บทที่ 123: ขุนนางให้ตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ
จิ้งจอกสาวกลัวว่าถ้าเธอพูดรายละเอียดมากเกินไป มันจะส่งผลไม่ดีหากเกิดในกรณีที่ผลเกลือในโลกภูตนี้ดูแตกต่างกับของโลกมนุษย์ ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาเข้าใจผิด
แต่ถึงกระนั้น ดวงตาของเหล่าภูตก็เป็นประกายพร้อมกับแสดงท่าทางตื่นเต้นมากอยู่ดี
“เยี่ยมมาก เผ่าเรารอดแล้ว!”
“หูเจียวเจียว เจ้าคือดาวนำโชคของเผ่าเราจริง ๆ!”
“ท่านผู้เฒ่า พรุ่งนี้เราจะไปหาผลไม้ชนิดนี้กัน...”
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าชาวบ้านทุกคนเชื่อในตัวเธอโดยไม่ลังเล เธอก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ แต่ปัจจุบันเธอก็ยังไม่มีแผนที่จะมอบเกลือจากมิติให้แก่ทุกคน
คงไม่มีใครอยากจะทำให้ชีวิตของตนดับสิ้นหรอก เธอจะต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน รวมถึงลูก ๆ และสมาชิกในครอบครัวของเธอเองด้วย สำหรับเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที
“ใช่แล้ว” หญิงสาวนึกถึงบางสิ่งอีกครั้งก่อนจะกล่าวเสริมว่า “ผลไม้ชนิดนี้ไม่ควรกินเป็นจำนวนมาก มันอาจจะยังพอมีหลงเหลืออยู่บนต้นให้เราเก็บ และทุกคนน่าจะมองออกถ้าพบผลไม้นี้”
ในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ในป่าก็ต้องกักตุนอาหารไว้กินช่วงฤดูหนาว ปัจจุบันพวกเขาจะต้องแย่งชิงผลไม้เหล่านี้กับพวกสัตว์ป่าด้วย ตอนที่ภูตเข้าไปในป่าจึงแทบไม่เห็นผลไม้มากนัก
ชาวบ้านทั้งหมดจดจำข้อควรระวังนี้ไว้ในใจ
เวลาต่อมา กลุ่มคนในถ้ำก็เข้ามาพูดขอบคุณหูเจียวเจียวทีละคน แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังสอดแนมตนเอง แต่พอเธอหันไปมองก็ไม่เห็นสายตาแปลก ๆ หรือน่าสงสัยรอบตัวเธอ ยกเว้นคนที่กำลังมีความสุข
หญิงสาวมองไปทางอื่นพลางส่ายหัว
อาจเป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง…
“อิงหยวน ส่งภูตอีก 2-3 คนมาเฝ้าถ้ำด้วย และแจ้งให้เราทราบหากมีสถานการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นและต้องไม่เกิดอุบัติเหตุกับเสบียงที่เหลืออยู่ในเผ่าอีก” นอกจากหัวหน้าเผ่าจะมีความปีติยินดีแล้ว เขาก็ยังไม่ลืมที่จะออกคำสั่งให้อินทรีหนุ่มอย่างรอบคอบ
“ท่านผู้เฒ่า ข้าเข้าใจแล้ว” อิงหยวนพยักหน้ารับทราบ
หลังจากที่ภูตในเผ่าพูดคุยกันเสร็จแล้ว ในที่สุดจิตใจของชาวบ้านก็สงบลงก่อนจะพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
ส่วนหูเจียวเจียวเองก็กลับบ้านพร้อมกับหลงโม่
ระหว่างทาง จิ้งจอกสาวสังเกตว่าอีกฝ่ายมองมาที่เธอแปลก ๆ จึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
หรือว่าเขาอาจจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง?
ขณะที่หญิงสาวกำลังก้มหน้าใช้ความคิดเพื่อหาวิธีหลบเลี่ยง เสียงทุ้มอันแสนมีเสน่ห์ก็ดังขึ้น
“ในอนาคตข้าจะจับเหยื่อให้มากขึ้น แค่บอกข้ามาว่าเจ้าอยากกินอะไร”
“หา?”
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำพูดของหลงโม่ เธอก็ตกตะลึงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองชายร่างสูงที่เดินอยู่ข้างตัวเองอย่างสงสัย
ทำไมจู่ ๆ เขาถึงพูดแบบนี้?
“ถึงข้าจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ข้าก็ยังสามารถเลี้ยงดูเจ้าและลูก ๆ ไม่ให้พวกเจ้าต้องอดตายได้” มังกรหนุ่มพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“อืม” พอจิ้งจอกสาวได้เห็นสีหน้ามุ่งมั่นตั้งใจของเขา เธอก็ส่งเสียงตอบรับพลางพยักหน้า
แต่ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็ยังขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ผ่อนคลายอารมณ์ลง และสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจคือ
นางต้องไปเด็ดผลไม้ลูกเล็ก ๆ กิน มันต้องเป็นเพราะนางไม่มีอาหารกินเพียงพอ นางเลยจำต้องออกไปเก็บผลไม้กินเอา
ในฐานะคู่ครอง เขาเป็นคนที่ไร้ความสามารถจริง ๆ เขาไม่สามารถจัดหาอาหารและเสื้อผ้ามาให้นางได้เพียงพอ เขาคิดว่าตนเองยังไม่ใช่คู่ครองที่ดี
เมื่อหลงโม่เหลือบมองร่างกายที่เพรียวบางของหูเจียวเจียว เขาก็แอบคิดฝังใจว่าเขาจะต้องเลี้ยงดูอีกฝ่ายให้อ้วนขึ้นกว่านี้
ในอนาคตข้าจะต้องขุนนางให้ตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ
แม้ว่าจิ้งจอกสาวจะไม่รู้ว่าทำไมมังกรหนุ่มถึงพูดแบบนั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกโล่งใจ และเดินก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดที่คิดในแง่ลบ
นั่นทำให้หญิงสาวไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของชายร่างสูงเลย
หลังจากที่หลงโม่ส่งหูเจียวเจียวกลับบ้านแล้ว เขาก็ออกไปข้างนอกต่อ
ทางด้านจิ้งจอกสาวคิดว่าเขากำลังไปล่าสัตว์ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดอะไรมาก วันนี้เธอต้องรีบออกจากบ้านไปจนเธอไม่มีเวลาทำอาหารเช้า
ทันทีที่เด็กทั้ง 5 ตื่นขึ้นมาพบว่าพ่อแม่ของตัวเองไม่อยู่บ้าน พวกเขาไม่ได้ส่งเสียงร้องไห้กระจองอแงเลย ในทางกลับกัน เด็ก ๆ ตั้งใจช่วยกันทำความสะอาดบ้าน เสร็จแล้วก็เอาหนังสติ๊กไปรังควานนกที่อยู่บนต้นไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น
ระหว่างที่หูเจียวเจียวกำลังทำอาหารเช้า ทันใดนั้นเธอก็เห็นหลงหลิงเอ๋อวิ่งเข้ามาในลานบ้านอย่างมีความสุขพร้อมกับซากนกกระจอกนอนแน่นิ่งอยู่ในมือ
“ท่านแม่! ข้ายิงโดนนกด้วย!”
สาวน้อยถือนกกระจอกตัวเล็กที่ตายแล้วไว้ในฝ่ามือของนางราวกับกำลังถือสมบัติล้ำค่า และเงยหน้าขึ้นชูให้ผู้เป็นแม่ดู
“ข้าเป็นคนแรกที่ยิงนกได้ ท่านแม่ ข้าเก่งมากใช่ไหม?”
“หลิงเอ๋อเก่งมาก แม่ไม่คิดเลยว่าหลิงเอ๋อจะเก่งกว่าใคร ๆ มันสุดยอดมาก” แม่จิ้งจอกมีสีหน้าประหลาดใจ เธอคาดไม่ถึงว่าลูกสาวจะยิงหนังสติ๊กได้แม่นยำขนาดนี้
ตอนที่เธอเล่นหนังสติ๊กครั้งแรก เธอยิงก้อนหินได้ไม่ไกลนัก
เด็กผู้หญิงคนนี้สมกับเป็นลูกของเจ้าจอมวายร้ายจริง ๆ
นางเรียนรู้ได้เร็วมาก!
เมื่อเด็กที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียว พวกเขาก็ถอนหายใจทีละคน พลางมองดูซากนกหลาย 10 ตัวที่พวกตนแอบฝังไว้ในดิน
ในฐานะกำลังหลัก หลงอวี้กับหลงจงทำท่าหมดหนทาง
ใครใช้ให้นางเกิดมาเป็นน้องสาวของตระกูลหลงกันล่ะ เพื่อที่จะทำให้นางดีใจ พวกเขาต้องปล่อยให้นางเป็นคนยิงนกได้เป็นคนแรก
ทางด้านหลงเซียวเม้มริมฝีปากของตัวเองเพื่อกลั้นยิ้ม
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิงโดนนกจนร่วง แต่เขาก็สามารถยิงเข้าใส่ปีกนกแล้วทำให้ขนของมันร่วงลงมาได้
นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเด็กหนุ่มตาบอด
หากเปรียบเทียบกันแล้ว หลงเหยาที่อยู่ในร่างสัตว์ยังทำได้ไม่ดีเท่าพี่ชายคนรอง ไม่ว่าเขาจะเล็งเป้าไปตรงไหนมันก็พลาดทุกครั้ง แต่มังกรน้อยผู้นี้ไม่เคยยอมแพ้ ในพจนานุกรมของเขาไม่มีคำว่าพ่ายแพ้!
ประกอบกับพวกหลงอวี้อาจจะยิงนกได้มากกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้าตัวเล็กนี่ทำให้นกจำนวนมากตกใจจนบินหนีไปเสียก่อน
แล้วก็น่าเสียดายมากที่เนื้อนกเหล่านี้จะต้องถูกแอบฝังเอาไว้ลับหลังของเสี่ยวเหยา มิฉะนั้นเขาจะต้องขุดมันขึ้นมาย่างกินแน่นอน และถ้าหลิงเอ๋อพบมันเข้า นางจะต้องผิดหวังอีกครั้ง
“เฮ้อ...” หลงอวี้กับหลงจงถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
มันช่างยุ่งยากเสียจริง!
ยามนี้หลงหลิงเอ๋อตื่นเต้นมาก นางถือนกราวกับมันเป็นผลงานชิ้นเอก ในขณะที่ปากเล็ก ๆ พูดเจื้อยแจ้วต่อไม่หยุด
“ท่านแม่ ข้าอยากมอบนกน้อยตัวนี้ให้กับท่านแม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจับเหยื่อได้ และข้าต้องการมอบมันให้กับท่านแม่!”
แถมนางยังช่วยแม่จิ้งจอกทำงานได้อีกด้วย!
สิ่งที่เด็กตระกูลหลงโหยหามากที่สุดคือการได้สวมบทบาทเป็นภูตโตเต็มวัยและสามารถทำในสิ่งที่ภูตผู้ใหญ่คนอื่นทำได้ทั้งหมด
หูเจียวเจียวมองดูนกกระจอกตัวน้อยที่แทบไม่มีอะไรเลยนอกจากกระดูกแล้วพยักหน้ารับ “ตกลง ขอบคุณมากนะหลิงเอ๋อ อีกสักพักแม่จะจัดการเหยื่อของหลิงเอ๋อ เจ้าไปเล่นรอก่อนเถอะ”
แม้ว่ามันจะรู้สึกลำบากใจไปสักหน่อย แต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะดับความกระตือรือร้นของลูกสาว
“ท่านแม่ ข้าจะทำ ข้าจะจัดการเหยื่อเอง”
สาวน้อยพูดแทรกขึ้นมาทันทีเพราะกลัวว่าผู้เป็นแม่จะไม่อนุญาต
“เอาเถอะ เจ้าต้องระวังด้วยนะ อย่าให้มีดบาดมือ” หูเจียวเจียวใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธและยื่นมีดเล่มเล็กให้เด็กสาว
“ขอบคุณท่านแม่ ท่านแม่ใจดีที่สุด!” หลงหลิงเอ๋อรับมีดมาอย่างตื่นเต้น ดวงตาของนางโค้งขึ้นเป็นพระจันทร์เสี้ยว และนางก็กระโดดโลดเต้นไปที่แม่น้ำ
ปกติแล้วสาวน้อยชอบแอบมองยามที่แม่จิ้งจอกทำงานมากที่สุด และนางมักจะคอยมองอยู่ใกล้ ๆ ตอนที่อีกฝ่ายจัดการกับเหยื่อ
เวลาต่อมา หลงหลิงเอ๋อถือมีดเล่มเล็กไว้ใช้มันถอนขนนกที่ริมแม่น้ำ ใบหน้าที่นุ่มนวลอมชมพูของนางจ้องมองไปที่เหยื่อตัวเล็ก ๆ ในมืออย่างจริงจัง นางเองก็ไม่ได้ประมาทแม้แต่น้อยต่อให้เหยื่อจะตัวเล็กก็ตาม
มือที่ขาวเนียนคู่หนึ่งผ่าท้องนกกระจอกอย่างแม่นยำด้วยมีดขนาดเล็ก ก่อนจะหยิบเอาอวัยวะภายในออกมา และแยกกระดูกกับเนื้ออย่างระมัดระวัง
บัดนี้กระดูกที่บางราวกับก้างปลาถูกวางเรียงเป็นแถวบนชายฝั่ง พวกมันถูกมีดเฉือนออกอย่างเรียบเนียนและสะอาดปราศจากร่องรอยของเศษเนื้อ
หลังจากนั้นไม่นาน หลงหลิงเอ๋อก็ได้เนื้อที่ไม่มีกระดูกอยู่ในมือ
“เอาล่ะ! พร้อมกินแล้ว!”
เด็กสาวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นนางก็ทำความสะอาดมีด ก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านพร้อมกับเนื้อสัตว์น้อย ๆ ในมือ