ตอนที่ 6 เสาเงาเพลิง
“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันแพงเกินไป”
ชายแก่อ้วนจ้องมองเขาอย่างดุร้ายด้วยดวงตาเล็ก ๆ ของเขา
“200 เหรียญทองมันราคาอาวุธระดับต่ำ เสี่ยวถัง อาวุธเจ้าก็แค่อาวุธธรรมดาไร้ระดับ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไมถึงได้ยื้อข้าอยู่เช่นนี้?”
ถังฮวนเหลือบมองมือขวาของชายแก่อ้วน
ชายแก่อ้วนหน้าแดงและยิ้ม แต่เขาก็ไม่ปล่อยมือ จากนั้นเขาก็กัดฟัน
“เสี่ยวถัง ข้าจะขึ้นราคาให้ ห้าสิบ!”
“สองร้อย!”
น้ำเสียงถังฮวนไม่อ่อนลงเลย
เขาคุ้นเคยกับชายแก่อ้วนคนนี้ และเมื่อเห็นสีหน้าเขาก็รู้ว่าเขามีหวัง ถ้าหากเขารับราคาไม่ได้ เขาก็คงปล่อยเขาไปนานแล้ว
“หนึ่งร้อย! แพงกว่านี้ไม่ได้แล้ว! นี่มันราคาอาวุธระดับต่ำแล้ว!”
“ลุงอ้วน อาวุธระดับต่ำทั่วไปมันเทียบกับของพวกนี้ได้รึ? สองร้อย!”
“ก็ได้ ก็ได้ ร้อยยี่สิบ!”
“สองร้อย! ลุงอ้วน ไปเอาอาวุธระดับต่ำมาให้ข้าฟันดูไหม? ดูว่ามันแข็งแกร่งกว่าของข้าไหม”
“ข้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าข้าฟันดาบเจ้า ข้าก็รู้สึกไม่ดีน่ะสิ เสี่ยวถัง ข้าจะบอกเป็นครั้งสุดท้าย ร้อยห้าสิบ!”
“ร้อยแปดสิบ!”
“ร้อยแปดสิบรึ? ข้าจ่ายมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ราคานั้นข้าจะขาดทุนนะ”
“ลุงอ้วน งั้นก็ลืมมันไปดีไหม? ลุงกับอาจารย์ข้าเป็นสหายกัน ข้าจะให้ผู้อาวุโสขาดทุนได้ยังไง? ข้าขอตัวก่อน”
“ไม่ ไม่ อย่าเพิ่งไป หนึ่งร้อยแปดสิบ…หนึ่งร้อยแปดสิบก็ได้! ตกลง!”
“...”
ไม่นานจากนั้นถังฮวนก็แบกถุงเงินกลับมาอย่างมีความสุข
ในร้านขายอาวุธ ชายแก่อ้วนดูไม่พอใจราวกับเสียบุพการีไปในทีแรก เขาทำหน้าเศร้าหมองและกลับกลายเป็นหน้าดีใจในตอนที่ถังฮวนออกไปและใบหน้าอ้วนของเขาก็ยิ้มบานดั่งดอกไม้ เขานำอาวุธทั้งสามชิ้นทีละชิ้นออกมาดูเหมือนกับจิ้งจอกที่กำลังจะขโมยไก่
“ลูกพี่ ดาบธรรมดาสามเล่มราคาตั้งห้าร้อยสี่สิบทอง นั่นมันจะขาดทุนเกินไปแล้ว”
ผู้ช่วยเจ้าของร้านยืนงงเมื่อดูจากด้านข้าง เขากลับมาได้สติและอดถามไม่ได้ ห้าร้อยสี่สิบเหรียญทองนั้นมากพอที่จะซื้ออาวุธระดับต่ำชั้นดีได้เลยทีเดียว
“เจ้ามันไม่รู้อะไร!”
ชายแก่อ้วนถอนหายใจแรงโดยไม่เงยหน้า หลังจากมองอาวุธอย่างละเอียดแล้วเขาก็เก็บอาวุธลงในฝักและจากนั้นก็เรียกผู้ช่วย
“มานี่ เอาไปวางบนชั้น แต่ละเล่มให้ขายสามร้อย ไม่สิ สี่ร้อย!”
“สะ สี่ร้อย?”
ผู้ช่วยงุนงง ดวงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า
“ลูกพี่ ของแบบนี้…ขายได้ด้วยเหรอ?”
“ไร้สาระ ข้าจะซื้อทำไมข้าถ้าขายไม่ได้? เร็วเข้า”
“อ๊ะ”
ผู้ช่วยร้านรับอาวุธด้วยความระแวง และชายแก่อ้วนก็มองออกไปข้างนอกที่ถังฮวนหายไปและพึมพำด้วยความสงสัย
“ข้าไม่ได้เจอเขามาสักระยะแล้ว ไม่เพียงแต่จะเชื่อมต่อเส้นปราณได้สามเส้น ทักษะการตีอาวุธก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจนประเมินไม่ได้ และอาวุธปกติที่เขาตีก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุธระดับต่ำทั่วไปเลย ถ้าหากเขาผสานเพลิงแท้และกลายเป็นนักตีอาวุธได้ อาวุธที่เขาตีจะไม่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้หรือ?”
“เจ้าเด็กนั่นตีอาวุธพร้อมกันสามชิ้นแล้วมาขายทันที หรือว่าเขาอยากจะซื้อเพลิงแท้?”
ชายแก่อ้วนขมวดคิ้ว ใบหน้าเขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“เงินมากกว่า 500 เหรียญทองมันพอที่จะซื้อเพลิงแท้ได้ แต่ขั้นตอนผสานเพลิงแท้นั้นอันตรายมากและไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าเด็กนั่นเพิ่งจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งและอยากจะผสานกับเพลิงแท้ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ข้าก็อธิบายกับตาแก่ไม่ได้น่ะสิ…”
……
ร้านอาวุธสมุทรดาราคือร้านอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคลื่นคลั่ง
เทียบกันแล้ว ร้านอาวุธของชายแก่อ้วนนั้นแทบจะไม่มีค่าให้พูดถึง ไม่ว่าจะด้วยเรื่องขนาดหรือประเภทอาวุธที่วางขาย ทั้งสองร้านเทียบกันไม่ติดเลย
ร้านอาวุธสมุทรดาราแห่งนี้ก่อตั้งโดยสมุทรดาราการค้า
สมุทรดาราการค้านั้นมีอิทธิพลอย่างมาก และการค้าอาวุธก็เป็นธุรกิจหลักเพียงหนึ่งเดียว ในเมืองขนาดกลางหรือเมืองใหญ่ในดินแดนรุ่งโรจน์นั้นจะมีสาขามากมายที่เป็นของสมุทรดาราการค้า
เรื่องการค้าขายของที่นี่นั้นมีประวัติยาวนานและคงอยู่มาเกินพันปีแล้ว พวกเขามักจะดำเนินการค้าด้วยความน่าเชื่อถือไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไม่เคยมีอคติ ในดินแดนรุ่งโรจน์นั้น ตราบเท่าที่มีร้านของสมุทรดาราการค้า ทุกร้านก็จะมีชื่อเสียงที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือการขาย ร้านของสมุทรดาราการค้าจะเป็นตัวเลือกแรกเสมอ
อย่างเช่น ร้านอาวุธสมุทรดาราในเมืองคลื่นคลั่งที่เต็มไปด้วยลูกค้าทั้งกลางวันและกลางคืน
เมื่อถังฮวนมาถึงหน้าร้านกับเหรียญทองของเขา เขาก็เห็นภาพที่มีชีวิตชีวาอย่างมาก จอมยุทธมากมายเข้าออกร้านเป็นคลื่นที่ไม่รู้จบ
ถังฮวนหายใจเบา ๆ และตามหลังคนเหล่านั้นเดินเข้าไปในร้าน
ร้านอาวุธนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นแรกจะขายอาวุธระดับต่ำทุกชนิด ชั้นที่สองจะขายอาวุธระดับกลาง และชั้นที่สามขายอาวุธระดับสูง
ภายในชั้นแรกนั้นกว้างขวางอย่างมาก เื่อเข้าไปแล้วจะมีโต๊ะขายที่เป็นวงกลมทอดยาวตั้งแต่ซ้ายและขวา มันเชื่อมต่อกับบันไดไปชั้นสองและส่วนในสุด ส่วนพื้นที่ตรงกลางในอีกสองชั้นนั้นจะเป็นวงกลมขน่าดใหญ่ที่ว่างเปล่า ทำให้ร้านอาวุธนี้มีโครงสร้างเป็นทรงกระบอก
ที่กลางของชั้นล่างจะมีเสาแดงแก้วใส เสาไม่ได้ใหญ่และหนึ่งคนก็โอบล้อมเสาได้ แต่เสานี้สูงมากกว่าสิบเมตรและจากชั้นหนึ่งจนถึงชั้นสาม ทั้งเสานี้ก็โปร่งใสราวกับสลักมาจากหยกแดง
ผิวของเสานั้นสลักไว้ด้วยลวดลายละเอียดยิบย่อยปราณีต ที่ใต้เสาจะเห็นลูกไฟจาง ๆ แต่สีของมันแทบจะโปร่งใส
เสานั้นล้อมรอบด้วยเสาเหล็กสิบต้นที่มัดเข้าหากันด้วยโซ่เหล็ก มีคนค่อนข้างมองที่มองจากด้านนอกแต่ก็ไม่มีใครที่เข้าไปในระยะของโซ่เหล็ก
เมื่อถังฮวนเข้าไปในร้านอาวุธ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเสาสีแดงต้นนี้
เขาเคยได้ยินชื่อของเสาต้นนี้มาก่อน มันถูกเรียกว่า “เสาเงาเพลิง” และจะตรวจสอบได้ว่าจอมยุทธนั้นมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนักตีอาวุธได้หรือไม่
ร่างกายนั้นแบ่งออกเป็นห้าธาตุ ถ้าหากจอมยุทธมีร่างกายที่เป็นธาตุไฟ การเป็นนักตีอาวุธจะง่ายดายที่สุด ส่วนโลหะ ไม้ วารี และดินที่เป็นอีกสี่ธาตุนั้นจะทำให้ยากกับการเป็นนักตีอาวุธ โดยเฉพาะจอมยุทธที่มีธาตุวารี แน่นอนว่าพวกที่แข็งแกร่งก็มี ในประวัติศาสตร์ดินแดนรุ่งโรจน์นั้นจะมีปรมาจารย์นักตีอาวุธที่เก่งกาจอย่างมากที่ว่ากันว่าเป็นหมายเลขหนึ่งในช่วงเวลานั้น
ไม่ว่าจอมยุทธจะเป็นประเภทไหน ตราบเท่าที่ปราณแท้ไหลเข้าไปที่ใต้ “เสาเงาเพลิง” ได้ ลูกไฟจะถูกจุดและกลายเป็นเพลิงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ยิ่งมีคุณสมบัติมากเท่าใดจอมยุทธก็จะยิ่งจุดไฟได้สูงบนเสาได้เท่านั้น
แต่การทดสอบนี้ไม่ได้ฟรี จะต้องใช้สองร้อยเหรียญทองในแต่ละครั้ง
เมื่อถังฮวนรู้ถึงการมีอยู่ของ “เสาเงาเพลิง” เขาก็เริ่มหวั่นไหว เขาไม่มีปราณแท้ที่จุดไฟขึ้นมาได้แล้วยังไม่มีสองร้อยเหรียญสำหรับ “เสาเงาเพลิง” เขาจึงได้แต่ยอมแพ้
“คุณสมบัติของข้ามันมากเพียงใดกัน?”
ถังฮวนหายใจเบา ๆ สายตาของเขาละออกมาจากเสาเงาเพลิง
ลูกค้าจำนวนมากรวมตัวที่หน้าโต๊ะขายทั้งสองด้าน
ด้านหลังโต๊ะขายจะมีหญิงสาวหลายคนที่สวมเครื่องแบบกำลังยุ่งอยู่กับการเลือกอาวุธให้ลูกค้าและตอบคำถามทุกประเภท มีเสียงเอะอะดังขึ้นตลอดเวลา
ด้านหลังผู้หญิงคนหนึ่งก็จะมีชั้นวางของอยู่
บนชั้นวางของนั้นมีอาวุธทุกชนิด กระบี่ หอก ดาบ พลอง ธนู ขวาน ค้อน และอีกมากมาย
ถังฮวนทำได้แค่เหลือบมองแต่ก็รู้สึกตกอยู่ในภวังค์
อาวุธแต่ละชิ้นเปล่งแสงออกมาจาง ๆ และมีหลากหลายสีสัน อาวุธประเภทนี้สำหรับถังฮวนที่มาจากโลกนี้นั้นคุ้นเคยกับมันแล้ว เพราะอย่างไรเขาก็เติบโตมาจากร้านตีอาวุธและแม้ว่าเขาจะตีอาวุธระดับต่ำไม่ได้ เขาก็เห็นมันมามากแล้ว
แต่กับถังฮวนที่มาจากโลก มันเป็นภาพที่ไม่คุ้นตา แม้ว่าเขาจะดูดซับความทรงจำของเด็กหนุ่มถังฮวนมาแล้ว แต่การได้เห็นกับตานั้นเขาก็รู้สึกว่ามันแปลกมากอยู่ดี
อาวุธในชีวิตที่แล้วมาของเขานั้นสร้างให้เกิดสีสันได้ก็จริง แต่มันไม่ใช่สีของตัวอาวุธเอง แม้ว่าของอาวุธระดับต่ำในร้านนี้จะมีสีสันมากมาย แต่สีของมันก็ผสานกับอาวุธอย่างเต็มที่ มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอาวุธและประหลาดมาก
ถังฮวนรู้ว่ามันเป็นแบบนี้เพราะวัตถุดิบที่ใช้สร้างอาวุธนั้นต่างกัน เช่นเดียวกับอัญมณีที่เพิ่มเข้าไปในระหว่างขั้นตอน
เมื่อสร้างอาวุธ การหลอมอัญมณีด้วยพลังวิเศษต่าง ๆ นั้นจะทำให้อาวุธแสดงผลที่มิอาจจินตนาการได้มากมายออกมา…และมีเพียงนักตีอาวุธของจริงเท่านั้นที่จะทำได้ ไม่มีทางที่นักตีอาวุธธรรมดาจะหลอมอัญมณีกับอาวุธได้เลย
สำหรับถังฮวนที่หมกมุ่นกับการตีกระบี่ มันเหมือนกับว่าประตูบานหนึ่งได้เปิดต่อหน้าเขาและให้เขาได้เห็นโลกใบใหม่
ถังฮวนเดินไปที่โต๊ะขายด้านขวาและมองดูแนวอาวุธแถวแรกโดยที่ไม่รู้ตัว
อาวุธชิ้นแรกที่เขาเห็นคือดาบ
ตัวดาบนั้นยาวแปดสิบเซนติเมตรและกว้างห้าเซนติเมตร ไม่เพียงแต่มันจะงดงาม มันยังคมมากอีกด้วย ทั้งตัวดาบนั้นจะมีชั้นแสงสีขาวจาง ๆ เปล่งออกมา แต่สิ่งที่สะดุดตาถังฮวนมากที่สุดไม่ใช่สิ่งนี้ แต่เป็นความเยือกเย็นที่ปล่อยออกมาจากตัวดาบ
ถังฮวนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะขายรู้สึกถึงความเยือกเย็นราวกับว่าที่แขวนอยู่นั่นไม่ใช่อาวุธแต่เป็นน้ำแข็งอายุพันปี
ถังฮวนสนุกที่ได้เห็นอาวุธชิ้นนั้น เขาลูบมือเข้าด้วยกันและหวังว่าเขาจะได้หยิบดาบเล่มนั้นออกมาดูและสังเกตให้ดี
“สวัสดีท่าน อยากได้ดาบเล่มนี้งั้นหรือ?”
เสียงใสดังขึ้นมา
ถังฮวนได้สติและมองไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อนั้นจึงรู้ตัวว่าสาวน้อยที่สวมชุดขาวปรากฏตัวจากด้านหลังโต๊ะขาย ร่างกายนางนั้นเล็กน่ารักและอ่อนช้อยแล้วยังมีใบหน้าที่น่ารักอีก ไม่เพียงแต่จะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ดวงตาสดใสนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้ช่วยของร้านขายอาวุธสมุทรดารานั้นเป็นสาวงามทั้งหมด มันเป็นภาพที่ดูสบายตาอย่างยิ่ง
ถังฮวนอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจว่าสาวน้อยทักเขา เขาส่ายหน้าในทันที
“ข้ามาซื้อเพลิงแท้น่ะ ข้าต้องไปที่ไหนรึ?”
“มาซื้อ ‘เพลิงแท้’ หรือ? ไปทางนั้นค่ะ!”
พอได้ยินแล้วสาวน้อยก็มองถังฮวนด้วยความแปลกใจและชี้นิ้วที่เรียวขาวไปด้านใน
“ขอบคุณ”
ถังฮวนพยักหน้าและมองดาบอย่างลังเลก่อนจะเดินต่อไปข้างไหน
ถ้าหากเขามีเงินเหลือ เขาคงซื้ออาวุธระดับต่ำมาศึกษาโดยไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เขาต้องลืมมันไปก่อน
สาวน้อยชี้ไปทางเชื่อมต่อของโต๊ะขายทั้งสองที่โค้งเข้าหากันทั้งซ้ายและขวา
เทียบกับบรรยากาศเอะอะแล้ว ที่นี่นับว่าไม่มีคน ด้านหลังโต๊ะขายมีหญิงสาวที่งดงามอย่างมากในชุดขาว เทียบกับสาวน้อยน่ารักคนที่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า สเน่ห์บนใบหน้านางนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้านหลังนางเองก็มีชั้นวางของ แต่ที่วางไว้ไม่ใช่อาวุธหลากหลายชนิดแต่เป็นขวดสีแดงเพลิงวางเป็นแถบ
ในส่วนท้องของขวดนั้นใหญ่มาก แต่ปากขวดนั้นแคบอย่างสุดขั้ว ไม่รู้ว่าวัตถุดิบของขวดนั้นทำมาจากอะไร แต่มันล้วนเปล่งประกายและใสเหมือนกับขวดแก้วในชีวิตที่แล้วของเขา ผ่านขชวดจะเห็นลูกไฟที่ลอยอยู่ด้านใน แสงสีแดงเข้มของเพลิงนั้นเปล่งประกายทำให้ทั้งขวดกลายเป็นสีแดง
“ท่านต้องการซื้อ ‘เพลิงแท้’ รึ?”
เมื่อเห็นถังฮวนเดินเข้ามา สาวน้อยชุดขาวก็โค้งศีรษะเล็กน้อยและถามอย่างกระตือรือร้น ใบหน้านางยิ้มอย่างน่าหลงใหลและนางก็ไม่เมินถังฮวนเพราะชุดซ่อมซ่อ ในชีวิตก่อนหน้าของเขา เขามักจะให้ความสนใจกับบริการด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มอันเป็นมืออาชีพนั้นไม่ได้จริงใจเท่ากับหญิงสาวตรงหน้าเขาเลย
ถังฮวนมองขวดด้วยตาเป็นประกาย
“เพลิงแท้หนึ่งขวดราคาเท่าใดรึ?”
“หนึ่งพันเหรียญทอง”
หญิงสาวยิ้มอ่อนหวาน
“หนึ่งพัน? ทำไมถึงแพงนักล่ะ?”
ถังฮวนงุนงงและอุทานอย่างไม่เชื่อหู
เพลิงแท้มีราคา 500 เหรียญทองมานานแล้วไม่ใช่หรือ? ต่อให้ราคาลอยตัวขึ้นไปก็น่าจะสัก 20-30 เหรียญทอง เขาคิดว่าเขาขายอาวุธสามชิ้นในราคา 540 เหรียญทองนั้นมากพอแล้วที่จะซื้อเพลิงแท้หนึ่งขวด แต่ใครจะไปรู้เล่าว่าร้านอาวุธสมุทรดารานั้นจะขึ้นราคาเป็นสองเท่า