ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ทดสอบพรสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 หมัดพยัคฆ์กระโจน

ตอนที่ 8 สำเร็จเดียวตะลึงโลก


“สี่เมตร…”

“มันสูงสี่เมตรแล้ว…”

ทุกคนในร้านอาวุธหน้าเปลี่ยนสี

แม้แต่จอมยุทธร่างธาตุไฟที่จุดไฟได้สูงสี่เมตรในเสาเงาเพลิงก็นับว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธโลหะ

ในด้านความยากของการเป็นนักตีอาวุธในห้าธาตุนั้น ในบรรดาร่างกายทั้งห้าธาตุ แม้ว่าธาตุโลหะจะไม่ได้ยากเป็นอันดับหนึ่ง แต่มันก็เป็นรองแค่ธาตุวารีเท่านั้น

เช่นเดียวกัน ในเสาเงาเพลิงนี้ พรสวรรค์ที่จอมยุทธโลหะแสดงออกมาก็อยู่ในระดับล่างสุดเป็นสองอันดับแรกเช่นกัน

ร้านอาวุธสมุทรดาราแทบจะทุกร้านในดินแดนรุ่งโรจน์จะมีเสาเงาเพลิงอยู่ มักจะมีข่าวเรื่องอัจฉริยะนักตีอาวุธที่จุดไฟได้สี่ถึงห้าเมตรในเมืองใดเมืองหนึ่ง แต่คนเหล่านั้นด้วยเป็นจอมยุทธธาตุไฟ

ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่มีร่างกายธาตุวารี

กลับกัน มันมีอยู่บ้างที่มีร่างกายธาตุไม้หรือดิน แต่ไฟของเขาก็สูงแค่สองถึงสามเมตร มันไม่เหมือนกับสิ่งที่พวกเขาเห็นในตอนนี้เลย

ในตอนนี้ ไฟในเสากำลังขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ

สี่เมตรยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา!

“ดู ดูนั่นสิ มันห้าเมตรแล้ว…”

ทุกคนในร้านอาวุธสมุทรดาราจ้องมองเสาสีแดงที่กำลังเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ไกลจากเสาเท่าใดนัก สาวน้อยชุดขาวนั้นเบิกตากลมโตจนกว้างมานานแล้ว ความตกตะลึงที่มิอาจปิดบังแสดงให้เห็นบนใบหน้าน่ารักของนาง

ถังฮวนที่อยู่ใต้เสาไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย

เวลานี้ เขาใจเย็นลงเต็มที่และมีสมาธิสูงมาก เขาใช้วิชาจนถึงขั้นสูงสุดและดูดซับปราณอุ่นจากเสาและส่งออกมาเป็นปราณแท้

ถังฮวนไม่ได้ยินเสียงโดยรอบเลย

“ฟู่ว!”

เสาแสงยังคงสั่นสะเทือนด้วยเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ต่อไป หกเมตร…เจ็ดเมตร…แปดเมตร

ตั้งแต่แรก เสียงผู้คนในร้านที่ตกใจนั้นดังอยู่เป็นระยะ แต่เมื่อเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นไปอีก ในร้านก็เงียบขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเพลิงพุ่งไปถึงแปดเมตร ทั้งร้านก็เงียบจนได้ยินเสียงเข็มหล่น เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงเสาที่สั่น

ทุกคนนิ่งเป็นกิ่งไม้ ใบหน้าของพวกเขาตกตะลึงไม่เชื่อสายตา จอมยุทธธาตุโลหะนั้นสร้างไฟสูงแปดเมตรในเสาเงาเพลิงได้ ตั้งแต่โบราณจนถึงตอนนี้ ถ้ามีจอมยุทธธาตุไฟที่ทำได้ พวกเขาแต่ละคนก็ได้จะเป็นปรมาจารย์ตีอาวุธ

คนคนนี้มาจากที่ไหน? พรสวรรค์ของเขาสุดยอดมาก!

ทุกคนตกตะลึง ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือหลังจากสูงถึงแปดเมตรแล้ว เปลวไฟยังคงพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

เก้าเมตร…สิบเมตร…สิบเอ็ดเมตร…

สิบสองเมตร!

เสาสีแดงสูงสิบสองเมตร และเปลวไฟก็สูงเท่ากับเสาสิบสองเมตรแล้ว เปลวไฟที่ปล่อยออกมานั้นขึ้นไปถึงจุดสูงสุดและผ่านเสาเงาเพลิงไป

ทุกคนตัวชากันไปหม ดพวกเขาเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง พวกเขายืนนิ่งเหมือนกับหุ่นเชิดดินเหนียว

แสงสีเพลิงที่พุ่งออกมาจากเสาเงาเพลิงแทบจะดูดวิญญาณทุกคนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง

มีคนบนโลกที่จุดไฟเสาเงาเพลิงได้ขนาดนี้ด้วยหรือ?

เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?

ในการจุดไฟได้สี่เมตรนั้นก็นับว่าเป็นอัจฉริยะนักตีอาวุธแล้ว แต่เปลวเพลิงที่ไปถึงจุดสูงสุดของเสาเงาเพลิงนั้น ถ้าหากเสาเงาเพลิงสูงกว่านี้ มิใช่ว่าเปลวเพลิงจะสูงขึ้นไปอีกหรือ?

สิบสองเมตรนั้นเป็นส่วนสูงที่ไม่มีใครได้รับและสูงจนน่าสะพรึงกลัว มันมากพอที่จะทำให้จอมยุทธนับไม่ถ้วนที่ปรารถนาจะเป็นนักตีอาวุธต้องแหงนหน้ามอง

“หืม หายไปแล้วเหรอ?”

ในตอนนั้น ถังฮวนที่นั่งหน้าเสาก็ตื่นขึ้นจากฝัน เขาพึมพำและถอนมือออก เมื่อครู่ ปราณอุ่นในเสาได้หายไป

ดูเหมือนว่าในเวลาเดียวกับที่ถังฮวนถอนมือออก เปลวเพลิงในเสาเงาเพลิงก็ลดลงอย่างรวดเร็วด้วย

ถังฮวนที่เพิ่งจะลืมตานั้นรู้สึกถึงแสงสีแดงที่วูบวาบในตาเขา และเปลวเพลิงในเสาก็ร่วงลงมาถึงโคนเสาแล้ว แสงสีแดงในเปลวเพลิงก็จางหายไปอย่างรวดเร็วด้วย ในพริบต่นั้นลูกไฟก็กลายเป็นไฟโปร่งใสอีกครั้ง เสาที่เคยสั่นสะเทือนเป็นเวลานานเองก็สงบลง

“ไฟของข้าสูงแค่ไหนรึ?”

ถังฮวนอดมองหญิงสาวชุดขาวและถามนางอย่างกังวลไม่ได้ เขาควรจะลืมตาดูก่อนถอนมือออกมาเพราะเขาจะได้รู้ว่าตัวเองจุดไฟได้สูงแค่ไหน

ทันทีที่เขาถาม ถังฮวนก็สังเกตเห็นบรรยากาศที่แปลกเป็นอย่างมาก

ร้านอาวุธสมุทรดาราอันใหญ่โตนั้นเงียบราวกับป่าช้า แทบทุกคนรอบตัวเขามีสีหน้าแบบเดียวกัน พวกเขาอ้าปากค้างอยู่แบบนั้นเหมือนกับเห็นสิ่งที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก…ดูเหมือนว่าทั้งร้านถูกแช่แข็งไป

สถานการณ์นี้ทำให้ถังฮวนรู้สึกระแวงยิ่งกว่าเดิม

“สะ…สิบสองเมตร…”

หญิงสาวชุดขาวที่ได้ยินคำพูดของถังฮวนดึงสติกลับมาได้ ดวงตากลมโตสีดำกลอกไปมาเมื่อนางกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบากและพูดตอบเขา

“สิบสองเมตรรึ?”

ถังฮวนกระโดดขึ้นมาจากที่นั่งเหมือนกับสปริง หลังจากที่รู้ว่าเขามีร่างกายธาตุโลหะเขาก็ไม่ได้หวังกับพรสวรรค์ของตัวเองเท่าใดนัก และเหตุผลที่เขาพยายามต่อไปก็เพราะว่าเขาไม่อยากจะยอมแพ้ เพราะการใช้เสาเงาเพลิงหนึ่งครั้งก็มีราคาถึงสองร้อยเหรียญทอง

แต่ถังฮววนไม่เคยคิดว่าเพลิงที่เขาจุดได้จะสูงไปถึงสิบสองเมตร!

การจุดได้ถึงสี่เมตรเขาก็จะได้เพลิงแท้มาแล้ว ถ้าไปถึงสิบสองเมตรนั้น มันเกินมาตรฐานของร้านอาวุธสมุทรดาราไปมาก

หลังจากความตกใจไม่นาน ความกังวลในใจถังฮวนก็หายไปจนหมด ดวงตาของเขาแสดงความยินดีและเขาก็ลูบมือตัวเองอย่างควบคุมไม่ได้พร้อมกับหัวเราะ

“แม่นาง เรื่องนั้นน่ะ…ตอนนี้คืนสองร้อยเหรียญให้ข้ากับให้เพลิงแท้ข้าได้รึยัง?”

“อ๊ะ? โอ้…”

ราวกับว่านางตื่นจากฝัน นางในชุดขาวรีบวิ่งไปที่โต๊ะขาย หลังจากนั้นไม่นานนางก็วิ่งกลับมาพร้อมกับขวดเพลิงแท้และกระเป๋าเงินในมือ

“ขอบคุณมากนะ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อน”

ถังฮวนรับเอาไว้และไม่คิดจะนับเงิน เขารีบออกจากร้านอาวุธ

เขารู้ตัวว่าเขาทำเกินไปเมื่อครู่และสายตารอบข้างก็ทำให้เขาหวาดกลัวเล็กน้อย มันดีกว่าที่เขาจะออกจากร้านให้เร็วที่สุด

“ตู้ม!”

ทันทีที่ร่างของถังฮวนหายไปก็เกิดเสียงดังลั่นของผู้คนในร้านอาวุธ เสียงนั้นดังจนแทบจะพลิกร้านอาวุธจากบนลงล่าง

“ข้าไม่คิดเลย! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเด็กคนนั้นจะจุดไฟได้สิบสองเมตร! นั่นมันสิบสองเมตรไม่ใช่สองเมตรนะ!”

“มาร้านอาวุธรอบนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว มุมมองข้ากว้างไกลขึ้นยิ่งนัก”

“มีคนบอกว่าที่เมืองช่างสวรรค์เมื่อไม่กี่ปีก่อน มีคนที่จุดเสาเงาเพลิงได้สิบสองเมตรไม่ใช่รึ?”

“จริงหรือ?”

“ก็ต้องจริงน่ะสิ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงและมีร่างธาตุไฟ”

“ใครรู้บ้างว่าเขามาจากไหน? ถ้าเขาผสานเพลิงแท้ได้สำเร็จ ดินแดนรุ่งโรจน์ของเราก็อาจจะมีปรมาจารย์ตีอาวุธอีกคนที่สั่นคลอนฟ้าดินได้ในเวลาอีกไม่กี่ปี!”

“...”

ทุกคนตะโกนเสียงดังไม่หยุดหย่อนเพราะอย่างจะระบายความตกใจและความหวาดผวาที่เก็บไว้ในอกมานานออกมา

“ฮ่าฮ่า สิบสองเมตรแล้วยังไงล่ะ? อย่างไรเขาก็ยังต้องผสานกับเพลิงแท้ให้สำเร็จ อย่าลืมว่าเขามีร่างกายธาตุโลหะ และความยากในการผสานกับเพลิงแท้ก็เกินกว่าจอมยุทธทั่วไปอย่างมาก ถ้าหากเขาผสานกับเพลิงแท้ไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์มากเท่าใด มันก็ไร้ค่า”

จู่ ๆ ก็มีเสียงที่แหบเล็กน้อยพูดขึ้นมา มันเป็นเสียงที่ฟังแล้วแสบหูเป็นพิเศษท่ามกลางเสียงผู้คนมากมาย

คนที่พูดก็คือจอมยุทธคนที่ประเมินเพลิงของถังฮวนว่าจะติดได้ไม่เกินครึ่งเมตร แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดต่อก็มีสายตาโกรธเกรี้ยวมากมายมองไปที่เขาเพราะไม่พอใจกับท่าทางเยาะเย้ยที่เขาแสดงออกมา

“มันก็มีความเป็นไปได้นะ…”

จอมยุทธคนนั้นรู้สึกอ่อนแรงจากก้นบึ้งของหัวใจ แล้วจากฝืนยิ้มเขาก็รีบหุบปากและแอบออกจากร้าน เห็นแบบนั้นแล้วจอมยุทธที่อยู่รอบ ๆ ก็เดินไปหาเขาด้วยกำปั้นที่กำแน่นและถอนหายใจแรงพร้อมกับร่วมงานสนุก ๆ

“อ๊ะ ข้าจำได้แล้ว”

“เด็กคนนั้นน่าจะชื่อถังฮวนและอยู่ที่ทางเหนือของเมือง อาจารย์ของเขาเป็นนักตีอาวุธระดับต่ำ ข้าพยายามหาอาจารย์ของเขาเพื่อช่วยข้าตีอาวุธระดับต่ำปีที่แล้ว แต่อาจารย์เขาไม่อยู่ก็เลยเป็นเขาที่ดูแลข้า ในตอนนั้นเขายังไม่ได้เชื่อมต่อเส้นปราณซักเส้นด้วยซ้ำ”

“ปีที่แล้วยังเป็นคนธรรมดารึ? เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?”

“...”

กลับมาที่สวนหลังร้านตีอาวุธ ก่อนที่ถังฮวนจะได้นั่งลงเขาก็หยิบขวดเพลิงแท้ออกมาจากกระเป๋าอย่างใจร้อน

เมื่อเห็นลูกไฟที่ลอยในขวด เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ห้าร้อยเหรียญทองที่ได้มาจากการขายอาวุธและวิธีการที่เขาได้เพลิงแท้มาก็ไม่คาดคิด เขาก็ได้มันมาครอง

แต่หลังจากความตื่นเต้นนั้น ถังฮวนก็ขมวดคิ้วและคิดหนัก

ถ้าไม่ใช่เพราะเสาเงาเพลิง เขาก็ยังคงไม่รู้ว่าร่างกายของเขาเป็นธาตุโลหะ

เทียบกับจอมยุทธคนอื่นที่มีธาตุไฟ ความยากของความสำเร็จในการผสานกับเพลิงแท้ด้วยร่างกายแบบนี้นั้นจะยากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

“แบบนี้คงลำบากหน่อย”

ถังฮวนถอนหายใจ

“ข้าไม่มีร่างธาตุไฟก็ไม่เป็นไร จะเป็นธาตุไม้หรือดินก็พอยอมรับได้ แต่ไม่คิดเลยว่จะเป็นธาตุโลหะ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่วารีที่เลวร้ายที่สุดล่ะนะ”

ในเรื่องอัตราความสำเร็จของการผสานเพลิงแท้ จอมยุทธในธาตุวารีนั้นมีโอกาสน้อยที่สุด

วารีกับไฟเป็นขั้วตรงข้ามกัน ในขั้นตอนการผสานเพลิงแท้จะอ่อนแอลง แล้วเพลิงแท้ที่อ่อนแอลงจะนับว่าเป็นเพลิงแท้อยู่หรือ? แต่ในด้านความอันตราย โลหะนั้นจะมีความอันตรายที่สุด เมื่อผสานเพลิงแท้ เพลิงแท้อาจจะหลอมเส้นปราณจนละลายไปก็ได้

ในจอมยุทธร้อยคนที่มีร่างกายเป็นโลหะ ไม่มีสักคนที่จะผสานเพลิงแท้ได้

“ข้าได้เพลิงแท้มาแล้ว ข้าจะยอมแพ้ทั้งแบบนั้นได้หรือ?”

ถังฮวนใบหน้าไม่สู้ดี หลังจากผ่านเวลามานานเขาก็กัดฟันและนั่งลง

เขาเข้าใจดีว่าร่างกายนี้ไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นนักตีอาวุธ เหตุผลหลักที่ร่างกายนี้จุดไฟสูงสิบสองเมตรอันน่ากลัวในเสาเงาเพลิงได้ก็เพราะการมีอยู่ของเตาหลอมเทพเก้าหยาง บางทีเตาหลอมนี้อาจจะลดความยากในการผสานเพลิงแท้ก็ได้

“จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเวลานี้ ถ้าสำเร็จข้าก็รอด ถ้าล้มเหลว ข้าก็แตกดับ!”

ถังฮวนหรี่ตา ในใจนั้นสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเขาอยากจะทำความปรารถนาของทั้งสองชีวิตให้สำเร็จ เขาต้องไม่ถอยกลับ

“ป๊อก”

ในตอนนั้น ถังฮวนดึงจุกขวดด้วยมือขวาในความเร็วสูง

ความร้อนมหาศาลพวยพุ่งออกมาและถังฮวนก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขากำลังโดนเหล็กร้อนอัดเข้ามา ความเจ็บปวดที่มิอาจบรรยายแล่นเข้ามาในฝ่ามือเขาทันที

ถังฮวนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว จากนั้นเขาก็ได้กลิ่นไหม้จากฝ่ามือเขา

“อดทนไว้!”

“อดทนไว้!”

ที่หน้าผากของถังฮวนมีเม็ดเหงื่อขนาดเท่าเมล็ดถั่วหยดลงมา แต่เขาก็ยืนหยัดที่จะไม่ขยับฝ่ามือออกจากขวดและใช้วิชาจิตเสริมเส้นปราณด้วยพลังทั้งหมดที่มี เขารู้ดีว่าถ้าเขาปล่อยมือ เพลิงแท้ด้านในจะต้องพุ่งออกมาจากขวดแน่นอน

จากนั้นรังสีความร้อนที่แสบกายก็ไหลผ่านฝ่ามือของเขาไปสู่เส้นปราณ

“ซ่า!”

ถังฮวนรู้สึกเหมือนกับว่ามีลูกไฟบ้าคลั่งกำลังแผดเผาอยู่ในเส้นปราณของเขา ความรู้สึกของการแผดเผานั้นเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เขาสูดลมหายใจเย็นเข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งแขนขวาของเขาบิดอย่างรุนแรงและเส้นปราณที่ท่วมท้นไปด้วยความร้อนก็กำลังจะละลาย

บัดซบ ไม่แปลกเลยที่มีนักตีอาวุธน้อยคนนัก ความเจ็บปวดนี้ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ทุกคนจะทนได้

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีร่างกายเป็นธาตุโลหะ ในขั้นตอนการเป็นนักตีอาวุธ ความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับนั้นมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว

ถังฮวนไม่คิดจะยอมแพ้แม้แต่นิดเดียว

ถ้าหากเขาทำไม่สำเร็จ เขาจะต้องตายแน่นอน!

ในฐานะยอดนักตีดาบบนโลก ถ้าหากเขาตีอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบใหม่ไม่ได้หลังจากมาที่ดินแดนรุ่งโรจน์แล้ว มันจะไปสนุกอะไร?

“ซ่า!”

แต่ในตอนที่ถังฮวนกำลังจะใช้ปราณแท้นำทางความร้อนสูงไป เสียงสั่นสะเทือนที่คุ้นเคยก็ดังในใจเขา

ทันใดนั้นแนวความร้อนก็เหมือนกับเหล็กที่โดนแม่เหล็กดูดเข้าไป มันกระจายอย่างรวดเร็วไปในเส้นปราณ

ควาเมร็วเพิ่มขึ้นแต่ความร้อนนั้นไม่ได้ลดน้อยลงแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะผ่านไปไหนกล้ามเนื้อก็จะสั่นกระตุก

ถังฮวนกัดฟันแน่นไม่ส่งเสียง แต่ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งร่างกายของเขากระตุกไม่หยุด และเม็ดเหงื่อก็ไหลออกมาจากรูขุมขนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในพริบตาเดียวทั้งร่างกายของเขาก็ชุ่มเหงื่อเหมือนกับไก่ตกน้ำที่เพิ่งเดินขึ้นมาจากน้ำ

ในพริบตาเดียวนั้น เหมือนกับเวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมง…

ความร้อนรุนแรงมาถึงตันเถียนในที่สุด แต่ความร้อนก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น มันยังพวยพุ่งจากขวดเข้าสู่ฝ่ามือและไหลตามเส้นปราณไปที่ท้องด้านล่าง

ถังฮวนไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาปูดขึ้นมาเมื่อเขากัดฟันและอดทนด้วยพลังทั้งหมดที่มี ใบหน้าหล่อเหลาใบตอนนี้บวมเป็นสีม่วงแดงและร่างกายแข็งแรงก็สั่นเครือ ภายใต้ความร้อนอันเข้มข้นที่แผดเผาอย่างต่อเนื่องนั้น ถังฮวนรู้สึกเหมือนทั้งร่างกายกำลังจะระเบิด

ความร้อนที่รุนแรงสุดขั้วปล่อยออกมาจากร่างกายของถังฮวน

ในตอนนี้ ร่างกายของเขาได้กลายเป็นเตาหลอม ผิวหนังของเขาแดงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาหายใจ สิ่งที่ออกมาจากรูจมูกดูไม่เหมือนกับอากาศแต่เป็นเปลวไฟสองสาย แม้แต่รูขุมขนทั้งสามหมื่นหกพันรูในร่างก็ปลดปล่อยความร้อนออกมาตลอดเวลา

ถังฮวนรู้สึกราวกับว่าทั้งร่างกายกำลังจะละลายเป็นของเหลว

แม้ว่าเตาหลอมเทพเก้าหยางจะเพิ่มการดูดซับเพลิงแท้อย่างมาก แต่มันก็มิได้ขจัดความเจ็บปวดที่ถังฮวนต้องอดทนขณะที่ดูดซับเพลิงแท้ ไม่เพียงแต่ความเจ็บปวดจะกระจายไปยังแขนขาและกระดูก อวัยวะภายในของเขาและดวงวิญญาณของเขายังเจ็บปวดด้วย

ถังฮซนรู้สึกราวกับว่าดวงวิญญาณถูกห่อหุ้มไปด้วยเพลิงร้อย ดวงวิญญาณเขาสั่นสะเทือนจากการรุกรานของความร้อน แม้แต่สติของเขาก็พร่าเลือน

แต่ในตอนที่ถังฮวนรู้สึกว่าเขากำลังจะล้มลง เขาก็รู้สึกว่าทั้งร่างกายผ่อนคลายขึ้น ความร้อนสุดท้ายได้ไหลเข้าไปในตันเถียนและถึงเตาหลอมแล้ว

“ปึก!”

ทันใดนั้นถังฮซนก็ล้มลงกับพื้นเหมือนกับปลากระหายน้ำที่กระโดดลงชายฝั่ง เขาอ้าปากหายใจหอบโดยขยับตัวไม่ได้แม้แต่ปลายก้อย

“เจ้าเด็กนั่นทำสำเร็จเรอะ?”

บนต้นไม้ใหญ่นอกกำแพงสวน ชายแก่อ้วนร้องออกมาโดยไม่ตั้งใจ ดวงตาเล็ก ๆ มีทั้งความตกใจและความสุข

“ไม่ใช่แค่ทำสำเร็จ แต่ความเร็วยังเหนือจินตนาการด้วย ปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่ชั่วโมงที่จะผสานเพลิงแท้ แต่เจ้าเด็กนี่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ”

“ตาแก่อู๋ในตอนนั้นผสานเพลิงแท้นานเท่าไหร่กัน? สองชั่วโมงรึ? หึหึ เจ้าเด็กนี่เร็วกว่าอาจารย์ตั้งเยอะ”

“แล้วพรสวรรค์เจ้าเด็กนี่ยังเหนือกว่าตาแก่อู๋ ด้วยร่างธาตุโลหะ เขาจุดเสาเงาเพลิงได้ถึงสิบสองเมตร ไม่รู้ว่าตาแก่อู๋ตอนนั้นจุดได้เท่าไหร่ คงสี่ห้าเมตรล่ะมั้ง”

ชายแก่อ้วนจิกคางตัวเองพลางหัวเราะ เขาเลื่อนตัวลงจากต้นไม้เหมือนกับอสรพิษ การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของเขานั้นไม่เข้ากันกับร่างกายอ้วน ๆ แม้แต่น้อย

ในสวน ถังฮวนนอนไร้การเคลื่อนไหวอยู่นานก่อนที่จะฟื้นพลังมาได้และลุกขึ้นนั่ง

“ข้าทำได้!”

เมื่อดูขวดเพลิงแท้ที่ว่างเปล่าตรงหน้าถังฮวนก็หัวเราะอย่างกับคนโง่ แม้ว่าเตาหลอมเทพเก้าหยางจะไม่ได้ขจัดความเจ็บปวดไป มันก็ช่วยลดขั้นตอนการผสานเพลิงแท้ ถ้าหากว่าไม่มีเตาหลอม โอกาสสำเร็จนั้นคงจะเข้าใกล้ศูนย์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“เกิดอะไรขึ้นกับเพลิงแท้ในตัวข้าตอนนี้กัน?”

จากนั้นถังฮวนก็หายใจเบา ๆ และขจัดความคิดกวนใจก่อนจะเพ่งความตั้งใจไปที่ท้องด้านล่าง

ในตันเถียนของเขามีลูกไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ แม้มันจะยังร้อนอย่างหาความร้อนใดแทนไม่ได้ แต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือถังฮวนรู้สึกว่าท้องของเขาอบอุ่น

และในขณะเดียวกันเตาหลอมเทพเก้าหยางก็ปรากฏในใจเขา จากนั้นเขาก็พบว่าในเตาหลอมนั้นมีลูกไฟสีแดงเข้มอยู่ แต่ที่กลางลูกไฟดูเหมือนจะมีลูกไฟที่เกิดจากการอัดแน่นจนกลายเป็นสีขาวเปล่งประกาย

“เป็นแบบนั้นเองสินะ”

ถังฮวนตกใจครู่หนึ่งและเข้าใจในเวลาต่อมา

ในตอนที่เตาหลอมเทพเก้าหยางปรากฏขึ้นมา ถังฮวนรู้ว่าแม้มันจะปรากฏขึ้นในใจเขา แต่มันก็ไม่ได้อยู่ในหัวของเขาจริง ๆ แต่ถังฮซนก็ไม่มั่นใจว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเตาหลอมเทพเก้าหยางนั้นอยู่ในตันเถียนของเขา

ที่แกนของเพลิงเป็นสีขาว อาจจะเพราะว่าร่างกายเขาเป็นธาตุโลหะ

หลังจากนั้นถังฮวนก็สงบใจลงและเริ่มที่จะใช้วิชาจิตเสริมเส้นปราณ

“ซ่า!”

เตาหลอมสั่นสะเทือน ความร้อนจากเตาหลอมรวมกับปราณแท้และแล่นผ่านเส้นปราณอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าความร้อนจะไปที่ใดถังฮวนก็รู้สึกราวกับว่าทุกรูขุมขนของเขาขยายออก และมันรู้สึกสบายตัวอย่างมาก

ปราณแท้ไหลหลายรอบในเส้นปราณทั้งสามและความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ถูกชะล้างหายไป หัวใจถังฮวนหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเขาใช้ปราณแท้มุ่งหน้าไปยังเส้นปราณที่สี่

“มันเปิดแล้วรึ?”

จากนั้นถังฮวนก็งุนงง เส้นปราณที่สี่ได้ทะลวงอย่างง่ายดายโดยไร้สิ่งกีดขวาง

ทีแรกเขามีความตั้งใจจะทำ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะสำเร็จ หลังจากผสานกับเพลิงแท้แล้วปราณแท้ของเขากลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ?

ถังฮวนแปลกใจยินดี ในตอนที่เขากำลังจะใช้วิชาจิตเสริมเส้นปราณต่อไปเพื่อขยายเส้นปราณสามเส้นแรก มันก็เกิดเสียงดัง ‘ปั้ง’ ที่ทำให้เขาตกใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด