ตอนที่ 3 ค้อนดาวตก
ถังฮวนจำสามคนนี้ได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มตัวสูงแข็งแรงชื่อถังหง ชายชุดดำถังเจียง และคนผอมอ่อนแอคือถังจุนเจี้ย
เมืองคลื่นคลั่งมีสามตระกูลใหญ่ ซึ่งตระกูลถังคือหนึ่งในนั้น
ถังเทียนเหรินเจ้าตระกูลถังมีน้องชายสองคน ถังเทียนฉี และถังเทียนเฟิง ในบรรดาคนเหล่านั้นถังหงคือลูกคนเล้กของถังเทียนฉี และถังเจียงคือลูกชายคนที่สองของถังเทียนเฟิง
ส่วนถังจุนเจี้ยนั้นเป็นศิษย์ตระกูลถัง
ตัวตนของถังฮวนในฐานะลูกนอกสมรสไม่เป็นความลับในตระกูลถัง ตั้งแต่ที่เขายังเด็กเขาก็มักจะถูกคนตระกูลถังใช้วิธีการต่าง ๆ ข่มเหงรังแกเขา
ถังหง ถังเจียง และถังจุนเจี้ยคือสามคนที่รังแกเขา
ถังฮวนเคยสาบานว่าเขาจะทำให้ทุกคนที่รังแกเขาต้องชดใช้ เพราะแบบนี้ เขาจึงไม่เคยยอมแพ้ในการบ่มเพาะพลังแม้จะไม่สำเร็จมาสิบปี
“ไอ้สุนัข กล้าจ้องข้าเรอะ? ก็ได้ ข้าจะช่วยหักขาเจ้าอีกซักครั้ง!”
การได้เห็นถังฮวนจ้องมองอย่างเกรี้ยวกราดนั้นทำให้ถังหงเป็นเหมือนกับฉลามได้กลิ่นเลือด เขาแสยะยิ้มชั่วร้ายและตบไหล่ของถังฮวนด้วยฝ่ามือ
เช้านี้ เมื่อพวกเขาเจอถังฮวนบนถนน พวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับความรุนแรงของการทำร้ายและฆ่าเขา ถังหงและคนอื่นอดรู้สึกผิดเล็ก ๆ ไม่ได้ พวกเขาจึงกลับมาที่นี่เพื่อดูสถานการณ์ในตอนเย็น
พอได้เห็นถังฮวนทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถังหงก็หน้าเปลี่ยนสีในทันที
ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสไหล่ของถังฮวน ถังหงก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาใช้พลังทั้งหมดและเตรียมจะโยนถังฮวนออกไปอย่างเคย เขาจะโยนถังฮวนใส่โคลนตมเหมือนกับสุนัข
แต่ในตอนนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าถังหงก็นิ่งไป แม้ว่าฝ่ามือของเขาจะจับไหล่ของถังฮวนเอาไว้แต่เขาก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“ปั้ง!”
ในตอนนั้น ถังหงรู้สึกราวกับว่าท้องของเขาถูกซัดด้วยหินหนักหนึ่งพันกิโล ไส้ในของเขาขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที หลังจากรีดร้องเมื่อโลหิตหลั่งไหลออกมาเขาก็กุมท้องและย่อตัวลงราวกับกุ้งสุก และใบหน้าชั่วร้ายนั้นก็เหี่ยวเป็นดอกเก๊กฮวย
“จะ เจ้า…ไอ้สุนัข…อ๊า…”
ถังหงมองหมัดของถังฮวนที่เพิ่งจะออกจากท้องของเขาอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ก่อนที่เขาจะได้ก่นด่าสาปแช่ง เขาก็กรีดร้องออกมาจากลำคอ จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ลอยขึ้นและโดนหมุนในอากาศ เขาถูกโยนออกไปเหมือนกับขี่เมฆ
แผละ!
ร่างกายสูงใหญ่ของถังหงกระแทกถนนข้างร้านตีอาวุธอย่างรุนแรง ในปากของเขาเต็มไปด้วยดิน
“เกิด…เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าตาฝาดไปรึไง?”
ถังเจียงและถังจุนเจี้ยกำลังจะรอดูอะไรน่าสนุก แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพแบบนั้นในตอนสุดท้าย ทั้งสองตกใจจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า ในตอนนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาหายไปแล้ว และสีหน้าของพวกเขาก็แปลกไปโดยสิ้นเชิง
ถังฮวนยืนอยู่ที่เดิมและมองมือขวาของเขาด้วยความแปลกใจ
ถังหงนั้นอายุเท่ากับถังฮวน แต่ความต่างก็คือถังหงนั้นเปิดเส้นปราณมาแล้วห้าเส้น และถ้าหากเขาเปิดเส้นปราณอีกเส้นเขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง
ในอดีตเมื่อเขาได้เจอกับถังหง เด็กหนุ่มถังฮวนนั้นทำได้แค่โดนทำร้ายและไม่มีกำลังจะโต้ตอบ
ในครั้งนี้ถังฮวนได้วางแผนจะทำให้ถังหงทรมานเล็กน้อยให้เขาสลบไป
แม้เขาจะเปิดเส้นปราณสามเส้นในวันนี้และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง แต่มันก็ยังมีช่องว่างคือปราณอีกสองเส้นระหว่างเขากับถังหง เขาไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะถังหงได้ แต่เขาไม่คิดเลยว่าแค่หมัดเดียวจะทำให้ถังหงอยู่ในสภาพปางตายเช่นนั้น
“อึก!”
“อ้อก!”
ถังหงได้สติกลับมา เขาบ้วนทรายออกจากปากและพลิกตัวคลานขึ้นมา ไม่เพียงแต่จมูกจะมีโลหิตไหล แต่ฟันหน้าของเขาก็หักไปสองซี่ด้วย
“ไอ้สุนัข เจ้าอยากตายเรอะ!”
ถังหงร้องคำรามด้วยความโกรธและความอัปยศ ดาบยาวที่เอวของเขาถูกดึงออกจากฝัก
เขาคิดว่าถังฮวนจะต่อต้าน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย การสวนกลับของคนธรรมดาย่อมไม่เป็นภัยกับเขาที่กำลังจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง แต่เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกลับเกิดขึ้นอย่างที่เขาไม่คาดคิด และเขาก็ถูกอัดจนแย่จากคนที่เขารังแกมาหลายปี
ในตอนนี้ ถังหงรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ดวงตาที่โกรธเกรี้ยวจนแทบจะพ่นไฟออกมาได้นั้นปรารถนาจะบดขยี้ใบหน้าที่เขามองให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ถังหงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวและต้องอดทนกับความเจ็บปวดที่ท้องและพุ่งเข้าใส่ถังฮวนด้วยดาบของเขา
“ค้อนดาวตก!”
ถังหงตะโกนด้วยตาแดงก่ำ เขาเหวี่ยงแขนและดาบในมือที่เหมือนกับค้อนก็ถูกขวางออกมาตรงไปที่หน้าถังฮวน มันเร็วราวกับดาวตกและส่งเสียงกรีดลม
แม้ว่า “ค้อนดาวตก” ในคำจะมีคำว่า “ค้อน” อยู่ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่วิชาค้อนแต่เป็นวิชาดาบ
ในบรรดาวิชาต่อสู้ระดับต่ำของตระกูลถังนั้น “ค้อนดาวตก” นับว่ามีพลังไม่เลว มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทั้งรุนแรงและรวดเร็ว ดาบที่หนักราวกับค้อนและยังหนักราวกับดาวตก ถังหงบ่มเพาะ “ค้อนดาวตก” มานานหลายปีแล้ว และเขาก็เข้าใจแก่นแท้ของวิชาระดับต่ำนี้
ในชีวิตที่แล้วของเขา ถังฮวนไม่เคยต่อสู้กับใครมาก่อน และหลังจากเกิดใหม่บนโลกใบนี้เขาก็ไม่มีเวลาที่จะได้บ่มเพาะวิชาต่อสู้อะไร แม้ว่าเด็กหนุ่มถังฮวนจะเรียนรู้วิชาหมัดมาบ้างแต่เขาก็ไม่มีพลังที่มากพอ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้กับใคร ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะใช้กำปั้นสัมผัสกับคมดาบได้อยู่แล้ว
เมื่อเห็นดาบของถังหงใกล้เข้ามาอย่างน่ากลัว ถังฮวนก็ตื่นตระหนก
แต่เขาไม่มีเวลาจะคิดอะไรมากและรีบถอยไปที่ข้างโต๊ะไม้ ส่วนถังหงเองก็สาวเท้าเข้ามาข้างหน้าพร้อมกับดาบตามมาติด ๆ ถังฮวนรู้สึกถึงปราณอันเยือกเย็นจากดาบยาวตรงหน้าและรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้วตัว
ถังหงลนลานและไร้สติ เขาใช้อาวุธกับการโจมตีอย่างไร้ปรานี ถ้าแทงโดนไปเมื่อไหร่ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส
เหลือบมองดาบยาวที่ปักอยู่บนโต๊ะในความสิ้นหวัง ถังฮวนคว้าดาบอย่างไม่ลังเลและคว้ามันขึ้นมาปัดปายของถังหง
“ฟู่ว!”
ในทันทีที่เขาจับด้ามดาบ ถังฮซนรู้สึกถึงปราณแท้ในเส้นปราณทั้งสามที่ไหลพร้อมกันและเข้าไปรวมตัวใน “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” และจากนั้นมันก็ปะทุออกมาจากเตาหลอมราวกับภูเขาไฟ ในพริบตานั้นพลังได้ไหลมาแขนของเขาและไหลต่อไปที่ดาบ
ในเวลาเสี้ยววินาที ดาบก็ได้ปะทะกับคมดาบ
“แกร๊ง!”
เสียงแหลมของโลหะกระทบกันดังขึ้น ดาบยาวกระเด็นไปด้านข้างในทันทีและถังหงก็ผงะไปข้างหลัง
“ปราณแท้?”
หลังจากยืนได้มั่นคงแล้วถังหงก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อดาบและดาบของเขาปะทะกัน เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลที่กระแทกเข้ามาจนทำให้มือของเขาชาและดาบก็เกือบจะหลุดมือไป
แต่หลังจากตกใจได้ไม่นานสีหน้าของถังหงก็ยิ่งไม่น่าดูกว่าเดิม
“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจะกล้าอวดดีเช่นนี้ เจ้ามีปราณแท้นี่เอง! วันนี้คงเป็นวันที่เจ้าเปิดเส้นปราณแรกได้ แต่ถ้าเจ้าคิดว่าจะสู้ข้าได้ด้วยปราณแท้แค่นิดเดียวล่ะก็ เจ้าก็เข้าใจผิดแล้ว”
“ไอ้สุนัข หมอบลงไป!”
ถังหงสะบัดข้อมือและตะโกน ดาบยาวมีแสงสีเขียวอ่อนและฟันมาทางซ้ายของเอวถังฮวนที่มุมที่หลบได้ยาก กระบวนท่านี้มีพลังเต็มที่ของวิชา “ค้อนดาวตก” ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่ง แต่มันยังรวดเร็วปานสายฟ้าด้วย
ถังฮวนเองก็ตกใจที่เขาป้องกันการโจมตีเมื่อครู่ได้
ก่อนที่เขาจะดึงสติได้เขาก็เหลือบเห็นประกายแสงอันเกรี้ยวกราดจากดาบของถังหง มันทำให้ถังฮวนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ดาบของเขาเร็วเกินไปและเมื่อถังหงเคลื่อนไหว สายลมจากคมดาบก็มาถึงเอวของเขาแล้ว ราวกับว่ามันจะหั่นเสื้อของเขาให้ขาดออกจากกัน
ในตอนนี้ ถังฮวนไม่มีเวลาให้คิด เขาต้องตะโกนเสียงดังและไม่หลบคมดาบของถังหง แต่เขายกดาบยาวในมือและดาบยาว 1.5 เมตรก็ฟันเข้าไปที่หัวของถังหงด้วยพลังสายฟ้าฟาด ในยามวิกฤตินั้นถังฮวนเลือกหนทางที่เขาทั้งคู่จะเจ็บตัว
“ไอ้บัดซบ!”
ถังหงตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นแบบนั้น
ดาบของเขานั้นฟันจนเป็นแผลที่เอวถังฮวนได้แน่นอน แต่ดาบของถังฮวนนั้นจะผ่าหัวของเขาเป็นสองซีกได้ เขายังอายุน้อยและมีอนาคตยาวไกล เขาจะต้องตายไปด้วยกันกับถังฮวนงั้นรึ?
ถังหงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกับที่เขาหลบ วิถีดาบของเขาก็ได้เปลี่ยนไปซัดไปที่ดาบยาว
“แกร๊ง!”
ดาบยาวและดาบได้ปะทะกันอีกครั้ง
ถังหงร้องออกมาด้วยความตกใจ ในมือของเขาทั้งเจ็บและชาและเขาก็ถือดาบไม่ไหวอีกจนมันหล่นลงพื้น ครั้งที่แล้วถังฮวนรีบรับการโจมตี แต่ครั้งนี้ถังฮวนใช้พลังเต็มที่และพลังย่อมเทียบไม่ได้กับครั้งก่อน
เห็นเป็นแบบนี้ ถังเจียงและถังจุนเจี้ยที่อยู่ไม่ไกลก็ลิ้นพันกัน
“จะ เจ้า”
“ปราณแท้ของเจ้า…”
ถังหงไม่อยากจะเชื่อสายตา เขาจ้องมองถังฮวนด้วยโทสะและความตกใจ ทันทีที่ดาบของพวกเขาปะทะกัน เขาก็รู้สึกถึงปราณแท้ของถังฮวนอีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังชัดเจนยิ่งกว่าครั้งที่แล้ว
ที่ทำให้ถังหงรู้สึกตกใจยิ่งกว่าก็คือพลังปราณแท้ของถังฮวนที่ดูจะมาถึงขีดจำกัดของผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง
ในดินแดนรุ่นโรจน์แห่งนี้ ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งอายุสิบหกปีนั้นหาได้ง่ายมาก แต่น่าแปลกที่ถังฮวนที่เป็นคนธรรมดาอย่างเห็นได้ชัดในตอนเช้า แต่ในตอนเย็นกลับกลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งที่แกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
ถังฮวนบ่มเพาะพลังมาหลายปีแล้ว มันจึงไม่แปลกที่จู่ ๆ เขาจะเปิดเส้นปราณเส้นแรกได้ในวันนี้ แต่เขาจะเปิดเส้นปราณสามหรืือสี่เส้นหรือห้าเส้นในวันเดียวได้อย่างไร?
แค่วันสั้น ๆ ปราณแท้ของถังฮวนก็แข็งแกร่งกว่าเขาที่บ่มเพาะพลังมาหลายปี! ครั้งแรกนั้นไม่เป็นไร แต่ครั้งที่สองที่เขาใช้ปราณแท้ไปเกือบทั้งหมด ไม่เพียงแต่เขาจะป้องกันดาบของถังฮวนออกไปได้ แต่ดาบของเขายังกระเด็นหลุดมือไปอีก
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ถังหงอ้าปากค้างและความคิดก็หยุดแล่นเข้ามาในหัวไม่ได้
เทียบกับความตกใจของเขานั้น ถังฮวนกลับดีใจ เขาก้าวเท้าอย่างไม่หยุดพักตรงไปปล่อยกำปั้นใส่อกของถังหงอย่างป่าเถื่อน
เมื่อถังหงได้สติ มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหลบ
“ปั้ง!”
หมัดของถังฮวนโดนเป้า และปราณแท้ก็พุ่งพล่านออกมาอีกครั้ง ถังหงกระเด็นลอยไปจากหมัดและกระแทกพื้นที่ห่างออกไปหลายเมตรเหมือนกับว่าวที่โดนตัดสาย คราวนี้เขาลุกขึ้นมาในทันทีไม่ได้ เขานอนลงบนพื้นและกุมอกและร้องครวญครางไม่หยุด
“พี่หง!”
เมื่อเห็นดังนั้น ถังเจียงและถังจุนเจี้ยก็ตะโกนร้องออกมาและรีบวิ่งไปข้างถังหง เมื่อพวกเขาจะพยุงถังหงให้ขึ้นมา พวกเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
หลังจากถังฮวนโค่นถังหงไปแล้ว เขาก็พุ่งใส่ทั้งสองคนอีก
“จัดการมันพร้อมกันเลย!”
ถังเจียงและถังจุนเจี้ยตกใจและโกรธแค้นเมื่อดึงดาบออกมาพร้อมกัน
ในเวลาไม่ถึงวัน คนที่พวกเขารังแกได้ง่ายดายโดยที่ไม่ต้องใช้ปราณแท้กลับมีปราณแท้ขึ้นมา และยังเกรี้ยวกราดได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่ถังหงที่เปิดเส้นปราณทั้งห้าออกมาแล้วก็นอนอย่างหมดท่าบนพื้นหลังจากใช้อาวุธ พวกเขาทั้งสองเปิดเส้นปราณมาเพียงสี่เส้น พวกเขาย่อมสู้กันตัวต่อตัวไม่ได้
ในขณะนี้ มีเพียงการที่พวกเขาสองคนร่วมมือกันจึงจะมีโอกาสเอาชนะ แต่พวกเขาก็รู้ว่าโอกาสเอาชนะนั้นมีอยู่ในจินตนาการเท่านั้น
“โครม!”
“โครม!”
ไม่นานสองร่างก็ลงไปกองข้างถังหง
“โอ๊ย”
“โอ๊ย”
“โอ๊ย”
และดาบของพวกเขาก็หล่นลงพื้น
“ไอ้สุนัข แกนะแก…”
ถังหงที่จับลมหายใจได้ในที่สุดนั้นโกรธแค้นยิ่งกว่ากับภาพที่ได้เห็น เมื่อรู้ตัวแล้วว่าถังฮวนมาถึงตรงหน้าพวกเขา เขาก็สบถก่นด่าออกมาเสียงดังโดยไม่ทันคิด
แต่ก่อนที่คำพูดของเขาจะได้ออกมาจากลำคอ รองเท้าผ้าสีดำที่ถูกซักจนขาวก็เหยียบหน้าของเขา ไม่เพียงแต่หน้าเขาจะเจ็บจากพื้นรองเท้าที่แข็งกระด้าง แต่หัวของเขายังรู้สึกเหมือนระเบิดออกมาจากแรงเหยียบหนักอึ้ง
“ไอ้เศษขยะ ปากเจ้าไม่ต่างอะไรไปจากปากสุนัขแล้วยังกล้าอวดดีอีกเรอะ!”
ถังฮวนออกแรงที่เจ้าเข้าไปเพื่อระบายความแค้น
“ไอ้สุนัขเอ้ย ข้ามีพลังพอที่จะอวดดี แล้วเจ้ามีอะไร? ต่อให้เจ้าชนะแล้วมันจะทำไม? เจ้ากล้าฆ่าข้างั้นเรอะ?”
ถังหงรู้สึกอัปยศอดสู้เป็นอย่างมาก ใบหน้าเขาบวมสีเหมือยกับตับหมูและสาปแช่งอย่างดุดัน
“ใช่ ต่อให้มันกล้าแค่ไหนมันก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเรา”
“มันไม่กล้าฆ่าพวกเราหรอก!”
ถังเจียงและถังจุนเจี้ยเองก็จ้องมองถังฮวน บาดแผลของพวกเขาไม่ได้หนักเท่ากับถังหงแต่พวกเขาก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาเพราะจะโดนอัดลงมาอย่างป่าเถื่อนอีกครั้ง
“ข้าไม่กล้าฆ่าพวกเจ้าในตอนนี้ แต่ก็มีวิธีการมากมายในการจัดการกับพวกเจ้า”
ถังฮวนถอนหายใจแรง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“อย่างเช่น ถอดเสื้อผ้าเจ้าก่อน แล้วก็มัดพวกเจ้าไว้กับหมูตัวเมีย มันเรียกว่าอัศวินหมูใช่ไหม? หึหึ อัศวินหมูหนึ่ง สอง สามตัวในประวัติศาสตร์ดินแดนรุ่งโรจน์ ชื่อนี้ช่างไพเราะนัก”
“เจ้ากล้าเรอะ?”
ถังหงหน้าซีดและกรีดร้อง ถังเจียงและถังจุนเจี้ยสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อคิดว่าพวกเขาจะต้องขี่หมูในสภาพเปลือยเปล่าพวกเขาก็ตัวสั่น ถ้าถังฮวนทำแบบนี้จริง ๆ พวกเขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกของเมืองคลื่นคลังแน่นอน แล้วต่อไปพวกเขาจะมีหน้าไปเจอใครได้?
“พวกเจ้าคิดว่าข้ากล้าไหมล่ะ?”
ถังฮวนนั่งลงลูบหน้าถังหงด้วยรอยยิ้ม
ถังหงอดเงยหน้ามองไม่ได้ แม้ว่าใบหน้าของถังฮวนจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตาของเขานั้นไม่มีร่องรอยของรอยยิ้มเลย
เขากล้าทำจริง ๆ!
ถังหงตัวสั่นไม่หยุด คำสาปแช่งที่จะผุดออกมาจากปากเขานั้นไม่สามารถเอ่ยออกมาได้อีก เขากลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปและความหวาดกลัวก็ปรากฏในดวงตา
“ถังฮวน พวกเราล้วนเป็นพี่น้อง เจ้ากล้าป่าเถื่อนขนาดนี้เชียวรึ?”
ถังเจียงกลับมาได้สติและกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก เขาหัวเราะแห้ง ๆ
“พี่น้องรึ? ข้าไม่มีพี่น้องเป็นขยะอย่างเจ้า”
ถังฮวนหัวเราะเหยียดหยามและลุกขึ้นและแตะหน้าถังหงด้วยคมดาบ
“เริ่มกันเถอะ พวกเจ้าจะถอดเสื้อผ้าเองหรืออยากให้ข้าช่วย?”
“ถังฮซน มาคุยกันก่อน เจ้า…”
ถังเจียงฝืนยิ้มและเหลือบมองถังจุนเจี้ยกับถังหงอย่างมีเลศนัย
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็เห็นถังหงถูกยกขึ้นมา จากนั้นไม่นานถังหงก็เปลือยเปล่า มีเพียงความรู้สึกเย็นยะเยือกบนร่างกายเท่านั้นที่ทำให้ถังหงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา มันเหมือนกับหญิงสาวที่ถูกขืนใจ เขาเอามือปิดจุดสำคัญและกรีดร้อง
ถังฮวนหัวเราะเยาะ มือของเขาไม่หยุดขยับและทำแบบเดิม จากนั้นไม่นานถังเจียงและถังจุนเจี้ยก็เปลือยเปล่าไม่ต่างกับถังหง
ทั้งสามขดตัวเป็นก้อนกลม ใบหน้าแดงก่ำและด้วยตาก็เต็มไปด้วยความอับอาย
ถังฮวนทำปากเหยียดหยามและตีก้นขาว ๆ ของพวกเขาด้วยดาบยาวและแหย่
“เอาล่ะ พวกเจ้าไสหัวไปได้แล้ว ไปแค่นั้นก็มากพอแล้ว ให้เจ้าขี่หมูก็น่าสงสารหมู่เสียเปล่า”
“ถังฮวน…มันจะไม่จบแค่นี้แน่!”
ศักดิ์ศรีของถังหงบอบช้ำอีกครั้ง ใบหน้าของถังหงนั้นทั้งเขียวและแดงและเขาก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใด เขาได้แต่กัดฟันและตะโกนร้องด้วยความโกรธ
ถังฮวนทำราวกับไม่ได้ยินอะไร เขาพึมพำกับตัวเอง
“ถ้าหมูไม่ได้ผล แต่ไก่ก็น่าจะใช้ได้ ไม่อย่านั้นข้าจะไปหาไก่สามตัวมามัดกับตรงนั้นของพวกเจ้า มันคงจะสุดยอดไปเลย”
“เร็วเข้า!”
เมื่อถังเจียงกับถังจุนเจี้ยได้ยิน พวกเขาก็กลัวจนหน้าถอดสี พวกเขาไม่สนใจที่จะปิดจุดสำคัญของตัวเองและลากถังหงที่ด้านซ้ายและขวาหนีออกไปไกล