้าแทน
“ย่อมได้ พี่สอง”
ถังหงจ้องมองถังฮวนอย่างเกรี้ยวกราดด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ แต่ดาบยาวในมือเขาก็ถูกเก็บเข้าฝักอย่างรวดเร็วราวกับว่าภาระที่หนักอกได้ถูกยกออกไป
“ถังฮวน แม้น้องชายข้าจะไร้ประโยชน์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของคนสารเลวอย่างเจ้าที่จะมาสั่งสอนเขา!”
ถังเฉาจ้องมองถังฉวนและตะโกนอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาโอหัง และดวงตาก็แสดงความดูถูก
เขาไม่ได้นับว่าเป็นอัจฉริยะท่ามกลางคนรุ่นใหม่ของตระกูลถัง แต่เขาก็เหนือกว่าลูกหลานโดยเฉลี่ยของตระกูลอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเห็นถังฮวนมาหลายครั้งในเมืองคลื่นคลั่ง เขาก็ขยะแขยงการรังแกคนที่ไม่มีแม้แต่ปราณแท้ เขาเองก็ดูถูกถังหงและพรรคพวกที่หาเรื่องถังฮวนอย่างไม่มีเหตุผล
แต่ครั้งนี้ แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากยืนขึ้นเพื่อถังหง ไม่ว่าถังหงจะเน่าเฟะสักเพียงใด ถังหงก็ยังคงเป็นน้องชายของเขา
“ข้าเป็นลูกสารเลว แล้วถังเทียนเหรินเล่า? พ่อของคนสารเลวรึ?”
เมื่อได้ยินถังเฉาพูดถังฮวนก็โกรธขึ้นมา มือขวาที่ถือด้ามกระบี่สั่นเล็กน้อย ในความทรงจำของเด็กหนุ่มถังฮวนนั้นขยะแขยงคำว่า ‘สารเลว’ มากที่สุด และเมื่อเขาได้ยินคำนั้น ความโกรธอันรุนแรงจะทำให้ใบหน้าของเขามัวหมอง
“ไอ้สารเลว กล้าดียังไงถึงพูดเช่นนี้”
ดวงตาถังเฉาเย็นชา น้ำเสียงของเขาโหดร้ายเยือกเย็น
“ทีแรก ข้าแค่ตั้งใจจะหักแขนกับขาเจ้าซักข้างเป็นการลงโทษ แต่ดูเหมือนว่าแค่หักแขนหักขาจะง่ายเกินไปสำหรับเจ้า ก็ได้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนท่านลุง ข้าจะหักแขนขาเจ้าทั้งสองข้าง เจ้าจะได้มีความทรงจำดี ๆ และรู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด!”
“ขี้โม้ไร้ยางอาย!”
ถังฮวนหัวเราะด้วยความแค้น เขาค่อย ๆ แทงกระบี่ในมือเหมือนกับมังกร ความเร็วนั้นไม่มากแต่ก็แฝงไปด้วยจิตสังหาร
ถังเฉากระทืบเท้าขวาอย่างดุดันและกระโดดขึ้น
ในตอนนั้น ถังเฉาเหมือนกับเสือที่เพิ่งจะหลุดออกจากกรง ไม่เพียงแต่จะเร็ว แต่รังสีที่แผ่ออกมายังรุนแรงด้วย และเมื่อร่างกายของเขาขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด รังสีของเขาก็เปล่งออกมาถึงจุดสูงสุดด้วยเช่นกัน เขารวบรวมมันมาที่หมัดและซัดลงไปทางศีรษะของถังฮวนจากด้านบนราวกับสายฟ้า
“ฟิ้ว!”
ไม่ว่าหมัดทั้งสองจะผ่านไปทางไหนก็จะมีเสียงลมดังขึ้น
“หมัดพยัคฆ์กระโจน!”
ถังหงและอีกสองคนตาลุกวาว หมัดพยัคฆ์กระโจนนี้เป็นวิชาต่อสู้ระดับต่ำของตระกูลถัง การโจมตีของมันเหมือนกับเสือและรังสีที่แผ่ออกมาก็รุนแรงด้วย พวกเขารู้ว่าถังเฉาฝึกวิชานี้จนถึงจุดสุดยอดแล้ว
และเมื่อเขาลงมือ มันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
ถังฮวนเป็นคนที่รับแรงปะทะเป็นคนแรก ในตอนนั้นเขารู้สึกถึงสายลมรุนแรงที่อัดเข้ามาเหมือนกับหินก้อนใหญ่ที่หล่นจากฟ้าทำให้หัวใจเขาสั่นไหว
สมกับเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง!
“มังกรหลงแหวกทะเล!”
แม้ว่าเขาจะรู้กับถังหงและอีกสองคนมาได้ไม่นาน ถังฮวนในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในใจเขาสงบลงอย่างมากและเขาก็เปลี่ยนทิศทางของกระบี่และเปลี่ยนจากกระบวนท่าแรกเป็นกระบวนท่าที่สาม ปลายกระบี่สั่นสะเทือนและด้วยความเร็วปานสายฟ้านั้นเขาก็ซัดกระบี่ไปที่ท้องของถังเฉา ด้วยการไหลของปราณแท้ ความตั้งมั่นอันแน่วแน่และคมกริมได้เอ่อล้นออกมาจากปลายกระบี่ราวกับจะฉีกกระชากท้องของถังเฉาให้ขาดออกจากกัน
ถังเฉาไม่คิดว่าวิชากระบี่ของถังฮวนจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สีหน้าของเขาหม่นหมองและเขาก็เปลี่ยนหมัดเป็นกรงเล็บซัดผ่านคมกระบี่ด้วยความเร็วสูง
“ปั้ง!”
เสียงปะทะกันดังขึ้น
ทันทีที่กรงเล็บมือกับกระบี่ปะทะกัน ปราณแท้สองชุดก็ได้ปะทะกันอย่างรุนแรงด้วย และกระบี่ก็ทนรับไม่ไหวและหักทันที เหลือเพียงแต่ส่วนของด้ามกระบี่ในมือถังฮวน ส่วนตัวกระบี่นั้นถูกตบหักไปโดยถังเฉาและปักเสาใกล้ ๆ ด้วยความเร็วสูง
“หักงั้นรึ?”
ถังฮวนตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็หัวเราะอย่างขมขื่นในใจ เขารู้ว่าอาวุธของเด็กหนุ่มถังฮวนนั้นตีขึ้นมาด้วยทักษะที่ด้อย แต่เขาก้ไม่คิดว่ากระบี่ที่เขาตีจะหักได้ง่ายจากกระบวนท่าเดียวของผู้ฝึกยุทธขั้นสอง ไม่แปลกเลยที่อาวุธของเขาจะขายได้แค่หนึ่งเหรียญทอง
เดิมทีเขาคิดว่าราคานั้นต่ำเกินไป แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ากับอาวุธเช่นนี้ หนึ่งเหรียญทองยังนับว่าแพง
“ฮ่าฮ่า พี่สองสุดยอดไปเลย”
“ไอ้สุนัข เจ้ากล้าสู้กับพี่เฉาได้ยังไง ไอ้โง่เอ้ย!”
“หมัดพยัคฆ์กระโจนของพี่เฉานั้นบ่มเพาะมาถึงจุดสุดยอดแล้ว! แต่อาวุธที่เจ้าทำขึ้นมาก็เลวร้ายนัก มันหักในพริบตาเลยนะ ข้าคงได้หัวเราะจนตายที่นี่”
ถังฮวนงุนงง แต่ถังหงและอีกสองคนก็ยิ้มเปื้อนใบหน้า ในตอนที่กรงเล็บของถังเฉาหักกระบี่ เท้าทั้งสองของเขาอยู่บนพื้นแล้ว แต่เขาก้ไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อยและกระโดดขึ้นอีกครั้งเหมือนกับเสือร้ายที่ลงจากเขาและกระโจนเข้าใส่ถังฮวน
“ไปลงนรกซะ!”
รอยยิ้มชั่วร้ายเกิดบนใบหน้าถังเฉาเมื่อเขาซัดหมัดขวามาอีกครั้ง มุมของเขานั้นหลบได้ยากด้วยความรุนแรงและความเร็ว มันซัดไปที่หน้าอกของถังฮวนราวกับค้อนหนัก
ถังฮวนหลุดจากความหยุดนิ่งและต้องหยุดการบ่นเด็กหนุ่มถังฮวนที่ตีกระบี่ได้แย่ เขารีบปล่อยหมัดสวนกลับไป