ตอนที่ 5 ตีกระบี่
จากความตรงทำของชีวิตที่แล้ว เพลิงแท้นั้นเป็นประเภทของพลังงานที่อยู่ในรูปแบบไฟ มันเป็นไฟที่มีความร้อนสูงมาก
เพื่อที่จะเป็นนักตีอาวุธ จำเป็นจะต้องรวบรวมเพลิงแท้เข้าไปในตันเถียน
ซึ่งเป็นจุดที่เส้นปราณทั้งเก้าเชื่อมต่อกัน
ความยากในการผสานเพลิงแท้นั้นสูงมาก มีผู้บ่มเพาะพลังนับไม่ถ้วนในดินแดนรุ่งโรจน์ แต่แม้จะเป็นในหนึ่งพันคนก็แทบจะไม่มีใครที่ผสานเพลิงแท้และเป็นนักตีอาวุธได้
ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงตอนนี้ มีตัวอย่างมากมายที่คนที่พยายามผสานเพลิงแท้จบลงด้วยผลสะท้อนกลับของเพลิงแท้
“ปัญหาตอนนี้ก็คือ ข้าจะใช้เพลิงแท้ได้อย่างไร?”
ถังฮวนไม่พอใจเล็กน้อย เพลิงแท้นั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักในดินแดนรุ่งโรจน์ ผู้คนสามารถซื้อเพลิงแท้ได้ในร้านอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในทางใต้ของเมืองคลื่นคลั่ง ซึ่งมีราคา 500 เหรียญทอง
ราคานี้ไม่นับว่าแพง
แต่สำหรับถังฮวนในตอนนี้นั้นนับว่าเป็นราคาที่สูงมาก ต่อให้เขาขายอาวุธทั้งหมดในร้านไปแล้วเขาก็ยังรวมเงินได้ไม่ถึงหนึ่งพันเหรียญทอง โชคร้ายที่ว่าก่อนที่เฒ่านักตีอาวุธจะจากไป ตอนนั้นเขายังแสดงพลังออกมาได้ไม่ดีพอ มิเช่นนั้นเฒ่านักตีอาวุธจะต้องเตรียมเพลิงแท้ให้เขาแน่
ในตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าเฒ่านักตีอาวุธจะกลับมาเมื่อใด เขาจึงต้องพึ่งพาตัวเอง
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ ถึงฮวนก็กลับไปคิดถึงอาชีพเก่า
แม้ว่าดาบที่เขาตีในชีวิตที่แล้วจะเทียบกับดาบเลื่องชื่ออย่างไส้มัจฉาบรรพกาลหรือมหาหุบเหวไม่ได้ มันก็ยังเป็นอาวุธที่หาได้ยากมาก มิเช่นนั้นมันคงจะขายในราคาแพงไม่ได้
เมื่อวานตอนเย็น ถังฮวนได้เปรียบเทียบและสังเกตอาวุธธรรมดาในร้าน
เหตุผลที่มันขายในราคาเท่ากับเครื่องมือเกษตรก็เพราะว่าคุณภาพของมันเทียบเท่ากับเครื่องมือเกษตรบนโลกใบนี้ แม้ว่ามันจะแข็งแรง แต่มันก็มีคุณภาพจำกัด และมันเทียบกับอาวุธมีคมที่ถังฮวนตีเองในชีวิตก่อนหน้าไม่ได้เลย เขาสามารถเลือกอาวุธที่เขาเคยตีในชีวิตที่แล้วมาฟันอาวุธทั้งหมดในร้านขาดครึ่งได้
แน่นอนว่าอาวุธในตอนนี้ล้วนเป็น “ผลงานชิ้นเอก” ของเด็กหนุ่มถังฮวนผู้ล่วงลับ
แม้ว่าร้านจะเปิดโดยเฒ่านักตีอาวุธ แต่เขาก็แทบจะไม่สร้างอะไรออกมาเลยโดยเฉพาะปีหลัง ๆ ซึ่งทำให้การค้าขายของร้านนี้ตกต่ำลงอย่างมาก
“ต่อให้ตอนนี้ข้าจะตีอาวุธระดับต่ำขึ้นมาไม่ได้ แต่ด้วยทักษะที่มี กระบี่ที่ข้าสร้างก็ต้องคมกว่า ข้าไม่คิดว่าราคาจะต่ำเกินไปหรอก”
ถังฮวนคิดอยู่ระยะหนึ่งและรีบทำใจ
หลังจากเติมอาหารลงท้องแล้วถังฮวนก็ไปที่หน้าร้าน
แม้ว่าระดับทักษะการตีอาวุธของถังฮวนผู้ล่วงลับจะไม่ได้มากมายนัก แต่ร่างกายของเขาก็แข็งแรงและมีพละกำลังสูง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีความอดทนที่มากพอ มีอาวุธมากมายที่เขาตีทิ้งไว้ในร้าน
ซึ่งมันทำให้ถังฮวนประหยัดเวลาไปได้มากมาย
หลังจากทำตัวให้คุ้นเคยกับตำแหน่งเครื่องมือแล้วถังฮวนก็เริ่มทำงาน ไม่นานหลังจากนั้นร้านก็เริ่มส่งเสียงโลหะกระทบกัน
ร่างท่อนบนของถังฮวนเปลือยเปล่า ค้อนเหล็กในมือเขาทุบไปที่แท่งกระบี่ จากนั้นทั้งตัวของเขาก็มีเหงื่อไหลออกมาอย่างหนัก
ทันทีที่เขาเริ่ม เขารู้ตัวว่าการตีอาวุธนั้นง่ายกว่าชีวิตที่แล้วอย่างมาก
ในใจเขา “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” เริ่มหมุนอย่างต่อเนื่องนำทางปราณแท้ไปทางมือขวาของถังฮวน ถ้าถังฮวนยังอยู่บนโลกในชีวิตที่แล้ว เขาจะไม่สามารถถือค้อนที่หนักยี่สิบหรือสามสิบกิโลกรัมได้แน่ แต่ในตอนนี้เขาถือของหนัก ๆ แบบนั้นได้ราวกับว่ามันเบา
ค้อนเหล็กหนักนั้นเหมือกับกิ่งไม้เบา ๆ ที่เขาทุบได้ตามใจชอบ
ด้วยปราณแท้ ความเร็วในการตีอาวุธก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เพิ่มเติมจากนั้น หลังจากตีแท่งกระบี่ที่ถูกตีทิ้งไว้แล้วเขาก็พบว่าคุณภาพของ “เหล็กลึกล้ำทมิฬ” ซึ่งเป็นของทั่วไปในการตีอาวุธในดินแดนรุ่งโรจน์นั้นมีคุณภาพสูงว่าแร่เหล็กบนโลกอย่างมาก ถ้าหากใช้ให้ดี ต่อให้ไม่เป็นระดับสูงสุด มันก็สามารถตัดเส้นผมและตัดเหล็กได้เหมือนกับโคลน
การค้นคบนี้ทำให้ถังฮวนตื่นเต้นอย่างมาก
ต่อจากนั้นถังฮวนก็เริ่มเพ่งสมาธิมากขึ้นและมากขึ้นโดยลืมเรื่องวันเวลาไป ตีเหล็ก วางแผน…ดับไฟ…เมื่อเขาได้สติจากความหิว ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดแล้ว มันเป็นเวลาดึกมากแล้ว
ถังฮวนถอนหายใจยาวและดูแผ่นไม้ มีดาบสามเล่มถูกวางเอาไว้
เล่มแรกเป็นดาบหนักที่ยาวมากกว่าหนึ่งเมตรและคมดาบก็กว้างเหมือนกับฝ่ามือผู้ใหญ่ มันหนักราวสิบกิโลกรัม อาวุธน้ำหนักขนาดนี้นับว่าเบาในดินแดนรุ่งโรจน์ เด็กหนุ่มถังฮวนผู้ล่วงลับนั้นตีอาวุธหลายชิ้นที่น้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม แต่กับเขานั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาตีดาบหนักขนาดนี้ ในชีวิตที่แล้วบนโลก ดาบหนักที่สุดที่เขาตีขึ้นมาหนักเพียงแปดกิโลกรัมเท่านั้น
เล่มที่สองนั้นกว้างสองนิ้วมือและยาวเจ็ดสิบเซนติเมตร เล่มที่สามเป็นกระบี่สั้นที่กว้างสองนิ้วมือและยาวเพียงแค่ยี่สิบเซนติเมตร มันมีร่องที่สองด้านของกระบี่
อาวุธทั้งสามเล่มวางทิ้งไว้แบบนั้น ชั้นแสงมืดมนค่อย ๆ ไหลออกมาจากตัวคมที่เปล่งประกายสีดำเป็นเงา
ถังฮวนหยิบเล่มตรงกลางขึ้นมาใช้วิชากระบี่ ซึ่งมันทรงพลังอย่างมาก จากนั้นปราณแท้ก็เข้าไปที่คมกระบี่และฟันก้อนเหล็กบนโต๊ะ
“แกร๊ง!”
หลังจากเสียงดังแกร๊งหลายครั้งก้อนเหล็กก็ขาดเป็นสองท่อน และรอยตัดก็เรียบเป็นอย่างมากด้วย
จากนั้นถังฮวนก็วางกระบี่ยาวและหยิบดาบใหญ่และกระบี่สั้นขึ้นมาใช้วิชากระบี่ฟันก้อนเหล็กอย่างเคย ไม่นานก้อนเหล็กก็ขาดเป็นสองท่อน
“ดีล่ะ!”
ถังฮวนยิ้มออกมาอย่างพอใจ
ในด้านความละเอียดและความงาม ทั้งสามเล่มนั้นด้อยกว่าดาบล้ำค่าที่เขาเคยตีในชีวิตก่อนหน้าอย่างมาก แต่ในด้านความคมและคุณภาพ พวกมันเหนือกว่าทุกสิ่งที่เขาเคยทำ เหตุผลก็เพราะคุณภาพของแร่เหล็กล้ำลึกทมิฬที่ดีกว่าเหล็กที่เขาใช้บนโลก ประการต่อมาคือถังฮวนในตอนนี้มีปราณแท้แล้ว
การใช้ปราณแท้ทำให้ถังฮวนแสดงทักษะออกมาได้ดีขึ้น เทียบกับสามเล่มนี้แล้ว อาวุธทั้งหมดที่ถังฮวนผู้ล่วงลับตีขึ้นมาในอดีตนั้นไม่ต่างจากขยะ
แต่ว่านอกจากความดีใจแล้ว เขาก็มีความแปลกใจด้วย
ในชีวิตก่อนหน้า การสร้างดาบล้ำค่านั้นกินเวลาเขาหลายวัน แต่ในดินแดนรุ่งโรจน์แห่งนี้ เขาตีสามเล่มได้ในวันเดียว
แน่นอนว่าเขาจะใช้สามเล่มนี้เพื่อหาเงินเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำขั้นตอนอื่นที่ดีกว่าจนทำให้เขาตีได้เร็วขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น สามเล่มในวันเดียวก็เหนือจินตนาการของเขาแล้ว
“มันเทียบได้กับอาวุธระดับต่ำด้วยซ้ำ มันต้องขายได้ราคาดีแน่”
ในวันถัดมา หลังจากกินอาหารเช้าแล้วถังฮวนก็ออกจากร้านตีอาวุธ
ในตอนนี้ เมืองคลื่นคลั่งค่อนข้างมีชีวิตชีวา เขาเดินบนนถนนหินสองสามร้อยเมตรแล้วก็เข้าถนนเมือง และเขาก็เห็นจอมยุทธที่มีอาวุธติดตัวอยู่เต็มไปหมด
ในดินแดนรุ่งโรจน์แห่งนี้ เมืองคลื่นคลั่งนั้นนับว่าเป็นเมืองใหญ่ทีเดียว
โลกแห่งนี้กว้างขวางมาก นอกจากดินแดนรุ่งโรจน์แล้วก็ยังมีอีกสามดินแดนที่เรียกว่าดินแดนต้นกำเนิด ดินแดนจิตศักดิ์สิทธิ์ และดินแดนสงบสุข เกาะน้อยใหญ่และทะเลไร้สิ้นสุด ดินแดนรุ่งโรจน์และดินแดนต้นกำเนิดนั้นมีมหาสมุทรกั้นขวางเอาไว้
เมืองคลื่นคลั่งถูกสร้างอยู่บนชายฝั่งดินแดนรุ่งโรจน์ ดังนั้นเมืองคลื่นคลั่งจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าจะออกทะเลไปยังดินแดนต้นกำเนิดและอีกฟากฝั่ง ด้วยภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง เมืองจึงเต็มไปด้วยคนทุกรูปแบบและจอมยุทธจำนวนมากก็เข้าออกเมืองทุกวันระหว่างสองดินแดน
ถังฮวนเดินอย่างรวดเร็วและหลังจากสิบห้านาทีเขขาก็มาถึงร้านค้าอาวุธที่เขาขายของไปเมื่อวานซืนนี้
เจ้าของร้านเป็นชายแก่ตัวอ้วน เขายิ้มเหมือนกับพระพุทธองค์เลยทีเดียว ในความทรงจำของเขานั้นบอกว่าเจ้าของร้านคนนี้เป็นมิตรที่ดีกับเฒ่านักตีอาวุธและคุ้นเคยกับถังฮวนมาก ว่ากันว่าเขาเป็นจอมยุทธที่รวบรวมกงล้อจิตมาได้ แน่นอนว่าเขาเปิดเผยเรื่องนี้กับถังฮวนเอง
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ แต่ถังฮวนไม่เคยเห็นเขาใช้พลังมาก่อน
ในอดีต อาวุธธรรมดาที่ถังฮวนตีขึ้นมานั้นจะมาขายให้กับเขา…และเมื่อวิญญาณหลุดจากร่างมาสู่ร่างนี้พร้อมกับความทรงจำ หลังจากไม่กี่วันที่ความทรงจำผสานกัน เขาก็ตระหนักว่าเขาอาจจะคิดว่าเขายังคงเป็นถังฮวนผู้ล่วงลับอยู่
ในความจริงนั้นถังฮวนรู้ตัวว่านิสัยของเขาเองก็ได้รับผลกระทบด้วย มันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในชีวิตที่แล้วเขานั้นเป็นคนเงียบขรึม แต่ตอนนี้เขามีชีวิตชีวากว่าเดิม
โชคดีที่มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ดังนั้นถึงฮวนจึงปล่อยให้มันเป็นไป
ชายแก่อ้วนเพิ่งจะเปิดประตูร้านและออกมายืนหาว ในตอนที่เห็นถังฮวนเขาก็ถามด้วยรอยยิ้ม
“เสี่ยวถัง วันนี้จะเอาอาวุธอะไรมาขายอีกล่ะ? ใช้สามเหรียญทองหมดแล้วรึ?”
“เสี่ยวถัง?”
เมื่อได้ยินเขาเรียกอีกครั้งถังฮวนก็อดสั่นเพราะขยะแขยงไม่ได้ เขากลอกตาสองครั้ง
“ถ้าใช้ไม่หมดแล้วข้ามาขายอีกไม่ได้รึ?”
ถังฮวนรีบเดินผ่านชายแก่อ้วนเข้าไปในด้าน เขาวางกระเป๋าบนไหล่ลงบนโต๊ะขายอย่างแรงและเปิดมันออก เขาถามตามเคย
“ลุงอ้วน ข้าขายได้เท่าไหร่?”
เมื่อเขาพูด ดาบทั้งสามเล่มที่เขาตีเมื่อวานก็เผยออกมา
ในร้านนั้นมีฝักดาบอยู่ ถังฮวนจึงใส่ฝักดาบเพื่อซ่อนความคมเอาไว้
“ก็เหมือนเมื่อวานซืน อาวุธธรรมดาเล่มละหนึ่งเหรียญทอง”
ชายแก่อ้วนทำหน้าผ่อนคลายและหยิบดาบหนักขึ้นมาถอดจากฝัก
แสงทมิฬทะลวงลูกตาของเขาจนทำให้เขาเย็นไปถึงกระดูก ชายแก่อ้วนตัวสั่นจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เอ๋ ไม่เลว วิชาตีดาบของเจ้าก้าวหน้าขึ้นมานิดหน่อยแล้ว”
ชายแก่อ้วนหรี่ตามองด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่ได้เห็น แต่เขาก็พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“เล่มนี้คุณภาพดีกว่าสามเล่มที่เจ้าขายเยอะเลย แบบนี้ไหมเสี่ยวถัง ข้าจะให้เจ้า 6 เหรียญทอง? เป็นสองเท่าจากเดิมเลยนะ”
“เล่มละหกหรือ?”
ถังฮวนลืมตาเล็กน้อย
“ไม่ สามเล่ม!”
ชายแก่อ้วนยิ้มและยื่นสามนิ้วออกมา
ถังฮวนไม่พูดอะไรและชิงดาบใหญ่กับฝักมาจากมือชายแก่อ้วน เขาพันผ้าและกำลังจะออกจากด้าน
เมื่อเห็นแบบนั้นชายแก่อ้วนก็ดึงหลังถังฮวน
“เสี่ยวถัง เจ้าวิตกอะไรนัก? ก็ได้ก็ได้ ข้ายอมถอยก็ได้ หกเหรียญทองต่อหนึ่งเล่ม…หกเหรียญทองเลยนะ? อาวุธเจ้าขายได้เล่มละเหรียญเมื่อคืน แล้วตอนนี้ราคาอาวุธเจ้าขึ้นมาหลายเท่าตัวเชียวรึ? ข้าใจดีไม่พอรึ?”
“ลุงอ้วน ไปลงนรกไหม?”
ถังฮวนตำหนิและปัดมือเขาและจะออกจากร้าน แต่เขาก็ถูกชายแก่อ้วนรั้งเอาไว้
“เสี่ยวถัง อย่าเพิ่งโมโหสิ บอกข้ามาว่าเจ้าอยากจะขายเท่าไหร่?”
“เล่มละสองร้อย!”
ถังฮวนพูดตรง ๆ
แน่นอนว่าเขาไม่อยากจะไปจากร้านจริง เพราะมันคือร้านที่เขาคุ้นเคยที่สุดในเมืองคลื่นคลั่ง
แต่ชายแก่อ้วนก็ตระหนี่เกินไป ถ้าหากเขาขายไป 6 เหรียญทองจริง เขาต้องขายอาวุธอีกมากเท่าไหร่กว่าจะซื้อเพลิงแท้ได้?
“สองร้อยเหรียญทองรึ? เจ้าปล้นข้ารึไง!”
ชายแก่อ้วนพูดเสียงดัง ไขมันบนหน้าเขาสั่นระริก
“ลุงอ้วน ถามตัวเองแล้วบอกข้าเถอะว่าราคานี้มันมากเกินไปหรือไม่?”
ถังฮวนไม่พอใจ
แม้ว่าเขาจะไม่เคยตีอาวุธระดับต่ำมาก่อน เขาก็เคยเห็นมันมามากมาย ทั้งสามเล่มที่เขาตีเมื่อวานนั้นล้วนแข็งแกร่งกว่าอาวุธเริ่มต้นทั่วไป เขาขอราคาสองร้อยซึ่งอาจจะสูงเล็กน้อย แต่มันก็สมเหตุสมผล แน่นอนว่าเขายังมีราคาให้ต่อรองอีกมากมาย
เขาคิดว่าเขาจะขายได้เล่มละ 180 เหรียญทอง