ตอนที่ 2 ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง
“เร็วขนาดนั้นเลยหรือ?”
ถังฮวนแทบจะไม่เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง
เจ้าของเดิมของร่างนี้บ่มเพาะ “วิชาจิตเสริมเส้นปราณ” มาสิบปี แต่ก็ไม่สามารถเปิดเส้นปราณได้แม้แต่เส้นเดียว
ถังฮวนอดไม่ได้ที่จะลิ้มรสมันอีกครั้ง
ความรู้สึกอันเบาสบายราวกับได้ดื่มน้ำค้างหวานยังคงอยู่ เห็นได้ชัดว่าการเชื่อมต่อของเส้นปราณเมื่อครู่ไม่ใช่ภาพลวงตา ในตอนนี้เขาสามารถรู้สึกถึงทิศทางของเส้นปราณในร่างกายได้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ได้แต่จินตนาการการมีอยู่ของเส้นปราณในใจเขา
“จะต้องเป็นผลของ ‘เตาหลอมเทพเก้าหยาง’ แน่”
หลังจากแปลกใจได้ไม่นานถังฮวนก็ดีใจมาก
ทันทีที่เส้นปราณได้รับการเชื่อมต่อ เขาก็หยุดการบ่มเพาะ “วิชาจิตเสริมเส้นปราณ” ด้วยความตกตะลึง เจาหลอมในหัวของเขายังคงอยู่แต่มันก็หยุดเคลื่อนไหวแล้ว พลังปราณที่ดูดซับเข้ามาในร่างกายของเขานั้นหมดลงไปโดยสิ้นเชิงระหว่างขั้นตอนการเชื่อมโยงเส้นปราณ
ร่างกายของเขายังคงเดิม แต่ดวงวิญญาณไม่เหมือนเดิม แต่ว่าความแตกต่างอันใหญ่หลวงก่อนหน้านี้กับตอนนี้ทำให้ถังฮวนไม่มีทางคิดถึงสิ่งอื่นใดนอกจาก “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” ประหลาดนี้
แต่ถึงกับรู้สึกว่าเหตุผลที่ดวงวิญญาณของเขาไม่สลายไปหลังจากความตายและกลับมาเกิดใหม่ในดินแดนรุ่งโรจน์นั้นน่าจะเป็นเพราะ “เตาหลอมเทพเก้าหยาง”
“เอ๋?”
“หรือว่าจะไม่ใช่แบบนั้น!”
เขากลับมาสนใจ่างกายตัวเอง ถังฮวนอุทานเบา ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“ทำไมเส้นปราณที่เพิ่งเชื่อมต่อถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?”
ตามที่เฒ่านักตีอาวุธบอกและข้อมูลที่เด็กคนนี้รวบรวมมา เมื่อเส้นปราณแรกเชื่อมต่อ มันจะเล็กยิ่งกว่าปลายตะเกียบ
เส้นปราณต่อมาที่เชื่อมต่อจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเส้นปราณเดิมจะค่อย ๆ ขยายตามมาเมื่อบ่มเพาะ สุดท้ายเมื่อเส้นปราณทั้งเก้าเชื่อมต่อติดกัน ทุกเส้นปราณจะใหญ่เท่ากับหัวตะเกียบ แน่นอนว่าเมื่อพลังบ่มเพาะเพิ่มขึ้น เส้นปราณก็จะเติบโตต่อไปด้วย
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนี้
บางคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมากจะมีเส้นปราณแรกที่เชื่อมโยงใหญ่กว่าคนทั่วไปเล็กน้อย มันจะใหญ่กว่าหนึ่งในสิบหรือสองในสิบ หรืออาจจะเป็นสามหรือสี่ในสิบก็ได้…แต่ถังฮวนนั้นกลับใหญ่ยิ่งกว่าหัวตะเกียบเมื่อเขาเชื่อมต่อเส้นปราณแรก
“เพราะเตาหลอมนั่นอีกแล้วเหรอ?”
หลังจากผ่านไปนานถังฮวนก็ดึงสติกลับมา
การมีเส้นปราณขนาดใหญ่นั้นเหลือเชื่ออย่างมาก แต่การมีเส้นปราณที่ใหญ่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่มันคือเรื่องที่ดีสุดยอด
ยิ่งเส้นปราณใหญ่เท่าใดก็ยิ่งเก็บปราณแท้ได้มากเท่านั้น และพลังในการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นด้วย
ถังฮวนทำให้ใจสงบและบ่มเพาะ “วิชาจิตเสริมเส้นปราณ” ต่อไป นิ้วทั้งสิบของเขาเปลี่ยนเป็นท่ามือต่าง ๆ แน่นอนว่า “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” ในใจของเขาก็สาดแสงสีออกมาอีกครั้งและเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นสายพลังปราณมากมายก็เริ่มเข้าสู่ร่างกายเขา
ในเวลานี้ ถังฮวนรู้สึกได้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
ทีแรก พลังปราณนั้นถูกดึงเข้ามาโดยท่ามือของเขาก่อนที่จะวนมาที่ร่างกาย แต่ว่าในทันทีที่พลังปราณสัมผัสร่างถังฮวนมันก็ถูก “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” ดูดเข้าไปในทันที เมื่อเตาหลอมหมุนต่อไปพลังปราณก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงกลายเป็นปราณแท้ที่สงบและอบอุ่นไหลเวียนในเส้นปราณ
ปริมาณปราณแท้ที่สะสมในร่างกายถังฮวนนั้นเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว และในเวลาไม่ถึงสิบห้านาทีเส้นปราณของเขาก็เต็มอิ่ม ในตอนนี้ถังฮวนรู้สึกราวกับว่ามีคลื่นความอบอุ่นไหลในร่างกายของเขาและกระดูกด้วยความเร็วสูง
“ลองเส้นปราณที่สองดีกว่า!”
ถังฮวนตื่นเต้น และท่ามือที่เกิดจากนิ้วทั้งสิบของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ต่อมาปราณภายในเส้นปราณแรกก็เริ่มเดือดพล่านเหมือนกับเขื่อนที่กำลังจะแตก มันรวบรวมไปที่ “หเตาหลอมเทพเก้าหยาง” ด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึงและพุ่งออกมาจากเตาหลอมด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม มันพุ่งเข้าไปที่เส้นปราณที่สองเหมือนกับปรอทที่ไหลลงพื้น
“ตู้ม!”
ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายของถังฮวนก็เบาลงและความรู้สึกกันสบายกายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แค่เวลาสั้น ๆ เส้นปราณที่สองก็เชื่อมต่อกันแล้ว
“เส้นปราณเปิดอีกเส้น จะเร็วเกินไปแล้ว!”
ถังฮวนตื่นเต้นด้วยความดีใจ
เส้นปราณที่สองนั้นใหญ่กว่าเส้นปราณแรก เมื่อปราณแท้เริ่มไหลเวียน เส้นปราณแรกก็เริ่มมีขนาดเท่ากับเส้นปราณที่สอง
“ถ้าปราณแท้มากพอเมื่อไหร่ มาดูว่าข้าจะเปิดเส้นปราณที่สามได้ไหม!”
ถังฮวนมีแต่ความมั่นใจ
เส้นปราณที่ได้มาอย่างต่อเนื่องสองเส้นนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้ถังฮวนมีหวังในการเพิ่มพลัง มันทำให้เขาได้เห็นรุ่งอรุณแห่งการเป็นนักตีอาวุธด้วย
การได้เป็นนักตีอาวุธที่แท้จริงนั้นไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาของเด็กหนุ่มถังฮวน แต่มันยังเป็นความปรารถนาของเขาด้วย
จากมุมมองของเขา ช่างตีดาบบนโลกนั้นไม่ต่างไปจากนักตีอาวุธในทวีปรุ่งโรจน์ แต่อาวุธที่ตีโดยนักตีอาวุธนั้นดูจะมีพลังอำนาจมากกว่า เมื่อเขาอยู่บนโลก การสร้างกระบี่ไร้เทียมทานขึ้นมานั้นสามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู้รุ่นได้ตามที่เขาต้องการ
แต่โชคร้ายที่เขาต้องตายไปเพราะเรื่องนี้ เขาจึงทำความปรารถนาให้เป็นจริงไม่ได้
แต่ที่นี่ ถังฮวนได้เห็นความเป็นไปได้ในการเติมเต็มความต้องการของเขา ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเป็นนักตีอาวุธแล้วไม่เพียงแต่เขาจะตีกระบี่เลื่องชื่อไร้เทียมทานขึ้นมาได้ แต่เขายังสร้างอาวุธเลื่องชื่อไร้เทียมทานได้อีก เมื่อเขาคิดว่าจะมีอาวุธเลื่องชื่อไร้เทียมทานถูกสร้างขึ้นมาทีละชิ้น ถังฮวนก็ตื่นเต้นจนแทนควบคุมตัวเองไม่อยู่
จากนั้นถังฮวนก็บ่มเพาะต่อไปด้วยความตั้งใจ
มันใช้เวลาไม่นานในการเชื่อมต่อเส้นปราณแรกและเส้นปราณที่สอง แต่มันใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการทำให้เส้นปราณทั้งสองเส้นมีขนาดเท่ากัน
“ทะลวงเส้นที่สาม!”
เป็นเวลายามบ่ายแล้ว ถังฮวนหายใจเข้าลึกและท่ามือของเขาที่เกิดจากนิ้วทั้งสิบก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ครั้งนี้ขั้นตอนยากขึ้นกว่าเดิม แม้จะมีความช่วยเหลือจาก “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” แล้วความเร็วในความก้าวหน้าของปราณแท้ในเส้นที่สามก็ช้าอย่างมาก
ถังฮวนไม่เสียกำลังใจ ปราณแท้ถูกใช้และฟื้นกลับมาอย่างต่อเนื่อง
การมีอยู่ของ “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” นั้นทำให้ปราณแท้ในสองเส้นปราณของถังฮวนไม่เคยหยุดไหลอย่างแท้จริง และภายใต้แรงปะทะอย่างต่อเนื่องของปราณแท้ เส้นปราณที่สามก็ค่อย ๆ ไร้สิ่งกีดขวาง
เวลาไหลไปดั่งวารี
“ตู้ม!”
ยามเย็น ทั้งร่างของถังฮวนสั่นระริก หลังจากใช้เวลาทั้งบ่ายไปเส้นปราณที่สามก็เปิดออกในทีร่สุด
ถังฮวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่ในขณะนี้เขาดีใจจนมิอาจปิดบังได้ไปแล้ว
“เปิดเส้นปราณสามเส้น ก็จะนับว่าเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง!”
การรู้สึกถึงเส้นปราณสามเส้นที่ไร้สิ่งกีดขวางในร่างกายทำให้ถังฮวนอดน้ำตาไหลไม่ได้
ชายหนุ่มที่ฝึกฝนตัวเองมาสิบปีและแม้กระทั่งในความฝัน เขาอยากจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งให้ได้ แต่ตอนนี้เขาเปิดเส้นปราณสามเส้นได้ในวันเดียว มันคือการทำความปรารถนาของเด็กหนุ่มให้เป็นจริง ถ้าหากเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ตาย เขาจะต้องอดกลั้นที่จะส่งเสียงดีใจออกมาไม่ได้แน่
แม้ว่าร่างกายในขณะนี้จะมีวิญญาณอื่น ถังฮวนก็ผสานตัวเองเข้ากับความทรงจำมากกว่าสิบปีของเด็กหนุ่มไปแล้ว ดังนั้นความรู้สึกของเขาจึงส่งผลจากความทรงจำเหล่านั้นด้วย
หลังจากผ่านมานานถังฮวนก็สงบใจลงได้และบ่มเพาะ “วิชาจิตเสริมเส้นปราณ” ต่อไป
หลังจากเส้นปราณสามเส้นเต็มไปด้วยปราณแท้ สีหน้าของถังฮวนก็แจ่มใสขึ้นอีก ไม่นานจากนั้นก็มีเสียงสั่นสะเทือนมาจากกระเพาะอาหาร เป็นตอนนี้ที่เขาตระหนักว่าในร่างกายเขาไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าและตอนนี้มันก็สั่นสะเทือนด้วยความหิวโหย
“ดูเหมือนข้าจะต้องเอาอาวุธออกไปขาย”
ถังฮวนลุกขึ้น เขามองผ่านอาวุธที่แขวนอยู่บนกำแพงรอบ ๆ
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่ตั้งแต่นักตีอาวุธเฒ่าออกไปจากเมืองคลื่นคลั่งและเงินที่เขาทิ้งไว้ก็หมดแล้ว เช้านี้ชายหนุ่มอยากจะไปขายอาวุธเพื่อประทังชีวิตแต่ก็เจอกับคนตระกูลถังในระหว่างทางและถูกฆ่าตาย ศพของเขาถูกโยนทิ้งกลับมาที่ร้านตีอาวุธที่ห่างไกลที่เดิม
สุดท้ายก็เป็นถังฮวนที่ได้รับร่างกายนี้
หลังจากเลือกดาบยาวสามเล่ม เขาก็หุ้มมันด้วยผ้าน้ำมันและแบกบนไหล่เดินออกจากร้าน
ในดินแดนรุ่งโรจน์แห่งนี้ มีเพียงอาวุธที่มีระดับเท่านั้นที่จะขายได้ราคาสูง โดยเฉพาะอาวุธระดับสูงที่หาได้ยากและมีราคาหลายหมื่นเหรียญทอง
ส่วนอาวุธที่ไม่มีระดับก็จะขายได้ถูกมาก
เช่นเดียวกับดาบสามเล่มที่ถังฮวนแบกอยู่ตอนนี้ ถ้าเขาเอามันไปที่ร้านอาวุธเขาก็อาจจะขายได้ในราคาสองหรือสามเหรียญทองเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ได้แพงไปกว่าเครื่องมือเกษตรกรรม
แต่ถ้าหากเป็นอาวุธชั้นต่ำ ไม่ว่าจะมีคุณภาพเลวร้ายแค่ไหน มันก็ยังมีราคามากกว่าร้อยเหรียญทอง
แต่เขาไม่ได้สนใจในตอนนี้ เขาต้องเติมท้องให้อิ่มเสียก่อน ด้วยสองหรือสามเหรียญทอง เขาก็อาศัยในเมืองคลื่นคลั่งได้หลายวัน
“มีคนมาเหรอ?”
ก่อนที่เขาจะออกจากร้าน ถังฮวนตกใจและยิ้มออกมาทันที
หลังจากเปิดเส้นปราณทั้งสามและกลายเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งแล้ว การได้ยินของเขาก็ก้าวกระโดดขึ้น เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกได้อย่างง่ายดาย
ถังฮวนแยกแยะได้ว่าเป็นฝีเท้าของคนสามคน
คนที่มายังร้านอาวุธในตอนนี้จะต้องเป็นคนที่อยากซื้ออาวุธแน่นอน ซึ่งมันคือสิ่งที่ถังฮวนต้องการ ไม่ใช่แค่เขาไม่ต้องออกไปขายดาบข้างนอก แต่มันยังทำให้อาวุธไม่ราคาต่ำเกินไปด้วย ดาบยาวสามเล่มนี้จะมีค่าสองสามเหรียญทองในร้านอาวุธ แต่ที่โรงตีอาวุธราคาจะสูงกว่า
ในพริบตาเดียวถังฮวนก็เอาดาบทั้งสามเล่มออกมาวางไว้บนโต๊ะไม้ข้างกายเขา จากนั้นเขาก็ยืนรอที่กลางร้าน
ไม่นานจากนั้นทั้งสามคนก็มาถึงหน้าร้านตีอาวุธ เป็นชายหนุ่มสามคนอายุสิบหกหรือสิบเจ็บปี แต่ละคนมีดาบเล่มยาวห้อยอยู่ที่เอวอยู่แล้ว
เมื่อผสานสายตากัน ถังฮวนกับเด็กหนุ่มทั้งสามก็ตกตะลึง
“พวกแก!”
ในพริบตาเดียวถังฮวนก็ได้สติ ดวงตาเขาลุกไหม้ไปด้วยเพลิง ความโกรธแค้นพุ่งตรงมาจากหัวและเขาก็กัดฟันพูดคำนั้นออกมา
เช้านี่ เด็กหนุ่มถังฮวนถูกทำร้ายจนตายเพราะสามคนตรงหน้านี้ ในตอนนี้เมื่อได้เจออีกครั้งความโกรธแค้นในความทรงจำเด็กหนุ่มจากคนตระกูลถังก็ชิงความเหนือกว่าทันที มันทำให้ถังฮวนอยากจะพุ่งเข้าไปสั่งสอนพวกมันในทันที
“พี่หง เจ้าเด็กนั่นยังไม่ตาย”
หลังจากอึ้งเป็นเวลาสั้น ๆ สามคนตรงหน้าก็ดึงสติได้และชายหนุ่มชุดดำก็หัวเราะเยาะและมองถังฮวนด้วยความแปลกใจ
“อย่างที่คิดเลย ชีวิตคนชั้นต่ำมันทนเช่นนี้!”
ชายหนุ่มผอมแห้งดูอ่อนแออีกคนเดินมาที่หน้าถังฮวนและเหยียดหยามเขา
“ไอ้สุนัข เจ้ากล้าแกล้งตายกับข้าเรอะ? เจ้าอยากจะลิ้มรสการถูกทุบตีอีกใช่ไหม?!”